“บิ๊กตู่” ขึ้นเหนือแอ่วเชียงใหม่ คนต้อนรับน้อยเกินคาด เจ้าหน้าที่รีบเก็บเก้าอี้วุ่น นายกฯ เจอ “ป้าวันดี” ชู 3 นิ้ว บุกทวงถามยุบสภาฯเมื่อไหร่ ตอบสื่อเตรียมการแล้ว ให้รอฟังประกาศในราชกิจจานุเบกษา อ้อมแอ้มแก้ฝุ่นพิษ โยนกำนันผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครองทำความเข้าใจชาวบ้าน พท.คึกเปิดตัวฟูลทีม 400 เขต “อุ๊งอิ๊ง” ปล่อยของก๊อกสองล้างปัญหา 8 ปี ลดช่องว่างรายได้ อุ้ม ปชช.ขึ้นจากหลุม เร่งสำรวจทุกบ้านรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 2 หมื่นช่วยทันที ปั้นไทยศูนย์กลางเทคโนโลยีการเงินสมัยใหม่แห่งเอเชีย โชว์กึ๋นแก้พีเอ็ม 2.5 ปล่อยน้ำท่วมตอข้าวแทนการเผา เชื่อมประเทศเพื่อนบ้านโละเครื่องจักรก่อมลภาวะ “เศรษฐา” เฉ่งผู้นำไร้หัวใจ ดึงเงิน 1 ล้านล้าน ปั่นภาษี 3 แสนล้าน อัดเงินดิจิทัลให้คนอายุ 16 ปี ปลุกเศรษฐกิจชุมชน “ชูวิทย์” ยื่น 8 หลักฐานมัด “เสี่ยโอ๋” ยื่นยุบ ภท.

หลายฝ่ายตั้งตานับถอยหลังรอวันประกาศยุบสภาฯของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่ชัดเจน ล่าสุด นายกฯระบุเตรียมการไว้แล้ว ขอรอฟังการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา

นายกฯขึ้นเหนือแอ่วเชียงใหม่

เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กทม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.เชียงใหม่ พร้อมคณะ อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ใช้รถยนต์ตู้เวลไฟร์ ทะเบียน ฌอ 7237 กรุงเทพมหานคร ปฏิบัติภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์และรัฐมนตรีสวมเสื้อผ้าพื้นเมืองแขนยาวสีขาวนวล รองเท้าผ้าใบสีดำ จุดแรกเวลา 10.15 น. ไปสักการะอนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย ที่อนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่

...

ฝากกำนัน ผญบ.ทำความเข้าใจฝุ่นพิษ

จากนั้นนายกฯได้เดินทางทักทายกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อสม. และตัวแทนองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา นำดอกกุหลาบมามอบให้กำลังใจ นายกฯกล่าวกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านว่า พวกเราทำงานหนักช่วงโควิดและฝากให้ดูไฟป่า ยาเสพติด ทำให้ประชาชนมีความสุข คงไม่ง่ายนัก ต้องสร้างความเข้าใจ คุยกับเขา มีปัญหา PM 2.5 ข้างล่างมีผลกระทบไปด้วย ต้องหาวิธีการไม่ให้ชาวบ้านเผาและหาวิธีนำวัชพืชไปใช้ประโยชน์อะไรได้ ทั้งนี้มีผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งแนะนำตัวว่า เป็นผู้ใหญ่บ้านบนดอย ถ้านายกฯมีโอกาสอยากให้ช่วยดูการสร้างถนนหนทาง นายกฯตอบว่า เป็นเรื่องในใจอยู่แล้ว มีหลายแผนงานปัญหาสำคัญที่สุดอันหนึ่งคือเส้นทางคมนาคม เรื่องน้ำ ทั้งนี้การรักษาความปลอดภัยมีเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ไม่มีขึ้นป้ายต้อนรับและไม่มีประชาชนมาถือป้ายให้กำลังใจเหมือนพื้นที่อื่นๆ

ป้าชู 3 นิ้วบุกถามยุบสภาเมื่อไหร่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนายกฯจะเดินมาขึ้นรถ มีเสียงหญิงสูงวัยสวมหมวกสีเหลือง เสื้อม่อฮ่อม ตะโกนเรียกนายกฯว่า “นายกฯคะให้ดอกไม้ค่ะ” นายกฯกล่าวว่า จ้ะๆ พร้อมหันมารับดอกไม้ เป็นดอกไม้แห้งสีเหลือง พร้อมธูปเทียนอยู่ในกรวยใบตอง 2 กรวย นายกฯกล่าวว่า “ดอกไม้มงคลน้อ” หญิงคนดังกล่าวถามทันทีว่า “จะยุบสภาเมื่อไหร่” นายกฯมองแล้วกล่าวว่า “เดี๋ยวรอฟังแล้วกันจะทำไมหรอ มีอะไรไหมละ ถึงอยากรู้ เดี๋ยวถึงเวลาเองแหละ เอาที่มันอยู่กันก่อนนะ”จากนั้นรีบหันหน้าหนี ไปถ่ายภาพกับคนมาต้อนรับ ก่อนขึ้นรถนายกฯได้เอามือที่ยังเจ็บแตะไปที่อก พร้อมบอกว่า ให้ช่วยกันดูแลบ้านเมืองก่อน

ต่อมาทราบชื่อนางวันดี รัตน์ด้วง ชาวพิจิตร แม่บ้านหอพัก จ.เชียงใหม่ กล่าวกับผู้สื่อข่าวพร้อมชู 3 นิ้วว่า มันไม่ไหวแล้ว ลูกหลานไม่มีงานทำภาวะเศรษฐกิจก็แย่ อะไรก็ขึ้นแต่ค่าแรงไม่ขึ้น สุดๆมันไม่ไหวแล้ว มันต้องเปลี่ยนนายกฯแล้ว 8 ปีแล้ว อยากรู้ว่าจะยุบสภาเมื่อไหร่ จะเลือกตั้งวันไหนเป็นสิทธิและหน้าที่การแสดงออก ไม่กลัวเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัว มีคนเดือดร้อนกว่า 60 ล้านคน ไม่มีใครมาลงทุนไปต่างประเทศหมดแล้ว เป็นเผด็จการซ่อนรูป เรียกร้องประชาธิปไตยมาตลอด ต้องการความเท่าเทียม ขอให้ปล่อยเด็กที่ถูกคุมขังคดีการเมือง

ลต.ใช้สติไตร่ตรองปัดรักษาอำนาจ

เมื่อเวลา 14.00 น.นายกฯไปที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติฯ เชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ พบปะประชาชน กลุ่มแฟนคลับถือป้ายต้อนรับ อาทิ 8 ปี ผลงานเพื่อประชาชนทุกคนรักลุงตู่ ขึ้นเหนือเยือนเชียงใหม่ยอดขวัญใจคือลุงตู่ นายกฯกล่าวขอบคุณน้ำใจไมตรีที่มอบให้ ถือเป็นวันมงคลอีกครั้งที่มาคารวะกราบไหว้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเราเคารพนับถือ มีความสุขสบายใจ มีกำลังใจทำหน้าที่ต่อไปตราบใดที่ยังมีหน้าที่อยู่ตรงนี้ ยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทำให้ได้มากที่สุด ทุกคนทราบดีว่าใกล้เลือกตั้งเป็นการกำหนดอนาคตประเทศ สุดแล้วแต่จะตัดสินใจ ต้องการให้ประเทศไทยมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน วาดหวังไว้เช่นนั้น ต้องมาดูว่าจะเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์อย่างไร ไม่ได้มีไว้เพื่อรักษาอำนาจนายกฯ อ่านดูให้ดี ผลการเลือกตั้งใครจะเป็นรัฐบาลว่าไป พวกเราจะเป็นผู้เลือกผู้ตัดสินใจ ขอให้ใช้สติปัญญาไตร่ตรองต่างๆ

คนมาร่วมน้อย จนท.รีบเก็บเก้าอี้

นายกฯกล่าวว่า “ผมรักคนเหนืออยู่แล้ว ชอบบรรยากาศภาคเหนือ ชอบความอ่อนหวาน ความสวยงามประวัติศาสตร์ ไม่ได้ปากหวาน เคยมาอยู่หลายปี คงไม่มีใครอยากพูดให้พวกเราไม่สบายใจ แต่ต้องพูดเพราะเป็นผู้รับผิดชอบ ถ้าจะเอาพูดแต่ดีๆ ปากหวานมันไปไม่ได้หรอกประเทศ ไม่ได้เข้มงวดอะไรกับท่านมากมาย มีกฎหมายทุกตัวอยู่แล้ว ว่ากันไปตามกฎหมายไม่กระทบซึ่งกันและกันก็จบแล้วตนบริหารราชการแผ่นดินมาได้ด้วยดี เป็นคนไม่มีอะไรจริงๆ ถึงจะโมโหบ้างอะไรบ้าง ตนเป็นทหารมาก่อนแต่ลูกน้องรู้ว่าเป็นคนใจดี แต่บางทีขี้โมโห แกล้งขี้โมโห แต่รักกันอยู่แล้ว วันนี้ไม่ได้มาการเมือง เมื่อเช้านี้เดินสะดุดหลายที ดีคุณพระคุ้มครอง และมือยังเจ็บอยู่หน่อย พระให้พรมาแล้วให้หายเร็วๆ เดี๋ยวก็หาย ไกลหัวใจอยู่ ไม่ต้องห่วงยังแข็งแรงอยู่เสมอ ยังมีกำลังใจทำให้พวกเราเสมอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้จัดงานเตรียมเก้าอี้ไว้ 6,000 ที่นั่ง ใกล้นายกฯมาถึงมีประชาชนมาร่วมงานน้อย ส่วนใหญ่เป็นสมาชิก อบจ.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จึงสั่งเจ้าหน้าที่เร่งเก็บเก้าอี้ ผู้สื่อข่าวถามนายกฯเปลี่ยนมาใส่รองเท้าผ้าใบสีดำยี่ห้อ ON Cloudster ลงพื้นที่ใส่สบายหรือไม่ มีกี่คู่แล้ว นายกฯ ตอบว่า “ใส่แล้วเดินสบาย มี 3 คู่แล้ว”

ย้ำยุบสภารอประกาศราชกิจจาฯ

จากนั้นเวลา 15.35 น. ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติฯ เชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงการยุบสภา ได้เตรียมแล้วหรือยังว่า “ก็ต้องเตรียมแล้วสิ รออีกสักนิดนึงเดี๋ยวก็ออก” เมื่อถามว่าสัปดาห์หน้าประกาศได้แล้วใช่หรือไม่ นายกฯตอบว่า “เดี๋ยวก็รอสิ รอๆต้องรอประกาศในราชกิจจานุเบกษาก่อน” ต่อมาเวลา 17.13 น.ที่มหาวิทยาแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกครั้ง การประกาศยุบสภาใช่ 20 มี.ค.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็เดี๋ยวรอๆ รอนิดนึงน่ะ ไม่มีอะไร เมื่อถามว่านายกฯจะประกาศยุบสภาเองเลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า ไม่ใช่ ออกราชกิจจานุเบกษา นายกฯพูดเองที่ไหน ส่วนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ลาออกจาก รมว.ยุติธรรม เห็นแต่ในข่าว ยังไม่ได้เจอกับท่าน คงไม่มีอะไรหรอก เคารพการตัดสินใจทุกคน ไม่ใช่ศัตรูกัน ยังรักกันเหมือนเดิม เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ นายสมศักดิ์เคยพูดว่าถ้าไปอยู่พรรคไหน พรรคนั้นต้องได้เป็นรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า จะกังวลทำไม

รทสช.ปราศรัยใหญ่ กทม. 2 เม.ย.

ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ร่วมประชุมกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม.ทั้ง 33 เขต เพื่อทำความเข้าใจและให้แนวทางลงพื้นที่หาเสียงโดยนายเอกนัฏให้สัมภาษณ์ว่า ประชุมซักซ้อมเข้มงวดวางแผนหาเสียงให้ผู้สมัครทุกคน โดยใน กทม. เราจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในวันที่ 22 มี.ค.และจะเปิดเวทีหาเสียงใหญ่คาดว่าจะเป็นวันที่ 2 เม.ย. และหลังจากเปิดรับสมัคร ส.ส.อย่างเป็นทางการแล้ว ทุกคนต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่เดินทุกวันไปทุกที่

“ลุงป้อม ”ลุย 3 จชต. ถกผู้นำท้องถิ่น

เมื่อเวลา 13.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปพบปะผู้นำศาสนาและเครือข่ายโรงเรียนตาดีกา รวมถึงผู้นำท้องถิ่น จากนั้นไปยังสหกรณ์นิคมปิเหล็ง จำกัด จ.นราธิวาส ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหากรณีป่าสงวนแห่งชาติทับซ้อนกับ พ.ร.ฎ.จัดตั้งนิคมสหกรณ์ใน อ.ระแงะ อ.สุไหงปาดี และ อ.เจาะไอร้อง และไปเป็นประธานพิธีเปิดศูนย์การเรียนรู้ฟาร์มมาตรฐานการเลี้ยงวัว ตามกรอบระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล จังหวัดชายแดนใต้ และมอบพันธุ์กระถินหญ้าเนเปียร์แก่เกษตรกร ที่หมู่บ้านกำปงบารู ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา ก่อนไปเป็นประธานประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนา จังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ที่ ม.ราชภัฏยะลา โดยที่ประชุมเห็นชอบโครงการพัฒนาสวนสาธารณะพรุบาโกย ให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (Yala City Tower Entertainment Complex)โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ขอชื่นชมกพต.หน่วยงานด้านความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่ที่ให้ความร่วมมือ ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ จนสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนต่างๆอย่างได้ผล และมีความก้าวหน้าด้วยดี

“สมศักดิ์” ปิดฉากกลุ่มสามมิตร

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ร้านกินเส้น สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แถลงถึงอนาคตทางการเมือง พร้อมโชว์ใบลาออกจาก รมว.ยุติธรรม และใบลาออกจากสมาชิกพรรคพปชร.ว่า ได้ทำหนังสือลาออกไม่ขอรักษาการ รมว.ยุติธรรม กราบเรียนนายกฯ เรียบร้อยและทำหนังสือลาออกจากสมาชิก พปชร.ให้ชัดเจน และได้กรอกใบสมัครเป็นสมาชิกพรรค พท.แล้ว การทำสิ่งต่างๆให้สัมฤทธิผลต้องมองพรรคที่แลนด์สไลด์ จะทำให้แนวนโยบายรัฐบาลใหม่ประสบผลสำเร็จ จึงตัดสินใจไปร่วมงานกับพรรค พท. จะให้ดูภาคเหนือตอนล่าง ภาคใต้ ขึ้นอยู่กับผู้บริหารพรรค ไม่ประสงค์จะดำเนินการทาง การเมืองแบบกลุ่ม แต่ตามแนวนโยบายพรรค มั่นใจแนวปฏิบัติในพรรค พท.ทำให้เกิดความสมดุลได้ เมื่อไปพรรค พท.ไม่น่าจะใช้ชื่อกลุ่มสามมิตรแล้ว เหลือสองมิตรคือตนกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่คิดไปตั้งกลุ่มอะไรแล้ว คาดว่าลงบัญชีรายชื่อไม่เกิน 50 ได้เป็น ส.ส. ขอบคุณนายกฯที่ให้มีโอกาสทำงานได้แสดงฝีมือ

พท.ฟูลทีมกองเชียร์ล้น มธ.ศูนย์รังสิต

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดงาน “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 400 เขต รวมถึงแถลงนโยบายด้านเศรษฐกิจและสังคมลอตใหม่ มีแกนนำพรรคและสมาชิกพรรคเข้าร่วมพร้อมเพรียง นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำบ้านใหญ่ชลบุรี บรรยากาศมีผู้สนับสนุนพรรค พท.มาร่วมเชียร์ว่าที่ผู้สมัครล้นยิมเนเซียม

สามมิตร–บ้านใหญ่ชลบุรี–โรงแป้งพรึ่บ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคได้จัดเก้าอี้บนเวทีให้ว่าที่ผู้สมัครทั้ง 400 เขต โฆษกบนเวทีได้ขานชื่อว่าที่ผู้สมัครทีละจังหวัดเพื่อให้เดินขึ้นเวที เมื่อถึงจังหวัดใดผู้สนับสนุนของพื้นที่นั้นๆต่างตะโกนเชียร์จนเสียงดังลั่นยิมเนเซียม ส่วนใหญ่เป็น ส.ส.และสมาชิกพรรคที่ร่วมงานกับพรรค พท.มาตลอด มีเพียงบางคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ อาทิ นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ อดีต ส.ส.สุโขทัย พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) น้องสาวนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่เตรียมย้ายตามมาอยู่กับพรรค พท. เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สุโขทัย นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรค พปชร. เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี นางสุกุมล คุณปลื้ม อดีต รมว.วัฒนธรรม เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี นายอาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล บุตรชายนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีต รมช.คมนาคม เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เมื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครแล้วพรรคได้เปิดตัวเอ็มวีเพลง “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” เป็นเพลงใหม่ที่จะใช้หาเสียง

ฟุ้งนโยบายเจ๋ง ปราศรัยเข้ม ไม่ปาเงิน

จากนั้นเวลา 10.20 น. นพ.ชลน่านกล่าวปราศรัยว่า เราแสดงความพร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง 400 เขตทั่วประเทศ ให้ได้รับความไว้วางใจให้มากที่สุดไปทำงานในสภาฯเปลี่ยนประเทศ ให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นห่วงวันนี้กระแสพรรค พท.ดีมาก ถ้าผู้สมัครประมาทหวังอาศัยกระแสพรรคอย่างเดียว ไม่เข้าถึงประชาชนไม่จัดเวทีปราศรัยย่อย ไม่ทำงานเข้มแข็ง ถึงวันเลือกตั้งอาจเจอความพ่ายแพ้ได้ จุดแข็งเราคือนโยบาย ต้องเน้นปราศรัย อย่าปาเงิน ถ้าใช้วิธีนั้นจะพ่ายแพ้ ไปเล่นเกมของเขา พรรคจะไม่สนับสนุนพรรค พท.จะกลับมารับใช้ประชาชนเหมือนในอดีต คืนความหวังคืนความสุข ขอให้ประชาชนเลือก พท.ทั้งคนทั้งพรรค ให้แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดินจะนำประชาธิปไตยที่กินได้มาคืนให้ประชาชน แลนด์สไลด์เท่านั้นที่จะเปลี่ยนประเทศให้เป็นประชาธิปไตย ประชาชนได้ปลดหนี้ปลดสิน ยาเสพติดจะหมดไป แลนด์สไลด์ เท่านั้นที่จะล้างรัฐธรรมนูญสืบทอดการรัฐประหาร

ช่วยทุกบ้านที่รายได้ต่ำกว่า 2 หมื่น

น.ส.แพทองธารกล่าวถึงนโยบายใหม่ว่าจะแสดงให้เห็นว่าเราคิดใหญ่เพราะทำเป็น รัฐประหารปี 49 และ 57 ประเทศขาดความต่อเนื่องของการบริหารอย่างมียุทธศาสตร์ คนเสียเปรียบที่สุดคือเจน z ที่เกิดปี 40-55 ต้องเจอกับรัฐประหารและปัญหาต่างๆ การบริหารประเทศเป็นแบบวันต่อวัน ไม่เข้าใจความทุกข์ยากของประชาชน ปัญหาต่างๆไม่ได้รับการแก้ไข ประเทศมีหนี้มาก หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น ช่องว่างรายได้ประเทศไทยสูงเป็นอันดับต้นๆของโลก ถ้าไม่คิดใหญ่เอาไม่อยู่จริงๆ นโยบายที่จะประกาศใหม่สิ่งแรกจะช่วยลดช่องว่างรายได้ประชาชน รายได้ต่อหัวน้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อ แม้จะลงทะเบียนคนจนรัฐจ่ายเงินบางส่วนชดเชยแต่ไม่เพียงพอ คนยากจนเขาไม่ได้อยากจน ไม่ได้อยากมีหนี้สินแล้ววางแผนอนาคตให้ลูกหลานไม่ได้ เราจึงมีนโยบายจะอุ้มประชาชนขึ้นมา ทั้งค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน นโยบายใหม่จะสำรวจครอบครัวที่มีรายได้น้อยกว่า 2 หมื่นบาทต่อเดือน จะเข้าไปช่วยเหลือทันที ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีการเงินสมัยใหม่ในเอเชีย แก้ปัญหา PM2.5 ทันที โดยปล่อยน้ำท่วมตอข้าวแทนการเผา ขอความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เปลี่ยนเครื่องจักรสร้างมลภาวะ มีการบริการสาธารณสุขที่ดี ระบบราชการก็จะปรับปรุงให้ทันสมัยเป็นการรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง และจะดูแลข้าราชการให้มีแรงและกำลังดูแลประเทศอย่างมีเกียรติศักดิ์ศรี

สางปัญหาสะสม 8 ปีให้เบาบางสุด

“ขอให้ผู้สมัครใช้ความจริงใจของท่านพร้อมทำเพื่อประชาชนด้วยหัวใจที่แท้จริง ถ้าเราไม่เอาความจริงใจเข้าแลก ประชาชนจะรับรู้สิ่งนี้ไม่ได้แล้วเราจะไม่ชนะการเลือกตั้ง ขอให้ผู้สมัครของเราชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย ชนะใจประชาชน ขอให้ประเทศไทยมีพรรค พท.ที่จริงใจรักประชาชนอย่างแท้จริง มาดูแลพี่น้องประชาชนทุกคน เราจะมาร่วมกันแก้ปัญหาที่สะสมมา 8 ปีให้เบาบางและหายไปในที่สุด”

“เศรษฐา” ฉะ 8 ปีทนอยู่กับผู้นำไร้หัวใจ

นายเศรษฐากล่าวว่า 8 ปี ประเทศไทยถดถอยตกต่ำลงเรื่อยๆ ลงพื้นที่เห็นเกษตรกรรายได้ลดน้อยลง การศึกษาและแบบเรียนล้าสมัย เห็นความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียมในสังคม คนมีเพศสภาพแตกต่างถูกกระทำเหลื่อมล้ำ คนมีอภิสิทธิ์ใหญ่คับฟ้า ทำผิดไม่ผิด เห็นผู้นำไร้หัวใจ ขับไล่ประชาชนที่มีศักยภาพออกจากแผ่นดินเกิด เพียงแค่ไม่อยู่ภายใต้โอวาท ประชาชนที่ได้รับผลกระทบทุกคนต่างฝากความหวังไว้ในการเลือกตั้ง เป็นจุดเปลี่ยนประเทศ เขาอยากเลือกพรรคที่ได้รับผลกระทบทุกคนต่างฝากความหวังไว้ในการเลือกตั้ง เป็นจุดเปลี่ยนประเทศ เขาอยากเลือกพรรคที่เป็นความหวัง มาสร้างโอกาสให้ชีวิตเขาดีขึ้น เราต้องกู้เศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ รัฐบาลกู้เงินมหาศาลแต่ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ปัญหาต่างๆที่รัฐบาลอ้างทุกประเทศเจอกันหมด แสดงให้เห็นถึงความสามารถบริหารภายใต้รัฐบาลนี้ พรรคเพื่อไทยจึงจำเป็นต้องจุดประกายให้เครื่องยนต์เศรษฐกิจกลับมาวิ่งฉลุยอีกครั้งเหมือนที่พรรคไทยรักไทยทำมาตอนต้มยำกุ้งเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย

16 ปีได้เงินดิจิทัลปลุก ศก.ชุมชน

นายเศรษฐากล่าวอีกว่า นโยบายพรรคเราจะทำให้เงินถูกอัดเข้าระบบหมุนหลายรอบ เอาธุรกิจที่ไม่เสียภาษีมากกว่า 1 ล้านล้านบาท เข้าระบบจะจัดเก็บภาษีได้ 3 แสนล้านบาท จะไม่มีมาเฟียในธุรกิจเหล่านี้ ไม่มีตำรวจนอกแถวเรียกรับส่วยอีกต่อไปจะนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามา สร้างกระเป๋าเงินดิจิทัล คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปจะได้รับเงินดิจิทัล เข้ากระเป๋า ตัวเลขขออุบไว้ก่อน จะใช้ได้ในร้านค้ารัศมี 4 กม.จากบ้านพักกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน อายุใช้งาน 6 เดือน ร้านค้านำเหรียญเปลี่ยนเป็นเงินกับธนาคารรัฐใกล้บ้าน ด้านการต่างประเทศจะทำให้ไทยพร้อมแข่งขัน 8ปีผู้นำไทยไม่ได้ไปเจรจาการค้าจนเสียโอกาส รัฐบาลพรรค พท.จะขยันไปสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมากขึ้น แค่พาสปอร์ตคนไทยไปต่างประเทศต้องใช้วีซ่า หลายประเทศมาไทยไม่ต้องใช้วีซ่า ทำให้คนไทยดูไม่มีศักดิ์ศรี จะเจรจาไม่ให้มีผลกับการท่องเที่ยว ทำให้พาสปอร์ตไทยได้รับยกเว้นวีซ่าอีกหลายประเทศมากขึ้น และจะสนับสนุนให้คนไทยและต่างชาติไปเที่ยวเมืองรอง ให้นักท่องเที่ยวนำเงินมาฝากในไทย

ลั่นยกเลิกสังคมเส้นสายอภิสิทธิ์ชน

นายเศรษฐากล่าวต่อว่า จะคืนสิทธิขั้นพื้นฐานและเสรีภาพประชาชน ที่เห็นคนไม่เท่ากัน คนรวยใหญ่คับฟ้า มีอภิสิทธิ์ ใช้กฎหมายเอื้อประโยชน์กันและกัน ศักดิ์ศรีคนธรรมดาถูกด้อยค่าคับแค้นใจอย่างยิ่ง รัฐบาล พท.ตั้งใจเปลี่ยนการเกณฑ์ทหารเป็นระบบสมัครใจ ให้อาชีพทหารต้องแข่งขันกับภาคเอกชนพัฒนาระบบการฝึกตอบคำถามได้ว่าเป็นทหารแล้วได้อะไร จบแล้วทำอะไรต่อ สิทธิความหลากหลายทางเพศที่ถูกด้อยไปหลายอย่าง เช่น สิทธิประกันสังคม สวัสดิการ การหมั้น การอุ้มบุญ พรรค พท.จะสร้างความเสมอภาคให้สิทธิคนทุกกลุ่มได้มากกว่าปัจจุบัน จะแก้ไขกฎหมายคืนสิทธิทุกคนครบถ้วน ภายใต้รัฐบาล พท.จะไม่สนับสนุนการจัดวงสังคมที่อภิสิทธิ์ชน นักบริหาร ข้าราชการเอื้อประโยชน์กันเอง ทำให้นโยบาย กฎหมาย กระบวนการยุติธรรมถูกบิดพลิ้ว จะปฏิรูปการบังคับใช้กฎหมายกระบวนการยุติธรรม นำศักดิ์ศรีที่ถูกย่ำยีจากผู้ใช้อำนาจในทางที่ผิดคืนให้ประชาชนแท้จริง อยากเห็นสังคมเส้นสาย สังคมเลือกปฏิบัติ สังคมไม่เสมอภาคหมดไปหรืออย่างน้อยต้องเบาบางกว่าทุกวันนี้ รัฐบาลพรรค พท.ทำให้ทุกคนทุกกลุ่มมีชีวิตที่ดีขึ้น มีกินมีใช้มีศักดิ์ศรี ขอให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นำนโยบายไปถึงประชาชน อวยพรให้ทุกท่านได้ชนะเลือกตั้ง ได้เป็น ส.ส.ของประชาชน และให้ พท.ได้จัดตั้งรัฐบาล

“สุดารัตน์” ปลุกไทยยืนหนึ่งแผนที่โลก

วันเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ร่วมแสดงวิสัยทัศน์และนโยบายของพรรคไทยสร้างไทย บนเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023 มีผู้เข้าประกวดร่วมแสดงความคิดเห็นและสอบถามการขับเคลื่อนนโยบายของพรรค ทสท.คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่าพรรค ทสท.สร้างขึ้นมาเป็นทางรอดของประเทศไทย ยุติความขัดแย้งทางการเมืองสองขั้ว ทุกคนต้องมาช่วยกันจุดไม้ขีดคนละก้านเพื่อเป็นแสงสว่าง เผาไล่ความมืดมิด กำจัดการสืบทอดอำนาจเผด็จการ คอร์รัปชัน เริ่มจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบันที่มุ่งตอบสนองการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ โดยเฉพาะอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ นอกจากนี้ พรรคได้ร่างกฎหมายขึ้นมา 1 ฉบับ เพื่อพักใช้ใบอนุมัติ อนุญาตต่างๆที่เป็นอุปสรรคทำธุรกิจ ทำมาหากินของคนตัวเล็ก แขวนกฎหมายกว่า 1,400 ฉบับ ยืนยันว่าพรรค ทสท.ต้องทำให้ประเทศไทย กลับมายืนหนึ่งบนแผนที่โลกอีกครั้ง

พช.ดันแก้ ก.ม.ช่วยคนกลางคืน

ที่โรงแรมเดอะพาลาสโซ กรุงเทพฯ นายรักษ์ชาติ วงศ์อธิชาติ รองเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ เป็นตัวแทนพรรคนำเสนอนโยบายบนเวที “คืนงาน คืนคน เปลี่ยนส่วย เป็นภาษี ธุรกิจดีไม่สีเทา” จัดโดยมูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ องค์กรพัฒนาเอกชนไทย ดำเนินงานโดยพนักงานบริการ (sex workers) เพื่อให้พนักงานบริการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานตามหลักสิทธิมนุษยชน ทั้งด้านการศึกษาและคุณภาพชีวิต โดยนายรักษ์ชาติกล่าวว่า พรรค พช.ให้ความสำคัญการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ การศึกษาและแรงงานอย่างมาก ในฐานะคนที่เคยทำงานภาคประชาสังคมด้านนี้มาก่อน เข้าใจและสนับสนุนสิ่งที่มูลนิธิเอ็มพาวเวอร์กำลังผลักดัน นอกจากนโยบายส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศเช่น การเพิ่มสัดส่วนอุปกรณ์ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่หลากหลาย หรือการทำให้อุปกรณ์ให้ความสุขทางเพศหรือ sex toy ถูกกฎหมายแล้ว ยังมีข้อเสนอเพิ่มเติมยกเลิก พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณีปี 2539 ที่ล้าหลัง ควบคู่กับการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาโดยเฉพาะเรื่องเพศ ตั้งแต่ชั้นประถม-มหาวิทยาลัย แก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 287 ว่าด้วยการครอบครองสื่อลามกอนาจาร ต้องทำควบคู่กันไป เรื่องใต้ดินต้องขึ้นมาบนดินและได้รับการจัดการอย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ยื่นศาล รธน.ฟันซ้ำ “ศักดิ์สยาม”

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ร่วมยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญพร้อมรายชื่อ ส.ส. 1 ใน 10 สืบเนื่องนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกรณีคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนหจก.บุรีเจริญคอนเสตรัคชั่น นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า มายื่นคำร้องกรณี ส.ส. ส.ว. กมธ. ห้ามกระทำการที่ทำให้ตนเองได้ประโยชน์จากงบประมาณโดยตรงหรืออ้อม ผนวกกับความเป็นเจ้าของธุรกิจอยู่และรับสัมปทานของกระทรวงคมนาคม เป็นเหตุผลให้ศาลฯเห็นว่านายศักดิ์สยามยังถือหุ้นบริษัทที่ได้รับสัมปทานจากกระทรวงคมนาคม คือการได้รับผลประโยชน์จากงบฯที่ตนเองดูแล

ซัดขัด รธน.-เรียกคืนเงินกว่า 4 พันล้าน

พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นรองประธาน กมธ.งบฯปี 64 และโหวตรับงบฯ พบมีบางส่วนทำให้ได้ไป ซึ่งงบฯที่ท่านพิจารณารวมกว่า 372 สัญญาสัญญา หนึ่งคือ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ราว 38 สัญญา เป็นเงิน 600 ล้านบาท และมีสัญญาอื่นกับกลุ่มบริษัทที่บริจาคเงินให้กับพรรคภท.รวม 300 สัญญา เป็นเงินประมาณ 4,000 ล้านบาท จึงเรียกร้อง 2 ข้อคือ 1.ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการกระทำของนายศักดิ์สยามขัดรัฐธรรมนูญปราบโกงหรือไม่ 2.ขอให้ศาลฯเรียกเงินส่วนดังกล่าวคืน 4,000 กว่าล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย

“ชูวิทย์” บุก กกต.ยื่นยุบพรรค ภท.

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงาน กกต. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ยื่นคำร้องให้ กกต.ตรวจสอบการรับบริจาคเงินของพรรค ภท.เข้าข่ายขัดมาตรา 72 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่ และให้ กกต.พิจารณายื่นคำร้องต่อศาลรัฐ ธรรมนูญเพื่อยุบ ภท. นายชูวิทย์ตั้งโต๊ะแถลงว่ามาตรา 72 ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรครับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย การที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ โอนหุ้นใน หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่นประมาณ 190 ล้าน ให้นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แทน ไม่ได้โอนหุ้นจริง ตรวจสอบนายศุภวัฒน์ไม่มีรายได้ ไม่มีการยื่นเสียภาษี ถือเป็นการโอนหุ้นให้นอมินีพนักงานในบริษัทถือแทน นายศักดิ์สยามยังเป็นเจ้าของ บริษัทได้รับงานจากกระทรวงคมนาคม จึงเป็นการรู้อยู่แล้ว แต่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ให้ได้รับงานกว่า 104 โครงการ 1,500 ล้านบาท มอบอำนาจให้นอมินีนำเงินที่ได้บริจาคให้ ภท.หลายครั้งเงินนั้นจึงได้มาโดยมิชอบ นายศักดิ์สยามในฐานะเลขาฯภท. รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าเงินมาจากไหน นายศักดิ์สยามและ ภท.รับเงินบริจาค หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่นและนายนายศุภวัฒน์ จึงเข้ามาตรา 72 เปรียบเหมือนต้นไม้พิษ ผลไม้ก็เป็นพิษ

หอบ 8 หลักฐานมัด-เดินสายตัดแต้ม

นายชูวิทย์กล่าวอีกว่า หลักฐานที่ยื่นให้ กกต.มี 8 รายการ ประกอบด้วย บัญชีรายชื่อผู้บริจาคให้ ภท. สำเนาคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญสำเนาการแจ้งบัญชีทรัพย์สินของนายศักดิ์สยาม งบการเงินของบริษัทศิลาชัย บุรีรัมย์ (1991) งบการเงินของ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น สำเนาโอนหุ้นของนายศักดิ์สยาม สัญญากรมทางหลวงและรายชื่อบริษัทที่มีสถานะร้าง อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจว่าหลักฐานที่ยื่นต่อ กกต.วันนี้สามารถยุบพรรคภูมิใจไทยได้ 100% จึงยื่นคำร้องต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองให้ตรวจสอบและให้ กกต.ยื่นคำร้องยุบ ภท. ควรต้องดำเนินการแล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้ง หากไม่ทันก่อนเลือกตั้งหรือ กกต.ยกคำร้อง จะเดินหน้าต่อในฐานะประชาชนรณรงค์ต่อสู้ให้ประชาชนไม่เลือก ภท. เชื่อว่าทำลายคะแนน ภท.ได้เป็นกอบเป็นกำ จะต่อสู้สนุกพรรค ภท.จิ้มไปตรงไหนก็มีแต่หนอน

เอาเทปกาวปิดปากท้าฟ้องทั่วประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ชี้แจงกรณีพรรค ภท.กล่าวหาทำตัวเป็นศาลเตี้ยว่า เป็นคนเดียวจะเป็นศาลเตี้ยได้อย่างไร จะให้ผู้สมัคร ส.ส. 400 เขตฟ้อง กลั่นแกล้งปิดปากตนเท่านั้น เมื่อพูดถึงตรงนี้นายชูวิทย์นำเทปกาวสีดำมาปิดปาก พร้อมล้างมือโชว์ตอบโต้กรณีพรรค ภท.ระบุมือสกปรกรับงานมาทำลายพรรค ภท.

กกต.ดิ้นถกด่วนยันยึดตามกฎหมาย

เมื่อเวลา 15.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายปกรณ์ มหรรณพ กกต. แถลงชี้แจงข้อท้วงติงจากพรรคการเมืองเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งเลือกตั้งใหม่ในพื้นที่ กทม.ว่า กกต.จะประชุมด่วน ข้อท้วงติงของนักการเมืองอาจไม่ตรงกับข้อเท็จจริง กกต.กทม.ยึดหลักตามรัฐธรรมนูญและ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.เคร่งครัด กฎหมายในมาตรา 27 ระบุให้แบ่งเขตแต่ละเขตติดต่อกัน และต้องจัดให้มีราษฎรแต่ละเขตใกล้เคียงกันมาจากรัฐธรรมนูญมาตรา 86 (5) บัญญัติให้เราปฏิบัติ สิ่งที่เป็นปัญหาคือ กทม.ไม่สามารถกำหนดเขตปกครองเดียวให้เป็นเขตเลือกตั้งได้ เพราะค่าเฉลี่ยประชากรของกรุงเทพฯใน 1 เขตเลือกตั้งมีประมาณ 160,000 คน แต่เช่นเขตคลองสามวา มีประมาณ 200,000 คน เขตบางเขน เขตประเวศ เขตลาดกระบัง 180,000 คน เขตสายไหม กว่า 200,000 คน เขตหนองจอก เขตบางขุนเทียน กว่า 180,000 คน เขตบางแค 190,000 คน ไม่สามารถแบ่งเป็นเขตเดียวของการเลือกตั้งได้ มาตรา 21 (2) ให้แบ่งเขตตามสภาพชุมชนที่มีราษฎรติดต่อกันประจำ ลักษณะเป็นเขตชุมชนเดียวกัน โดยต้องให้จำนวนประชากรใกล้เคียงกันมากที่สุด กฎหมายไม่ได้กำหนดว่าจะต้องมีเขตหลัก เขต 8 และ 9 มองแล้วมีเขตหลัก จำเป็นต้องเอาแขวงใกล้เคียงมารวมกัน ให้จำนวนประชากรใกล้เคียงกันมากที่สุด

“แสวง” เตือนนักร้องระวังยื่นยุบเท็จ

นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ให้สัมภาษณ์กรณีมีความเห็นคำร้องยุบพรรค 61 เรื่องไม่มีมูล สั่งยุติเรื่องว่า กฎหมายเขียนไว้ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ใช่นายทะเบียนคิดเอาเอง หลายคำร้องมีการกระทำตามที่ร้องเกิดขึ้นจริงแต่การกระทำนั้นไม่ใช่เหตุแห่งการยุบพรรคการเมืองก็จะไม่รับไว้พิจารณา หรือสั่งยุติเรื่อง แต่อยากฝากว่าการมีส่วนร่วมตรวจสอบพรรคการเมืองดีมาก แต่ต้องคำนึงถึงมาตรา 101 ที่กำหนดให้ความคุ้มครองพรรคการเมือง ผู้ใดแจ้งหรือกล่าวหาพรรคการเมือง หรือบุคคลใดกระทำความผิดตาม พ.ร.ป.พรรคการเมืองต่อ กกต.หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยรู้อยู่ว่าเป็นความเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง แต่เป็นพรรคการเมืองต้องได้ปรับ โทษ 2 เท่า ให้ กกต.ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรค

“นิกร” วอน กกต.แจงค่าใช้จ่ายให้ชัด

นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ผอ.พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณี กกต.ออกประกาศเรื่องจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขต จำนวนเขตเลือกตั้ง และท้องที่ที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้งว่า พรรคการเมืองพร้อมอยู่แล้ว อยากขอให้ กกต.ประกาศความชัดเจนในเรื่องค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเพื่อคัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจกรรมของพรรคหรือค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง กกต.ต้องทำให้เกิดความชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา โดยมองว่าส่วนนี้ควรอยู่ในค่าดำเนินกิจกรรมพรรค ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายในค่าหาเสียงเลือกตั้ง เพราะจะทำให้ค่าหาเสียงตามที่ กกต.กำหนด 44 ล้านบาทไม่พอ