เด็กมันร้าย อารมณ์ลิงหลอกเจ้าเอาล่อเอาเถิดกับคนแก่
ไฮไลต์มันๆบรรยากาศคึกคัก ลีลาจัดจ้านของงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ CU-TU Unity Football match 2024 ที่กลับมาจัดเป็นครั้งแรกภายหลังหยุดไป 4 ปีจากวิกฤตการณ์โควิด
เข้มขลังไม่แพ้งานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ แถมยังแจ่มแจ้งชัดเจนกว่าในการแสดงออกด้วยอุดมการณ์เสรี เจตนาที่บริสุทธิ์ เด็ก “นิสิต-นักศึกษา” ทำได้ดีมากๆ โดยปลอดจากผู้ใหญ่แฝงตัวมาโหน ฉวยผลประโยชน์โยงเกมอำนาจการเมือง
ไม่มีเรื่องล็อบบี้ ใช้อิทธิพลข่มขู่ เบรกกระเทือนผู้มีอำนาจ
ที่สำคัญ เด็กมันเข้าใจเล่น รู้จักเล่น เล่นเป็น เล่นสนุก แบบที่ใช้รูปผ้าคาดตา ไม่ให้รู้เลยว่า เป็น “หนุ่มทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ติดกับว่าววิ่งชักสายป่าน
ล้ออำ “นายกฯว่าว” ขวัญใจ “ด้อมส้ม” โดนจับฟาวล์ไปไม่ถึงดวงดาว
แม้แต่ “พ่อด้อมส้ม” ยังไม่รอด ไม่มีการละเว้น เปิดช่องให้ขบวนการ “ไอโอฝ่ายอนุรักษ์นิยม” ได้ทำงานทำการ ฉวยจังหวะขยี้ซ้ำ ขยายปมในโซเชียลฯ กระตุกต่อมสะใจของลุงๆป้าๆผู้นิยม “สลิ่ม-น้ำแดง”
แสดงให้เห็นว่า นิสิต นักศึกษา ไม่เลือกข้าง ไม่ลำเอียงขั้วหนึ่งขั้วใด
และเมื่อทุกอย่างว่ากันตามเนื้อผ้า นั่นก็ทำให้คนแก่ด่า “เด็กสามกีบ” เต็มปากเต็มคำไม่ได้ ในการจัดหนักขบวนล้อการเมือง “หุ่นตัวสูงๆหน้าเหลี่ยมๆ” บนกระดานหมากรุก “เบี้ยเสดถา” พร้อมป้ายข้อความตามหลัก
“มือจับเปลี่ยนหัววางตัวหมากเบี้ย-ตัวเก่าเสียถึงคราววางหมากใหม่”
เด็กอนุบาลยังตอบถูก บอกได้หมายถึงใคร
...
สื่อถึงหมากปกป้องขุนบนกระดาน การหักหน้าย้ายขั้วของพรรคเพื่อไทยหันไปปกป้องระบอบอภิสิทธิ์ชนแบบเต็มรูปแบบ ตั้งคำถามถึงพรรคเพื่อไทยการถือครองอำนาจ ณ ขณะนี้ ทำไปเพื่อใครกันแน่
แหย่ “ใจดำ” พวกแห่โหนประชาธิปไตยเพื่อ “เถ้าแก่ใหญ่”
และที่หนักแน่นในอุดมการณ์ สะท้อนผ่านป้ายผ้าเป็นกลอนแรงๆ “ล้อหมุนส่งขังชนคนชังชาติ ประกาศใช้กฎหมายล่าล้างผลาญ เมืองหยุดนิ่งหยุดทุกสิ่งโดยมวลสาร ไทยสราญ ใต้ศักดาอมาตยาธิปไตย”
เรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังจากคดีมาตรา 112
หรือกลอนยาวขำๆแต่เจ็บลึก “เกือบหนึ่งปีกี่ผลงานท่านว่าเด่น ยังไม่เห็นคืบหน้าน่าสงสัย หนีบกระเป๋าเป็นเซลส์แมนในแดนไกล ขายผ้าไทยหรือขายหน้าลองคิดดู ปั่นสองล้อกลางเมืองทะเลหมอก แล้วก็บอกเงินหมื่นรอหน่อยสู พอนายพี่พ้นคุกนึกคำครู ว่ากฎหมายใช่กฎหมู่หรือกฎ (กด) ใคร”
ปล่อยเบรกกันยาวๆแบบไม่ “เซ็นเซอร์” ล็อบบี้ไม่ได้
ในมุมของประชาชนคนดูส่วนใหญ่รวมไปถึงในสายตานานาชาติ น่าอึ้ง อมยิ้มกับความคิดที่ล้ำลึก สายตากว้างไกลของเยาวชนคนรุ่นใหม่ของไทย
เป็นความหวังของประเทศบนเส้นทางยาวๆในอนาคต
ตรงกันข้ามกับฝ่ายคุมเกมอำนาจ ที่น่าจะซีเรียสกับพัฒนาการเด็กรุ่นใหม่ไวตามธรรมชาติยุคดิจิทัล อ่านทะลุฉากฝืนธรรมชาติดีลอำนาจอนุรักษ์นิยม
ไม่ได้ว่านอนสอนง่าย เป็นกบเชื่องอยู่ในกะลาครอบ
โดยปรากฏการณ์มันคือคำตอบ โจทย์สถานการณ์ “ดีลอำนาจลังกาวี” ไม่ได้ทำให้อุดมการณ์คนรุ่นใหม่ “เป๋” ไปกับตำราเกมอำนาจการเมืองสูตรโบราณ
“งานหยาบ” เกมสับขาหลอก ใช้ “แดงกลบส้ม” ตื้นเขินเกินไป
เด็กไม่เอาด้วยกับประชานิยม ลดแลกแจกแถม กลบแผลบาดลึกจากการแบ่งขั้ว ปั้นความขัดแย้งแย่งชิงอำนาจ เผาบ้าน เผาเมือง เซ่นด้วยเลือดเนื้อ ชีวิตมวลชนตาดำๆ บทจบแบบดื้อๆ จูบปากคืนดีง่ายๆ
พอแชร์เค้กกันลงตัวก็ฮั้ว กอดคอเจ๊ากันไป
ภาพฟุตบอลสานสัมพันธ์ “จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์” กรองอุดมการณ์เด็กรุ่นใหม่แบบเพียวๆ ตอกย้ำโจทย์โคตรยาก “ดีลลังกาวี” ปล่อย “เถ้าแก่ใหญ่” ขี่ไฟต์บังคับของระบอบอภิสิทธิ์ชน ดิ้นสู้ตายเกมบุกของกองทัพส้มไม่มีผลใดๆ
“ทหารเฒ่าทันสมัย-อนุรักษ์นิยมใหม่-เจนฯใหม่ บ้านใหญ่” ที่ขยับตามเทรนด์กันยกใหญ่
ก็แค่เล่นซ่อนหาใน “เมตาเวิร์ส” จักรวาลนฤมิตตบตาเด็กไม่ได้.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
คลิกอ่านคอลัมน์ "วิเคราะห์การเมือง" เพิ่มเติม