จบลงทุกอย่าง ไม่อยากให้ขยายความ
นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร รองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) บอกถึงสถานการณ์เผ็ดร้อนล่าสุดในพรรค พปชร.กรณีที่นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม สมาชิกพรรค พปชร. ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยอ้างเป็นคนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. จน สส.ส่วนใหญ่ และแกนนำพรรค พปชร.ออกมาตำหนิพฤติการณ์ดังกล่าวที่มากำหนดทิศทางของพรรค พปชร.
นับจากวันนี้เชื่อว่าไม่มีเรื่องอะไรที่ออกมาสร้างความเข้าใจผิดแก่ประชาชน ในฐานะเป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล ย่อมเป็นห่วงเสถียรภาพของรัฐบาล โดยเฉพาะในจังหวะที่ประชาชนจับจ่ายใช้เงินน้อย เป็นอีกหนึ่งปัจจัยทำให้มีผลต่อสภาวะเศรษฐกิจ
ยิ่งต้องรอดูคดียุบพรรคก้าวไกล วันที่ 7 ส.ค. (กรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยนายทะเบียนพรรคการเมืองขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิทางการเมืองคณะกรรมการบริหารพรรค 10 ปี นับแต่วันที่มีคำสั่งตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง)
และคดีนายกฯ วันที่ 14 ส.ค. (กรณีประธานวุฒิสภาส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และนายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกฯ สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญหรือไม่)
...
สภาวะแบบนี้ ขรก.ทำงานไม่ได้ ส่งผลกระทบในวงกว้างสภาพภายในพรรค พปชร.มี 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.และกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการ พปชร. มีโอกาสแค่ไหนที่ทั้งพลพรรคทั้งหมดจะเดินไปถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่ว่าเกิดยุบสภาหรือรัฐบาลอยู่ครบวาระ นายไผ่ บอกว่า ไม่มีๆครับ
พร้อมชี้ให้เห็นทั้งปัญหาแชตไลน์กลุ่ม สส.พปชร.หลุด ตามตรรกะในห้องไลน์ไม่มีการเตี๊ยมกัน สส.ไม่รู้ทำไมคนอื่นนำพรรค มันฟ้องอยู่แล้วว่าไม่มีใครรู้ในเรื่องที่เกิดขึ้น และที่สำคัญที่สุดพรรค พปชร.ร่วมรัฐบาลอยู่ ต้องคำนึงถึงมารยาททางการเมือง ไม่เช่นนั้นต่อไปใครจะร่วมมือกับเรา
ส่วนอนาคตของพรรค พปชร. วันนี้มองไปถึงขนาดนั้นได้ยาก เพราะการเมืองมองกันที่ 3 วัน 5 วัน 7 วัน ด่านสำคัญที่ทุกคนจับตามอง คือ วันที่ 7 ส.ค. และวันที่ 14 ส.ค. คดียุบพรรคก้าวไกลมีผลต่อพรรค พปชร. และพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร เพราะมีเสียงถึง 314 เสียง มีเสถียรภาพแน่นปึ้กแล้ว และคดีนายกฯมีผลต่อพรรค พปชร.อย่างไร นายไผ่ บอกว่า ยุบหรือไม่ยุบ มีผลกระทบน้อย
“เพราะมี สส.เข้ามาหรือไม่มี สส.เข้ามา ไม่ได้บอกว่าเข้ามาพรรคไหน ไม่ได้บอกว่ามาเปิดตัว วันที่ 7 ส.ค. คงไม่ออกมาเปิดต่อสาธารณะก่อน เขาไม่ทำกัน ทำไปก็ไม่มีประโยชน์
แต่พอการเลือกตั้งครั้งต่อไป รู้ว่าต้องสู้กับอะไร ต้องดูคู่แข่งว่าทำงานกันอย่างไร วันนี้ที่ทำได้ดีที่สุด สู้ด้วยผลงาน เร่งทำผลงานให้ประชาชนยอมรับ
แม้เศรษฐกิจไม่ได้ฟื้นภายในเวลาอันรวดเร็ว มีองค์ประกอบภายในและนอกประเทศ ในฐานะอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล ย่อมมั่นใจดิจิทัลวอลเล็ตสำเร็จ เกิดพายุเศรษฐกิจหมุนขึ้นมา
แต่ถ้าไม่เกิดพายุเศรษฐกิจหมุน ประชาชนก็ได้รับเงินประทังชีวิตหรือเอาไปลงทุน แต่ไม่ควรนำไปดิสเครดิตทางการเมือง”
ส่วนคดีนายกฯ อย่าถามว่ามีผลต่อ พปชร.อย่างไร เพราะมีผลกระทบต่อทุกคนในประเทศ และต่อทุกพรรคการเมือง
คดียุบพรรคก้าวไกล และคดีนายกฯ สะเด็ดน้ำก่อน พรรค พปชร.ถึงขับเคลื่อนทางการเมืองเต็มที่ นายไผ่ บอกว่า พรรค พปชร.ยังเดินหน้าทำงานเต็มที่ ไม่รอผลสองคดีการเมืองดังกล่าว
“สิ่งที่ต้องเตรียมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ต้องรู้ว่ามีทางออกกี่ทาง ต้องเตรียมหาคนมาร่วมสำหรับเลือกตั้งครั้งต่อไป เลือกคนที่มีคุณภาพเข้ามาทำงานต่อได้
ดึงคนเข้าพรรค เปิดตัวผู้บริหารพรรค เพื่อนในพรรคคิดตรงกันว่าเป็นสิ่งที่ยังไม่ต้องมาพูดตอนนี้ เพราะมีผลลบเยอะ ควรนิ่งไว้ก่อน ทำงานให้ประชาชนจับต้องผลงานได้”
พรรคก้าวไกลถูกยุบ เสียง สส.พรรค พปชร.ก็ไม่เพิ่มขึ้น รอใกล้วันเลือกตั้งถึงเห็นภาพการย้ายเข้าพรรค นายไผ่ บอกว่า ต้องดูไทม์ไลน์ออกตอนไหน พร้อมเพิ่มเสียงในพรรค พปชร.แล้วมีประโยชน์อะไร ทุกอย่างเตรียมพร้อม แต่พูดเจาะลึกไม่ได้
ถ้าเพิ่มเสียง สส.แล้วมีประโยชน์ก็ต้องเพิ่ม
คดีนายกฯ ออกมาเป็นลบ พรรค พปชร. มี พล.อ.ประวิตรเป็นแคนดิเดตนายกฯ มีโอกาสก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกฯ นายไผ่ บอกว่า นายเศรษฐายังนำรัฐบาลต้องสนับสนุนก่อน อะไรที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องของอนาคตไม่ควรนำมาพูด พูดออกไปอาจทำให้สังคมเข้าใจผิด เขาไม่ทำกันหรอก
ในพรรคเพื่อไทยยังมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งไม่เคยปฏิเสธว่าจะไม่เป็น รวมถึงนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย นายอนุทิน ชาญ วีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย แคนดิเดตนายกฯ พรรคภูมิใจไทย พล.อ.ประวิตร
แคนดิเดตนายกฯ พรรค พปชร. แคนดิเดตนายกฯ ทุกคนมีโอกาสเป็นนายกฯ
ทุกคนพร้อมหมด แต่ในวันนั้นการเมืองตกผลึกแบบไหน ต้องเดินแบบไหนก็ว่ากันไป โดยเฉพาะการเมืองของพรรค พปชร. ผ่านการจัดตั้งรัฐบาลมาสองครั้งแล้ว เชื่อมั่นพวกเราพร้อมรับมือทุกสถานการณ์
โอกาสที่พรรค พปชร.ถูกเขี่ยพ้นพรรคร่วมรัฐบาล และกลุ่มของร.อ.ธรรมนัสต้องการอยู่ในพรรค พปชร.ต่อหรือถอยฉากไปอยู่พรรคเพื่อไทย นายไผ่ บอกว่า เราจับตาการเมืองรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เตรียมพร้อมทุกรูปแบบมี 2-3 ทางเลือก แต่ไม่ขอพูดตรงนี้
สิ่งที่ทำทั้งหมดไม่ใช่นั่งห่วงอำนาจ เราจะทำและเดินไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทุกภาคส่วนและประเทศดีขึ้น
“แทงม้าทำไมต้องเลือกแทง วันนี้แทงได้ทุกตัว อยู่ดีๆมาบอกว่าแทงม้าตัวนั้นตัวนี้ คนฉลาดไม่ทำกัน”
ส่วนพรรค พปชร.จะทำอะไรก็ได้สื่อสารถึงทุกคนในพรรค ได้คุยกับหัวหน้าพรรค ทำอะไรคุยกันก่อน โหวตในสภา หัวหน้าพรรคก็โทร. มาสั่งผม ทำงานตามปกติ กินข้าวก่อนตามปกติ
ผม และ ร.อ.ธรรมนัสที่มีความสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทย ต้องยอมรับว่าเราออกมาจากที่นั่น ทำงานร่วมกันด้วยดีตลอดมาตั้งแต่รัฐบาลที่ผ่านมาเป็นการทำงานที่สวยงาม มันผิดตรงไหน เช่นเดียวกับ สส.พรรคก้าวไกล ผมทำงานร่วมกันหลายเรื่องในฐานะตัวแทนประชาชน ทั้งด้านกฎหมาย และงบประมาณ
ส่องสถานการณ์ทั้งหมด พรรค พปชร.ยังพร้อมเดินหน้าทางการเมืองต่อไป นายไผ่ บอกว่า ทีมฟุตบอลที่เล่นมาถึงวันนี้ ลุ้นแชมป์ได้ทุกคน ในฐานะที่ผมยังสวมเสื้ออยู่ต้องทำงานให้เต็มที่
แต่วันนี้สมการทางการเมืองเปลี่ยนไปเยอะ เราไปซื้อหน้าเดียวไม่ได้ เพราะการเมืองเป็นสองขั้ว สู้กันระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย แต่บริบทในพื้นที่ก็ต่างกัน จุดแข็งก้าวไกลก็เยอะ จุดแข็งเพื่อไทยก็มาก จุดแข็ง พลังประชารัฐก็มี ต้องใช้จุดแข็งของเราสร้างคะแนนเพิ่ม
ครั้งที่แล้วกระแสคนรุ่นใหม่ ครั้งต่อไปอาจเป็นกระแสอย่างไรก็ได้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ทั้งหมดทีมการเมืองพรรค พปชร.ติดตามการเมือง และดูตลอด อ่านเกมการเมืองอยู่แล้ว ถ้าอ่านไม่ขาดคงตั้งรัฐบาลไม่ได้ถึงสองครั้ง
ร.อ.ธรรมนัสอยู่พรรค พปชร.มีบารมีมาก หากตั้งพรรคใหม่หรือไปอยู่พรรคเพื่อไทยบารมีอาจลดลง นายไผ่ บอกว่า เราเห็นอยู่แล้ว
แต่วันนี้ยังไม่มีอะไรที่ต้องทำหรือพูดถึง เราอยู่ตรงไหนก็ได้ที่ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ที่สุด ที่สำคัญที่สุดของนักการเมืองคือทำให้ได้กลับมาเป็น สส.
ครั้งหน้าอาจต่อสู้กันแค่สองขั้วการเมือง ในอนาคตสู้กันแบบไหน ทำกันแบบไหนก็ต้องดู รัฐธรรมนูญแก้หรือไม่ แก้แล้วกลับไปเป็นเขตเลือกตั้งใหญ่หรือเขตเลือกตั้งเล็ก เลือกเบอร์เดียว อาจไม่มี สส.บัญชี
รายชื่อก็ได้ ตอนนี้ยังพูดอะไรไม่ได้ และยังไม่รู้ว่าองค์ประกอบทั้งหมดออกมาแบบไหน บางที 10 อย่างการเมืองเกิดขึ้น แต่มันไม่เกิดขึ้น 1 อย่าง อาจทำให้เกมเปลี่ยนไปทุกอย่างเลยก็ได้
วันนี้ขอยืนยันทำงานร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลเป็นปกติ
คดีนายกฯวันที่ 14 ส.ค.จบแบบไหน ประเทศก็เดินต่อไป.
ทีมการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ "วิเคราะห์การเมือง" เพิ่มเติม