วงรอบทางการเมืองเปลี่ยนไปตามสภาพความเป็นไปที่มิอาจปฏิเสธได้ พรรคภูมิใจไทยที่เคยคิดว่าจะเป็นคู่ชิงหลังเลือกตั้งวันนี้พอมองเห็นแล้วว่าไม่น่าจะใช่เสียแล้วเพราะมีพรรคการเมืองที่มาแรงกำลังจะแซงโค้งให้ปรากฏคือพรรคกล้าธรรมที่มี “ธรรมนัส พรหมเผ่า” เป็นหัวเรือใหญ่ที่กำลังจะบดบังรัศมีทีละน้อยทีละพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นเหนือ-อีสาน ล่าสุดกำลังเบ่งบานที่ภาคใต้ ซึ่งระยะหลังพรรคภูมิใจไทยพยายามที่ปักหมุดทำให้เป็นพื้นที่ทองเพื่อแข่งกับ “เพื่อไทย” ที่มิอาจจะได้ สส.จากภาคนี้ เมื่อ “เพื่อไทย” ไม่มีโอกาสได้ สส.จากภาคใต้“ภูมิใจไทย” จึงฉวยโอกาสเข้ายึดครองเพราะเวลานี้ภาคใต้ที่เคยเป็นพื้นที่หลักของประชาธิปัตย์มายาวนานได้เปลี่ยนสภาพไปอย่างสิ้นเชิงพูดง่ายๆพรรค “นายหัว” ไม่มีราคาแล้วแม้แต่ “ชวน หลีกภัย” ก็สิ้นมนต์ขลัง ล่าสุดผลการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 8 นครศรีธรรมราช คือบทพิสูจน์ที่ชัดที่สุดผลการเลือกตั้งปรากฏ “ก้องเกียรติ เกตุสมบัติ” จากพรรคกล้าธรรมชนะการเลือกตั้ง โดย “ไสว เลื่องสีนิล” จากภูมิใจไทยมาอันดับ 2“ชินวรณ์ บุณยเกียรติ” จากประชาธิปัตย์พ่ายแพ้แบบไม่เห็นฝุ่น!ความจริงพื้นที่นี้เป็นของภูมิใจไทย แต่เนื่องจากถูกถอนสิทธิเลือกตั้ง จึงส่งสามีลงสมัครแทน และพรรคสีนํ้าเงินหมายมั่นปั้นมือว่าชนะแน่ เพราะมาแทนที่แต่ไม่มีใครเชื่อว่าจะเกิดความพลิกผันเพราะ “กล้าธรรม” ส่งผู้สมัครเข้าแข่งด้วย โดย “ธรรมนัส” ได้ทุ่มเทสุดตัวลงพื้นที่ช่วยหาเสียงด้วยความมั่นใจว่าชนะแน่และก็เป็นจริงตามนั้น!ก่อนวันเลือกตั้งมีเสียงดังกระหึ่มว่ามีการซื้อเสียงแข่งกันอุตลุด แต่ไม่ได้บอกว่าใครพรรคไหนแต่ก็รู้กันเองว่าเป็นใครพรรคไหนผลการเลือกตั้งที่ออกมาเป็นไปตามนั้นด้วยสภาพที่เกิดขึ้นทำให้เห็นว่าการเลือกตั้งในจังหวัดภาคใต้ทัศนคติได้เปลี่ยนไป ใครพรรคไหนก็มีสิทธิชนะเลือกตั้งได้ถ้ามี “กระสุนดินดำ” พร้อม!การที่พรรคกล้าธรรมสามารถปักธงในพื้นที่ภาคใต้ได้ครั้งนี้คงทำให้พรรคภูมิใจไทยต้องคิดใหม่เสียแล้ว เพราะยุทธศาสตร์เดิมที่วางเอาไว้มีอุปสรรคขัดขวางก็คือ “ธรรมนัส พรหมเผ่า” แห่งกล้าธรรมซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมาขวางกันมาหลายเรื่องหลายประเด็นสำคัญก็คือ “อาวุธลับ” ของ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่พร้อมจะทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามได้อย่างมีประสิทธิภาพดังนั้น เกมการเมืองภายใต้ “ร่มเงา”-“ทักษิณ” จะทำให้ “ทักษิณ” เกิดความมั่นใจมากว่าชนะเลือกตั้งและเป็นแกนนำรัฐบาลได้ไม่ยากนักเพราะวันนี้ได้จับมือกับ “กล้าธรรม” ที่คงจะได้ สส.เข้ามากพอสมควรจากเหนือ อีสาน ใต้ ตะวันออกที่วางฐานเสียงเอาไว้หมดแล้วแบ่งพื้นที่แต่ไม่ชนกันเอง โดยเฉพาะในภาคเหนือ อีสาน และพื้นที่อื่นๆด้วยรูปขบวนทางการเมืองที่เห็นและเป็นอยู่นี้ย่อมทำให้ “เนวิน-อนุทิน” จะต้องไปปรับแนวคิดกันขนานใหญ่เพราะทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วมันต้องแปลกใจว่า “ทักษิณ” คิดอย่างไร เพราะถูกหักหน้าท้าท้ายมาตลอดที่สำคัญทำให้เกิดปัญหาไม่สามารถผลักดันนโยบายสำคัญออกมาได้เลยเพราะ “เสี่ยหนู” เล่นบทพระเอกอยู่คนเดียว!"สายล่อฟ้า"คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม