อาวุธมหาประลัย “นิวเคลียร์เศรษฐกิจ” มหาอำนาจ สะเทือนโลก2 เม.ย. ตรงกับเช้าตรู่ 3 เม.ย.ของประเทศไทย ดีเดย์วันโหดบทเหี้ยมของพญาอินทรี มาตามนัด “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศมาตรการ “ภาษีตอบโต้” กับประเทศต่างๆทั่วโลกตั้งกำแพงภาษีป้องอุตสาหกรรมภายใน เพิ่มแต้มต่อในอนาคต โอ่เป็นคิวปลดแอกพันธนาการบิ๊กเบิ้มโลกประกาศอิสรภาพทางเศรษฐกิจ ในรอบครึ่งศตวรรษกันเลยและเท่าที่ผู้นำผู้มุทะลุดุดันของเมืองลุงแซม กางชาร์ตมาตรการภาษีประเทศต่างๆ แจ็กพอตแตกไม่พ้นประเทศมหาอำนาจคู่แข่งอย่างจีน โดนอ่วมทะลุรวมพุ่งไปถึง 54 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มสหภาพยุโรป โดนไปกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ส่วนประเทศไทยไม่ต้องพูดถึง 36 เปอร์เซ็นต์ถูกเก็บต๋ง ถือว่าสูงลิ่วมากกว่าที่คาดจะโดนจิ๊บๆ เพราะไม่ติดท็อป 10 ลิสต์ “ประเทศที่ต้องเจ็บตัว”นอกนั้นแต่ละประเทศก็กระอักถ้วนหน้า โดนมาตรการภาษีลดหลั่นตามลำดับ ในสูตรคำนวณ “แบบทรัมป์ๆ” ทั้งจากตัวเลขดุลการค้า ภาษีที่โดนเรียกเก็บ รวมไปถึงปัจจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องถึงแม้ผู้นำสหรัฐฯอ้างว่า ตัวเลข “เก็บต๋งเอาคืน” ที่คำนวณได้ ยังใจดีหั่นให้ครึ่งหนึ่งเท่านี้ก็ทำเศรษฐกิจโลกปั่นป่วน จ่อเข้าสู่ภาวะชะงักงันในกำหนดประกาศใช้มาตรการภาษี 1 สัปดาห์หลังจากนี้ ส่วนหนึ่งคือเปิดเงื่อนไขตั้งโต๊ะเจรจา ใครจะไปพูดคุย ยอมหมอบยังไง หรือคิดจะต่อสู้ รวมทั้งจะเสนอเงื่อนไขแลกเปลี่ยนใดๆเพื่อขอหั่นต๋งลดภาษีคณะเซลส์แมน “ทรัมป์” แม้ถือแต้มต่อ แต่ก็ตั้งราคาเผื่อ พร้อมให้เคลียร์หันมาโฟกัสประเทศไทย “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร มั่นใจ “เอาอยู่” ตัวเลขภาษีที่ประเทศไทยโดนยังไม่นิ่ง แต่ไม่นอนใจ อ้างว่าที่ผ่านมาเตรียมการไว้แน่น แต่รอบนี้ต้องขันนอตเพิ่มจัดทีมเจรจาเคลียร์ประเทศมหาอำนาจโลก คณะทำงานนำโดยปลัดกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และมี “กุนซือหูกระต่าย” พันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานโยบายนายกฯ เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ คุมเบื้องหลังงานนี้ผู้นำหญิงโชว์สกิลลูกสาวนายห้าง “อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร” ก็ดีกรีซุปเปอร์เซลส์แมนเก่า มั่นใจการต่อรองยุคนี้สมเหตุสมผล คงต่อรองได้น้ำได้เนื้อกับมหาอำนาจยุคนี้มากเพื่อน้อย น้อยเพื่อมาก คง “ไม่เยอะใส่กัน” อย่างเดียว แสดงความเข้าใจ ศึกษาคอนเซปต์การต่อรองทางการค้ามาพอสมควร แต่อีกทางก็ต้องมีทีมเจรจาที่ดี พกเงื่อนไขแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจไปเคลียร์ที่สำคัญโจทย์ใหญ่จัดใส่มาเยอะ ถ้าทันสังเกต มาตรการกำแพงภาษีสหรัฐฯรอบนี้มีอะไรๆซ่อนนัย แฝงเกม “ภาษีสั่งสอน” ในสงครามมหาอำนาจกับ “จีน”นอกจากประเทศที่กล้าหือ เฮี้ยวกับสหรัฐฯ โดนภาษีอ่วม ไม่มีคำว่า “เพื่อน” ไม่มีคำว่า “มิตร” ไม่มีประวัติศาสตร์ร่วม ทั้งฝั่งเอเชีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฝั่งกลุ่มยุโรป อียู กระทั่งที่รักๆกันอย่างอิสราเอล ก็ยังไม่รอดแต่ที่ชัดคือประเทศอาเซียน หลายประเทศในลักษณะลูกข่ายใกล้ชิดพญามังกรจีน เลยเหมือนเป็นเป้า “ทุบ” ของพญาอินทรี สหรัฐฯ ทั้งลาว เขมร พม่า และพ่วงด้วยหนักๆ คือประเทศไทยจาก “ภูมิรัฐศาสตร์” สงครามแย่งชิงดุลอำนาจ สู่ “ภูมิเศรษฐศาสตร์” สงครามการค้าอุบัติแล้วจะ “ทีมอิ๊งค์” หรือ “ทีมเถ้าแก่บ้านจันทร์ฯ” ก็ต้องเข้มงานเศรษฐกิจมากกว่าเดิมนอกจากเหตุวิกฤติฉุกเฉิน แผ่นดินไหวตอผุดสารพัด ต้องเร่งเคลียร์ ที่สะท้อนชัด ต้องสังคายนาทั้งระบบ กลไกราชการ ทั้งเรื่องการเตือนภัย โครงการก่อสร้างต่างๆ รวมไปถึงการบุกเข้ามาของสินค้าต่างชาติเกมบุกของ “ทุนจีน” จ่อยึดประเทศไทยและจากคิว “ภาษีสหรัฐฯ” ส่งผลต่อสงครามการค้า สินค้าจีน ทุนจีนจ่อบุกหนักหน่วงกว่าเดิมแน่เติมปัญหาค้างเก่า ประเทศไทยจ่อสู่ “เมืองศูนย์เหรียญ”เป็นเรื่องที่คงต้องขอคิวล่วงหน้า เคลียร์ทีม “สี จิ้นผิง” ผู้นำแผ่นดินใหญ่ ต้าอ่วยกันชัดๆได้แล้วทั้งหมดทั้งปวง เกมถ่วงน้ำหนักจะฝั่ง “ทรัมป์” หรือฟาก “สี” ก็ตามทั้ง “นายกฯอิ๊งค์” และ “กุนซือแม้ว” ก็ต้องบาลานซ์ให้ “สมดุล” ทั้งอำนาจและผลประโยชน์ต้องคุยให้ประเทศไทยอยู่ได้ และอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี.ทีมข่าวการเมือง