กองทุนประกันสังคมก่อตั้งมานานกว่า 34 ปี มียอดเงินสะสมก้อนมหึมากว่า 2.6 ล้านล้านบาท
มีเงินสมทบไหลเข้ากองทุนอีกกว่าปีละ 2.3 แสนล้านบาท
ล่าสุดมีประชาชนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมกว่า 24 ล้านคน
การบริหารกองทุนประกันสังคมวงเงินมหาศาลกว่า 2.6 ล้านล้านบาท
จึงต้องโปร่งใสมากที่สุด!!
“แม่ลูกจันทร์” ชื่นชม น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. และ นายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน ที่ตรวจสอบกองทุนประกันสังคมแบบกัดไม่ปล่อย
โดยเฉพาะการนำเงินกองทุนประกันสังคมไปซื้ออาคารสูง 36 ชั้น เนื้อที่ 4 ไร่ ย่านพระรามเก้า จากบริษัทเอกชน
ในราคาแพงหูฉี่ถึง 7,000 ล้านบาท!!
ข้อสำคัญ ไม่ใช่เป็นอาคารสร้างใหม่ แต่เป็นตึกร้างสร้างไม่เสร็จ ตั้งแต่ยุควิกฤติต้มยำกุ้งเมื่อ 26 ปีก่อน
ต่อมามีกลุ่มทุนซื้อตึกเก่ามาปรับปรุงรีโนเวทใหม่ แล้วขายต่อให้กองทุนประกันสังคมในราคา 7,000 ล้านบาท
สูงกว่าราคาประเมินที่เคาะไว้ 3,000 ล้านบาท
แม้จะรวมเงินลงทุนแปลงโฉมให้เป็นตึกใหม่อีก 2,000 ล้านบาท
ราคาอาคารหลังนี้ก็ไม่ควรเกิน 5,000 ล้านบาท
การเอาเงินกองทุนประกันสังคมไปทุ่มซื้ออาคารแห่งนี้สูงถึง 7,000 ล้านบาท อาจแพงเว่อร์ผิดปกติ??
เหตุเกิดขึ้นในช่วงปลายยุครัฐบาลนายกฯลุงตู่ ซึ่งมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงาน
และมี นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงานคนปัจจุบันเป็นเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม
นี่คือประเด็นร้อนฉ่าที่ 2 สส.พรรคฝ่ายค้าน เอามาเปิดโปงจนเป็นข่าวฉาวโฉ่อลึ่งฉึ่ง
“แม่ลูกจันทร์” มีคำถามอีก 5 ข้อที่ต้องการคำตอบ
ข้อ 1, ทำไมต้องเอากองทุนประกันสังคมไปซื้อตึกมาให้เช่าต่อ??
ข้อ 2, การทุ่มเงินเจ็ดพันล้านบาทซื้ออาคารแห่งเดียวเป็นการกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสมหรือไม่??
...
ข้อ 3, รายได้จากค่าเช่าตึกคุ้มกับเงินที่ลงทุนซื้อตึกหรือไม่??
ข้อ 4, ตึกใหม่ๆแจ่มๆเยอะแยะ ทำไมต้องเจาะจงซื้อตึกเก่าๆ??
ข้อ 5, ก่อนตกลงซื้อมีการประเมินราคากลาง และเปรียบเทียบราคาพื้นที่ใกล้เคียงหรือไม่??
ขอฝากคำถาม 5 ข้อให้ สส.รักชนก และ สส.สหัสวัต ไปคุ้ยแคะหาคำตอบเป็นการด่วน!!
“แม่ลูกจันทร์” เห็นด้วยที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว.มหาดไทย ผู้กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน มีคำสั่งตั้ง “ปลัดกระทรวงมหาดไทย” เป็นประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีใช้เงินกองทุนประกันสังคมซื้อตึกเก่าแพงกว่าซื้อตึกใหม่
ถือว่านายอนุทินแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้รวดเร็วดี
แต่...เรื่องแบบนี้ รัฐบาลตรวจสอบ กันเองไม่ได้หรอก
เพราะจะเข้าตำราลูบหน้าปะจมูก
ควรตั้งกรรมการคนนอก (ซึ่งเป็นคนกลาง) จะเหมาะสมกว่า
ข้อสำคัญ ต้องมีตัวแทนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมร่วมตรวจสอบให้กระจ่าง
เรื่องมันฮอตมาก ต้องจบให้แซ่บหน่อย.
“แม่ลูกจันทร์”
คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม