“ประวิตร” โบ้ยหนีเวทีดีเบต บอกไม่ใช่นักโต้วาที ไม่ถือว่าเสียรังวัด ชู 2 นิ้ว อวดสื่อ หลังพาลูกทีมสมัคร ส.ส.กทม.ลั่นถ้ากลัวไม่มายืนอยู่ตรงนี้ ย้ำอีกความสัมพันธ์กับ “น้องตู่” ยังดีอยู่ “ประยุทธ์” อ้อมแอ้มขึ้นประชันวิชัน ขอดูก่อน กับพี่ใหญ่แยกพรรคกันอยู่ สู้กันแบบการเมือง แต่ไม่เคยมองเป็นคู่แข่ง อุบไต๋จับมือ “ลุงป้อม” หลังเลือกตั้ง “จุรินทร์” ฮึด ปชป.ร่วมวงรวมเสียงสู้เป็น แกนนำตั้งรัฐบาล “ตั๊น” ฟื้นตัวยันไปร่วมขบวนสมัคร ปาร์ตี้ลิสต์ โชว์สปิริตพร้อมช่วยพรรคตะลุยหาเสียงทั่วประเทศ “อิ๊ง” แจงจุดยืนตั้งใจมาเป็นฝ่ายบริหาร ไม่ลงบัญชีรายชื่อแยกงานฝ่ายนิติบัญญัติ “พิธา” บ่นเสียดายอดฟังวิสัยทัศน์ “ลุงป้อม” ชาวบ้านอดถาม ข้อข้องใจ ปัดงัดข้อ “อ.ป๊อก” จัดอันดับปาร์ตี้ลิสต์ ก.ก.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปฏิเสธไม่ขอร่วมเวทีดีเบตในการรณรงค์หาเสียงการเลือกตั้ง โดยระบุไม่ใช่แนวทางที่ถนัด ล่าสุด พล.อ.ประวิตร ตอกย้ำจุดยืนโดยระบุว่าไม่ใช่นักโต้วาทีและไม่ถือว่าเป็นการเสียรังวัดทางการเมือง ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะแคนดิเดตนายกฯของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยังแบ่งรับแบ่งสู้ ขอคิดดูก่อน

...
“ป้อม” โบ้ยไม่ใช่นักโต้วาที ไม่เสียรังวัด
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 3 เม.ย.ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง กทม. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งเป้าส่งผู้สมัคร 400 เขต จะได้เป็นอันดับหนึ่งหรือไม่ว่า ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะได้เท่าไหร่ แล้วแต่ประชาชนพอใจ จะเลือกใครก็โอเค ที่ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อเป็นลำดับหนึ่งไม่ใช่ต้องการความสง่างาม แต่ลูกพรรคว่าอย่างไรก็ว่าตามนั้น เมื่อถามกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและแคนดิเดตนายกฯของพรรค รทสช. ระบุขอคิดเรื่องดีเบตก่อน คิดอย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่ได้คิดเลย เมื่อถามว่า หากไม่ขึ้นเวทีดีเบตเสียรังวัดหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่เสีย เพราะไม่ใช่นักโต้วาที เมื่อถามว่าจะเปลี่ยนใจหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า “เรื่องของผม”
กำชับแล้วไม่ให้มีความรุนแรง
เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่กรณีที่กลุ่มเยาวชนอิสระที่เคลื่อนไหวถามจุดยืนพรรคการเมือง เรื่องการแก้กฎหมายอาญา มาตรา 112 พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า เราไม่ให้มีความรุนแรงอยู่แล้ว ได้สั่งทางพรรคไปแล้ว เมื่อถามอยากฝากไปถึงกลุ่มเยาวชนที่คิดต่างอย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า การเมืองคิดนั้นคิดต่าง แต่คนไทยต้องรักกัน สามัคคีกัน มีความปรองดองกัน ถือเป็นเรื่อง เราไม่ได้โกรธกัน แค่ความคิดต่าง ใครจะคิดอย่างไรก็คิดได้ เมื่อถามว่า อย่างนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้งหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าถูกต้อง
ชู 2 นิ้วลั่นถ้ากลัวไม่มายืนตรงนี้
พล.อ.ประวิตรกล่าวภายหลังเดินทางมาให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขตว่า ไม่กังวลใจพรรคไหนที่มีฐานเสียงเดิมเยอะ เชื่อมั่นในลูกพรรค ถ้าตนกลัวคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้ ส่วนการพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ ระหว่างให้กำลังใจผู้สมัครนั้นไม่มีอะไรมาก ให้ไปสอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ แต่ได้มี การพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์มาโดยตลอด และความ สัมพันธ์กับ พล.อ.ประยุทธ์ ยังดีอยู่ เมื่อถามว่าจะสู้ตายหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่ตาย พร้อมชู 2 นิ้ว

“บิ๊กตู่” อุบไต๋จับมือ “ลุงป้อม” หลังเลือกตั้ง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสนามเลือกตั้ง กทม.ว่าความมั่นใจคือการทำให้บ้านเมืองเรียบร้อยก่อน เมื่อถามว่าแสดงว่าตอนนี้มั่นใจในสนาม กทม.ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าส่วนจะได้กี่ที่นั่งยังไม่รู้ก็แล้วแต่เลือกมา แต่ตอนนี้ฝากทุกคนรวมพลังชาติเป็นหนึ่งอันเดียวกันให้ได้ ไม่ใช่เฉพาะการเลือกตั้ง ไม่ใช่ต้องจะเลือกตน ทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ภายในวันเดียวหรือพลิกฝ่ามือ ตนยืนยันตรงนี้ ตนอยู่มาหลายปี ตนรู้ว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ และที่สำคัญอยู่และได้ทำต่อ เพราะเราทำเป็นไง ทำเป็นแล้ว ทำได้มาขนาดนี้แล้ว ถ้าทำไม่ได้ ทำไม่เป็นเข้ามาก็ทำไม่ได้เลย
ไม่เคยมอง “พี่ป้อม” เป็นคู่แข่ง
เมื่อถามว่าตอนที่นั่งติดกับ พล.อ.ประวิตร พูดคุยอะไรกันบ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าก็พูดคุยกันไป สนุกสนานกันไป แหย่กันไปแหย่กันมา ไม่เห็นแข่งอะไรกับใครเลย ท่านก็ทำของท่าน ตนก็ทำของตน เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรโพสต์ตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯต้องลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ถึงจะสง่างาม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าใครจะว่าอะไรก็ว่าไป ตนมองเรื่องการให้โอกาสคนอื่นเขาขึ้นมาเป็นบ้าง เลยให้นายพีระพันธุ์เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับ 1 เพราะมีผลกับการอยู่ 2 ปีของตน และการที่ตนไม่อยู่พรรค พปชร. ไม่ใช่เขาไม่ดี เขาทำไม่ดีนะ แต่หลายอย่างมันไม่ตรงกัน เลยมาอยู่กับนายพีระพันธุ์เพราะมีเจตนาที่ตรงกันว่าเราจะเดินหน้าประเทศไทย
แยกพรรคอยู่เราสู้กันแบบการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างๆถึงการร่วมเวทีดีเบตว่า ขอดูก่อน พร้อมชูสองนิ้วเป็นสัญลักษณ์สู้ศึกเลือกตั้ง สำหรับความสัมพันธ์กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. แคนดิเดตนายกฯท่านก็อยู่พรรคอื่น เราสู้กันแบบการเมือง ต่างคนต่างดำเนินการทางการเมือง วันนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ส่วนหลังเลือกตั้งจะจับมือกันหรือไม่ ไม่ขอตอบตรงนี้ และไม่ต้องกังวลว่าจะหยุดแค่ 2 ปี เพราะพรรค รทสช.มีแคนดิเดตนายกฯเบอร์ 2 ด้วย ถ้าได้ไปต่อ ทำไป 2 ปี หมดเวลาของตนก็มีเบอร์ 2 คือพีระพันธุ์ ก็ทำต่อ ทั้งนี้ ตนดีใจได้เจอหลายพรรค หลายคนคุ้นเคย เมื่อถามว่าอยากได้ ส.ส. เท่าไหร่ ตอบว่า อยากได้มากที่สุด ตนไม่ได้มาทำแต่การเมือง ทำการบ้านด้วย ไม่ต้องห่วงสุขภาพ แข็งแรงดี
คุยกับพี่ใหญ่ทั่วไป ไถ่ถามสุขภาพ
ช่วงเย็น ที่พรรค รทสช. พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ได้นั่งติดกับ พล.อ.ประวิตรระหว่างให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.กทม.มีการกระซิบอะไรกันหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่มี คุยกันเรื่องทั่วๆไป เรื่องสุขภาพ ต้องนั่งอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว ไม่มีเรื่องอื่น จะไปพูดว่าเอ๊ะ เราตกลงจะอยู่ร่วมกันไหม ตนไม่พูด เพราะตอนนี้ตนอยู่รวมไทยสร้างชาติ” เมื่อถามว่าร้องเพลงหาเสียงลุงตู่อยู่ไหนของตัวเองได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์จึงร้องเพลงอย่างอารมณ์ดีทันทีว่า “ลุงตู่ๆอยู่ไหน อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลรวมไทยสร้างชาติ เลือกลุงตู่ๆมือสะอาด เลือกรวมไทยสร้างชาติ ได้ลุงตู่ๆ” พร้อมกล่าวว่า “อารมณ์ดีเหมือนกันนี่หว่าฉัน” ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับบ้านพัก

“อู๊ดด้า” ลุ้น ปชป.รวมเสียงตั้ง รบ.
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ว่า มั่นใจจะได้ส.ส. กทม.เพิ่มแน่นอน และจะได้ ส.ส.เพิ่มอีกหลายจังหวัด เพราะทำการบ้านดูแลแก้ไขปัญหารับฟังชาวบ้านมาตลอด 4 ปี มั่นใจเสียงตอบรับจากประชาชนดีขึ้นเป็นลำดับ ครั้งที่แล้วใช้บัตรใบเดียวแข่งขันของ 2 ขั้วรุนแรง แต่วันนี้ไม่ใช่แข่งขันแค่ 2 ขั้วเอาเป็นเอาตาย หลายพรรคแข่งขันไปตามระบบรัฐสภา เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา หากรวมเสียงแล้วพรรคใดหรือขั้วใด รวมเสียง ส.ส.ได้มากที่สุดจะได้เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายได้เสียง ส.ส.น้อยเป็นฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลต่อไป พรรค ปชป.จะมีโอกาสถ้าได้ ส.ส.มากกว่าพรรคอื่นหรือรวบรวมเสียง ส.ส.จากพรรคต่างๆได้จำนวนมาก เราจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ คุณสมบัติเป็นนายกฯของพรรคไม่เป็นสองรองใคร ไม่แพ้ใครเช่นกัน
ฟุ้งขาขึ้นนับนิ้วทุกวันได้ ส.ส.เพิ่ม
เมื่อถามอีกว่าคาดหวังผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 400 เขตเลือกตั้งมากน้อยอย่างไร นายจุรินทร์กล่าวว่า มั่นใจว่าจะได้ ส.ส.เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมพอสมควร เราประเมินนับนิ้วกันทุกวัน ทั้งตน เลขาธิการพรรคและผู้บริหารพรรคต่างมั่นใจว่าขณะนี้พรรค ปชป.กำลังเดินสู่ขาขึ้น จะได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนมากขึ้นด้วย เมื่อถามย้ำว่าคาดการณ์ไว้หรือไม่ว่าจะได้ ส.ส.เพิ่มมากกว่าเดิมหรือไม่เท่าไหร่ นายจุรินทร์กล่าวว่าไม่อยากตอบ ขึ้นอยู่กับมือของประชาชน เจ้าของอำนาจที่จะเป็นผู้เลือก
“องอาจ” โวพร้อมเป็น รบ.ทำงานทันที
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคปชป. กล่าวว่า เรามุ่งมั่นตั้งใจทำให้เต็มที่ให้ดีกว่า 4 ปีที่ผ่านมาถือเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลง กทม. ครั้งนี้ ปชป.มีนโยบายพร้อมทำงานได้ทันที หากมีโอกาสเป็นรัฐบาลและมีแคนดิเดตนายกฯพร้อมเป็นนายกฯได้ทันที หากมีเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ด้าน น.ส.วทันยา เปิดเผยถึงการนำขบวน “รถโชว์ โพลีซี” หรือการปราศรัยหาเสียงย่อยของผู้สมัคร ส.ส.กทม.แต่ละเขตพื้นที่ว่าจะกระจายลงพื้นที่ทำต่อเนื่องทั้ง 33 เขต นำเสนอผู้สมัครและนโยบายพรรค สื่อสารถึงประชาชนในทุกพื้นที่มากที่สุด
“ตั๊น” ยันร่วมขบวนสมัครปาร์ตี้ลิสต์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพรรค ปชป.นัดผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคทั้ง 100 คน ไปพบกันที่ประตูทางเข้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง (กทม.2) เวลา 06.00 น.วันที่ 4 เม.ย. โดยหัวหน้าพรรคและผู้บริหารพรรคบางส่วนจะขึ้นรถแห่ มาถึงแล้วนำผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมดเดินเข้าอาคารไอราวัตพัฒนา สถานที่รับสมัครเลือกตั้ง คณะของพรรค ปชป.เข้าไปในสถานที่รับสมัครเลือกตั้งได้ 5 คน ผู้สมัครที่เหลือรออยู่ด้านนอกห้องรับสมัคร เป็นที่น่าจับตาว่า น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองเลขา ธิการพรรค ปชป. ที่ประสบอุบัติเหตุทำให้กระดูก สันหลังยุบจากการซ้อมกระโดดร่มที่ค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ต้องเข้ารักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ล่าสุด น.ส.จิตภัสร์เปิดเผยว่า แพทย์ให้รอดูอาการ 4 วัน อนุญาตให้มารักษาตัวที่บ้านได้เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ต้องใส่เฝือกอ่อนพยุงหลัง ยืนยันวันที่ 4 เม.ย.จะไปร่วมคณะกับผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคที่ กทม.2 ด้วยตัวเอง หลังรักษาอาการต่อเนื่องราว 2 สัปดาห์รอกระดูกสมานตัว พร้อมช่วยพรรคเดินสายรณรงค์หาเสียงได้ตามทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด

“เสี่ยหนู” ไม่รีบจับขั้วคุยไปประโยชน์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตอบคำถามถึงการจับมือจัดตั้งรัฐบาลก่อนการเลือกตั้งว่า จับไปตอนนี้ไม่มีประโยชน์ ทุกอย่างต้องดูหลังเลือกตั้ง เมื่อถามถึงความพร้อมในการเป็นแคนดิเดตนายกฯ นายอนุทินตอบว่า ถ้าประชาชนเลือกก็พร้อม แต่ขอทำตามกติกา ถ้าเสียงพรรคไหนได้มาที่ 1 ต้องให้ตั้งรัฐบาลก่อน ถ้าตั้งไม่ได้ถึงคิวพรรคลำดับถัดไป เมื่อถามถึงเงื่อนไขการร่วมรัฐบาล นายอนุทินตอบว่า จะร่วมงานกับพรรคที่ทำประโยชน์ให้ชาติบ้านเมือง ไม่นิยมความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา ใครก็ได้ที่ไม่ดึงฟ้าต่ำ เราร่วมได้หมด ทั้งนี้ เรายืนยันเป้าเดิมคือ 120 ที่นั่ง จากการศึกษาวิเคราะห์มีความเป็นไปได้ ไม่ใช่เป้าหมายเพื่อสร้างความฮึกเหิม สุดท้ายออกมาเป็นอย่างไรขึ้นกับพี่น้องประชาชน
“ท็อป” วอน กกต.แก้ไขบัตร ลต.สับสน
นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ว่า พรรค ชทพ.ไม่ประมาท ถึงแม้ว่าเราจะ มีโอกาสทำงานมานาน แต่เวลาเปลี่ยน ความประมาทจะเป็นหนทางสู่ความพ่ายแพ้ ฝากพี่น้องชาวสุพรรณบุรีทั้งกว่า 800,000 คน ให้โอกาสพรรคได้เข้ามารับใช้พี่น้องอีกครั้งหนึ่ง วันที่ 4 เม.ย.จะจับเบอร์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ใครได้เบอร์เดียวกับพรรคโชคดีไป แต่ถ้าได้คนละเบอร์ต้องเร่งทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ขอฝากถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) การออกแบบบัตรเลือกตั้ง ทั้ง 2 ชนิดว่าจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร ขอฝาก กกต.จะออกแบบวิธีใด เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนกับพี่น้องประชาชนในการลงคะแนน
“อุ๊งอิ๊ง” ชี้จุดยืนตั้งใจเป็นฝ่ายบริหาร
วันเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ วันที่ 4 เม.ย. ทั้ง น.ส.แพทองธารและนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อว่า เราตั้งใจและเชื่อว่าเราอยู่ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติที่เขาทำอย่างเชี่ยวชาญกันมา ถ้าได้รับใช้พี่น้องประชาชน ต้องทำอย่างเต็มที่มากๆให้คนที่เชี่ยวชาญตรงนั้นทำกันไป ตนตั้งใจจะอยู่ฝ่ายบริหาร เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทำให้ถูกเปรียบเทียบหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า แต่ละพรรคมีแนวทางตัวเองจะเดินอย่างไร ไม่เหมือนกัน พรรคเรากับเขาคนละพรรคกัน เราเดินหน้าตามที่ตั้งใจไว้เต็มที่ เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธารดูจะเป็นแคนดิเดตเบอร์ 1 ถ้าไม่ได้เป็นจะส่งผลกระทบอะไรกับพรรคหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า แกนหลักคือพรรค พท.ไม่ใช่ตนหรือแคนดิเดตคนอื่นๆ ทุกวันนี้หากดูคะแนนของพรรคนำคะแนนตนอยู่ เชื่อว่าประชาชนดูนโยบายพรรคเป็นจุดแข็งของเรา

“พิธา” เสียดายอดฟังวิชัน “ลุงป้อม”
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ประกาศไม่ขึ้นดีเบต ทุกเวทีว่าน่าเสียดาย ประชาชนจะไม่ได้ฟังวิสัยทัศน์วิธีทำงานการเมือง ไม่ได้ฟังว่าตั้งใจที่จะทำอะไร ประชาชนไม่ได้ฟังการสื่อสารส่วนตัวและไม่มีสิทธิ์ถามต่อ เป็นการสื่อสารฝั่งเดียว ถ้าไปออกดีเบตประชาชนจะสอบถามได้ ถ้าไม่เข้าใจนโยบาย เชื่อว่าเรามีความแตกต่างจากทุกพรรคในกระดานการเมืองไทยตอนนี้ เวลาที่เหลือต้องเคาะทุกประตูเดินทุกถนน แจกใบปลิวให้ทุกคน ไม่ว่าคนเคยเลือกหรือไม่เคยเลือกเรา พร้อมเป็นนายกฯให้ทุกคน ส่วนเรื่องงูเห่าเป็นปัญหาระบบนิเวศที่มาจากรัฐธรรมนูญปี 60 เป็นเรื่องมหภาคที่เราต้องแก้และมีทุกพรรค แต่ครั้งนี้ เอาผู้สมัครเราเข้าเครื่องสแกนเครื่องเอกซเรย์เอง ถ้าเกิดใครมีปัญหาจริงๆเขาถอนตัวไป จึงมั่นใจว่าจะเป็นผู้นำของว่าที่ผู้สมัครที่มีทั้งอุดมการณ์และประสิทธิภาพ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่พี่น้องเชื่อถือไว้ใจได้แน่นอน
ปัดงัดข้อ “ปิยบุตร” จัดปาร์ตี้ลิสต์
นายพิธากล่าวอีกว่า จากนี้จะเน้นหาเสียงเรียบง่ายสะดวกต่อประชาชนจดจำ จะพยายามทำให้การเมืองเป็นเรื่องสนุก มีความหวัง สร้างการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์หาเสียงเน้นพูดถึงนโยบายที่เหมาะกับแต่ละพื้นที่ มั่นใจว่าผู้สมัคร ก.ก.จะไม่มีปัญหาการเป็นที่จดจำ ชื่นชอบ ส่วนที่มีผู้สมัคร ส.ส.หลายคนไม่พอใจลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อาจมีคนไม่พอใจบ้างหรือรู้สึกไม่ดี เชื่อว่าวัฒนธรรมแบบ ก.ก.ทุกคนอาจรู้สึก แต่ไม่มีใครทิ้งพรรคอาจมีเว้นวรรคเล็กน้อย คนอยู่ทั้งในพรรคและนอกพรรค ที่ตั้งข้อสังเกตว่าการที่เราเลือกลำดับปาร์ตี้ลิสต์ แล้วไปเป็นรัฐบาลปาร์ตี้ลิสต์จะขยับขึ้นหากมีบางคนลาออกจาก ส.ส.ไปรับตำแหน่งในรัฐบาล การเลือกตั้งไม่ใช่ครั้งนี้ครั้งเดียว ขอทุกคนอย่าเพิ่งท้อแท้หรือถอดใจสู้ต่อไปกับพรรค กรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าวิจารณ์เรื่องการจัดลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่ออีกครั้ง คงไม่มีปัญหาเสถียรภาพพรรค ส่วนใหญ่ชื่นชมเสียมากกว่า กรณีนายธีรัจชัย พันธุมาศ มาลงสมัคร ส.ส.เขต นายปิยบุตรชื่นชมว่าลงจากปาร์ตี้ลิสต์ได้ 2 รสชาติ หรือนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค ที่ไปอยู่เบื้องหลังเพราะการบริหารพรรค การเป็นพรรคมวลชนได้ หลังบ้านต้องแข็งแรง