4 คดีการเมืองใหญ่ 18 มิ.ย. ผ่านไปแบบไม่เร้าใจคอการเมือง

มโนโหมโรงกันหนักถึงขั้นเป็นวันโลกาวินาศ แต่สรุปสุดท้ายไม่มีอะไรในกอไผ่

บรรดากองแช่ง “ทักษิณ” ผิดหวังไปตามๆกัน เพราะ “นายใหญ่จันทร์ส่องหล้า” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย ได้ประกันตัวในคดี ม.112 แต่ห้ามออกนอกประเทศ

แต่แค่นั้นก็ปิดจ๊อบแยกย้ายบ้านใครบ้านมัน เพราะภาพที่ “ทักษิณ” จะถูกจำคุกทันทีไม่เกิดขึ้น

คดียังต้องยืดเยื้ออีกนาน ถ้าสู้กันอีก 3 ศาล ก็ใช้เวลาประมาณ 3 ปี พอๆกับอายุรัฐบาลพอดี

เพียงแต่ระหว่างทาง “ทักษิณ” ก็ยังต้องระแวงระวัง คอยดูทิศทางลมให้ดีเหมือนกัน

ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ศาลชี้ว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ การเลือก สว.เดินหน้าต่อ ไม่มีแนวโน้มล้มโต๊ะ โมฆะ กองแช่ง พลพรรคคนจ้องล้มต้องผิดหวังอีก

เหล่าบรรดา สว.ตัวตึง สภาฟันปลอม หอกดาบข้างแคร่รัฐบาล คอยทิ่มตำ “นายใหญ่จันทร์ส่องหล้า” ต้องม้วนเสื่ออำลาไปตามวาระ หมดหวังอยู่ต่อลากยาว รอเวลา สว.ชุดใหม่เข้ามาแทนที่เร็วๆนี้

เครือข่ายแนวต้าน “ทักษิณ” ร่อยหรอลงไปเรื่อยๆ

และนั่นเป็นการสะท้อนว่า “ดีลลับลังกาวี” ที่อิงกับเครือข่าย “ลุงในเมือง” ยังคงขับเคลื่อนอยู่ โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับเครือข่าย “ลุงในป่า”

ส่วนคดี “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รวมทั้งคดียุบพรรคก้าวไกล ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเลื่อนออกไป เพื่อสืบข้อมูลพยานหลักฐานเพิ่มเติมทั้ง 2 คดี

โดย 2 คดีนี้ยังเป็นตัวแปรสำคัญต่อทิศทางการเมืองไทย โดยเฉพาะหาก “นายกฯเศรษฐา” พลาดท่าหลุดเก้าอี้ สภาผู้แทนราษฎรจะต้องเลือกนายกฯกันใหม่

...

แน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยจะต้องเสนอแคนดิเดตนายกฯที่ยังเหลืออีก 2 คน คือ “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย หรือ นายชัยเกษม นิติสิริ คนใดคนหนึ่ง

แม้นายชัยเกษมจะสุขภาพไม่ค่อยดี หรือ “อุ๊งอิ๊งค์” จะยังไม่พร้อม พ่อ-แม่ยังไม่อยากให้โดดขึ้นแป้นผู้นำเต็มตัว เพราะมันเป็นดาบสองคม อาจต้องประสบเคราะห์กรรมดังที่นายทักษิณผู้เป็นพ่อเคยเจอและเผชิญอยู่

แต่ถ้าถึงชั่วโมงนั้นคงเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเหตุการณ์มันบีบคั้น เพื่อไทยไม่เสนอคนชิงนายกฯก็ไม่รู้จะตอบคำถามประชาชนยังไง และจะถูกมองว่าทำการเมืองไม่จริงใจ มีวาระแฝงเลือกตั้งครั้งหน้าจบเห่แน่

คดียุบพรรคก้าวไกลชั่วโมงนี้ คนการเมืองมองว่าปัจจัยด้านการเมือง มีน้ำหนักชี้เป็นชี้ตายความอยู่รอด

เวลาที่ยืดออกไป ล้อกับคดีของ “นายกฯนิด” ที่เลื่อนออกไปเหมือนกัน

เศรษฐา ทวีสิน
เศรษฐา ทวีสิน

ตามสมการการเมืองถ้าหากต้องโหวตเลือกนายกฯใหม่ เสียงของพรรคก้าวไกลที่มีมากเป็นอันดับ 1 ย่อมมีผลพลิกคว่ำพลิกหงายต่อหมากกระดานการเมืองยามนี้

หากยุบพรรคก้าวไกลแล้วปรากฏว่ามีบางพรรคสามารถไปกวาดต้อนช้อนงูเห่าสีส้มมาได้มากๆ อาจมีผลเพิ่มน้ำหนักต่อรอง ถึงขั้นชิงตำแหน่งนายกฯมาจากพรรคเพื่อไทย

นักวิเคราะห์การเมืองถอดสมการโจทย์นี้จากคำให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณ ที่ออกมาชี้เป้าว่าเหตุการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้น ล้วนขับเคลื่อนมาจากบ้านในป่า

ดังนั้น “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จึงถูกจับตาว่าเป็นหัวขบวนในปฏิบัติการนี้ แต่หากจะมีการโหวตนายกฯคนใหม่ จะไม่มี 250 สว.เข้าร่วมแล้ว เหลือเพียงเสียง สส.500 คนเท่านั้น

การไปตกเขียวไล่ล่างูเห่าในพรรคสีส้ม ถูกเปิดโปงโดย “หัวหน้าต๋อม” ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล บอกว่าไม่ใช่ดูดธรรมดา แต่ดูดแรงมาก กระนั้นยังมั่นใจว่าลูกพรรคไม่ยอมขายตัว ทิ้งอนาคตตัวเอง

เป็นเรื่องน่าสนใจและเป็นตัวแปรสำคัญ สส.ก้าวไกลส่วนใหญ่คิดอ่านต่อหมากเกมนี้ยังไง จะยอมทิ้งอนาคตสวมวิญญาณงูเห่า หรือยืนหยัดกับค่ายส้มต่อไป แม้พรรคจะถูกยุบ

แว่วว่าตอนนี้จำนวนงูเห่าที่ตกเขียวเข้าบ้านในป่ายังมีไม่มากพอ

ขณะที่ “นายใหญ่จันทร์ส่องหล้า” ก็รู้กลไกหมากเกมนี้ พร้อมเปิดหน้าออกมาทุบทำลาย สู้แลกกันหมัดต่อหมัด

เมื่อหลุดจากมุมอับพลิกกลับมาเป็นต่อได้แล้ว รอดูเกมเอาคืนตามสไตล์ “นายใหญ่” ได้เลย

โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ อาจถึงขั้นโดนโละออกจากรัฐบาลก็ได้

ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลเครือข่ายอนุรักษ์นิยม กำลังจับตาเฝ้ามองเกมนี้อยู่ทุกฝีก้าว

หากฝ่ายไหนโอกาสชนะมากกว่า ก็เทเข้าหาฝ่ายนั้น ขอร่วมเป็นรัฐบาลต่อไป.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม