ผ่านไป 7 กว่าวันแล้วตามที่รัฐบาลให้เวลาสอบสวนว่าสาเหตุที่อาคาร สตง.ถล่มหลังเกิดแผ่นดินไหวนั้น ปรากฏว่ายังไม่สามารถให้ข้อเท็จจริงได้

ว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร?

ดูจากรูปการณ์แล้วคงต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควร เนื่องจากต้องได้ข้อมูลมากกว่านี้โดยเฉพาะด้านวิศวกรรม

ก็เป็นอย่างนี้แหละวิธีการของ “นักการเมือง” ที่ต้องการแสดงให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจัง ไม่นิ่งนอนใจ

พูดง่ายๆคือรัฐบาลตอบคำถามทุกอย่างด้วยการให้เวลา 7 วันไปจัดการ

ได้ทั้งคะแนน ได้ทั้งความเอาใจใส่อย่างรับผิดชอบ

แต่ประเด็นบริษัทที่รับเหมาก่อสร้างอาคารแห่งนี้ซึ่งดีเอสไอ รับผิดชอบสอบสวนใน 3 ประเด็นคือ ฮั้วประมูล นอมินี และใช้อุปกรณ์และวัสดุไร้คุณภาพ

น่าจะมีความชัดเจนและมีคำตอบเร็วกว่าที่คาดการณ์!

เนื่องจากมีหลักฐานที่ตรวจสอบได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะประเด็น “นอมินี” นั้น ล่าสุด พบว่าบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯนั้นได้งานประมูลไปถึง 29 โครงการ งบประมาณ 2.2 หมื่นล้าน

ในลักษณะร่วมกับบริษัทรับเหมาในรูปแบบบริษัทกิจการร่วมค้าอย่างที่ได้รับกับอิตาเลียนไทยได้งานสร้างตึก สตง.นั่นแหละ

นั่นแสดงว่า กิจการต้องไม่ธรรมดาเพราะได้งานมากมายถึงขนาดนี้ โดยเฉพาะงานของส่วนราชการต่างๆทั่วประเทศ

รูปการณ์อย่างนี้จึงสันนิษฐานได้มีการวางแผนและร่วมมือกันอย่างรู้เท่าทันกันคือ บริษัทของไทยจะทำหน้าที่ประมูลเนื่องจากเป็นบริษัทที่ถูกต้องตามกฎหมายและอาศัยชื่อเสียงทำให้ได้งานง่าย

อีกทั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้างไทยหลายแห่งที่ประสบปัญหาด้านการเงินก็ต้องอาศัยเงินทุนของบริษัทต่างชาติที่ดำเนินการแบบ “นอมินี” ทำให้มีเงินหมุนเวียนได้ต่อไป

อย่างอิตาเลียนไทย ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างเก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดของประเทศไทย เรียกว่าเป็น “ยักษ์ใหญ่” ก็ว่าได้

...

งานก่อสร้างทั้งของราชการและเอกชนเป็นของบริษัทนี้จำนวนมาก

แต่ระยะหลังเกิดปัญหาทางด้านการเงินอย่างหนัก เรียกว่าอยู่ในภาวะเกือบ “ล้มละลาย” จึงมีความจำเป็นที่จะต้องหาบริษัทอื่น มารับงานคู่กันเป็นแบบกิจการร่วมค้าถึงจะไปรอด

“ไชน่า เรลเวย์ฯ” เงินเยอะและต้องการทำธุรกิจในประเทศไทยจึงตั้งขึ้นมาในรูปแบบ “นอมินี” จึงสมประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่าย

แต่เนื่องจากเป็นบริษัทที่ผิดกฎหมาย!

หากไม่มีเหตุแผ่นดินไหวก็ไม่มีใครรู้ ถึงรู้ก็ไม่มีใครบอกเพราะต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ร่วมกัน ที่จับได้ไล่ทันก็เพราะ 3 คนที่เป็นหุ้นส่วนคนไทยนั้น

มีข้อพิรุธเพียบหนีกันจ้าละหวั่นแล้ว!

ถามว่าเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งรับผิดชอบเรื่องนี้รู้เรื่องหรือเปล่าจะบอกว่าไม่รู้ก็คงไม่ได้ แต่จะรู้แค่ไหนอย่างไรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ประเด็นสำคัญก็คือไส้ในของประเทศไทยวันนี้เละไปหมดทุกอย่าง

ขนาดว่าบริษัท “นอมินี” ของต่างชาติเข้ามาทะลุทะลวงทำธุรกิจหลายหมื่นล้านได้อย่างสบายใจ โดยที่ทางการไม่รู้และไม่สามารถควบคุมได้

กระทรวงพาณิชย์นั้นมีคนเก่ง คนที่มีความสามารถจำนวนมาก แต่เกิดปัญหาความไม่ชอบมาพากลมาตลอด

โดยเฉพาะถูก “นักการเมือง” เข้ามาทำเละเทะโกงกินต้องติดคุกติดตะรางไปมากแล้วเพราะเป็นกระทรวงที่รับผิดชอบงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการค้าที่มีผลประโยชน์มหาศาล

โดยเฉพาะเรื่อง “ข้าว” นั้นชัดเจนที่สุด

วันนี้วนมาถึงเรื่องธุรกิจก่อสร้างก็เละอีก

รัฐบาลชุดนี้ก็ไม่รู้จะฝากความหวังได้หรือไม่ เพราะมีสาแหรกทิ้งไว้เยอะ!

"สายล่อฟ้า"

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม