เอาเป็นว่าเรื่องปรับ ครม.ลืมไปได้เลย...เพราะคนที่มีอำนาจจริงอย่าง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี หรือ “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้มีอำนาจนอกรัฐบาล ก็ยังโอเคกับ ครม.ชุดนี้

แล้วใครจะใหญ่มากกว่านี้ที่จะชี้นิ้วสั่งได้

พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคต่างก็พอใจกับสิ่งที่ดำรงอยู่ต่างก็พอใจกับงานที่รับผิดชอบ และหัวหน้ารัฐบาลก็ให้การสนับสนุน

เว้นแต่รัฐมนตรีคนไหนจะถูกฝ่ายค้านถล่มเละในศึกซักฟอกนั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ดูจากรูปการณ์แล้ว

คงไม่ใช่เรื่องง่าย!

เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ผ่านมาเล่นงานรัฐบาลได้ยากแม้จะมีประเด็นที่แหลมคมอยู่ก็ตาม

กอปรกับการเป็นรัฐบาลหลายพรรคก็จริง แต่เสียงสนับสนุนนั้นแน่นปึ้กทำให้แซะได้ลำบาก ทำให้ ครม.ชุดนี้ยังคงอยู่ไปอีกนานเว้นแต่จะเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันเท่านั้น

เมื่อพรรคแกนนำโอเคพรรคร่วมโอเคทุกอย่างก็คงราบรื่นที่สำคัญยังมีงานใหญ่ที่รอการแก้ไขและต้องการให้ทุกพรรคมีส่วนร่วม อย่างคอลเซ็นเตอร์ที่พรรคทำได้ต้องทำงานเป็นทีมจึงจะแก้ไขได้ แล้วก็แบ่งคะแนนนิยมร่วมกันไป

นอกจากนั้นยังมีนโยบายสำคัญอีกหลายเรื่องที่จะต้องเร่งให้งานออกเพราะเหลือเวลาอีกไม่นานก็ต้องเลือกตั้งกันใหม่แล้วจึงต้องเร่งมือ

เมื่อตบจูบกันมาพอสมควร ต่างก็รู้ว่าอะไรควรไม่ควรในการอยู่ร่วมกันในท่ามกลางฝ่ายค้านที่ไม่แข็งแกร่งนัก

อยู่สบายๆอย่างนี้ไม่ดีกว่าหรือ?

อย่างข่าวที่บอกว่าพรรค “กล้าธรรม” ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ต้องการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี โดย ร.อ.ธรรมนัสจะเข้าไปเป็นรัฐมนตรีแทนนั้น

ดูแล้วไม่น่าจะมีความเป็นไปได้เพราะการที่ไม่เป็นรัฐมนตรีจากการตั้งรัฐบาลชุดนี้ก็รู้กันอยู่แล้วว่าเหตุผลเพราะอะไร ก็คงมาจากเรื่องคุณสมบัติ

...

อาจจะทำให้เกิดปัญหาไม่ต่างกับ “เศรษฐา ทวีสิน” ที่ต้องพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็เพราะตั้งรัฐมนตรีที่ขาดคุณสมบัติ

วันนี้ “รัฐมนตรีแป้ง” จึงเล่นบทใหม่แล้ว

เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณไม่ต่างกับ “ทักษิณ-ธนาธร” ดีกว่า โดยไม่ต้องเป็นรัฐมนตรี ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร

แต่มีอำนาจเหนืออำนาจ...

แม้แต่ในพรรค “กล้าธรรม” ก็ไม่เป็นหัวหน้าพรรค แต่เป็นประธานที่ปรึกษาพรรคใหญ่กว่า บารมีมากกว่า

ถือชั้นเดียวกับ “ทักษิณ”

หรือที่บอกว่าจะนำ “กล้าธรรม” ไปรวมกับ “เพื่อไทย” ก็คงไม่ใช่อีกด้วย เพราะเป็น “หัวหมา” ดีกว่าเป็น “หางราชสีห์” เพราะเขามีประสบการณ์เรื่องนี้มาแล้ว

ขาด “ชาติพัฒนา” ของ “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ที่ขนาด เจ้าตัวบอกว่าอายุมากแล้วกำลังนับถอยหลังทางการเมือง เมื่อถูกถามว่าจะไปรวมกับ “เพื่อไทย” หรือไม่

เขาตอบจากผู้เจนจัดการเมืองก็ยังปฏิเสธแบบไม่ทำให้คนฟังแสลงใจ “บัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น” ว่าเรื่องนี้ต้องคิดให้รอบคอบยังมีเวลาอีกนาน

เพราะเขาเคยเจอมาแล้วแบบไม่มีความสุข สู้อยู่แบบนี้ดีกว่า

“ธรรมนัส” นั้นมีความทะเยอทะยานสูง บทบาททางการเมืองที่ผ่านมาคงพอจะรู้เห็นตัวตนกันแล้วว่าไม่ธรรมดา

“บิ๊กป้อม” ที่ว่าแน่ๆยังเจ็บทรวงไม่หายจนถึงทุกวันนี้!

"สายล่อฟ้า"

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม