เป็นอันว่า หลังจากเล่นเจ้าล่อเอาเถิดกันมาหลายกระทอก วันนี้ได้ฤกษ์ที่ฝ่ายค้านนำโดย ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิผู้นำฝ่ายค้านในสภา หัวหน้าพรรคประชาชน จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ตามมาตรา 151 แห่งรัฐธรรมนูญ โดยมีการลงมติ ถือว่าใหม่ด้วยกันทั้งผู้นำฝ่ายค้านและผู้นำฝ่ายรัฐบาล
สังเกตดูปฏิกิริยาของ ผู้นำรัฐบาล และ ผู้นำฝ่ายค้าน แล้ว ดูชิลชิล ไม่ได้มีอะไรตื่นเต้นหนักอกหนักใจ ให้สัมภาษณ์สื่อปกติ คนที่ตื่นเต้นกลายเป็นองครักษ์ ทั้งในพรรค นอกพรรคออกมาวุ่นวายขายปลาช่อน ถือโอกาส หาแสง เผื่อว่าจะเข้าตากรรมการคนใดคนหนึ่ง อนาคตก็จะเจริญรุ่งเรือง
ผลการลงมติไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น เพราะเสียงฝ่ายรัฐบาล ที่ประกอบด้วยกลุ่มผลประโยชน์ยังเจรจากันได้ หรือถ้าไปเดากันว่าภูมิใจไทยจะใช้โอกาสนี้ล้มเพื่อไทย เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าภูมิใจไทยล้มเพื่อไทยลงได้ ผลลัพธ์คือต้องกอดคอกันเป็นฝ่ายค้าน การออกมาดิ้นขององครักษ์พิทักษ์ข้อบังคับหรืออะไรที่เอาสีข้างเข้าถูกันไป
ไม่เป็นคุณ มีแต่โทษ ภาพลักษณ์ของผู้นำถูกครอบงำตลอดเวลา
แทนที่ การเมืองจะเข้าสู่ยุค GenY ผู้ใหญ่ก็พยายามจะดึงให้ถอยหลังลงคลอง เป็นการเมืองน้ำเน่า ถ้ามองว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นการตรวจสอบฝ่ายบริหารตามระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ปล่อยให้ GenY ได้ใช้ความรู้ความสามารถ แสดงถึงภาวะผู้นำให้ชาวบ้านได้ประจักษ์ และเข้าใจการทำหน้าที่ของคนรุ่นใหม่มากขึ้น
จะเป็นคุณมากกว่าเป็นโทษ ประเทศไทยก็จะดูพัฒนาขึ้น
ใช้เป็นโอกาสแสดงถึง ภาวะผู้นำ ได้เต็มที่ ฝ่ายค้าน GenY ไม่มีอะไรแอบแฝง คน Gen นี้เขาจะสู้กันด้วยข้อมูลและความรู้ความสามารถ ไม่มีการตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จเหมือนการเมืองในอดีต เพราะฉะนั้นถ้าหวังดีกับ นายกฯแพทองธาร มากกว่าความปรารถนาของตัวเอง ก็ไม่ควรดึงเอาการเมืองของคนรุ่นใหม่ไปติดกับดักเช่นในอดีต
...
ไม่เช่นนั้นเหตุการณ์ในอดีตก็จะย้อนกลับมาทำร้ายปัจจุบัน
ไม่ว่าจะมีชื่อของ ทักษิณ ชินวัตร หรือต้องแก้ญัตติมาเปลี่ยนเป็น บุคคลในครอบครัว ก็ไม่ทำให้สถานการณ์ของฝ่ายรัฐบาลดีขึ้น กลับทำให้แย่ลง ในเมื่อความจริงก็คือความจริงวันยังค่ำ กรรมเกิดจากการกระทำ คนที่ร้อนตัวน่าจะเป็น รมต.ในรัฐบาลมากกว่า ไปทำอะไรไว้ ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด ถึงจะไปทำกันในต่างประเทศก็เถอะ
การนำวิวาทะ ใส่สีตีไข่ ดีลแลกประเทศ กลับไปเลี้ยงลูก มาเป็นสาระของการอภิปรายในครั้งนี้ แสดงถึงความเก่าดักดาน หรือการพาดพิงถึงบุคคลภายนอกโดยปราศจากข้อมูลและความรับผิดชอบจะกลายเป็นดาบสองคม
คนไทยไม่ได้กินแกลบกับรำ มีสติคิดเองได้.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th
คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม