319 ต่อ 162 เสียง ไว้วางใจ “นายกฯอิ๊งค์” ฉลุยไม่มีเซอร์ไพรส์แตกแถว คะแนนเป็นไปตามคาด รู้ผลตั้งแต่ยังไม่อภิปรายเพราะแต่ละพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลประกาศไว้ล่วงหน้า ไม่ว่าจะอภิปรายแฉกันยับเยินยังไงก็ยกมือให้อยู่ดีมันก็เลยไม่มีอะไรให้ลุ้นเสียวในช็อตลงคะแนนอีกทั้งยังไม่มีคู่เทียบวัดแต้ม เพราะงวดนี้อภิปราย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว ไฮไลต์เลยไม่ได้อยู่ตรงนี้โฟกัสจึงไปอยู่ที่ลีลาเนื้อหาการอภิปรายซักฟอกช่วงวันที่ 24-25 มี.ค.ธีมดีลแลกประเทศที่ฝ่ายค้านนำโดยพรรคประชาชน นำมาขยี้ในการซักฟอกครั้งนี้ แม้ไม่ได้มีข้อมูลอะไรใหม่มากนัก แต่ก็วางแผน แบ่งงาน จัดระบบกันมาอย่างดีไล่สเต็ปแยกเป็นเรื่องๆมีเอกสารชาร์จประกอบไล่ชื่อ ไล่เครือข่าย ตัวเล็ก ตัวใหญ่ แต่ก็โดนฝ่ายรัฐบาล รวมทั้งประธานในที่ประชุมสั่งเบรก เซ็นเซอร์ข้อมูลหลักฐาน จนเสียทรงไปหลายรายอย่างไรก็ตามเห็นลีลาคนรุ่นใหม่ มีความตั้งใจ ใส่ใจ ก็พอจะฝากผีฝากไข้ได้ในอนาคตสิ่งที่ฝ่ายค้านพรรคประชาชน พยายามชี้ให้เห็นคือรัฐบาลเอาประเทศไปแลกกับการกลับบ้านของใครบางคน ต้องสยบยอมกับอำนาจเก่า กลายเป็นนั่งร้านและร่วมมือกันในท้ายที่สุดทำให้ผลประโยชน์ประชาชนถูกมองข้าม ลดทอน ละเลยหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นและเป็นอยู่วันนี้ มันจึงตรงข้ามกับสิ่งที่พรรคเพื่อไทย เคยหาเสียงเอาไว้ หรือแม้กระทั่งจุดยืนตอนเป็นฝ่ายค้านเหล่านี้ไม่ได้รับคำตอบจากนายกฯ และฝ่ายรัฐบาลมากนักหนักไปทางด้อยค่ากลับไปมากกว่า นายกฯเสียภาษีมากกว่าผู้อภิปรายของฝ่ายค้าน ภาวะผู้นำไม่ต่างจากนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนและผู้นำฝ่ายค้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า สรุปชี้เป้าว่าพรรคเพื่อไทยได้ประกาศกลางสภาต่อหน้าสาธารณชน ต่อประชาชนว่าปวารณาตนเป็นตัวแทนของ “พลังเก่า”หากประชาชนใฝ่ฝันปรารถนาอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ก็ไม่สามารถเลือกพรรคเพื่อไทยได้อีกต่อไปจึงเป็นความชัดเจนที่คุ้มค่ามากกว่าจะให้นายกฯลาออกหรือยุบสภาแต่ฝ่ายรัฐบาลก็มองต่างออกไปสิ้นเชิง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกปากชมนายกฯมีวุฒิภาวะมีการพัฒนาความเป็นผู้นำขึ้นทุกวันนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุเห็นภาวะความเป็นผู้นำของ น.ส.แพทองธาร เห็นการสร้างปรองดองในพรรคร่วมรัฐบาล“ถ้านายกฯไม่รอดก็ไม่มีใครรอดสักคน เพราะฉะนั้นพรรคร่วมรัฐบาลต้องทำให้นายกฯรอด”ชัดเจนที่สุดตามที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาระบุบทสรุปเชิงรูปธรรมของการอภิปรายไม่ไว้วางใจจึงออกมาอย่างที่เห็นศึกซักฟอกคราวนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงสั่นคลอนสถานะของรัฐบาลได้ต้องเรียกว่าไม่ระคายผิวแม้แต่น้อยเสถียรภาพของรัฐบาลยังแข็งแกร่งไปจนครบเทอมแน่ ถ้ายังผสานประโยชน์กันลงตัวต่อไปฝ่ายค้านเองก็ไม่ได้คาดหวังเรื่องเกมการเมือง พลิกสมการย้ายข้างการเป็นรัฐบาลธงหลักปักชัยอยู่ที่การเลือกตั้งครั้งหน้าเจตนาเป้าหมายของการอภิปรายครั้งนี้คือต้องการชี้ให้เห็นการเกาะเกี่ยวกันด้วยผลประโยชน์ ดีลลับต่างๆ ทั้งกลุ่มการเมือง อำนาจเก่า กองทัพ ที่ทำให้ประชาชนเสียโอกาสชี้ให้เห็นถึงการยอมเสียจุดยืนตัวตนของพรรคเพื่อไทย ปมนำประเทศไปแลกกับบางสิ่งบางอย่างชิงแต้มลากกระแสนิยมมาสู่การเมืองแนวใหม่ ที่เหลือเพียงพรรคส้มเท่านั้นผลักพรรคเพื่อไทยให้ไหลไปรวมอยู่ในวังวนการเมืองยุคเก่าเพียงแต่ประชาชนจะเห็นคล้อยกับสิ่งที่ฝ่ายค้านนำเสนอหรือเปล่าเท่านั้นเอง.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม