เนื้อหา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วงเงินงบประมาณ 3.48 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 295,000 ล้านบาท เป็นรายจ่ายประจำที่ 2,532,826 ล้านบาท รายจ่ายชดใช้เงินคงคลัง 118,361 ล้านบาท งบลงทุนที่ 717,722 ล้านบาท และรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ งบกลางกำหนดไว้ที่ 606,765 ล้าน

คาดการณ์ว่า จะจัดเก็บรายได้ในปี 2567 จำนวน 3,337,400 ล้าน หักเงินชดเชยภาษีออกแล้วจะเหลือ 2,787,000 ล้าน ดังนั้นรายจ่ายจะสูงกว่ารายได้ 693,000 ล้าน เป็นการขาดดุลงบประมาณที่รัฐบาลจะต้องกู้มาใช้จ่าย กระทรวงมหาดไทย ได้งบไปมากที่สุด 353,127 ล้าน ตามด้วย กระทรวงศึกษาฯ 328,384 ล้าน คลัง 327,155 ล้าน กลาโหม 198,320 ล้าน และ คมนาคม 183,635 ล้าน กระทรวงพลังงาน ได้งบน้อยที่สุด 2,834 ล้าน

รายละเอียดประชาชนไปดูได้ใน เพจก้าวไกล และ เพจไทยคู่ฟ้า ที่ให้ประชาชนสามารถดาวน์โหลดไฟล์ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2567 ฉบับประชาชน ที่ว่า อ่านง่าย เข้าใจง่ายด้วยกันทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน แต่ดูอย่างไรก็เหมือนเป็นงบประมาณคนละฉบับ

โดยรัฐบาลจำแนกเป็นงบประมาณตามยุทธศาสตร์ 6 ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 951,786 ล้าน (ร้อยละ 27.35) ปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ 734,942 ล้าน (ร้อยละ 21.12) สร้างความสามารถในการแข่งขัน 592,249 ล้าน (ร้อยละ 17.02) การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 561,954 ล้าน (ร้อยละ 16.15) ความมั่นคง 391,783 ล้าน (ร้อยละ 11.26) การสร้างการเติบโตคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 247,329 ล้าน (ร้อยละ 7.10)

การอธิบายของเจ้ากระทรวงที่ได้รับงบประมาณมากงบประมาณน้อย ฟังดูขัดหูก็ กระทรวงมหาดไทย ของ รมว. อนุทิน ชาญวีรกูล ที่อ้างว่า งบประมาณของมหาดไทย ได้มากที่สุดก็จริง แต่ร้อยละ 95 เป็นงบของประชาชนที่เอาไปใช้จ่ายให้กับประชาชน ฟังดูเป็นบุญคุณอย่างไรพิกล ซึ่งในตามความเป็นจริงงบที่กระจายไปยังโครงการต่างๆ ในแต่ละจังหวัด ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเบี้ยหัวแตก เป็นงบไร้สาระ ขุดคลอง ถมคลอง พัฒนาถนนในชุมชน หมู่บ้าน สร้างงานส่งเสริมความเข้มแข็งของประชาชน สารพัดจะนึกโครงการได้ โดยไม่หวังเห็นผลที่จะตกกับชาวบ้าน

...

ปรากฏว่า งบประมาณส่วนหนึ่งไปอยู่กับผู้รับเหมา ที่ส่วนใหญ่เป็นคนมีอิทธิพลหรือข้าราชการในท้องถิ่น บางพื้นที่นักการเมืองระดับชาติก็มีเอี่ยวด้วย อีกส่วนหนึ่งเป็นของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง และอีกส่วนหนึ่งเป็นของคนระดับบิ๊กที่ไปตั้งโต๊ะเก็บค่าหัวคิวในจังหวัดต่างๆ ถนนถึงได้พัง หน้าแล้งถึงไม่มีน้ำใช้ หน้าฝนถึงน้ำท่วม ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นนักการเมืองระดับท้องถิ่นถึงได้เติบโต เป็นนักการเมืองระดับชาติ และเข้ามาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเสียเอง ส่วนประชาชนยังโง่ จนเจ็บตลอดกาล

นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ชี้แจงว่า วงเงินงบประมาณ 3.48 ล้าน หรือ 18.3% ของจีดีพี เพิ่มขึ้นมา 295,000 ล้านจากปีที่แล้ว เป็นงบประมาณขาดดุล ที่รัฐคาดจะเก็บภาษีเพิ่มได้ร้อยละ 11 รายได้สุทธิของรัฐบาลอยู่ที่ 2,787,000 ล้านหรือ 14.7% ของจีดีพี คาดดุลงบอยู่ร้อยละ 3.6 ของจีดีพี ซึ่งยังไม่รวมงบประมาณที่ต้องกู้เงินมาดำเนินโครงการสำคัญของรัฐ เช่นดิจิทัลวอลเล็ต แก้หนี้ทั้งระบบ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ จะตั้งฉายารัฐบาลอย่างไร จะใส่ถุงเท้าสีอะไรกู้

ไม่สำคัญเท่ากับหนี้สาธารณะที่ประชากรต้องแบกรับกันอ่วมอรทัย.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ "คาบลูกคาบดอก" เพิ่มเติม