พรรคการเมืองแห่สมัคร ส.ส.กทม.คึกคัก พรรคหลักเกาะเทรนด์โลกร้อนจับผู้สมัคร ส.ส.ขึ้นรถอีวี มายื่นใบสมัครศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ปชป.รวมพลตั้งแต่ตีห้า โผล่มาเป็นพรรคแรก “องอาจ” มั่นใจคนกรุงให้โอกาสคัมแบ็ก “อิ๊ง” ตื่นเต้นมานำทีมขุนศึกเอง ไม่ต้องดูผ่านจอทีวี ลุ้น พท.ครอง แชมป์สนาม กทม. “พิธา” หวังใหญ่กวาดหมด 33 เขต เชื่อคนแห่ใช้สิทธิ 80 เปอร์เซ็นต์ ดันกระแสชนะกระสุน “บิ๊กป้อม” ขอ กทม.เท่าเดิม 12 ที่นั่งให้ได้ก่อน “บิ๊กตู่” ออกงานใหญ่นำทัพ รทสช.ก้าวสะดุดบันไดหวิดเสียศูนย์ สื่อโฟกัส 2 ลุงนั่งคุยหนุงหนิงขณะรอลูกทีมจับเบอร์ “อนุทิน” ปักหลักโคราช มุ่งมั่นเจาะทุกเขต “ธนาธร” ไปเชียงใหม่มั่นใจไม่เป็นรองเจ้าถิ่น “โรม” ตั้งเป้าล้มช้างเมืองคอน กกต.ยิ้มพอใจราบรื่นไร้ปัญหา “อิทธิพร” ยืนกรานพิมพ์บัตรเลือกตั้งยึดตามกฎหมาย
กกต.เปิดรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตของ กทม.ในวันแรกเมื่อวันที่ 3 เม.ย. บรรยากาศเป็นไป อย่างคึกคักและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยพรรคการเมืองหลายพรรค พร้อมใจกันแสดงจุดยืนเกาะกระแสรักษ์โลก พาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรค นั่งรถพลังงานไฟฟ้า (รถอีวี) ไปยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง

...
รับสมัคร ส.ส.กทม.วันแรกสุดคึก
เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง กทม.สุดคึกคัก ทุกหน่วยงานเตรียมเปิดรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตของ กทม.เป็นวันแรกตั้งแต่เช้ามืด ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 200 นาย ปล่อยแถวรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ชุด EOD สุนัขตำรวจเคลียร์พื้นที่ตรวจหาวัตถุระเบิด รวมทั้งปรับการจราจรถนนมิตรไมตรีเดินรถทางเดียวใช้สัญจรได้ 2 ช่องทางกลาง ให้จอดรับส่งเท่านั้น โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.มาตรวจดูความเรียบร้อยตั้งแต่ 05.35 น. ระบุครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญของประชาธิปไตย ต้องเป็นก้าวแรกที่มั่นคงที่สุด กกต.รวมถึง กทม.ต้องวางตัวเป็นกลาง เพื่อให้ก้าวแรกเป็นก้าวที่โปร่งใสมากที่สุด ทั้งนี้ทีมงานพรรคต่างๆและกลุ่มมวลชนผู้สนับสนุนต่างทยอยมารวมตัวหน้าประตู 2 เนืองแน่น ต่างจับจองพื้นที่รอต้อนรับแกนนำพรรคและให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.แต่ละพรรค พร้อมมีรถหาเสียงพรรคต่างๆจอดเต็ม 2 ข้างทางถนนมิตรไมตรี
“ตะวัน-แบม” จี้ปล่อยผู้ต้องหา ม.112
ต่อมาเวลา 06.20 น. น.ส.ตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรมทางการเมือง หนึ่งในผู้ต้องหาคดี มาตรา 112 พร้อมเพื่อนอีก 3 คน มาปักหลักหน้าประตูเช่นกันเพื่อรณรงค์เรียกร้องให้แกนนำและผู้สมัคร ส.ส.ทุกพรรคช่วยกดดันให้ศาลสั่งปล่อยเยาวชนอายุ 15 ปี ที่ติดคุกข้อหา มาตรา 112 ปล่อยผู้ต้องหาที่ติดคุกคดีมาตรา 112 ทั้งหมดและผลักดันให้แก้กฎหมายมาตรา 112 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ.จำนวนหนึ่งยืนประกบตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและแคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาถึง ต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกกว่า 10 นาย ป้องกันเหตุบุกเข้าประชิดตัว ทั้งนี้มีเพียงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยที่เข้าไปทักทายพูดคุยให้กำลังใจด้วย ส่วนหัวหน้าพรรคอื่นๆ ต่างพากันหลีกเลี่ยง
ปชป.มาแต่ไก่โห่มั่นใจคัมแบ็ก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพรรคที่มาถึงสถานที่รับสมัครเป็นพรรคแรกเมื่อเวลา 06.00 น. คือพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ดูแลภาค กทม.รวมตัวที่พรรคตั้งแต่ 05.00 น. แล้วขึ้นรถบัสพลังงานไฟฟ้า (รถอีวี) น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานนวัตกรรมการเมือง และนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงาน กทม.ขับสกูตเตอร์ไฟฟ้านำขบวนรถบัส นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ปชป.มาสมทบเวลา 07.30 น. นายองอาจกล่าวว่า มั่นใจ กทม.พรรคจะได้รับชัยชนะ จะผลักดันแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ออกกฎหมายอากาศสะอาด ผู้สนับสนุนชูป้ายตะโกน “ปชป.สู้ๆ” “เลือกจุรินทร์เป็นนายกฯ” ด้านนายสุชัชวีร์ระบุว่า นโยบายจะโดนใจประชาชน โดยเฉพาะแก้น้ำท่วม กทม.ยั่งยืน เร่งแก้ฝุ่นพิษจริงจัง ต่อมา 11.00 น. ทีม ปชป.เดินทางไปกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมืองและวัดพระแก้ว
“วรงค์” หิ้วหญ้าเนเปียร์สื่อนโยบาย
ขณะที่พรรคไทยภักดี นำโดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี นายถาวร เสนเนียม ประธานพรรคไทยภักดี พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช เลขาธิการพรรคไทยภักดี พร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม.ของพรรคทั้ง 33 เขต มาเข้าสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม. นพ.วรงค์ถือกอหญ้าเนเปียร์ สื่อสารถึงนโยบายพืชพลังงาน นำผู้สมัครเดินเข้าอาคารกีฬาเวสน์ 2 ก่อนการจับสลากหมายเลขผู้สมัคร นพ.วรงค์กล่าวว่า ขอประชาชนเลือกคนของพรรคไทยภักดี ตั้งเป้า ส.ส.ของพรรคไว้ 25 ที่นั่งทั่วประเทศ ทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อเพื่อสามารถเสนอชื่อนายกฯตามบัญชีของพรรคได้

“อุ๊งอิ๊ง” ลุ้น พท.ยึดแชมป์ กทม.
เมื่อเวลา 06.00 น. แกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 33 เขต นั่งรถเมล์ EV 2 คัน มาลงสมัคร พร้อมกองเชียร์และกลุ่มสนับสนุนมารอ ให้กำลังใจจำนวนมาก ส่งเสียงตะโกน “เพื่อไทยสู้ๆ” ต่อมา เวลา 07.45 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้า ครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้ดูผ่านทีวี ตื่นเต้น ผู้สมัครจะได้เบอร์อะไรมากัน ฟูลทีม คาดหวังมากจะได้ ส.ส. กทม.มากที่สุด มีลุ้น เป้าหมายแลนด์สไลด์ยังเหมือนเดิม สู้เต็มที่ ขอบคุณทุกผลโพลที่ดีขึ้นแต่ไม่ประมาทอะไรก็เกิดขึ้นได้ เดินหน้าเต็มที่ให้ได้ยืนเคียงข้างรับใช้ประชาชนอีกครั้ง
แกนนำพาลูกทีมไหว้ศาลหลักเมือง
ต่อมา เวลา 12.40 น. นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรค พท.และนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. พรรคเพื่อไทย นำคณะผู้สมัคร ส.ส.กทม. 33 คน เข้าไหว้สักการะศาลหลักเมือง นางพวงเพ็ชรกล่าวว่า ได้ขอพรให้เลือกตั้งครั้งนี้ราบรื่น อย่ามีอุปสรรค เป็นไปด้วยความยุติธรรม ขอให้ผู้สมัครได้รับชัยชนะ ให้พรรค พท.ได้รับเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ผู้สมัครแต่ละคนได้เบอร์ไม่เหมือนกันคงไม่ใช่อุปสรรค แต่ต้องเหนื่อยมากขึ้นชี้แจงให้ประชาชนทราบเบอร์และพรรคมีนโยบายอะไร มีเวลาทำงานสั้น แต่ต้องทำงานหนักให้ประชาชนจำเบอร์ผู้สมัคร เบอร์พรรค พรรคมั่นใจในกระแสและตัวผู้สมัครทุกคนจะได้เบอร์ อะไร จึงไม่ใช่เรื่องสำคัญ
“ชลน่าน” จับเบอร์ปาร์ตี้ลิสต์
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรค พท.ว่า สำหรับการสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง วันที่ 4 เม.ย. พรรคนัดแกนนำพรรค และว่าที่ผู้สมัครของพรรค ที่พรรค พท.เพื่อเดินทางไปพร้อมกัน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค เป็นตัวแทนพรรคจับหมายเลขที่ ใช้ในการเลือกตั้ง ส่วนว่าที่แคนดิเดตนายกฯของพรรค พท.ที่จะมีการเปิดตัววันที่ 5 เม.ย. ที่ชัดเจนแล้วมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัว เพื่อไทย รายที่ 3 มีแนวโน้มสูงว่าจะเป็นนายชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรค พท. ต้องรอกรรมการบริหารพรรคประชุมกัน อีกครั้งวันที่ 4 เม.ย.
“พิธา” ดันใช้สิทธิ 80% กระแสชนะกระสุน
ขณะที่เวลา 06.49 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นำทีมผู้สมัคร ส.ส.กทม. ทั้ง 33 เขต นั่งรถเมล์ปรับอากาศสีเหลือง สาย 28 บรรดากองเชียร์ต้อนรับกันคับคั่ง นายพิธาให้ สัมภาษณ์ว่ากำลังใจเต็มร้อย ภูมิใจและตื่นเต้น จะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง ครั้งที่แล้ว กทม.เรามาเป็น ที่ 1 ครั้งนี้มีลุ้นทุกเขต เลือกตั้งครั้งนี้ต่างกับปี 62 ปัญหาต่างกันทั้งเศรษฐกิจ การเมือง พรรคมีนโยบายพร้อมตอบโจทย์ เรานั่งรถเมล์มาอยากให้มีรถเมล์ EV ทั่ว กทม.ต้องเลือก ก.ก. กระแสตอบรับขึ้นเรื่อยๆ ทั่วประเทศ เชื่อว่าคนจะออกมาใช้สิทธิกันถล่มทลาย ครั้งที่แล้วมาแค่ 72% ครั้งนี้ 80% เป็นไปได้ ถ้า 80% เมื่อไรกระแสชนะกระสุนแน่นอน คาดหวัง ส.ส.กทม. ทั้ง 33 เขต เพราะปี 62 ป๊อปปูลาร์โหวตเรามาอันดับหนึ่ง เรามีผลงานในสภาฯ เกี่ยวกับ กทม. เรามี ส.ก.ผู้สมัคร ส.ส.เราทำงานมาไม่ต่ำกว่า 2-3 ปี มั่นใจได้ทั้ง 33 เขต ส่วน 400 เขตทั่วประเทศ ต้องตั้งใจทำให้ มากกว่าเดิม
จากนั้นนายพิธานำทัพพรรคผู้สมัคร ส.ส.จากทั้ง 33 เขตเลือกตั้งขึ้นรถขบวนประชาสัมพันธ์เบอร์ผู้สมัครไปตามเส้นทางในเมืองหลวง เริ่มจากอาคาร กีฬาเวสน์ 2 มุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อาคารรัฐสภา สามเสน ต่อด้วยบริเวณพระบรมมหาราชวัง ก่อนจบขบวนแห่ถ่ายรูปหมู่กันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

“เจ๊หน่อย” เคลิ้มแฟนคลับอวยนั่งนายกฯ
ด้านพรรคไทยสร้างไทย นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค และนายสุพันธุ์ มงคลสุธี น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกฯพรรคทสท. นำผู้สมัคร 33 คน โดยสารรถบัสอีวี คุณหญิงสุดารัตน์พูดปลุกใจผู้สมัครให้ทำงานเต็มที่ ลงพื้นที่ลุยหาเสียงสื่อสารนโยบายให้ถึงประชาชนครบถ้วนสมบูรณ์ งัดกลยุทธ์หาเสียงเอาชนะใจผู้สนับสนุนทุกคน ทันที่ที่มาถึงคุณหญิงสุดารัตน์พร้อมคณะทักทายกลุ่มผู้สนับสนุนครึกครื้นมีการชูป้ายสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ให้เป็นนายกฯ รวมถึงป้ายนโยบายพรรค แคมเปญรณรงค์คนไทยต้องชนะ People Mustwin “ เมื่อจับเบอร์เสร็จ ทีมงานพรรค ทสท.เดินทางตรงไปวัดชนะสงครามไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาฤกษ์เอาชัย ต่อมาเวลา 13.15 น. น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกฯพรรค ทสท. นำคณะผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรคเข้าไหว้สักการะศาลหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล
“กรณ์” คันมือรอมานานลงสนาม
ขณะที่นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค พร้อมผู้บริหารพรรคและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ทั้ง 33 เขต เดินทางถึงอาคารกีฬาเวสน์ฯ นายกรณ์ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่พวกเรา
รอคอยมานานเคาะระฆังเดินหน้าสู่การเลือกตั้งที่สำคัญ ที่ผ่านมาประชาชนเดือดร้อนมาก ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ข้าวของแพง ค่าครองชีพ ภาระหนี้สิน พรรคให้ความสำคัญออกนโยบายชัดเจนแก้ปัญหา และกำหนดยุทธศาสตร์ชัดเจนใน 4 ปีข้างหน้า หมายเลขผู้สมัครจะเป็นเบอร์อะไรก็ได้ขอให้เลือกคนของพรรคไปทำงาน ปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้า เป็นเวลาของพรรคที่มีความรู้ความเข้าใจ เปิดโอกาสให้คนใหม่ ความคิดต้องใหม่
“ฮาย” ซ้อนท้ายไรเดอร์มาจับเบอร์
ส่วนพรรคเพื่อชาติ (พช.) น.ส.ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช หัวหน้าพรรค พช. นำทีมผู้สมัคร ส.ส.กทม.เดินทางด้วยไรเดอร์มายื่นใบสมัคร ชูประเด็นผลักดัน พ.ร.บ.แพลตฟอร์ม น.ส.ปวิศรัฐฐ์กล่าวว่า ปัจจุบันเรามีไรเดอร์จำนวนมากยังไม่สามารถเข้าถึงความเป็นธรรม ทั้งการคำนวณค่ารอบ ส่วนแบ่งไม่เปิดเผย สวัสดิการไม่เป็นธรรม ผลักดันจริงจัง ทำงานนโยบายร่วมกับสหภาพไรเดอร์ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเพื่อเศรษฐกิจเป็นธรรม ครั้งนี้พรรค พช.ชูสโลแกน เพื่อประเทศไทยที่ดีได้ในชาตินี้ ไม่ต้องรอชาติหน้า เมื่อได้เบอร์เรียบร้อยแล้วได้จัดกิจกรรม “วาดฝันอนาคตกรุงเทพฯ” ที่ Art101 ซอยปรีดี พนมยงค์ 41 ทันที
“ลุงป้อม” ขอ กทม.เท่าทุน 12 ที่นั่ง
สำหรับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เมื่อเวลา 06.45 น. นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรค พปชร.และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ผู้รับผิดชอบพื้นที่ กทม. นำ 33 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.รวมตัวรอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ นายสกลธีกล่าวว่า เป้าหมายสนาม กทม. บวกลบให้ได้อย่างน้อยเท่าเดิม 12 คน กระแส พล.อ.ประวิตรใน กทม.เสียงตอบรับประชาชนก็ดีไม่กลัวทั้งพรรค พท.หรือพรรค ปชป.ทุกคนเท่ากัน ไปวัดกัน 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ต่อมาเวลา 08.00 น. พล.อ.ประวิตรมาถึงให้สัมภาษณ์ว่าเป้าหมาย กทม.เท่าเดิม 12 ที่นั่งให้ได้ก่อน
ลุ้น “ประวิตร” จับเองเบอร์พรรค
นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพปชร. กล่าวถึงการสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ วันที่ 4 เม.ย.ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. จะนำผู้บริหารพรรคเดินทางถึงศาลาว่าการ กทม. 2 ในเวลา 08.00 น.เข้าร่วมยื่นเอกสารในการสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ได้จัดเตรียมไว้เรียบร้อยหมดแล้ว รวมทั้งการยื่นรายชื่อแคนดิเดตนายกฯพรรค คือ พล.อ.ประวิตร เพียงชื่อเดียวตามมติคณะกรรมการบริหารพรรค รวมทั้งจะยื่นนโยบายพรรคฉบับย่อตามที่ กกต.กำหนดไว้ไม่เกิน 6 บรรทัด สำหรับการจับสลากเบอร์บัญชีรายชื่อที่ใช้ในการหาเสียงเข้าใจว่า พล.อ.ประวิตรจะเป็นคนจับ หรือจะมอบให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค เป็นคนจับก็ได้
“บิ๊กตู่” ก้าวสะดุดขึ้นรถแห่นำทัพ
ที่สำนักงานว่าที่ผู้สมัครเขตดินแดง-พญาไทของ น.ส.อรพินทร์ เพชรทัต แยกสุทธิสาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหมในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติและแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1 สวมเสื้อพรรคเดินทางนั่งรถเบนซ์ส่วนตัวหมายเลขทะเบียน ญค 1881 กรุงเทพมหานคร มารวมตัวกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค นำ 33 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ขึ้นรถแห่เป็นรถ 6 ล้อ ทะเบียน 83-8061 ราชบุรีนำรถบัสทีมผู้สมัครไปลงสมัครรับเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์โบกมือทักทายประชาชนไปตลอดเส้นทาง มีรถมอเตอร์ไซค์ทีมรักษาความปลอดภัยประกบรถแห่จนถึงที่ ท่ามกลางผู้สนับสนุนมาให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์จำนวนมาก ขณะเดียวกัน “ตะวัน” ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ “แบม” อรวรรณ ภู่พงษ์ นักกิจกรรมอิสระ มายืนชูป้ายต่อต้าน โดยทีม รปภ.ได้พยายามกันออกไป
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับว่าที่ผู้สมัครว่า ถือเป็นวันมงคลและเป็นครั้งแรกที่ได้มายืนต่อหน้าพวกเรามีกำลังใจเต็มเปี่ยมให้พวกเราอยู่แล้ว ขอให้ประสบความสำเร็จ จับเบอร์ได้เลขดีๆ เบอร์งามๆ เลขอะไรก็ถือเป็นเลขแห่งความประสบความสำเร็จของเราทุกคน ให้ทำหน้าที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตามขณะ พล.อ.ประยุทธ์ ก้าวลงบันไดสำนักงานฯ จะไปขึ้นรถแห่เกิดสะดุดเล็กน้อย
ไหว้ศาลหลักเมือง–พระแก้วมรกต
ต่อมาเวลา 11.28 น. ที่ศาลหลักเมือง พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมนายพีระพันธุ์ แกนนำพรรค นำ 33 ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรครวมไทยสร้างชาติสักการะองค์พระหลักเมือง สักการะพระบรมสารีริกธาตุ พล.อ.ประยุทธ์เติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด จากนั้นเดินข้ามฝั่งสนามหลวงลอดอุโมงค์ไปหน้า พระลานเพื่อไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สักการะพระแก้วมรกต เพื่อเป็นสิริมงคลเอาฤกษ์เอาชัย ขณะลงอุโมงค์ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “นี่อุโมงค์ที่ทำแล้วในสมัยรัฐบาลที่ผ่านมาและยังมีสิ่งที่ต้องทำต่อ” มีประชาชนและแฟนคลับมาให้กำลังใจส่งเสียงเชียร์ “รักลุงตู่” และขอเซลฟี่ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า “รักทุกคน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลหลักเมืองและวัดพระแก้วคลาคล่ำไปด้วยพรรคต่างๆ ที่พร้อมใจกันนำทีมผู้สมัคร ส.ส.กทม.มาไหว้สักการะขอพร เป็นสิริมงคล อาทิ พรรค พท. พรรค พปชร. พรรค ปชป. พรรคชาติพัฒนากล้า
ล้วงจับเบอร์เอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ต่อมา เวลา 15.15 น. พล.อ.ประยุทธ์เปลี่ยนไปสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้า เข้าพรรคไปเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรคพิจารณาจัดลำดับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรค ต่อมาเวลา 16.36 น. พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่า การจัดลำดับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว พูดคุยกันในพรรค เราต้อง ให้พรรคพิจารณา นายพีระพันธุ์เป็นคนทำขึ้นมา พูดคุยกันแล้ว ต้องมีต้นตาราง กลางและท้ายตาราง มีโอกาสหลายคนลาออก ถ้าสมมติได้เป็นรัฐมนตรีจะขยับขึ้นมา และวันที่ 4 เม.ย.เปิดรับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อตนจะเดินทางถึงก่อนเวลา 08.00 น. เพื่อไปให้กำลังใจ การจับเบอร์ถ้าจับได้ก็จะจับเอง ถ้าจับไม่ได้จะให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค แคนดิเดตนายกฯ ลำดับที่ 2 เป็นผู้จับ แต่ใคร จับเหมือนกันแหละ เสี่ยงเหมือนกัน เลือกไม่ได้ได้ขึ้นรถแห่เป็นอีกความรู้สึกหนึ่ง แต่ไม่ได้ตื่นเต้น ไม่ได้เขิน ไปกันหลายคน จะไปกลัวอะไร เมื่อถามว่า คึกคักหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “คึกสิ ไม่คึก ฉันจะตอบสื่อเต็มไปหมดหรือ มีกำลังใจไหมล่ะ” เมื่อถามว่า โดนฉุดกระฉากเข้าทุกช่องเลย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่เป็นอะไร ชินแล้ว แล้วเป็นยังไง อารมณ์เสียไหม ก็ไม่มี มีอะไรต้องปิดบัง พร้อมจะไปทุกที่ เดี๋ยวรอหาเสียงใน กทม.เบื้องต้นวางไว้วันที่ 7 เม.ย.”
“เอกนัฏ” การันตีไร้แรงกระเพื่อม
ด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครทสช.เปิดเผยว่า ยืนยันไม่มีแรงกระเพื่อมใดๆ โดยนายพีระพันธุ์จะเป็นผู้นำเดินทางไปจับสลากบัญชี รายชื่อพร้อมผู้บริหารพรรค วันที่ 4 เม.ย. นัดเจอกัน ในเวลา 07.45 น. ต่างคนต่างไปไม่มีรถแห่ ส่วน ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งเรียบร้อยดี สมัครเกือบครบ 400 เขตแล้ว ที่ยังไม่ไปสมัครเป็นเพราะบางคนรอฤกษ์ 2 วันที่เหลือ บางคนจะไปวันที่ 6 เม.ย. ทันเวลา
สื่อจับตาลีลาหัวหน้าพรรคมือใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายในอาคารกีฬาเวสน์ 2 สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดง ตั้งแต่ช่วงเช้าบรรยากาศ กกต.คิกออฟเปิดรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.กทม.33 เขตเลือกตั้งวันแรกคึกคักเป็นพิเศษ ไฮไลต์ที่ถูกจับตามองจะเป็นหัวหน้าพรรคและแกนนำแต่ละพรรค ที่มาให้กำลังใจผู้สมัครพรรคตัวเอง โดยเฉพาะหัวหน้าและแกนนำพรรคหน้าใหม่ ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ รทสช.และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัว พท. ที่อุ้มท้องเดินทางมาส่งผู้สมัคร พท.ถึงหน้าประตูอาคารฯ ก่อนเดินทางกลับไป

“ป้อม-ตู่” นั่งเคียงคู่พูดคุยหนุงหนิง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าเวลา 08.30 น. ผอ.เลือกตั้งแต่ละเขตเลือกตั้ง ได้ให้ผู้สมัครที่เดินทางมาถึงก่อนเวลา 08.30 น. จับสลากหมายเลขที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ท่ามกลางกองเชียร์จากทุกพรรคขึ้นนั่งบนอัฒจันทร์รอบอาคาร ที่มีความจุ 1,500 คน ต่างฝ่ายต่างคอยส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจผู้สมัครในระหว่างจับสลากหมายเลขเป็นระยะๆ เป็นที่น่าสังเกตว่าบรรยากาศระหว่างรอการจับหมายเลข พล.อ.ประวิตรที่นั่งติดกับ พล.อ.ประยุทธ์ ได้หันไปพูดคุยกันอย่างอารมณ์ดี จังหวะหนึ่งนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค พปชร.ได้เดินเข้ามาไหว้ที่ตักของ พล.อ.ประยุทธ์ ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ได้รับไหว้ก่อนจะเอามือลูบที่ศีรษะนางนฤมล ทั้งคู่ไม่ได้สนทนาอะไรกัน ก่อนที่นางนฤมลจะเดินออกไป
คนดังเฮจับได้เบอร์เลขตัวเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้สมัคร ส.ส.กทม.คนดังที่น่าสนใจจับได้เบอร์ ดังนี้ นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร พท. เขตเลือกตั้งที่ 8 ได้เบอร์ 2 พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้สมัคร ปชป.เขตเลือกตั้งที่ 8 ได้เบอร์ 14 นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ผู้สมัคร ก.ก.เขตเลือกตั้งที่ 24 ได้เบอร์ 9 นายวัน อยู่บำรุง ผู้สมัคร พท.เขตเลือกตั้งที่ 28 ได้เบอร์ 10 นายการุณ โหสกุล ผู้สมัครพรรคไทยสร้างไทย เขตเลือกตั้งที่ 10 ได้เบอร์ 2 นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ผู้สมัคร พปชร.เขตเลือกตั้งที่ 22 ได้เบอร์ 1 นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ผู้สมัคร ภท. เขตเลือกตั้งที่ 4 ได้เบอร์ 1 น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ผู้สมัคร พท.เขตเลือกตั้งที่ 20 ได้เบอร์ 6 นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ผู้สมัคร ก.ก.เขตเลือกตั้งที่ 27 ได้เบอร์ 1 นายธีรัจชัย พันธุมาศ ผู้สมัคร ก.ก.เขตเลือกตั้งที่ 18 ได้เบอร์ 8 และ น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ผู้สมัคร พท.เขตเลือกตั้งที่ 13 ได้เบอร์ 4 เป็นต้น หลังผู้สมัครได้เบอร์กันแล้ว ทีมงานแต่ละพรรค ต่างลงมือติดหมายเลขบนป้ายหาเสียงที่เตรียมมารีบนำไปตามจุดต่างๆใน กทม.ต่อไป
กกต.ย้ำได้เบอร์แล้วห้ามแห่ผิด ก.ม.
ด้านนายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฎ กกต. กล่าวภายหลังสังเกตการณ์การเปิดรับสมัครเลือกตั้ง กทม.ว่า กกต.พอใจการเปิดรับสมัครเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ได้เตรียมพร้อมมาเดือนเศษ ปัญหาต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2562 ได้ถอดบทเรียน และ กกต.แต่ละคนได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์แต่ละจังหวัด เชื่อว่าจะไม่มีปัญหา หลังปิดรับสมัคร กกต.จะตรวจสอบคุณสมบัติภายใน 7 วัน และประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง หากใครไม่มีรายชื่อยื่นร้องต่อศาลฎีกาได้ ผู้สมัครได้เลขประจำตัวแล้วหาเสียงได้ทันที ส่วนผู้สมัครบางคนที่เตรียมเอกสารมาไม่ครบถ้วน ไม่ได้นำใบรับรองการส่งสมัครของหัวหน้าพรรคมายื่นยังมายื่นใหม่ได้เพราะยังเปิดรับสมัครถึงวันที่ 7 เม.ย. สิ่งที่ กกต.กังวลคือการจัดรถแห่ ถ้าได้เบอร์แล้วไม่ควรแห่ออกไป อาจเข้าข่ายจัดมหรสพรื่นเริงสุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมาย ขอความร่วมมือทุกพรรคที่ติดบดบังทัศนวิสัยการสัญจรของผู้ใช้ถนน อยากให้ปรับเปลี่ยน ถ้าไม่แก้ไขเจ้าหน้าที่จะจัดเก็บ ส่วนที่ศาลปกครองกลางนัดฟังคำพิพากษาเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งวันที่ 7 เม.ย. ขอไม่ก้าวล่วง รอฟังคำพิพากษาก่อน แต่ กกต.เตรียมความพร้อมไว้แล้ว
“อิทธิพร” เผยสมัครวันเเรกไร้ปัญหา
เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ห้องประชุมจริยกุล 1 ม.เทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์หันตรา อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. พร้อมด้วยนายอนุชา จันทร์สุริยา ที่ปรึกษาประจำประธาน กกต.และคณะ ลงพื้นที่ตรวจ ติดตาม และสังเกตการณ์การรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง นายอิทธิพร ให้สัมภาษณ์ว่า ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผู้สมัครต้องศึกษาว่าตนเองต้องจัดเตรียมเอกสารอะไรบ้างไม่ให้เกิดความผิดพลาด ส่วนผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือผู้ใดหากพบการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง สามารถร้องเรียนได้ แต่อยากให้คำนึงด้วยว่าหากเป็นการร้องเท็จจะมีโทษตามกฎหมาย ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีข้อสงสัยศึกษาได้จากทั้งเว็บไซต์ กกต. สายด่วน 1444 หรือโหลดแอป สมาร์ตโหวต หลังจากวันที่ 14 เม.ย. ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งแล้วจะมีประวัติของผู้สมัครอยู่ทั้งหมด ส่วนการลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ากำลังเปิดลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.-9 เม.ย.
ยันพิมพ์บัตรเลือกตั้งยึดตาม ก.ม.
ประธาน กกต.กล่าวถึงการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งว่า การจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง กกต.ต้องปฏิบัติตามมาตรา 84 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ฉบับแก้ไข ที่กำหนดให้บัตรเลือกตั้งทั้ง 2 ประเภทต้องมีความแตกต่างกันจะเหมือนกันไม่ได้ โดยแบบแบ่งเขตต้องมีช่องทำเครื่องหมาย และหมายเลขของผู้สมัครให้เพียงพอกับจำนวนผู้สมัครบัญชีรายชื่อกฎหมายระบุว่าต้องมีช่องหมายเลขของผู้สมัคร สัญลักษณ์พรรคและชื่อพรรค ก่อนหน้านี้กฎหมายไม่ได้เขียนไว้แต่ กกต.ก็ปฏิบัติเช่นนั้นมาตลอด แต่วันนี้สิ่งที่เคยปฏิบัติเป็นข้อกฎหมายไปแล้วมีการเลือกตั้งเมื่อปี 62 ที่เป็นบัตรใบเดียวแต่ถ้าเป็นบัตร 2 ใบ เราปฏิบัติเช่นนั้นมาโดยตลอด

8 พรรคส่งครบ 33 เขตเจาะ กทม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับยอดผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตของ กทม. วันแรกมี 8 พรรคการเมือง ส่งผู้สมัคร ส.ส.ครบทั้ง 33 เขตเลือกตั้ง ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคก้าวไกล พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคชาติพัฒนากล้า ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนาส่งผู้สมัคร 15 คน
วันแรก 60 พรรคแห่สมัคร 3,990 ราย
เมื่อเวลา 20.50 น.สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยเเพร่เอกสารข่าว ภาพรวมเปิดรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งทั่วประเทศเป็นวันแรกว่า มีผู้สมัครรับเลือกตั้งรวม 3,990 ราย จากทั้งหมด 60 พรรคการเมือง ทั้งนี้ สำหรับพรรคที่ส่งผู้สมัคร ส.ส.มากที่สุด 10 ลำดับแรก ได้แก่ พรรคก้าวไกล พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคเพื่อไทย ทั้ง 4 พรรคดังกล่าวส่งผู้สมัครเท่ากันที่ 392 ราย รองลงมาคือพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ส่งผู้สมัคร 386ราย พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ส่ง 378 ราย พรรคเสรีรวมไทยส่ง 377 ราย พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) 325 ราย พรรคไทยภักดี ส่ง 185 รายและพรรคชาติพัฒนากล้า ส่ง 99 ราย พรรคที่น่าสนใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ เช่น พรรคไทยศรีวิไลย์ ส่งผู้สมัคร 92 ราย พรรคชาติไทยพัฒนา ส่ง 49 ราย พรรคเพื่อชาติ ส่ง 44 ราย พรรคประชาชาติ ส่ง 18 ราย พรรคเส้นด้าย ส่ง 17 ราย พรรคเปลี่ยน (ที่มีนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ “นอท กองสลากพลัส” เป็นหัวหน้าพรรค) ส่ง 10 ราย เป็นต้น ส่วนพรรคที่ส่งผู้สมัคร ส.ส.น้อยกว่า 10 ราย มีจำนวน 35 พรรคการเมือง ในจำนวนนี้มีพรรค 7 พรรคที่ส่งผู้สมัครเพียงพรรคละ 1 ราย
โคราชคึกคัก “หนู” นำทัพปะทะ “สุวัจน์”
ด้านบรรยากาศการรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขตในต่างจังหวัดคึกคักไม่แพ้ กทม.บรรดาผู้สมัครขนกองเชียร์ให้กำลังใจกันเนืองแน่น โดยเฉพาะจ.นครราชสีมา ที่มี ส.ส.ถึง 16 คน รองจาก กทม.ตั้งแต่ช่วงเช้าแกนนำพรรคต่างๆนำว่าที่ผู้สมัครมายื่นใบสมัครอย่างพร้อมเพรียงที่ยิมเนเซียม อาคารชาติชายฮอลล์ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.เมืองนครราชสีมา พรรคชาติพัฒนากล้า นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคฯ พรรคเพื่อไทย นำโดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคฯ พรรค พปชร.นำโดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ พรรค รทสช.นำโดยนายเสกสกล อัตถาวงศ์ มีเพียงพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พรรคเดียวที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคนำลูกทีมมาด้วยตัวเอง นายอนุทินเปิดเผยว่า มาให้กำลังใจด้วยตัวเอง เพราะมุ่งมั่นทุกเขต ขณะที่ จ.อุดรธานี มี 10 เขตเลือกตั้ง เปิดสมัครที่หอประชุมอเนกประสงค์ ม.ราชภัฏอุดรธานี มี 10 เขตเลือกตั้ง ผู้สมัครทยอยเดินทางมาก่อนเวลาเพื่อชิงหมายเลขประจำตัว มีกองเชียร์แต่ละพรรคส่งเสียงเชียร์อยู่ด้านหน้าห้องประชุม และด้านล่างห้องประชุมเนืองแน่น ต่างพากันนำรถกระบะติดตั้งเครื่องเสียง และป้ายหาเสียง เตรียมติดหมายเลข เพื่อออกรณรงค์หาเสียงทันที
“ธนาธร” มั่นใจเชียงใหม่ไม่แพ้ พท.
ที่ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ มีพรรคใหญ่เข้ามาสมัครจนเกือบครบทุกพรรค บรรยากาศเต็มไปด้วยความสมานฉันท์มีการทักทายกันในระหว่างผู้สมัครอย่างเป็นกันเอง และมีมิตรภาพ มีผู้สมัครวันแรกช่วงเช้าจำนวน 96 คน จาก 11 พรรค อาทิ พรรคเพื่อไทยมีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตหัวหน้าพรรค นำทีมมาให้กำลังใจ พรรคก้าวไกลมีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้ามาให้กำลังใจผู้สมัคร นายธนาธร กล่าวว่า พรรค ก.ก.ครั้งนี้มั่นใจมากกว่าครั้งก่อนที่อดีตพรรคอนาคตแพ้พรรคเพื่อไทยแบบคะแนนเฉียดฉิวไปหลายเขต ด้านพรรคภูมิใจไทย มีนางศรีนวล บุญลือ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ นำทีมผู้สมัครในนามพรรคภูมิใจไทยทั้ง 10 เขต เปิดเผยว่า มั่นใจเกินร้อยเพราะมีผลงานประชาชนจับต้องได้
“ชาดา” พาลูกทีม ภท.ลุยปากน้ำโพ
ที่อาคารศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 6 จ.นครสวรรค์ มี 6 เขต ผู้สมัครเดินทางมาถึงพื้นที่สมัครก่อนเวลา 08.30 น. ทุกพรรคถือว่ามาพร้อมกัน จากนั้นได้ลงทะเบียนก่อนหลังเพื่อจับสลากเลือกว่า ผู้ใดจะได้เข้าสมัครเป็นคนแรก ปรากฏว่าทีมที่มาทีมแรกคือพรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ ตามลำดับ โดยแต่ละพรรคส่งผู้สมัครครบทุกเขต ก่อนเข้าสมัคร นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ น.ส. มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ แถลงเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.นครสวรรค์ ทั้ง 6 เขต โดยนายชาดาเผยว่า เราจะรวม 3 จังหวัด คือ จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท และนครสวรรค์ ให้เป็นปึกแผ่นสร้างถนน 4 เลน ต่อจากชัยนาท เข้าสู่อุทัยธานี แล้วผ่านนครสวรรค์ไปบรรจบถนนพหลโยธินที่กำแพงเพชร เพื่อช่วยระบายรถในช่วงเทศกาลต่างๆ หวังว่าประชาชนนคร สวรรค์จะให้ความไว้วางใจพรรคภูมิใจไทยเพราะ เราภูมิใจไทยพูดแล้วทำ
“โรม” ตั้งเป้าล้มช้างปักธงเมืองคอน
ที่หอประชุมเมืองเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช สถานที่รับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งหมด 10 เขต คึกคักเช่นกัน มีผู้สมัครจากพรรคต่างๆเดินทางมาลงชื่อก่อนเวลา 08.00 น. จำนวน 97 คน เพื่อรอจับสลากเบอร์ประจำตัวผู้สมัคร มีแกนนำของแต่ละพรรคมาให้กำลังใจ รวมถึงกองเชียร์ถือป้ายมาเชียร์กันจนแน่นห้องประชุม เช่น นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ แกนนำพรรค รทสช. นายรังสิมันต์ โรม แกนนำพรรคก้าวไกล และนายอารี ไกรณรา แกนนำพรรค ภท. ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม ให้สัมภาษณ์ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคก้าวไกลจะล้มช้างหลายเขต คว้าชัยชนะในพื้นที่ภาคใต้อย่างแน่นอน
“เดชอิศม์” นำขบวน ปชป.สงขลา 9 เขต
ที่อาคารศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาการกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลาสนามกีฬาตินสูลานนท์ ถนนชลาทัศน์ อ.เมืองสงขลา สถานที่ รับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.เขตของ จ.สงขลา ทาง กกต. ได้จัดห้องสมัครแยกอำนวยความสะดวกไว้แต่ละเขต เป็นสัดส่วน บรรยากาศคึกคักไม่น้อยไปกว่าจังหวัดอื่น โดยเฉพาะผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ที่นำทีมโดยนายเดชอิศม์ ขาวทอง อดีต ส.ส.สงขลา เขต 5 พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาพร้อมเพรียงกันทั้ง 9 เขต ส่วนผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคชาติพัฒนากล้า ต่างทยอยมาไม่พร้อมกัน
สุราษฎร์ดุพกปืน .357 เชียร์ผู้สมัคร
ส่วนที่ศูนย์กลางประชุมสัมมนาภาคใต้ตอนบน ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี สถานที่รับสมัครของ จ.สุราษฎร์ธานี บรรดาตัวแทนพรรคต่างเดินทางมาถึงก่อนเวลา 08.00 น. จำนวน 66 ราย จาก 11 พรรค โดยมีผู้ยื่นเอกสารหลักฐานครบถ้วนที่กรรมการรับสมัครรับเอกสารไว้ทั้งสิ้น 65 ราย ต่อมาเวลาประมาณ 11.20 น. ร.ต.อ.ปริญญา มีเพียร รอง สวป.สภ.เมือง สุราษฎร์ธานี หัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัยสถานที่ รับสมัคร รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่เข้าอำนวย ความสะดวกบริเวณสถานที่สมัครว่า ได้ควบคุมตัวนายสันติสุข ช่วยแก้ว อายุ 30 ปี เป็นชาว อ.กาญจนดิษฐ์ พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนขนาด.357 ชนิดลูกโม่ และกระสุน 6 นัด ทั้งนี้ นายสันติสุขให้การรับสารภาพว่า ได้เดินทางมาให้กำลังใจผู้สมัครรายหนึ่งพร้อมๆ กับญาติ ปืนพกดังกล่าวเป็นของญาติฝากไว้ในรถ จนก่อนเกิดเหตุจะไปห้องน้ำจึงได้นำปืนติดตัวไปด้วย หากทิ้งไว้ในรถที่มีเด็กอยู่ด้วยจะเป็นอันตราย ขณะเดินทางถนนตรงไปยังบริเวณอาคารที่รับสมัครปืนที่พกไว้หล่นลงพื้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนฯ ไปในเมือง หมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ชลบุรี 12 ค่ายปะทะดุ “แป๊ะ–เฮ้ง” มาเอง
ที่ศาลาประชาคม เทศบางเมืองบ้านสวน ต. บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี สถานที่รับสมัครรับเลือกตั้ง 10 เขต มีผู้สมัครรวม 12 พรรค บางพรรคส่งไม่ครบเขต ได้แก่ พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อไทย พรรค รวมไทยสร้างชาติ พรรคก้าวไกล พรรคไทยสร้างไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคไทยภักดี พรรคสังคมประชาธิปไตยไทย พรรคเพื่อชาติ และพรรคมิติใหม่ มีนายสนธยา คุณปลื้ม นำทีมพรรคเพื่อไทย และนายสุชาติ ชมกลิ่น นำทีมพรรครวมไทยสร้างชาติ มาสมัครด้วยตัวเอง
ชทพ.พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปักหลักสุพรรณบุรี
ด้าน จ.สุพรรณบุรี เมื่อเวลา 05.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา และ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้า พรรคชาติไทยพัฒนา นำทีมผู้สมัคร ส.ส.สุพรรณบุรี ทั้ง 5 เขต ทำพิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสรณ์ ดอนเจดีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช กราบนมัสการหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์วรวิหารสุพรรณบุรี และกราบขอพรเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี และนำพวงดอกไม้กราบขอพรที่อนุสาวรีย์นายบรรหาร ศิลปอาชา นายก รัฐมนตรีคนที่ 21 อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ตามลำดับก่อนเดินทางไปยัง ม.ราชภัฏสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี สถานที่รับสมัครรับเลือกตั้งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้สมัครจากหลายพรรคมาสมัคร ที่ต่างคนต่างทักทายและให้กำลังใจกันและกัน