เกมอำนาจพลิกคว่ำ-พลิกหงาย ต้องรอคำตอบ โปรแกรมสั้นสุดที่จะพอมองเห็นทิศทางต่อไป คือ 4 คดีใหญ่ ปักหมุดตรงกัน 18 มิ.ย.นี้
เป็นไปตามวลีเปรียบ 4 ปมร้อน “ล้มก้าวไกล-ล้มนายกฯ-ล้ม สว. และ “ติดบ่วงซ้ำอดีตนายกฯ” ยังไม่รวมคิวแทรก เปิดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 2568 วันเดียวกัน
ทุกปมถูกจับตา เขย่าการเมืองสะท้าน ขั้วอำนาจสะเทือน
เครื่องยนต์บ้านเมืองชะงัก ชะลอความเร็ว รอถนนโล่งอีกหลายอึดใจ
ไล่เรียงสแกนเข้าไปในแต่ละปม ทั้งคดียุบพรรคก้าวไกล ศาลรัฐธรรมนูญนัดให้ กกต.ส่งข้อมูลเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมให้พิจารณาอีกครั้ง โดยไม่ได้ร้องขอจากผู้ถูกร้องคือค่ายส้ม
สะกิดฝั่งเดียวก็เท่ากับว่าคำร้องสำนวน กกต. “หลวม”
สอดคล้องเข้าทางกับแนวทางต่อสู้ของพรรคก้าวไกล หนึ่งในนั้นคือ แย้งว่า กกต.ไม่ปฏิบัติตามระเบียบตัวเอง คือ ต้องให้ผู้ถูกร้องมีโอกาสรับทราบข้อเท็จจริง และมีโอกาสโต้แย้งแสดงหลักฐาน
...
ก่อนจะชงเรื่อง “มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า” เพื่อเสนอ “ยุบพรรค”
สรุปคือจะฟันจะเชือด แต่มือยังกุมดาบไม่แน่น
คิวนี้ก้าวไกลเป่าปากหายใจหายคอได้บ้าง แม้ยังไม่พ้นแดนประหาร พื้นที่ปลอดภัยค่ายส้มหายาก
ต่างจากอีกสองคิวใหญ่ คดีถอดนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ออกจากเก้าอี้ผู้นำ ในคำร้องข้อกล่าวหาการแต่งตั้งรัฐมนตรีที่ขาดคุณสมบัติ ส่อขัดรัฐธรรมนูญ นอกจากยังมีช่องทางต่อสู้ คีย์แมนเพื่อไทยยังประเมิน
“เศรษฐา” มีโอกาสสูงได้ “ไปต่อ”
ในสถานการณ์ เมื่อเช็กแผง “ว่าที่ผู้นำ” ในระบบแล้ว ยังหาที่ตรงสเปกผู้กุมอำนาจตัวจริงได้ยาก
เพราะหากเข้าโหมดเกิดเหตุ “พลิกหงาย” พ้นเก้าอี้จริง ครม.ไปทั้งคณะ ทีมบริหารจัดการประเทศต้องเคลียร์ขั้ววางดุลอำนาจรัฐบาลกันใหม่ หันไปตัวเลือกในค่ายเพื่อไทยก็ยังไม่พร้อม
“อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ยังรอเก็บประสบการณ์สั่งสมเขี้ยวงา อีกราย “ชัยเกษม นิติสิริ” ก็ว่ามีปัญหาสุขภาพ ปั่นงานไม่เต็มที่
จะพลิกไปลุงบ้านป่าฯ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เริ่มมีกำลังวังชา จากคิวอัดฉีดน้ำใจ สั่งสมไพร่พลไว้ก็มาก แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับจากภายนอก และสัญญาณต้นทางขั้วอำนาจเก่า
เช่นเดียวกับภูมิใจไทย “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รู้จังหวะเวลาดี ช่วงไหนควรหมอบ-ต้องผงาด เมื่อวันนี้สถานการณ์ไม่สู้ดีบ่งบอก ให้ค่ายสีน้ำเงินซุ่มซ่อน
ขณะที่ “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค แบ็กอัปวีไอพีดีกรีปึ้กก็จริง แต่อีกทางสปอนเซอร์ใหญ่เสียงดัง แตกยับกันไปแล้ว หากจะมีลุ้นก็น้อย
ฉะนั้นวันนี้ “เศรษฐา” มีโอกาสได้ถือตั๋วใบเดิม เล่นบทผู้นำต่อ
แล้วนั่นก็ไม่น่าจะมีปัญหากับร่าง พ.ร.บ.งบฯ 2568 พลังน้ำเลี้ยงขับเคลื่อนเครื่องมือบริหารประเทศที่ต้องไม่ขาดช่วง และไม่มีนักการเมืองไม่ว่าฝ่ายใดอยากให้เทสำรับคว่ำจาน
รวมทั้งคิวพิจารณากฎหมายการได้มาซึ่ง สว.ไม่น่าจะขัดรัฐธรรมนูญ ทำสะเทือนกระบวนการเลือก สว.แบบเทกระจาดกันยกแผง ล้อไปตามสถานการณ์ กรณีไม่เปลี่ยนตัวผู้นำ ก็ไม่น่าจะมี “เกมล้มโต๊ะ” สว.ใหม่
ไม่จำเป็นต้องยื้อ สว.ชุดเก่าให้อยู่ค้างท่อเพื่อ “ภารกิจพิเศษ”อีก
ในกรณีผู้กดปุ่มพอถูไถกับภาพรวม “ดุลสภาสูง” ชุดใหม่
ทุกคิวร้อนดูเหมือนจะไม่น่าห่วง จะมีก็แต่ปมร้อนคดี 112 ของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ต้องเช็กกันจนนาทีสุดท้าย กรณีไปรายงานตัวต่ออัยการสูงสุด ส่งสั่งฟ้องศาล 18 มิ.ย.แล้ว
วันนี้ยังไม่ชัวร์ในสัญญาณบ้านเมือง ออกได้หลายหน้า โดยทางดีที่สุดต้องลุ้นอัยการสูงสุดรับคำร้องที่ “ทักษิณ” ขอความเป็นธรรม ลากยื้อคดีต่อไปได้อีก
หรือถ้าอัยการฯยืนยันส่งฟ้อง ก็ต้องลุ้นขอประกันตัว
และในทางร้ายสุด ถ้าถึงขั้นถูกสั่งจำคุกจริง ก็ต้องดีลเงื่อนไขพิเศษ ขอคุมตัวนอกเรือนจำ โรงพยาบาล-ที่บ้าน
นอกจากนี้ เอาแค่ที่มโนภาพกันสนุก หากวันที่ต้องไปรายงานตัว และตามคิวต้องส่งตัวไปศาล “ทักษิณ” จะขึ้นรถส่งตัวที่ทางการจัดไว้ให้หรือไม่
เพราะบางทีเรื่องที่ดูเล็กน้อย แต่คำว่าศักดิ์ศรีสำหรับคนชื่อ “ทักษิณ” ยึดมั่นถือมั่นสูง
รู้กันดี อดีตผู้นำหวงแหน “ความเท่” ซะยิ่งกว่าใคร.
ทีมข่าวการเมือง