ขบวนการปั่นข่าวเขย่าให้พรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยระแวงกันเองไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่หวังกัน
เพราะถ้าพรรคเพื่อไทยกล้าหักหลังพรรคก้าวไกล...
พรรคเพื่อไทยก็ฆ่าตัวตายทางการเมือง!!
ประชาชน 10 ล้านคนที่เทคะแนนเลือกพรรคเพื่อไทยให้เป็นรัฐบาลเพื่อยุติการสืบทอดอำนาจลุง 3 ป. จะสิ้นศรัทธาพรรคเพื่อไทยอย่างสิ้นเชิง
และประชาชน 14 ล้านคนที่เทคะแนนเสียงให้พรรคก้าวไกล ก็จะสาปแช่งพรรคเพื่อไทยจนไม่มี ที่นั่งที่ยืน
ด้วยเหตุนี้ พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลจึงต้องเดินฝ่าดงหนามกระบองเพชรไปด้วยกันจนสุดทาง!!
“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่า พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลต้องได้เป็นรัฐบาล
แม้จะติดด่าน ส.ว.ลากตั้ง 250 คน ที่ยังตีหน้ามึนจะไม่ยอมโหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หน.พรรคก้าวไกล ขึ้นเป็นนายกฯเปิดซิง
แต่ถ้ารัฐบาลผสม 8 พรรค 313 ส.ส. ยังแพ็กกันแน่นปึ้กไม่เปลี่ยนแปลง
ในที่สุด ส.ว.ลากตั้งต้องพ่ายแพ้ต่อความชอบธรรมทางการเมือง!!
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า เมื่อ 2 พรรคใหญ่ยังไม่แตกกันเอง จะไม่มีพรรคอื่นใดรวบรวม ส.ส.ในสภาฯ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากอย่างแน่นอน!!
ทีนี้ก็เหลือแผนสุดท้ายคือ กำจัดนายพิธาไม่ให้เป็นนายกรัฐมนตรี
โดยจะยืมมือ กกต.ยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญเช็กบิลนายพิธา กรณีเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทไอทีวีเข้าข่ายขาดคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี
“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่า ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามหลักเหตุผลและหลักความเป็นจริง
นายพิธาจะไม่ขาดคุณสมบัติ นายกฯ 99.99%
เพราะบริษัทไอทีวียุติการออกอากาศไปแล้วกว่า 10 ปี
ดังนั้น บริษัทไอทีวีจึงไม่มีสภาพเป็น “สื่อ” ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
...
แต่...แต่ถ้าเกิดฟ้าผ่ากลางวัน “นายพิธา” ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้มีลักษณะต้องห้ามดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี??
พรรคก้าวไกลก็ต้องเสนอชื่อ “ว่าที่นายกฯคนใหม่” แทน นายพิธา
แต่ปัญหาคือพรรคก้าวไกลเสนอชื่อ “นายพิธา” เป็นแคนดิเดต นายกฯเพียงคนเดียว
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ถึงคิวพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีแคนดิเดตนายกฯถึง 3 คน จะรับส้มหล่นได้เป็นนายกฯคนใหม่แทนโควตาพรรคก้าวไกล
ส้มลูกใหญ่อาจหล่นใส่พรรคเพื่อไทยโดยไม่ต้องสอยส้มกินเอง??
หวานเจี๊ยบซะด้วยซีโยม.
“แม่ลูกจันทร์”