ตอนนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง หัวหน้าทีมไทยแลนด์ ต้องจั่วลมไปพลางๆ ยังไม่ต้องรีบบินด่วนไปเจรจา แก้ปัญหากำแพงภาษีกับสหรัฐอเมริกาจนกว่าจะได้คิวใหม่ ซึ่งยังไม่กำหนดแน่นอน

ความจริงทีมไทยแลนด์พร้อมเปิดเจรจาตามกำหนดเดิมวันที่ 23 เมษายน

แต่ฝ่ายอเมริกาแจ้งขอเลื่อนนัดไปก่อนชั่วคราว

เพราะช่วงนี้คิวค้างบานตะเกียง

และยังมีสาระสำคัญที่ฝ่ายอเมริการ้องขอให้รัฐบาลไทยทบทวนข้อเสนอบางประการที่ยังไม่ชัดเจน

แสดงว่าฝ่ายอเมริกาทราบล่วงหน้าว่าทีมไทยแลนด์จะมีข้อเสนออย่างไร

แต่ข้อเสนอยังไม่จุใจอย่างที่ลุงทรัมป์ต้องการ

ฝ่ายอเมริกาจึงขอให้ฝ่ายไทยทบทวนข้อเสนอเพิ่มเติม

เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้แลแฮ

“แม่ลูกจันทร์” มองว่า การที่ฝ่ายอเมริกาแจ้งขอเลื่อนคิวเจรจากับฝ่ายไทย มีข้อดี 4 ประการคือ

ข้อที่ 1, แสดงว่าประเทศไทยไม่ใช่เป้าหมายหลักที่ “ลุงทรัมป์” จ้องเล่นงาน

ข้อที่ 2, การที่ฝ่ายอเมริกาขอให้ฝ่ายไทยทบทวนข้อเสนอก่อนเปิดโต๊ะเจรจาอย่างเป็นทางการ

แสดงว่าแนวโน้มการเจรจาน่าจะลงเอยกันได้ด้วยดี

ข้อที่ 3, การเลื่อนคิวเจรจาไปก่อนจะเป็นโอกาสให้ไทยได้ประเมินท่าทีของฝ่ายอเมริกาในการเจรจาปัญหากำแพงภาษีกับประเทศอื่นว่าจะหนักเบาอย่างไร??

ข้อที่ 4, การที่ “ทรัมป์” ขยายเส้นตายไปอีก 90 วัน การเจรจาต่อรองกับประเทศที่ได้คิวท้ายๆจะมีความยืดหยุ่นกว่าประเทศอื่นๆที่ได้คิวก่อนไทย

สรุปว่า การที่อเมริกาเลื่อนคิวเจรจากับไทยก็ดีเหมือนกัน

“แม่ลูกจันทร์” มองว่าการจัดคิวเจรจาของอเมริกาเน้นจัดลำดับประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่เป็นคิวต้นๆ

และการเจรจาแต่ละประเทศไม่จบภายในการเจรจาครั้งเดียว

...

ยังต้องใช้เวลาต่อรองกันอีกหลายวัน

ทีมญี่ปุ่นเพิ่งเจรจาเสร็จแต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์

จากนั้นจะเป็น “ทีมเกาหลีใต้” ได้จองคิวเจรจาถัดไป

ในกลุ่มอาเซียน มี “เวียดนาม” ประเทศเดียวที่ไปเจรจาก่อนใคร

เพราะเวียดนามเจอกำแพงภาษีอย่างโหดถึง 46 เปอร์เซ็นต์!!

ข้อเสนอทีมเวียดนามจะลดภาษีสินค้าอเมริกาเหลือศูนย์เปอร์เซ็นต์ จนบัดนี้ยังปิดจ๊อบไม่ลง

คิวต่อไปคือ ทีมอินโดนีเซีย ซึ่งเจอภาษี 32 เปอร์เซ็นต์

“นายฮาร์ตาโต” รมว.เศรษฐกิจอินโดนีเซีย บินไปรอคิวอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่เมื่อวานซืน

โดยทีมอินโดนีเซีย ได้ยื่นข้อเสนอจะซื้อก๊าซแอลพีจี น้ำมันดิบ น้ำมันเบนซิน และถั่วเหลืองจากอเมริกาเพิ่มขึ้นจากเดิม

น่าสังเกตว่า ข้อเสนอทีมอินโด นีเซียใกล้เคียงข้อเสนอทีมไทยแลนด์

ข้อแตกต่างอย่างเดียวคือ “ทีมอินโดนีเซีย” เสนอขาย “แร่หายาก” ที่อเมริกากำลังขาดแคลน

ประเด็นนี้ ทีมอินโดนีเซีย “แหลม” กว่าทีมไทยแลนด์

“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่า ประเทศไทยเจอกำแพงภาษีอเมริกา 36 เปอร์เซ็นต์ ก็กระอักพอแรง

ล่าสุด ไทยยังเจอหางไต้ฝุ่นจีน โดนอเมริกาขึ้นภาษีต่อต้านทุ่มตลาดเฉพาะแผงโซลาร์เซลล์ที่ผลิตจากเมืองไทยอีก 111 เปอร์เซ็นต์

โดนัลด์ ทรัมป์ แกโหดไม่เลิกจริงๆนะลุง.

“แม่ลูกจันทร์”

คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม