ออกอาการตื่นเต้น จนเก็บทรงไม่อยู่“นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ถูกฝ่ายค้าน จับขึ้นเขียงล่อเป้าเดี่ยว บนเวทีซักฟอกอภิปรายไม่ไว้วางใจนัดหารือถี่ยิบ ทั้งวงเล็ก วงใหญ่ ไล่ตั้งแต่ ครม. รมต. หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล และ สส.พรรคเพื่อไทย ขอความร่วมมือและขอพึ่งพาประสบการณ์ช่วยเหลือนัดแนะ สส.พรรคเพื่อไทยทุกคนให้มาพร้อมกันที่รัฐสภาก่อนเวลา 08.00 น. ทุกวันอภิปราย“ขอให้พวกเราเฝ้าดู ไลน์กรุ๊ป เช็กไลน์กลุ่มด้วย เผื่อมีการขอความช่วยเหลือ”ประธาน สส.เพื่อไทย วิสุทธิ์ ไชยณรุณ รับลูกสนองบัญชา กำชับ สส.พรรคต้องลงชื่อพร้อมเพรียงกันในสภาเวลา 08.00 น. วันที่ 24-26 มี.ค. ตามที่วิป 3 ฝ่ายค้านเคาะเปิดเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ“ช่วงนี้อาจนอนดึกหน่อยคงไม่เป็นไรนานๆครั้ง แต่วันที่ 24 มี.ค. ขอให้นอนหัวค่ำตื่นแต่เช้า ห้ามป่วย ห้ามสาย ห้ามขาด ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา” ช่วยกันประคบประหงม ประคับประคองนายกฯหญิงอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ สร้างความอุ่นใจ สบายใจ และมั่นใจ ในจังหวะที่เจ้าตัวยอมรับเองว่าตื่นเต้นกับเวทีใหญ่ครั้งแรกครั้งนี้“นายกฯอิ๊งค์” เป็นเป้าใหญ่เป้าเดียวที่ฝ่ายค้านตั้งใจรัวหมัดชุด ตามยุทธศาสตร์ไม่เอาให้ตายแต่เอาให้อาย ขยี้จุดเปราะบางเรื่องภาวะผู้นำฝ่ายค้านที่นำโดยพรรคประชาชน ไม่มีอาการวอกแวกเสียสมาธิ หมุดหมายไม่หลุดจากจุดปัก แม้จะโดนฝั่งรัฐบาลพรรคเพื่อไทย หรือแม้กระทั่งประธานรัฐสภา รุมเจาะยาง ขึงลวดหนาม โรยตะปูเรือใบยังเดินหน้าต่อไปไม่เปลี่ยนแปลงเส้นทาง แก้ไขญัตติเปลี่ยนแค่ชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็น “คนในครอบครัว”เบลอภาพแต่ขยายวงกว้างฟาดได้ทั้งพ่อ น้า อา ตามที่ “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาชนตอบคำถามผู้สื่อข่าว อาจจำเป็นต้องพาดพิงไปถึง “อาปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯด้วยเพราะปมแหลมคมที่พรรคประชาชนเฉลยให้แล้วล่วงหน้า และจัดเป็นแคมเปญธีมอภิปรายในครั้งนี้คือ “ดีลแลกประเทศ” พรรคเพื่อไทยเอาผลประโยชน์ประเทศแลกกับผลประโยชน์บุคคลในครอบครัวการจัดตั้งรัฐบาลและการดำเนินนโยบายของรัฐบาล ไม่ได้เอาประชาชนเป็นตัวตั้งสะกิดเบาๆก็เจ็บ ความจริงอันขมขื่นที่พรรคเพื่อไทยหนีไม่ออก ปฏิเสธไม่ได้รอยแผลเป็นที่บาดลึกทำร้ายจุดยืนตัวตน “เพื่อไทยหัวใจคือประชาชน”จากจุดแข็งที่สุดกลายเป็นจุดอ่อน เปราะบางที่สุด ส่งผลให้กระแสนิยมตกต่ำจนตั้งรับไม่ทันถอดรหัสคำพูด “นายใหญ่จันทร์ส่องหล้า” ไม่ว่าเวทีไหนหากเป็นการสื่อสารกับคนเสื้อแดง ก็จะสะท้อนนัยความหมายของคำว่า “ขอบคุณ” และ “ขอโทษ” ทุกครั้งไป“การเลือกตั้งที่ผ่านมาเสียหายเยอะไปหน่อย เพราะกระแสพลิกในตอนสุดท้าย”นั่นก็คือช่วงเวลาที่มีกระแสข่าว “ดีลลับกลับบ้าน” และร่องรอยความเป็นไปได้ “จับมือ 2 ลุง”เหตุบ้านการเมืองวันนี้ มันก็เป็นคำตอบอยู่ในตัว น้ำท่วมปาก ยิ่งพูดมากยิ่งเหมือนแก้ตัวฉะนั้นจากเส้นทาง 2 สายหลักที่พรรคเพื่อไทยเคยยิ่งใหญ่ไร้เทียมทาน “จุดยืนประชาธิปไตย” และ “บริหารนโยบาย” จึงเหลือเพียงเส้นทางเดียวยุทธศาสตร์และทิศทางของ “นายใหญ่จันทร์ส่องหล้า” และองคาพยพเพื่อไทย ชัดเจนตั้งแต่ช่วงสตาร์ต ปักหมุดกรีธาทัพบนเส้นทางบริหารนโยบาย แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องเดิมพันด้วยโจทย์ใหญ่ข้อเดียว แต่คำตอบที่ต้องการยังไม่มา ที่ร้ายคือสัญญาณแนวโน้มไม่ค่อยดีผ่านมาเกือบ 2 ปีใกล้ครึ่งทางรัฐบาล แต่เครื่องยนต์ยังต้องไขลานไม่หยุด เหลียวซ้ายแลขวาเห็นเพื่อนร่วมทางแล้วทำได้แค่ส่ายหน้าด่าเหน็บแนม อีแอบบ้างพ่อมหาจำเริญบ้างทุกอย่างไม่เป็นไปดั่งใจ แม้ “นายใหญ่” จะโชว์บทขึงขัง “ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้–ตายเสียดีกว่าที่จะอยู่อย่างผู้แพ้ สิ่งที่ผมพูดสิ่งที่นายกฯพูด สิ่งที่พรรคเพื่อไทยพูด ทำแน่นอน”อีกทางก็เป็นการบอกตัวเองให้อดทนรอจุดเปลี่ยนจังหวะรุกไม่คืบหน้า จังหวะรับโดนจี้จุดอ่อนช่วงนี้อาการนอตหลุด เออร์เรอร์ในเพื่อไทยจึงไม่ใช่เรื่องแปลก.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม