ปริศนารัฐมนตรี “พ” รับจำนำสร้อยเพชรมรกต เอี่ยวคดีฉาวดาราสาวจอมแสบ ตามท้องเรื่องแอบๆซ่อนๆปมลับๆล่อๆวงการมายาคาบลูกคาบดอกการเมืองการละคร ที่โดนใจตลาดบน ตลาดล่าง คนดูทางบ้านเกาะติด ครองเรตติ้งข่าวใหญ่หน้าสื่อ เร้ากระแส “สังคมอุดมดราม่า” แบบไทยๆ
“โกโซบิ๊ก” ลามเลยเถิดไปกันใหญ่ถึงบิ๊กในรัฐบาล
“พ” พิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง “พ” พิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ “พ” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน “พ” พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน “พ” พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ
สะดุ้งยิ่งกว่าโดนศึก “ซักฟอก” ต้องออกตัวกันล้อฟรี ปฏิเสธกันจ้าละหวั่น
กลายเป็น “ละครคุณธรรม” สั้นๆคั่นเวลาหนังบู๊ฟอร์มยักษ์
เรียกน้ำย่อยก่อนยุทธการเชือด “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกฯระเบิดศึกถล่มผู้นำหญิงรัฐบาลผสมพรรคเพื่อไทย ในเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ปักหมุด ล็อกโปรแกรมฉายอย่างเป็นทางการ เริ่มตั้งแต่ 8 โมงเช้า 24 มีนาคม ข้ามคืนไปถึงดึกวันที่ 25 มีนาคม
ตามสูตร 28-7-2 ฝ่ายค้าน นำโดยกองทัพส้มค่ายประชาชนได้เวลาไป 28 ชั่วโมง หลังปฏิบัติการยื้อยุดฉุดกระชาก ต่อรองแลกกับการถอดชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ออกจากญัตติ “แสลงใจ” หุ่นเชิด เปลี่ยนเป็น “คนในครอบครัว” แทน
ครม.ได้ไป 7 ชั่วโมง เหลือ 2 ชั่วโมงให้ประธานคุมคิวป่วน
โดยรูปการณ์ “เผาหัว” ชนวนร้อนยั่วดีกรีระอุเดือด หนีไม่พ้นเกมตีรวนแน่ๆ
แค่โหมโรงก็ระทึกอกระทึกใจ ตามฟอร์มป้อมค่ายการเมืองรุ่นใหม่ที่เชี่ยวเกมการตลาดยุคเอไอ ค่ายประชาชนปล่อยทีเซอร์ “ดีลแลกประเทศ” เปิดคลิปหนังตัวอย่างในทันทีที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร สั่งบรรจุญัตติเชือดอย่างเป็นทางการ
...
โชว์ความ “ล้ำลึก” สื่อความหมาย “ลึกล้ำ” ในสารท้ารบ
ด้วยภาพคล้ายจิตรกรรมฝาผนัง “พระเจ้าสร้างอดัม” ของศิลปินบันลือโลก “ไมเคิลแองเจโล” แต่เปลี่ยนเป็นหญิงหน้าคล้าย “แพทองธาร” นั่งอยู่บนซากปรักหักพังของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
มาพร้อมกับปริศนาคำใบ้ ไกด์ไลน์เพิ่มอรรถรสให้คนดูทางบ้าน
เมื่อช้างสารชนกันหญ้าแพรกก็แหลกลาญ เมื่อช้างสารดีลกัน ประชาชนก็แหลกลาญ 18 เดือน ภายใต้รัฐบาลที่ดีลกันบนผลประโยชน์ของชนชั้นนำ เหยียบย่ำเสียงของประชาชน
คนไทยต้องสูญเสียไปเท่าไหร่ เพื่อให้บางคนได้กลับบ้าน ประเทศต้องเสียหายไปแค่ไหน เพื่อให้แพทองธาร ชินวัตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
เชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรกของพรรคประชาชน เปิดทุกดีลลับ คิดบัญชีทุกความสูญเสีย เปิดทุกแผลที่หมกเม็ด ของแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
มิติใหม่ มุกเรียกแขกของกองทัพส้มกระตุกเรตติ้งอย่างตื่นตาตื่นใจ
และก็เหมือนจะได้ผลทันที แค่ทีเซอร์เรียกน้ำย่อยก็ได้เห็นอาการ “ขึ้นเสียงสูง” ก่อนเดินหนีออกจากวงสัมภาษณ์ จับอารมณ์ “นายกฯอิ๊งค์” เมื่อสื่อมวลชนยื่นไมค์ถาม “ดีลแลกประเทศ” ที่ฝ่ายค้านล็อกเป้าแฉประจาน
ประเทศถูกแลกกับอะไร ไม่มีอยู่แล้ว
ย้อนถามฟาดกลับนักข่าว “ตระกูลชินวัตรได้อะไร ได้คุณพ่อ กลับมาเป็นเรื่องนี้เรื่องเดียวตลอดไป มันก็ไม่ใช่ว่าทำอะไรก็ตาม จะเป็นดีลแลกทั้งหมด ต้องใช้เหตุผลด้วยอย่าใช้อารมณ์”
โดนจี้ปมเสียดแทงใจ ส่ออาการเก็บทรงไม่อยู่
ลำพังแค่โดนนักข่าวซักไซ้ ยังเดินหนี นั่นก็ไม่ต้องนึกถึงฉากโดนกองทัพส้มไล่แซะ ไล่เชือดเฉือนในสภา สถานการณ์หนักหนากว่าหลายเท่านัก
ส่อเค้าสะบักสะบอม แถมหนีไม่ออกอีกต่างหาก
ด้วยเหลี่ยมเขี้ยวฟันน้ำนม ลีลานิ่มๆแต่เดาทางยาก แบบที่ “กุมารเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาชน แบไต๋ ในเมื่อเปลี่ยนญัตติใช้ “คนในครอบครัว” ชักใยหุ่นเชิด
ก็ส่อลามถึง “อาปู” อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โยงเป็นตัวละครสำคัญ
หรือแนวโหดดุดัน อย่าง “รังสิมันต์ โรม” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่ตีสีหน้านิ่งๆไม่ได้มาพูดให้ดูน่าตื่นเต้น ยืนยันได้เห็นข้อมูลค่อนข้างมั่นใจ
นึกไม่ออก “นายกฯอิ๊งค์” จะดิ้นหลุดได้อย่างไร
แน่นอน ด้วยฟอร์มเดียวกันนี้ ถ้าเป็นสูตรการเมืองโบราณ อาจตีราคาได้เลยแค่ลีลา “หมาเห่า” แต่สไตล์การเมืองรุ่นใหม่ที่ไม่มีน้ำเน่าเจือปน
มาตรฐานยี่ห้อประชาชน ภายใต้แบรนด์สีส้ม ไม่เคยทำให้คนดูผิดหวัง
จากรูปเกมซีเรียสที่ผู้นำหญิงคนสุดท้องตระกูลชินยังยอมรับกับปากเองเลยว่า “ตื่นเต้น”
ถามว่าเครียดแค่ไหนก็ประเมินได้จาก “นายกฯอิ๊งค์” ต้องลัดคิวนัดเลี้ยง “หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล” ที่โรงแรมโรสวูด อาณาจักรส่วนตัวของครอบครัว
ย้ำความชัวร์ในการจับมือ “มัดข้าวต้ม” ลุยฟัดกับกองทัพส้ม
แต่นั่นก็ยังไม่เน้นเท่าโซนชั้นในพรรคเพื่อไทย ที่ต้องจัดตั้งกองกำลังเสือเฒ่า เรียกกำลังพล “องครักษ์เบบี้บูมเมอร์” นำโดยจอมเก๋าลายครามอย่าง “หัวเขียง” นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ นายสุทิน คลังแสง นายอดิศร เพียงเกษ นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน ฯลฯ
แท็กทีมเป็นหน่วยอารักขา “ผู้นำเจน y” รับชุดคำสั่งเฉพาะกิจคอยประท้วง ตัดเกมฝ่ายค้านไม่ให้เข้าโซนกระแทกปลายคาง “ทักษิณ” ได้ง่ายๆ
ไม่ต้องสนเสียงด่า “ประท้วงเติมเงิน–เติมแต้ม” ต้องสกัดกันท่าเดียว
จากที่ก่อนหน้านั้น ได้มีการถ่ายทอดคำสั่ง “เถ้าแก่ใหญ่” ย้ำในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย สั่ง สส.ห้ามลา ห้ามขาด ห้ามตาย ต้องเปิดปุ่มไลน์แบบเสียงไว้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้พลาดในการประสานงาน
ยกระดับขบวนหาม “ลูกสาวนายใหญ่” เต็มอัตราศึก
ตามสภาพการณ์ “อารักขา” ผู้นำหญิง ยิ่งกว่า “กล่องดวงใจ” อีกนัยมันก็สะท้อนความหวั่นไหวที่ซ่อนไว้ไม่มิด ทั้ง “นายกฯคนพ่อ” และ “นายกฯคนลูก” หวั่นวิตกในการรับมือลูกบุกของกองทัพส้มที่ถนัดเกมทะลุทะลวง
ไม่มั่นใจกับฟอร์ม “นายกฯคนสุดท้องตระกูลชิน” ที่ต้องเผชิญแรงเสียดทานในที่ประชุมสภา แบบไม่มีโพย คำถามล่วงหน้าเหมือนสัมภาษณ์นักข่าว ต้องเดาโจทย์ร้อน ไม่ถนัดโดนไล่บี้ไล่ต้อน
เลี่ยงหนีมาตลอด ชิ่งตอบแม้กระทั่ง “กระทู้สด” ธรรมดาๆ
ไฟต์บังคับ วาระเดิมพันหนีไม่ออก
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นว่ากันด้วยแต้มประกันของพรรคร่วมรัฐบาล
เสียงหนุนผู้นำหญิงเหนือกว่าฝ่ายค้านมาก
โอกาสแทบเป็นศูนย์ที่ “นายกฯอิ๊งค์” จะแพ้โหวต ณ จุดที่ยังไม่ต้องพึ่ง “งูเห่า” ไม่ต้องอาศัย “ผู้กองคนดัง” ไล่ป้อนกล้วยลิงชิง สส.ฝ่ายค้านมาหนุนนายกฯหญิง ให้เป็นความดีความชอบ ต้องแลกด้วยโควตารัฐมนตรี เสี่ยงเงี่ยงคม “จริยธรรม”
ยกสองแขนสองขา ฝ่ายค้านยังไม่มีสิทธิแซง ไฮโลเปิดถ้วยแทง ยังไงขบวนห้ามแห่ “ลูกสาวเถ้าแก่ใหญ่” ก็ต้องช่วยกันออกแรง อุ้ม “นายกฯอิ๊งค์” ฝ่าด่านเชือดของกองทัพส้มและฝ่ายค้านไปได้
บรรดา “พ่อมหาจำเริญ” เหยียบตีนขัดขา ก็ยังไม่ถึงขั้นตาปลาแตก
“เพื่อนกินมาม่า” ยังต้องโหนอนุรักษ์นิยมไปต่อ จังหวะงบประมาณค้างท่อรอให้แบ่งสันปันส่วนกันมันปาก
ฟากของกองทัพส้มเอง ก็ไม่ได้หวังเปลี่ยนขั้วรัฐบาล
สถานการณ์รู้อยู่แก่ใจ ธรรมชาติการเมืองแบบไทยๆไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายค้าน พรรคประชาชนก็เดินหมากข้ามช็อตไปถึงการเลือกตั้งรอบหน้า
ลำพังแค่ขยี้ย้ำปมเน่า ฉายภาพสิ่งที่เห็นและเป็นไปอยู่ตรงหน้า ผ่านมา 2 ปี ภายใต้รัฐบาลเพื่อไทย โดยเฉพาะปมเศรษฐกิจปากท้อง ที่ยี่ห้อ “ทักษิณ” เคลมตีกินบุญเก่า แลกกับดีลพลิกขั้วหักมุมไปจูบปากกับลุงทหารเฒ่า เอาฝีมือบริหารเป็นประกัน มุกประชานิยม
ไม้ตายสุดท้าย เทกระจาดเงินหมื่น 2–3 รอบ ส่อเอาไม่อยู่
ดูแววทำได้แค่ “ขายฝัน” เอาตัวรอดไปรายวัน สถานการณ์เชิงกระแส แค่ค่ายส้มนวดพรรคเพื่อไทยให้น่วม เขย่าขั้วอนุรักษ์นิยมให้งอมจนร่วงเอง
แต่ทั้งหมดทั้งปวง มันไม่ได้มีหลักประกัน “หางเลข”
ตามฟอร์มธรรมชาติหลังศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ อาฟเตอร์ช็อกมักจะตามมาด้วยการปรับ ครม. โดยเฉพาะสูตรสมบัติผลัดกันชม สไตล์ “เถ้าแก่ใหญ่” ที่จังหวะเวลาหมดโปรฯ 6 เดือนพอดิบพอดี
รัฐมนตรีที่ตกเป็นเป้าล่อของฝ่ายค้าน กระทรวงที่โดนล่อเป้าเข้าตาคนดู
โอกาสสูงที่จะเป็น “ผู้โชคดีทางบ้าน” ได้เวลาขึ้นบัญชีโละกันเลย.
“ทีมการเมือง”
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม