เมื่อมีแรงดันก็ต้องเกิดแรงต้านเป็นของคู่กันนโยบายแจกเงินดิจิทัล หนึ่งหมื่นบาทให้ประชาชน อายุ 16 ปีขึ้นไป จำนวน 50 ล้านคน เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อระยะสั้นของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ย่อมเจอแรงต้านเป็นธรรมดา

ยิ่งออกตัวแรงก็ยิ่งเจอแรงต้านทวีคูณ!!

ยิ่งประชาชนทั่วประเทศตั้งตารอเงินแจกฟรีจากรัฐบาล แรงต้านก็หนุนเนื่องเหมือนลูกคลื่นในอ่าวมะตะบัน

ล่าสุดที่เปิดตัวออกมาต่อต้านสุดลิ่มทิ่มประตูคือ “ป.ป.ช.” ในฐานะองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ

มีมือดีเผยแพร่เอกสารด่วนจาก ป.ป.ช.มีใจความสรุปว่า หากรัฐบาลยังเดินหน้านโยบายแจกเงินดิจิทัลต่อไป

อาจสุ่มเสี่ยงจะเข้าข่ายความผิดถึง 4 กระทง!!

1.เสี่ยงความผิดจากการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการแจกเงินดิจิทัลแตกต่างจากที่แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา

เพราะตอนแรกรัฐบาลแถลงว่าไม่ต้องกู้เงิน

2.เสี่ยงต่อความผิดการทุจริตเชิงนโยบาย

เพราะเงื่อนไขการแจกเงินอาจเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนใหญ่บางราย

3.เสี่ยงต่อความผิด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง

เพราะต้องกู้เงินกว่า 5 แสนล้านบาท เพิ่มหนี้สาธารณะสูงเกินควร

4.เสี่ยงต่อความผิดรัฐธรรมนูญเนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ถึงขั้นวิกฤติร้ายแรงจนจำเป็นต้องกู้เงินมาแจกประชาชน

โอ้แม่เจ้า...เล่นแรงเต็มเกียร์เชียวนะ ป.ป.ช.

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าเมื่อ “ป.ป.ช.” โผล่ออกมาต่อต้านนโยบายแจกเงินดิจิทัลอย่างตรงไปตรงมา

การประชุมคณะกรรมการนโยบายแจกเงินดิจิทัลจึงต้องเลื่อนไปก่อนชั่วคราว

รอให้ นายกฯเศรษฐา ทวีสิน บินกลับจากประชุมเวิลด์ อีโคโนมิคฟอรัม เพื่อปรับระดับแรงดันไม่ให้พลุ่งพล่านเกินควร

เพื่อป้องกันประวัติศาสตร์ซ้ำรอยโครงการจำนำข้าวยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่โดน ป.ป.ช.จัดหนักแบบเดียวกัน

...

“แม่ลูกจันทร์” มองว่าถ้ารัฐบาลเศรษฐายังมุทะลุเดินหน้านโยบายแจกเงินดิจิทัลโดยไม่ฟังเสียงขู่ฝ่อๆจาก ป.ป.ช.

จะต้องเจอด่านสุดท้าย...คือศาลรัฐธรรมนูญ!!

ดังนั้น แนวทางที่เซฟที่สุดที่รัฐบาลควรตัดสินใจ...

คือลดขนาดโครงการให้เล็กลง 50 เปอร์เซ็นต์

ซึ่งสามารถทำได้ 2 แนวทางดังนี้คือ...

1.ปรับเงื่อนไขไม่แจกกระจายทั่วหน้าให้ประชาชน 50 ล้านคน โดยแจกเฉพาะผู้มีรายได้น้อยจำนวน 20 ล้านคน

ลดวงเงินกู้จาก 5 แสนล้านบาท เหลือ 2 แสนล้านบาทเท่านั้นเอง

2.แจกทั่วหน้าให้ประชาชน 50 ล้านคนเท่าเดิม แต่ลดเงินดิจิทัลจากหนึ่งหมื่นบาทเหลือห้าพันบาทต่อคน

ลดวงเงินกู้จาก 5 แสนล้านบาท เหลือ 2.5 แสนล้านบาทก็ยังดี

การยอมลดขนาดโครงการลง 50 เปอร์เซ็นต์ ยังดีกว่าไปติดซอยตันที่ศาลรัฐธรรมนูญ

รัฐบาลก็อยู่รอดปลอดภัย ไม่เสี่ยงติดเงี่ยงปลาชะโด ป.ป.ช.

“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่ากว่าจะได้เป็นรัฐบาลก็แสนยากเย็น

เมื่อได้เป็นรัฐบาลแล้วควรประคองตัวต่อไปให้ครบเทอม

ปัดโธ่เอ๊ยย เพิ่งตั้งไข่ได้แค่ 4 เดือน

จะเก็บฉากกลับบ้านซะแล้วเรอะโยม??

“แม่ลูกจันทร์”

คลิกอ่านคอลัมน์ "สำนักข่าวหัวเขียว" เพิ่มเติม