มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พ.ร.ฎ.ยุบสภาฯ ส่งผลให้การเลือกตั้งเริ่มนับ 1 “บิ๊กตู่” ขอบคุณทุกคนที่ร่วมทางกันมา ยิ้มหวานใส่สื่อแถมชักภาพเป็นที่ระลึก ตอบไม่ได้เลือกเส้นทางนี้ผิดหรือถูก เลขาฯ กกต.ถก “วิษณุ” หารืออำนาจรักษาการ กำชับกฎเหล็ก รธน.169 เข้ม ขรก.การเมือง-ขรก.ประจำ วางตัวเป็นกลาง ห้ามใช้อำนาจเอื้อประโยชน์หาเสียง รอ กกต.ชุดใหญ่เคาะวันเลือกตั้ง “วิษณุ” แพลมไต๋ 14 พ.ค. ได้เข้าคูหา ชี้โพรง รมต.ทำภารกิจใช้ของหลวงได้ พท.สลับเขตกันวุ่นพิษ กกต.แบ่งเขต “ชวน” ย้ำ 4 ปีทุจริตระบาดทั่ว แขวะ “ทักษิณ” เมินผู้สูงอายุ “โรม” กัดไม่ปล่อย “ส.ว.ทรงเอ” “ศรีสุวรรณ” ยื่น กกต.สอบ ก.ก.พาดพิงสถาบัน

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2566 ส่งผลให้การเลือกตั้งเริ่มนับหนึ่ง ขณะที่ กกต.กำชับกฎเหล็กในการวางตัวเป็นกลาง ของข้าราชการการเมือง และข้าราชการประจำ

...

ราชกิจจาฯเผยแพร่ พ.ร.ฎ.ยุบสภา

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 20 มี.ค. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกฤษฎีกา ยุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2566 มีเนื้อหาว่า ให้ประกาศ ว่าด้วยนายกฯได้นำความกราบบังคมทูลฯว่า ตามที่สภาฯปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ พ.ศ.2562 บัดนี้ได้ปิดสมัยประชุม อันเป็นปีสุดท้ายของอายุสภาฯแล้วสมควรยุบสภาฯเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ อันเป็นการคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองให้แก่ประชาชนโดยเร็ว เพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 103 และมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2566” มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา 3 ให้ยุบสภาฯให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ใหม่ เป็นการเลือกตั้งทั่วไป มาตรา 4 ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไปในวันที่ กกต.กำหนด ซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ มาตรา 5 ให้ประธานกรรมการการเลือกตั้ง รักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

“บิ๊กตู่” ให้ “รอสิจ๊ะ” ก่อนประกาศ

ก่อนหน้านี้เวลา 09.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งที่ 1/2566 ว่า ช่วงนี้และจากนี้ไปต้องระมัดระวัง ในเรื่องการเป็นรัฐบาลรักษาการ การใช้จ่ายงบประมาณริเริ่มทำโครงการใหม่ๆ วันนี้จะมีการประชุมเพื่อรับทราบแนวนโยบายจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ นำทีมหารือทำความเข้าใจ ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความ ระมัดระวัง เราไม่ทราบว่าต้องรักษาการนานมากน้อยเพียงใด คาดว่าจะเป็นไปตามไทม์ไลน์การเลือกตั้ง อยากให้ทุกอย่างเดินหน้าไปตามสิ่งที่มันควรจะเป็น ทั้งนี้ ก่อนเข้าประชุม พล.อ.ประยุทธ์ตอบคำถามสั้นๆถึงวันยุบสภาว่า “ก็คอยสิจ๊ะ”

ทำหน้าที่รักษาการให้ดีที่สุด

ต่อมาหลังการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่รู้ยังต้องอยู่กันถึงเมื่อไหร่ ต้องรอเลือกตั้ง รอการจัดตั้งรัฐบาล ถ้าทำได้เร็วก็เร็ว เมื่อถามว่าราชกิจจานุเบกษายุบสภาจะประกาศวันนี้เลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า บอกแล้ว เดี๋ยวก็ออก รอๆ เมื่อถามว่าต้องทิ้งทวนอะไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่เห็นต้องทิ้งทวนอะไร เพียงแต่ฝากช่วยกันดำเนินการต่อไปในช่วงรักษาการให้ดีที่สุด และให้กำลังใจรัฐบาลหน้าในการทำงาน นโยบายที่ทำมา 4 ปี ทุกพรรคเห็นชอบร่วมกันใน ครม. หวังว่าทุกคนจะทำความเข้าใจตรงนี้ให้ดี ไม่ใช่ว่าเห็นด้วยไม่เห็นด้วย ไปพูดอย่างนั้นไม่ได้ ไม่ถูก เพราะอยู่ใน ครม.ด้วยกัน เมื่อถามว่าช่วงรอยต่อหวั่นเกียร์ว่างของข้าราชการหรือไม่ นายกฯตอบว่า ไม่หวั่น ได้กำชับไปแล้ว พยายามติดตามงานอยู่ ช่วงนี้ก็คงต้องไปดูให้มากหน่อย เพราะกังวลตรงนี้เหมือนกันกับโครงการที่ยังค้างอยู่ไปถึงไหน อย่างไร

ไม่ถาม “ป้อม-หนู” กินข้าวจับขั้ว

เมื่อถามว่าได้เห็นภาพ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กินข้าวกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ หัวหน้าพรรค ภูมิใจไทย มองเป็นการเตรียมจัดตั้งรัฐบาลล่วงหน้าหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า เขาไปกินข้าวด้วยกันไม่ใช่หรือ คุณก็ไปคิดเอาเองหมด ไม่ได้นั่งอยู่กับเขา ไม่รู้เขาพูดอะไรกัน เมื่อถามว่าได้คุยกับ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “ทำไมเขาทานข้าวหรือไปไหนต้องคุยด้วยหมดเหรอ พี่ไปทำอะไรมา พี่ไปกินข้าวเพราะอะไร พี่ไปกินข้าวกับเขาทำไม ผมไม่ใช่คนแบบนั้น จุกจิกแบบนั้นไม่ใช่” เมื่อถามว่านายอนุทินระบุว่า คุยกับ พล.อ.ประวิตรเรื่องเตรียมจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไปถามคนพูดคนคุยสิ ไม่ได้คุยด้วยนี่ อย่าถามอะไรในเรื่องที่ตนไม่ได้อยู่และเกี่ยวข้อง

ปลงไม่รู้มีใครอยากจับมือไหม

เมื่อถามว่าเชื่อว่าจะได้กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้งหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่คิดอะไรทั้งนั้น ทำให้ดีที่สุดแล้วกัน เมื่อถามว่าเห็นผลสำรวจนิด้าโพลหรือยัง นายกฯตอบว่า เห็น โพลก็คือโพล เราพยายามทำให้ดีที่สุด เมื่อถามว่าภาพจับมือกันของแต่ละพรรค ถ้าได้กลับมาจะจับมือกับใคร พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่รู้ ยังไม่ทราบว่าใครจะได้ เขาจะจับกับตนหรือเปล่ายังไม่รู้ ไม่ใช่ว่าตนอยากจับเขาข้างเดียวได้เมื่อไหร่ แล้วแต่ เอาประเทศชาติไว้ก่อน จะทำอะไรขอให้นึกถึงประเทศชาติประชาชนเป็นหลัก

ตอบไม่ได้ที่ทำมาผิดหรือถูก

เมื่อถามว่าในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ จุดขายคืออะไร พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ให้ดูผลงาน การทำงานช่วงที่ผ่านมา ก็เอาแนวทางที่ขับเคลื่อนมาไปขับเคลื่อนต่อสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน คือวิสัยทัศน์ตน เมื่อถามว่าเดินมาค่อนทางการเมืองแล้วคิดว่าไม่ได้ตัดสินใจผิดที่เลือกเส้นทางนี้ใช่หรือไม่ นายกฯตอบว่า ถามอย่างนั้นไม่ได้ ก็ตอบไม่ได้ว่าตัดสินใจผิดหรือถูก แต่พยายามทำสิ่งที่ดีที่สุด ผลเลือกตั้งออกมาต้องเป็นไปตามนั้น เมื่อถามว่าได้ยินว่าระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตรถ้าใครได้เสียงมากกว่าจะได้เป็นนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่ได้ยิน ถ้าได้ยินก็ไปถามท่าน ไม่ได้ไปอยู่ร่วมเหตุการณ์ ไม่รู้ เมื่อถามว่าวันเกิด 21 มี.ค. อยากได้ของขวัญอะไร พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ขอให้ประชาชนมีความสุข ไม่แตกแยก ไม่แบ่งแยกกัน รักสามัคคี และรักษา 3 สถาบันของเราไว้ให้ได้ก็แล้วกัน

ขอบคุณทุกคนที่ร่วมทางกันมา

ต่อมาภายหลังมี พ.ร.ฎ.ยุบสภาฯ พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์อีกรอบว่า ขอบคุณทุกคน โดยเฉพาะสภา อยู่มา 4 ปี มีทั้งสำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้างต้องขอขอบคุณ ทุกคนทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง สิ่งที่ภูมิใจคือความร่วมมือของทุกคน โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล ดีใจอย่างน้อยได้สร้างสิ่งดีๆขึ้นมา และต้องขอบคุณสื่อมวลชนเราไม่ใช่ศัตรูกันอยู่แล้ว แต่บางครั้งหงุดหงิดไปบ้าง เพราะทำงานเยอะเครียดบ้างอะไรบ้าง ไม่ได้โกรธใคร ส่วนการลงพื้นที่หลังจากนี้พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นคนวางแผน อาจไม่ได้ไปทุกที่ เมื่อถามว่าพอใจกับผลงาน 4 ปีที่ผ่านมาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ถามตนคงตอบไม่ได้ ต้องถามประชาชนว่าพอใจหรือเปล่า ยังมีหลายเรื่องที่ตั้งใจทำแล้วยังไม่ได้ทำ หวังว่ารัฐบาลหน้าจะทำให้เรียบร้อย ยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นนักการเมืองอยู่เหมือนกัน

ชักภาพเป็นที่ระลึกสื่อทำเนียบ

เมื่อถามว่าการเข้าสู่เส้นทางการเมืองเต็มตัว ครอบครัวสนับสนุนให้กำลังใจอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “เขาให้ผมเป็นคนตัดสินใจ ผมก็เป็นห่วงเขาอยู่ แน่นอนครอบครัวก็ต้องเป็นห่วง ไม่มีใครอยากให้สามีมาเป็นนักการเมืองเต็มตัวหรอก” เมื่อถามว่าภริยาให้คำปรึกษาอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ภริยาไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้ แต่เขาดูแลสุขภาพเราด้วยความห่วงใย มีอะไรก็เตือนมา มีข้อมูลอะไรก็เตือนมาแค่นั้น ไม่ยุ่งกับเรา ไม่ยุ่งเรื่องการเมือง ก็ให้กำลังใจตลอด ทั้งนี้ ก่อน พล.อ.ประยุทธ์จะเดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวหยอกล้อกับผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาลอย่างอารมณ์ดี และมีการถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหลังทำงานร่วมกันมากว่า 8 ปี

“แสวง” หารืออำนาจรักษาการ

เวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เดินทางเข้าพบนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากนั้นนายแสวงให้สัมภาษณ์ว่า นายวิษณุเชิญมาถามขั้นตอนหากยุบสภาแล้ว ครม.รักษาการจะปฏิบัติหน้าที่อย่างไรได้บ้าง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 169 เมื่อถามว่าสรุปแล้ววันเลือกตั้งคือวันใด นายแสวงตอบว่า ไม่รู้ ไม่ได้มาพูดเรื่องกำหนดวันเลือกตั้ง ต้องไปถาม กกต.ชุดใหญ่ เมื่อถามว่าหากยุบสภาวันนี้เป็นไปได้หรือไม่จะมีการเลือกตั้งวันที่ 7 หรือ 14 พ.ค. นายแสวงตอบว่า วันเลือกตั้งอยู่ในช่วง 45-60 วันหลังยุบสภาไม่รู้ไปตกตัวไหน เมื่อถามว่าหลายคนห่วงบทบาทข้าราชการการเมือง ข้าราชการประจำ จะวางตัวไม่เป็นกลาง นายแสวงตอบว่า เราจะดูให้ กฎหมายควบคุมเรื่องนี้เพียงพออยู่แล้ว

ให้ กกต.ชุดใหญ่เคาะวันเลือกตั้ง

นายแสวงกล่าวว่า วันที่ 21 มี.ค. กกต.จะประชุมพิจารณาร่างประกาศเกี่ยวกับวันรับสมัคร ส.ส. การกำหนดวันเลือกตั้ง กำหนดเขตเลือกตั้ง เมื่อถามว่าถ้ายุบสภาวันนี้วันรับสมัคร ส.ส.จะเป็นวันที่ 3-7 เม.ย.หรือไม่ นายแสวงตอบว่า ต้องรอ กกต.ชุดใหญ่ที่ไม่ได้คิดต่างจากประชาชน เมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง กกต.ต้องบริหารสถานการณ์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เหมือนมาคุยวันนี้ก็เป็นประโยชน์ ทั้ง กกต. พรรคการเมือง ประชาชน รัฐบาลรักษาการ ทุกฝ่ายควรอยู่กับที่ที่ตัวเองควรอยู่ จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ไม่ห่วงมีผู้ยื่นร้องศาลปกครอง

เมื่อถามว่ามีผู้ไปร้องเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งต่อศาลปกครองแล้ว จะกระทบทำให้วันเลือกตั้งต้องขยับออกไปหรือไม่ นายแสวงตอบว่า เราเดินตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายให้ทำอย่างไรเราทำอย่างนั้น สุดท้ายต้องรอดูการวินิจฉัยของศาลปกครอง ทุกคนมีสิทธิใช้สิทธิ อย่าเพิ่งไปคาดคะเน แต่คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร เมื่อถามว่ามีการร้องยุบพรรคหลายพรรค จะทำให้การเลือกตั้งสะดุดหรือไม่ นายแสวงตอบว่า ตนเป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง ทำตามกฎหมายมาตลอด ถ้าเราไม่ได้ทำผิด กฎหมายให้การคุ้มครองทุกคนที่ไม่ได้กระทำผิด เมื่อได้รับการร้องเรียน เราต้องให้ความเป็นธรรมทั้งกับผู้ร้องและผู้ถูกร้อง

“วิษณุ” ให้รอความชัดเจน 24 มี.ค.

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กกต.จะออกประกาศภายใน 5 วัน นับแต่วันที่มีประกาศยุบสภา วันเลือกตั้งเป็นวันไหน รับสมัครวันไหน สถานที่รับสมัครที่ใด กกต.ถือว่า พ.ร.ฎ.ยุบสภาคือ พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งในตัวเอง เข้าใจว่าไม่เกินวันที่ 24 มี.ค.นี้จะออกประกาศได้ โดย กกต.เป็นคนกำหนดวันเลือกตั้ง วันรับสมัคร สถานที่ ส่วนค่าใช้จ่ายเลือกตั้งนั้น มีการประชุมกับพรรคการเมืองทั้งหมดแล้ว ส.ส.บัญชีรายชื่อค่าใช้จ่ายรวมกันทั้งหมด 100 รายชื่อ ต้องไม่เกิน 44 ล้านบาท ส่วน ส.ส.แบ่งเขต ไม่เกินคนละ 1.9 ล้านบาท

เตือน ขรก.ช่วยหาเสียงไม่ได้

นายวิษณุกล่าวว่า ส่วนวิธีปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ข้าราชการจากนี้ไปเป็นไปตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 78 แต่เลขาธิการ กกต.แจ้งว่ามีการเขียนเกี่ยวกับการวางตัวของข้าราชการไว้ 2 ที่ คือกฎหมายระเบียบข้าราชการพลเรือน และกฎหมายเลือกตั้ง ในกฎหมายเลือกตั้งบางอย่างแม้ไม่ผิด แต่อาจผิดในกฎหมายระเบียบข้าราชการพลเรือน ได้ ถือเป็นความผิดทางวินัย เมื่อถามว่าแสดงว่าหลังเวลาราชการ ข้าราชการจะไปช่วยหาเสียงไม่ได้เลยใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า เวลาไหนก็ไม่ได้ทั้งนั้น เพราะจะผิดวินัย และอย่าไปร้องเรียน กกต. เพราะ กกต.จะไม่รับเรื่องเหล่านี้

แต่ชี้โพรง รมต.อ้างทำภารกิจ

นายวิษณุกล่าวต่อว่า แต่ในกรณีนักการเมือง เช่น รัฐมนตรีลงสมัครรับเลือกตั้ง ไม่ใช้ระเบียบข้าราชการพลเรือน เพราะไม่ใช่ข้าราชการ ต้องไปใช้กฎหมายเลือกตั้ง ที่ระบุห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไปให้คุณให้โทษต่อผู้สมัครหรือพรรคการเมือง มันสำคัญตรงคำว่าตำแหน่งหน้าที่ หลายร้อยเรื่องที่ไปร้อง กกต. กล่าวหาคนนั้นคนนี้ ไม่เข้าข่ายทั้งนั้น เพราะเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยชอบ เขาสามารถทำได้ แม้ว่าผลที่เกิดนั้นจะดูเป็นการหาเสียง เช่น การไปแจกโฉนดชุมชน เป็นการปฏิบัติราชการ แต่ระหว่างนั้นบนเวทีได้แนะนำตัวผู้สมัครไปพลางด้วย ทำอย่างนี้ไม่ได้ แต่ถ้าเสร็จกิจกรรมมอบโฉนดชุมชนแล้ว จะไปขึ้นลงเวทีหรือเดินตลาดหาเสียงอย่างนั้นไม่เป็นไร หรือจะไปโดยเครื่องบินหลวง หรือเฮลิคอปเตอร์หลวงก็ไม่เป็นไร เพราะถือเป็นการไปในราชการ ต้องแยกให้ออก ไม่ได้ก่อให้เกิดภาระเปลืองน้ำมันแพงแต่อย่างใด

แพลมอาจเลือกตั้ง 14 พ.ค.

นายวิษณุกล่าวว่า ส่วนกำหนดวันเลือกตั้ง หากยุบวันนี้ เขาคงเลือกวันที่ 14 พ.ค. หากยุบสภาวันที่ 21 มี.ค.ก็ยังคงเป็นวันที่ 14 พ.ค. เพราะถอยหลังเกินวันที่ 14 พ.ค.ไม่ได้แล้ว เมื่อถามว่าเป็นห่วงการหาเสียงช่วงเทศกาลสงกรานต์หรือไม่ ที่ตรงกับช่วงประเพณี อาจมีการแจกสิ่งของ นายวิษณุตอบว่า ไม่ห่วง กกต.มีคู่มืออยู่ เช่น ต้องไม่มีการประชุม ครม.สัญจร ไม่จัดกิจกรรมที่มีการชุมนุมของกลุ่มคน ยกเว้นกิจกรรมที่กำหนดปฏิทินประจำปี เช่น สงกรานต์ แต่อย่าไปแจก ไปงานแต่งงานได้แต่อย่าไปขึ้นเวทีกล่าวอะไร เมื่อถามว่านายกฯจัดงานรดน้ำดำหัวได้หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ได้ จัดได้ตามปกติ ไม่ใช่แค่นายกฯ ทุกคนก็สามารถจัดได้ การประชุม ครม.ในวันที่ 21 มี.ค. จะอธิบายเรื่องนี้ให้รัฐมนตรีฟัง พวกปลัดกระทรวงผ่านการยุบสภามาหลายครั้ง ก็ทำเหมือนทุกครั้ง แต่รัฐมนตรีอาจไม่คุ้น จะได้อธิบายให้ทราบ

แจงยิบคำเรียกรัฐบาลรักษาการ

นายวิษณุยังอธิบายถึงการเรียกตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่ายังเรียกนายกรัฐมนตรีตามเดิม ไม่ใช้คำว่ารักษาการ เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกาเคยให้เหตุผลมาว่า หากใช้คำว่ารักษาการจะเกิดความสับสน รวมถึงรัฐมนตรีและตำแหน่งทางการเมืองอื่น ยังคงเรียกตามตำแหน่งเดิมอยู่ รักษาการมีอย่างเดียวคือ คณะรัฐมนตรีรักษาการ เนื่องจากรัฐธรรมนูญมาตรา 168 ให้ ครม.อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่า ครม.ที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ อีกทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยังเคยแจ้งมาว่า การจะยื่นทรัพย์สินกรณีพ้นตำแหน่งรัฐมนตรี ต้องให้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีจริงก่อน คือภายใน 60 วันหลัง ครม.ใหม่เข้ารับหน้าที่

“วิษณุ” ยัน กกต.ต้องเดินหน้า

เมื่อถามว่ามีผู้ร้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนประกาศ กกต.เรื่องแบ่งเขตเลือกตั้ง จะทำให้การเลือกตั้งสะดุดหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ถ้าศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวก็มีผล ถ้าไม่สั่งก็ไม่มีผลอะไร กกต.ก็เดินหน้าของเขาไป เพราะไม่เปลี่ยนใจเรื่องเขตแล้วจนกว่าศาลจะสั่งมา เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่หากศาลปกครองสั่งอะไรมาแล้วจะทำให้การเลือกตั้งกลายเป็นโมฆะ นายวิษณุตอบว่า ไม่ถึงขั้นนั้น แต่ถ้าศาลปกครองสูงสุดออกมาว่าใช้ไม่ได้มันก็โมฆะ ต้องฟังศาล หากศาลระบุว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งมิชอบก็แบ่งใหม่ ไม่กระทบกรอบเวลาเลือกตั้ง 45-60 วัน เพียงแต่กระทบกรอบเวลาหาเสียงที่จะสั้นลง ไม่กระทบวันเลือกตั้ง และหากจำเป็นวันเลือกตั้งก็เลื่อนได้ รัฐธรรมนูญอนุญาตให้เลื่อน เมื่อถามว่าหากออกมากรณีแบบนั้นรัฐบาลต้องรักษาการต่อไปเรื่อยๆ ใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ใช่ พร้อมกล่าวทีเล่นทีจริงว่า “สัก 5 ปี” เมื่อถามว่ามีคนปล่อยข่าวว่าจะไม่มีการเลือกตั้ง นายวิษณุกล่าวสวนขึ้นมาว่า เพราะอะไร อย่าไปคิดอะไร มุ่งหน้าไปสู่การเลือกตั้ง อะไรจะเกิดช่างมัน หน้าที่ของเราตอนนี้ยุบสภาแล้วต้องไปสู่การเลือกตั้ง เมื่อถามว่าจะไม่มีการตุกติกอะไรกันใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ให้ไปถามคนที่ตุกติก ตนไม่ใช่คนที่ตุกติก ถ้าตนเป็นที่ปรึกษาจะให้คำแนะนำว่าอย่าไปยุ่งอะไรให้มันตุกติกเลย เลือกกันไปให้รู้แพ้รู้ชนะกันไป หมดเรื่อง

อัปเดตเหลือ 4 พรรคส่งได้ 77 จว.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงาน กกต.ว่า ข้อมูล ณ วันที่ 20 มี.ค. สรุปจำนวนจังหวัดที่พรรคการเมืองสามารถส่งผู้สมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้ง 2566 รวมทั้งหมด 87 พรรค พบว่าพรรคการเมืองที่จัดตั้งสาขาพรรค และตัวแทนพรรคได้ครบถ้วน สามารถส่งผู้สมัคร ส.ส.แบ่งเขตได้ครบ 77 จังหวัด มีจำนวน 4 พรรค ได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ก่อนหน้านี้เคยส่งผู้สมัคร ส.ส.ได้ครบ 77 จังหวัด ข้อมูลปัจจุบันเหลือส่งได้แค่ 75 จังหวัด ขณะที่พรรคอื่น เช่น พรรคก้าวไกล ส่งได้ 65 จังหวัด พรรคเศรษฐกิจไทย ส่งได้ 53 จังหวัด พรรคไทยสร้างไทย ส่งได้ 52 จังหวัด พรรคไทยภักดี ส่งได้ 43 จังหวัด พรรคชาติพัฒนากล้า ส่งได้ 40 จังหวัด พรรคประชาธิปไตยใหม่ ส่งได้ 38 จังหวัด พรรคเพื่อชาติ ส่งได้ 36 จังหวัด

พท.วุ่นพิษแบ่งเขตของ กกต.

ขณะที่ผลจากการแบ่งเขตเลือกตั้งรูปแบบใหม่ของ กกต.ส่งผลให้พรรคเพื่อไทยเกิดความปั่นป่วน ทำให้นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช หรือ “กิ๊ก” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตลาดพร้าว-วังทองหลาง แจ้งถอนตัวเพราะการเพิ่มเขตบึงกุ่มเข้ามา ส่งผลกระทบโดยตรง ทางพรรคจึงส่ง น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ หรือ “อ๋อม” ที่เดิมวางตัวไว้ลงเขตสะพานสูง-ประเวศ มาลงแทน และเขตเดิมที่วางตัว น.ส.สกาวใจไว้นั้น ก็เกิดปัญหาทับซ้อนเช่นกัน ที่เอาเขตสะพานสูงไปรวมกับเขตมีนบุรี ที่มีนายวิชาญ มีนชัยนันท์ เป็นเจ้าของพื้นที่เดิม สำหรับนายณณัฏฐ์ทางพรรคต้องจับไปอยู่ในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์แทน นอกจากนี้ยังมีปัญหาในเขตหนองจอกที่แบ่งเขตใหม่ ทำให้มีเก้าอี้ ส.ส.มากถึง 2 ที่นั่ง อยู่ระหว่างการสรรหาบุคคลที่เหมาะสมอยู่

“หนู” โอ่ ภท.เรตติ้งเพิ่ม

ที่โรงแรมริชมอนด์แกรนด์ จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยมีความพร้อมเลือกตั้ง เตรียมการมานานกว่าปีครึ่งแล้ว ส่วนเรื่องการทำงานในกระทรวงสาธารณสุข เมื่อเป็นรัฐบาลรักษาการโดยมารยาทแล้วไม่ควรมอบอะไรที่เป็นนโยบาย จะรักษามารยาทการทำงานให้มากที่สุด ไม่ให้เป็นที่ครหาว่านำหน่วยงานในบังคับบัญชามาหาความได้เปรียบหาเสียง แต่หากจำเป็นต้องใช้ดุลพินิจของรัฐมนตรีก็พร้อมให้การสนับสนุน ที่ผ่านมานโยบายต่างๆของพรรคถือว่าสำเร็จ มีที่ต้องต่อยอดต่อไปคือเรื่องกัญชา โดยจะผลักดันให้ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ผ่านสภา และนับวันความนิยมของพรรคภูมิใจไทยมีแต่จะเพิ่มขึ้น

ไล่ “ลุงตู่” ยุบสภาแล้วรีบไปนอน

ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวระหว่างนำแกนนำพรรคลงพื้นที่ตลาดประชาอุทิศ 61 ตลาดทุ่งครุพลาซ่า ตลาดประชาอุทิศ 76 ช่วยนายชาติชาย ปัตตะพงศ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตทุ่งครุ ราษฎร์บูรณะ หาเสียงว่า อีก 2 วันรอฟังนโยบายการเมืองพรรคเสรีรวมไทย ชุดที่ 5 คือ การเร่งปฏิรูปราชการ จะชี้ให้เห็นว่าหัวหน้ารัฐบาลชุดนี้ทำระบบราชการปั่นป่วนแค่ไหนช่วง 8 ปีที่ผ่านมา วันนี้มีพระบรม ราชโองการฯโปรดเกล้าฯยุบสภา และดีใจยิ่งขึ้นเมื่อรู้ว่าวันที่ 21 มี.ค. คือวันเกิด พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะรุ่นพี่เตรียมทหารขออวยพร พล.อ.ประยุทธ์ล่วงหน้าว่า พอได้แล้ว รีบกลับบ้านนอน ชาวบ้านลำบากมากแล้ว ของขวัญวันเกิดที่ตนและประชาชนมอบให้ พล.อ.ประยุทธ์ คือกลับบ้านนอนโดยเร็วที่สุด ควรวางมือการเมือง การยุบสภาก่อนครบวาระ 2 วัน แสดงว่าตลอดเวลา พล.อ.ประยุทธ์เอาเปรียบคนอื่น

“ชวน” ย้ำ 4 ปีทุจริตระบาดทั่ว

ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงขอบคุณสื่อมวลชนประจำรัฐสภา ในโอกาสทำงานร่วมกัน 4 ปีว่า น่าภูมิใจที่สภาฯอยู่มาจนครบ 4 ปี ไม่มีอย่างนี้ทุกครั้งไป ถือว่าฝ่ายนิติบัญญัติทำหน้าที่เกือบครบถ้วน ถ้าไม่มองช่วงปลายที่มีกฎหมายค้างอยู่ เพราะองค์ประชุมไม่ครบ อยากให้นำมาเป็นบทเรียนทั้งแง่บวก การดำรงไว้ซึ่งหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ออกกฎหมาย ตรวจสอบฝ่ายบริหาร แง่ลบพฤติกรรมที่เข้ามาหาผลประโยชน์ แต่งตั้งคนไม่เหมาะสมเป็นกรรมาธิการหาผลประโยชน์ ทุจริตระบาดทั่วไป ไม่เพียงแต่ ส.ส. แต่ลามไปวงราชการ ส่วนการตรวจสอบจริยธรรม ส.ส.ที่มีเรื่องค้างจำนวนมาก คณะกรรมการจริยธรรมชุดนี้ไม่มีการช่วยเหลือใคร กรณีถูกมองทำงานล่าช้า เพราะคนที่ถูกกล่าวหาขอขยายเวลาตามระเบียบ สามารถทำได้ บางเรื่องขยายเป็นปี

แขวะ “ทักษิณ” เมินผู้สูงอายุ

นายชวนกล่าวว่า สมัยหน้าเชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลคงไม่ถึง 19 พรรค และในสภาฯคงไม่ถึง 26 พรรค เป็นผู้แทนมา 16 สมัย 54 ปี บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปมาก การได้ถ่ายทอดข้อมูลให้ประชาชนเข้าใจจะทำให้เข้าใจวิถีประชาธิปไตยมากขึ้น แต่ต้องให้เกียรติประชาชนตัดสินใจ ตนเป็นคนคิดตั้งแต่เรื่องการรักษาฟรีเด็กและผู้สูงอายุ วัยกลางๆถ้าจน มีบัตรผู้มีรายได้น้อย พัฒนามาเรื่อยๆถึงปัจจุบัน ที่แปลกคือเบี้ยผู้สูงอายุ กลายเป็นว่าทุกพรรคเห็นด้วย เกทับกัน สมัยที่ทำ 200-300 บาท จากนั้น 5 ปีกว่านายทักษิณ ชินวัตร เป็นรัฐบาลไม่เพิ่มให้แม้แต่บาทเดียว กระทั่ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกฯถึงเพิ่มให้ เมื่อถามว่าการหาเสียงที่บอกให้ประชาชนรับเงิน แต่ไม่ให้เลือกถูกต้องหรือไม่ นายชวนตอบว่า ไม่สนับสนุน ใช้คำขวัญว่า “ศักดิ์ศรีชาวตรัง ใครอย่ามุ่งหวังซื้อด้วยเงินตรา” “ไม่โกง ไม่กิน ไม่สิ้นชาติ” บางทีสู้ได้แต่เหนื่อย

“นิพิฏฐ์” ปลุกคนใต้ล้มบ้านใหญ่

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ดูแลพื้นที่ภาคใต้ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ล้มบ้านใหญ่ปักษ์ใต้กันเถอะครับ บ้านใหญ่มาพร้อมกับระบบอุปถัมภ์ ที่ใดประชาธิปไตยอ่อนแอ ที่นั่นระบบอุปถัมภ์จะแข็งแรง ประชาธิปไตยมีหลักให้มนุษย์เป็น “เสรีชน” ไม่อยู่ภายใต้ร่มเงาของบ้านใหญ่ ภาคอื่นระบบ “บ้านใหญ่” ล้มหายตายจากไปเกือบหมดแล้ว เพราะคนไม่ยอมก้มหัวให้ แต่แปลกบ้านใหญ่กลับมาระบาดในภาคใต้ ตั้งแต่ชุมพรลงไปถึงยะลา เกิดอะไรขึ้นกับปักษ์ใต้บ้านเรา ทำไมบ้านใหญ่ต้องส่งลูกหลานลง ส.ส.กันทั้งครอบครัว ไม่เว้นให้ลูกชาวบ้านเป็น ส.ส.บ้างเลยหรือ? ถ้าพี่น้องคนปักษ์ใต้ ยอมสวามิภักดิ์ก็ตามใจ แต่หากใจท่านใหญ่ปลดปล่อยตัวเองให้เป็นไท โปรดเปิดโอกาสให้ลูกชาวบ้านได้เป็น ส.ส.บ้าง”

รทสช.อ้าแขนรับอดีตคน พท.

ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร ร่วมต้อนรับและสวมเสื้อพรรคให้นายเกรียงไกร จงเจริญ อดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางแค พรรคเพื่อไทย ที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค หลังพรรค พท.ไม่ส่งลงสมัคร นายเกรียงไกรกล่าวว่า หลังลาออกจาก ผอ.สำนักการศึกษา กทม. ลงพื้นที่ในนามพรรคเดิมมา 3 เดือน ตั้งใจจะดูแลประชาชนในเขตบางแค แต่พรรคเดิมขอให้ย้ายไปลงเขต 32 ไม่ตรงเจตนารมณ์ ทั้งที่ได้เปิดตัวแจ้งประชาชน เลยมาขอมุ่งมั่นทำงานในฐานะสมาชิกพรรค รทสช.

พท.ปลื้มโพล “อิ๊ง” ทิ้งห่าง “ตู่”

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรค พท. กล่าวถึงกรณีนิด้าโพลเปิดผลสำรวจเรื่อง “ศึกเลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 1” พบร้อยละ 38.20 สนับสนุน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นนายกฯ ทิ้งห่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ที่ได้เพียงร้อยละ 9.45 และเลือก ส.ส.พรรค พท. เป็นอันดับ 1 ว่า สะท้อนว่าพรรคเพื่อไทยคือความหวังที่ช่วยให้ประชาชนหลุดพ้นจากความทุกข์ที่สะสมมานานนับ 8 ปี เป็นที่น่ายินดีว่าผู้นำพรรค พท.ได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนถึง 3 คน ทั้ง นพ.ชลน่าน น.ส.แพทองธาร และนายเศรษฐา ถือเป็นกำลังใจให้พรรคมุ่งมั่นเดินหน้าทำงาน เป็นสถาบันการเมืองแห่งความหวัง เป็นชัยชนะของคนไทยทุกคน

ฉะ “ชัยวุฒิ” ด้อยค่า 30 บาท

นายโกศล ปัทมะ ส.ส.นครราชสีมา พรรค พท. กล่าวตอบโต้นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ที่ด้อยค่าโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคว่า นายชัยวุฒิไม่รู้ถึงความยากลำบากของประชาชน และความเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุขก่อนมีโครงการดังกล่าว คนยากจนเข้าไม่ถึงการรักษา บางคนต้องสูญเสียไร่นาสิ้นเนื้อ ประดาตัว เพื่อนำเงินมารักษาคนในครอบครัว 30 บาทรักษาทุกโรคเป็นโครงการที่ดีที่ทำให้พรรคไทยรักไทยได้รับความไว้วางใจ เป็นผลงานชิ้นโบแดงมาถึงปัจจุบัน นายชัยวุฒิหวังดิสเครดิตให้ร้ายนโยบายพรรค พท. ถ้าอยากได้คะแนนควรมีนโยบายดีๆออกมา แค่แก๊งคอลเซ็นเตอร์นายชัยวุฒิยังแก้ไม่ได้ ขอให้ประชาชนอย่าจมปลักกับกลุ่มคนที่ทำร้ายประเทศมา 8 ปี

“โรม” กัดไม่ปล่อย “ส.ว.ทรงเอ”

ที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรค ก.ก. แถลงว่า วันที่ 23 มี.ค. จะไปสำนักงาน ป.ป.ช. หลังเข้าให้ปากคำกับอัยการสูงสุดในวันที่ 21 มี.ค. เพื่อติดตามประเด็น 1.กรณีนายอุปกิต ปาจรียางกูร ส.ว. ที่มีข้อครหาพัวพันขบวนการฟอกเงินการค้ายาเสพติดนายทุนมินลัต ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ เกี่ยวข้องกับการซื้อขายโรงแรมอัลลัวร์ รีสอร์ท โฮเทล ท่าขี้เหล็ก 2.การถอนหมายจับนายอุปกิต อาจกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย 3.เหตุใดเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ถึงไม่อายัดบัญชีม้าหรือบัญชีที่ถูกตั้งข้อสงสัยเกี่ยวข้องกับการค้ายา ขอให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) อ.แม่สาย ทบทวนสัญญาซื้อขายไฟฟ้าให้กับโรงแรมของนายอุปกิต ในเครือบริษัทอัลลัวร์ กรุ๊ป (พีแอนด์อี) และเรียกร้องให้เลขาธิการ ป.ป.ส.ทำหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเต็มที่

ยื่น กกต.สอบ ก.ก.พาดพิงสถาบัน

ที่สำนักงาน กกต. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องให้ กกต.ตรวจสอบถ้อยคำปราศรัยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก กรรมการบริหารพรรค ก.ก. ปราศรัยพาดพิงสถาบัน ที่ จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 5 มี.ค. นายศรีสุวรรณกล่าวว่า นำหลักฐานคลิปคำปราศรัยบางถ้อยคำปรากฏชัดเจนว่า พาดพิงไปถึงโครงการพระราชดำริ ให้ร้ายต่อสถาบันฯอาจเข้าข่ายผิดหรือฝ่าฝืนตามข้อ 17 ของระเบียบ กกต.ว่าด้วยการหาเสียงเลือกตั้ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 73 (5) ที่ห้ามพรรคการเมืองหรือผู้ใดให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 92 (1) หรือ (2) ถ้า กกต.วินิจฉัยว่าเป็นไปตามคำร้อง สามารถเสนอศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคได้

“บิ๊กป้อม” ลงพื้นที่พังงา-กระบี่

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ จ.กระบี่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการฝายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และการอนุรักษ์แหล่งน้ำในพื้นที่ โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองไหล ต.พรุเตียว อ.เขาพนม พบปะรับฟังปัญหาประชาชน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ในอนาคตเสี่ยงขาดแคลนน้ำ ต้องเตรียมการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ให้ทุกส่วนราชการเร่งสำรวจแหล่งน้ำสำรองและขับเคลื่อนมาตรการรองรับฤดูแล้งเพื่อเกษตรกรชาวสวนปาล์ม ตนในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มนำมันแห่งชาติ (กนป.) ได้ผลักดันแก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำจาก 2 บาทขึ้นเป็น 7.8 บาท ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตเชื้อเพลิงอากาศ ยานชีวภาพ (SAF) จากน้ำมันปาล์ม และมี พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมัน ขับเคลื่อนให้เกิดเขตเศรษฐกิจพิเศษปาล์มน้ำมัน เป็นพืชเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของไทย จากนั้นช่วงบ่าย พล.อ.ประวิตรได้ไปยัง จ.พังงา เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการฝายคลองกะปง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.ท่านา อ.กะปง