“บิ๊กตู่” ยิ้มร่าออก รพ.พระมงกุฎ หลัง แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ อาการมือขวาอักเสบดีขึ้น แต่ยังต้องใส่เฝือกอ่อนอยู่ พร้อมนั่งหัวโต๊ะประชุม ครม. “เศรษฐา” นำหลักโปร่งใสของบริษัทมาบริหารประเทศ ขจัดคอร์รัปชัน ลั่นใครผิดฟันไม่เลี้ยง ใช้เคพีไอคัดกรอง รมต. รับยังอ่อนซ้อมการเมือง ประเดิมลุย “กรุงเก่า-พิจิตร” “ชลน่าน” รอ “สมศักดิ์” ให้ความชัดเจน “โรม” ลั่นถึงเวลาสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จ่อขย่ม “ศักดิ์สยาม” ต่อ ภท.โวยพรรคใหญ่ก๊อบปี้นโยบาย “ลุงป้อม” ทำบุญวัดชนะสงคราม ปชป.โชว์ตัว 33 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. “องอาจ” ย้ำคัดมาเน้นๆ “จุรินทร์” ประกาศแก้ รธน.ทั้งฉบับ ไม่แตะหมวด 1-2 “นิพนธ์” ออกตัว “ชัยชนะ” ไม่เจตนา สธ.ชงเข้า ครม.ตกเขียว อสม. อัดฉีดหัวละ 2 พัน

ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ต้องเข้าพักรักษาตัวใน รพ.พระมงกุฎเกล้ามา 3 วัน 2 คืน จากอาการมือขวาบวมอักเสบรุนแรง จนทีมแพทย์ผู้รักษาต้องผ่าเอาน้ำเหลืองที่ติดเชื้อออก ล่าสุดแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว เนื่องจากอาการดีขึ้นทุกอย่าง

...

“บิ๊กฉัตร” เยี่ยม “บิ๊กตู่” เพื่อนรัก

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 6 มี.ค. ที่อาคารสมเด็จย่า 90 ปี โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ส.ว. อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ เพื่อนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 (ตท.12) เข้าเยี่ยม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม หลังต้องนอนพักรักษาจากอาการมือขวาอักเสบรุนแรง ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มาตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. โดยใช้เวลาเยี่ยมประมาณ 30 นาที ขณะที่สื่อมวลชนยังคงติดตามอาการของนายกฯ

อาการมือขวาอักเสบดีขึ้นแล้ว

ต่อมาเวลา 09.37 น. พล.ต.ธำรงโรจน์ เต็มอุดม ผอ.โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ฝากให้ลงมาแจ้งต่อสื่อมวลชนว่า ตอนเย็นถึงค่ำวันนี้จะเดินทางกลับแล้ว ส่วนอาการมือขวาอักเสบของนายกฯ ตอนนี้ดีทุกอย่าง เรียบร้อยดี ขณะนี้ได้ย้ายมาอยู่ห้องพักฟื้นปกติแล้ว แต่ยังต้องงดเยี่ยมอยู่ และ พล.อ.ประยุทธ์ฝากขอบคุณประชาชนทุกคนที่เป็นห่วงด้วย

“บิ๊กตู่” ยิ้มร่าหมอให้กลับบ้าน

กระทั่งเวลา 17.10 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้ออกจาก รพ.พระมงกุฎเกล้า หลังแพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน ทันทีที่ออกมาจากลิฟต์ พล.อ.ประยุทธ์ยิ้มและโบกมือทักทายสื่อมวลชน โดยมี พล.ต.ธำรงโรจน์ เต็มอุดม ผอ.รพ.พระมงกุฎเกล้า และคณะแพทย์ลงมาส่ง เป็นที่สังเกตว่าที่มือขวายังคงใส่เฝือกอ่อนอยู่ แต่อาการบวมลดลงไปมากแล้ว ขณะที่หลังมือซ้ายยังเสียบเข็มสำหรับให้ยาไว้อยู่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงอาการมือขวาอักเสบว่า ดีขึ้นแล้ว ขอบคุณทุกคน ทราบว่ามาเฝ้ากันทุกวัน ต้องกลับไปพักฟื้น หมอและพยาบาลดูแลดีมาก พรุ่งนี้เจอกัน

พร้อมนั่งหัวโต๊ะประชุม ครม.

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่ 7 มี.ค. จะไปเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์พยักหน้ารับพร้อมตอบว่า ไปๆต้องไปทำงาน ยังมีงานอยู่ เมื่อถามว่าแพทย์ได้แจ้งอาการติดเชื้อว่าเป็นเพราะอะไร พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่เป็นอะไร หมอแถลงไปแล้ว เมื่อถามว่าไม่มีอาการอย่างอื่นแทรกซ้อน พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ต้องดูแลนิดหน่อย หลังขึ้นรถเตรียมจะกลับได้ลดกระจกลงมาโบกมือลานักข่าวและทำท่าไอเลิฟยูด้วยมือซ้าย

“ชลน่าน” อ้อมแอ้มแคนดิเดตฯ

วันเดียวกัน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคว่า กำลังประมวลและเตรียมเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกฯทั้ง 3 คน ต่อคณะกรรมการบริหารพรรค เนื่องจากเรามีรายชื่อแคนดิเดตนายกมากกว่า 3 รายชื่อ จึงอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาว่าจะเรียงลำดับอย่างไร คาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาใกล้ช่วงจะมีการยุบสภา เมื่อถามว่าที่แน่ๆ มีชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจพรรคใช่หรือไม่ นพ.ชลน่านตอบว่า ฟังเสียงจากประชาชน แนวโน้มจะเป็นเช่นนั้น

รอ “สมศักดิ์” ให้ความชัดเจน

เมื่อถามว่าก่อนจะมีการยุบสภา จะมีบ้านใหญ่และบิ๊กเนม เปิดตัวเข้าพรรคเพิ่มหรือไม่ นพ.ชลน่านตอบว่า “เราจะเปิดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีการประกาศยุบสภา เมื่อถามว่ามีข่าวว่านายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ จะมาเข้าร่วมกับพรรค พท.ด้วย นพ.ชลน่านตอบว่า ต้องรอการตัดสินใจ แม้จะเป็นช่วงปิดสมัยประชุม แต่อายุสภาฯยังอยู่ ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงต่างๆจะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้า น่าจะเห็นทั้งหมด” เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่านายสมศักดิ์มีโอกาสมาร่วมงานกับพรรค พท. ใช่หรือไม่ นพ.ชลน่านตอบว่า ต้องรอฟังและรอดู คณะกรรมการบริหารพรรคไม่สามารถประกาศอะไรได้ เมื่อถามว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ทำให้พื้นที่เป้าหมายของพรรคลดลง ไปเพิ่มในพื้นที่ภาคใต้แทน นพ.ชลน่านตอบว่า ยอมรับว่าพื้นที่ที่เรามีความเข้มแข็ง อย่างพื้นที่ภาคเหนือโดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่และเชียงราย เกิดผลกระทบ และไปเพิ่มในพื้นที่ภาคใต้แทน แต่พอดูผลตอบรับพบว่าเรามีกระแสเพิ่มขึ้นไม่ว่าภาคไหนก็ตาม ฉะนั้นเรามีโอกาสอยู่

ไร้ปัญหาเรื่องจัดตัวผู้สมัคร

เมื่อถามว่าจะมีปัญหาเรื่องการวางตัวผู้สมัครหรือไม่ นพ.ชลน่านตอบว่า จริงๆในพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลง เราได้จัดวางตัวผู้สมัครไว้ครบหมดแล้ว เหลือแค่ขั้นตอนการรับฟังความเห็น และประกาศชื่อกับคณะกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น หากมีผลกระทบเราก็จะไปดูว่าผู้สมัครและว่าที่ผู้สมัครของเรา มีความรู้ ความสามารถที่เหมาะสมทุกเขต หากพื้นที่ไหนหายไป ไม่มีเขตเป็นของตัวเอง ส่วนใหญ่เราจะให้ขึ้นบัญชีรายชื่อ

“เศรษฐา” ผุดเคพีไอเฟ้น รมต.

นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงการถูกวางตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ที่ควรนำหลักการบริหารของซีอีโอแสนสิริ ที่เน้นความโปร่งใส มาปรับใช้บริหารประเทศให้ทุกนโยบายโปร่งใสว่า ปรัชญาความคิดคอร์รัปชันเรารับไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนตัวไม่เห็นด้วย ต้องขจัดออกไป โดยนำดิจิทัลเข้ามาช่วย ทั้งโครงการที่ต้องประมูล และอะไรอีกหลายอย่าง เชื่อว่าสามารถขจัดคอร์รัปชันได้ ถ้าเกิดเจอบุคคลที่ทำผิดก็ต้องฟัน เพราะมันกัดกร่อนสังคมไทยมานาน เราต้องดูเป็นพิเศษ เริ่มต้นดูจากนโยบายที่ออกมาต้องฉลาด รู้ว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ เมื่อถามถึงการใช้เคพีไอคัดกรองคนเข้าไปเป็นรัฐมนตรี ช่วยให้บริหารประเทศเป็นไปตามเป้า ควรนำเสนอต่อพรรคเพื่อไทยอย่างไร นายเศรษฐาตอบว่า ถูกต้อง ช่วยได้เยอะในการบริหาร ให้เป็นไปตามเคพีไอ ทั้งในกรอบเวลาที่ทำ และเป้าหมาย ถ้าทำไม่ได้ตามเคพีไอก็ต้องบริหารจัดการกันไป

ออกตัวอ่อนซ้อมทางการเมือง

เมื่อถามว่าถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าประสบการณ์ทางการเมืองยังอ่อนซ้อม นายเศรษฐายอมรับว่า ยังอ่อนซ้อมอยู่มาก แต่ก็ต้องเป็นตัวของตัวเอง เป็นแบบผสมผสาน เมื่อถามว่าประสบการณ์ทางการเมืองจะมากพอเป็นผู้นำประเทศ และทนแรงเสียดทานทางการเมืองได้หรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ขอให้ถึงวันนั้นก่อน “ผมเป็นคนรู้ตัว ทะลุไปถึงวันนั้นแล้ว ถ้าคิดว่าตัวเองไม่ไหว คิดว่าแคนดิเดตนายกฯอีก 2 คนมีความเหมาะสม มีความสามารถมากกว่า ผมเป็นลูกผู้ชายพอที่จะยอมรับได้ ถ้าเกิดกรรมการบริหารพรรคคนอื่นบอกว่าควรเป็นคนอื่น ไม่ต้องให้คนอื่นบอกหรอก ผมรู้ตัว ไม่ได้อยากมียศฐาบรรดาศักดิ์ เกิดทำไม่ได้จะไปทำไม ผมจะไปก็ต่อเมื่อคิดว่าผมทำได้”

ประเดิมเดินสาย “กรุงเก่า-พิจิตร”

เมื่อถามว่าจะช่วยพรรคเดินสายหาเสียงเฉพาะใน กทม. หรือไปทั่วประเทศ นายเศรษฐาตอบว่า ช่วงวันที่ 10-12 มี.ค. คือศุกร์-เสาร์-อาทิตย์นี้ จะไปอยู่ตามชุมชนต่างๆ ไปพบหอการค้า เกษตรกร ชาวบ้าน ผู้ใหญ่บ้าน ไปดูว่าเขาต้องการอะไรก่อนจะขึ้นเวทีปราศรัย เพราะอยู่ดีๆเป็นคนกรุงเทพฯ ให้ไปปราศรัยพิจิตร โดยไม่รู้เรื่องอะไรเลย มันอาจไม่เหมาะสม ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย อาจไปวันเสาร์-อาทิตย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐาจะประเดิมลงพื้นที่ต่างจังหวัดครั้งแรก ได้แก่ จ.พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี นครสวรรค์ พิษณุโลก และพิจิตร โดยจะบุกไปถึงท้องนาพูดคุยกับกลุ่มชาวนา บุกไปไร่คุยกับผู้ปลูกมันสำปะหลัง อ้อย ข้าวฟ่าง เพื่อเก็บข้อมูลมากำหนดนโยบายเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกร 20 ล้านคน ตามนโยบายของพรรคเพื่อไทย

ก.ก.เปิดตัว “ศุภณัฐ” ลงจตุจักร

เวลา 10.30 น.ที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมแกนนำพรรค อาทิ นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ผู้ดูแลการเลือกตั้งสนาม กทม. และนายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรค ร่วมแถลงเปิดตัว นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตจตุจักร ที่มาลงแทนนายคริส โปตระนันทน์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ นายพิจารณ์กล่าวว่า ยังอยู่ในช่วงที่ กกต.พิจารณาการแบ่งเขตเลือกตั้ง แต่ไม่ว่าการแบ่งเขตจะออกมาในรูปแบบใด เรายืนยันจะสู้ในทุกสนาม เพราะเชื่อในการเมืองที่ไม่ได้อาศัยหัวคะแนนหรือระบบอุปถัมภ์ เพื่อสร้างบุญคุณกับพี่น้องประชาชน ตลอด 4 ปี ไม่ว่าจะในสภาฯ นอกสภาฯ จะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือ ส.ส.เขต เราพิสูจน์แล้วในสภาฯ หากได้มีอำนาจบริหารและเป็นรัฐบาล ก็พร้อมเปลี่ยนแปลงประเทศไทยในอีก 4 ปี ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะใช้กลเม็ดใดในการแบ่งเขต เชื่อว่าพี่น้องชาว กทม.จะไว้วางใจ และเชื่อว่าจะแลนด์สไลด์ใน กทม.ได้สำเร็จ

นายศุภณัฐกล่าวว่า เหตุผลที่เลือกมาทำงานกับ ก.ก. เพราะ 4 ปีที่ผ่านมา พรรคพิสูจน์บทบาทในสภาฯได้อย่างเด่นชัดที่สุด ว่ากำลังต่อสู้กับระบอบอุปถัมภ์และทุนผูกขาดสายลมแห่งเปลี่ยนแปลงใหญ่

นายรังสิมันต์ โรมกล่าวว่า การลงพื้นที่หาเสียงในภาคอีสานตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับดีมากจากประชาชน พี่น้องชาวอีสานเชื่อว่า ก.ก.จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยได้อย่างแท้จริง และเชื่อว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก.จะเป็นนายกฯแห่งความเปลี่ยนแปลง นอกจากการเปิดตัวแกนนำอดีตพรรคอนาคตใหม่อย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช เป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรคแล้ว ในพื้นที่อื่นๆก็มีแกนนำพรรคลงพื้นที่เช่นกัน เช่น ตนลงพื้นที่ภาคใต้ที่นครศรีธรรมราช และชุมพร มีประชาชนภาคใต้สะท้อนว่าต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง ที่ผ่านมาเลือกกี่ครั้งก็ได้ผลเหมือนเดิม รู้สึกเบื่อหน่ายการเมืองแบบอดีต เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงคงไม่พัดไปที่ภาคอีสานเท่านั้น แต่ที่ภาคใต้ก็จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วย วันที่ 11 มี.ค.นี้ นายพิธาจะไปเปิดตัวนโยบายสุขภาพ ที่ จ.นครศรี ธรรมราช กระบี่ และภูเก็ต และวันที่ 12 มี.ค. เปิดตัวนโยบายและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ครบทั้ง 33 เขต

จี้ ผบ.ตร.สางคดี “ทนายเคน”

นายรังสิมันต์ยังกล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของนายติรานนท์ เวียงธรรม หรือทนายเคน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แพร่ ที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตขณะเดินทางกลับจากหาเสียงในพื้นที่ว่า จนถึงวันนี้ตำรวจยังไม่สามารถเรียกผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนได้ ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเจตนาหรือเป็นอุบัติเหตุ ที่แพร่เคยเกิดเหตุจงใจสกัดคู่แข่งทางการเมืองมาแล้วหลายครั้ง ทางพรรคจึงยังไม่ตัดข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับแรงจูงใจทางการเมืองออกไป และหวังว่า ผบ.ตร. และตำรวจที่เกี่ยวข้องจะเร่งให้ความกระจ่าง เพื่อให้มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ จะบริสุทธิ์ ยุติธรรม และไม่มีการใช้วิธีนอกกฎหมายกลั่นแกล้งกัน

ฝ่ายค้านขย่ม “ศักดิ์สยาม” ต่อ

นายรังสิมันต์กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม หยุดปฏิบัติหน้าที่ว่า ก.ก.และพรรคร่วมฝ่ายค้านมองเห็นร่วมกัน ถึงความเป็นไปได้ในการยื่นร้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 เนื่องจากกรณีนี้ไม่ได้มีเพียงประเด็นนอมินี แต่รวมถึงบทบาทของนายศักดิ์สยามที่เข้าไปแทรกแซงงบกระทรวงคมนาคม ทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงเตรียมคำร้องยื่นต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ โดยจะเร่งดำเนินการให้ทันก่อนยุบสภาฯฝากไปยังผู้ทำหน้าที่รักษาการ รมว.คมนาคม ขณะนี้เราอยู่ในช่วงปลายสมัยรัฐบาล กำลังจะเลือกตั้งใหม่ เมื่อรัฐมนตรีถูกแขวน โครงการสำคัญโดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีส้ม ไม่ควรถูกผลักดันต่อ ควรรอให้เลือกตั้งและมีรัฐมนตรีใหม่มาทำหน้าที่ สิ่งที่ควรทำคือนำรายละเอียดการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่มีข้อครหา มาเปิดเผยเพื่อให้สังคมตัดสิน

“ประเดิมชัย” ขอเสียงคนกรุง

นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ปัญหาส่วนใหญ่ของประชาชนในเขตดินแดง เป็นเรื่องคุณภาพชีวิต ที่อยู่อาศัย และสวัสดิการต่างๆ พรรคยืนยันว่าจะไม่ทอดทิ้ง จะมุ่งสร้างโอกาสให้ชาวดินแดง ตามหลักเพิ่มรายได้-ลดรายจ่าย-ให้โอกาส สนับสนุนการค้าขายตลอด 24 ชม. ทำให้เขตดินแดงเป็นแหล่งเศรษฐกิจ และเตรียมเสนอการเคหะแห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทบทวนโครงการสร้างคอนโดมิเนียมดินแดงแห่งใหม่ โดยเฉพาะขนาดห้องที่แออัดคับแคบไม่มีพื้นที่ใช้สอยขอให้มั่นใจว่าจะทำงานให้พี่น้องประชาชน พูดแล้วทำ

โวยพรรคใหญ่ก๊อบปี้นโยบาย

ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมข้อความระบุว่า อย่าลักไก่ก๊อบปี้นโยบายพักหนี้ 3 ปี นโยบายเราชัดเจน นำเสนอมานานหลายเดือน ทุกนโยบายผ่านการคิดวิเคราะห์จากทีมวิชาการ แต่มีบางพรรคลักไก่ก๊อบปี้นโยบายพักหนี้ 3 ปี ไม่เกิน 1 ล้านบาท หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย ที่เราคิดไปใช้หาเสียง ทั้งที่นโยบายนี้ไม่เคยอยู่ในแผ่นป้ายหาเสียงของเขา แปลว่ากำลังเคลมนโยบายของเราไปใช้ แบบหลบๆ ซ่อนๆ ต้องขอบคุณผู้หวังดีที่ส่งคลิปภาพมาให้ดู จำเป็นต้องปกป้องความพยายามของทีมงานพรรคภูมิใจไทย ที่อดตาหลับขับตานอนคิดนโยบายออกมาให้ประชาชนเลือกเรา ไม่ได้เสนอนโยบายมาให้บางคนบางพรรคเคลมไปใช้กันแบบดื้อๆ

“ลุงป้อม” ทำบุญวัดชนะสงคราม

ช่วงเช้าที่วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กทม. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร่วมพิธีทำบุญเนื่องในวันมาฆบูชา โดยนำพวงมาลัยไหว้ศาลสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท และเข้ากราบสักการะพระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์ พระประธานประจำพระอุโบสถ วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร จากนั้นถวายสังฆทานแก่ท่านเจ้าคุณ พระพิศาลกิจจาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชนะสงครามฯ หลังเสร็จภารกิจทำบุญ พล.อ.ประวิตรเดินทางไปที่ร้านปาท่องโก๋คาเฟ่ ย่านบางลำพู ซึ่งเป็นร้านดัง พร้อมสั่งข้าวหมูแดงหมูกรอบ และเกี๊ยวน้ำมานั่งทาน ทั้งนี้ระหว่างทำบุญมีชาวบ้านมาขอถ่ายรูป ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่แถวนั้น อวยพรและเชียร์ให้ พล.อ.ประวิตรได้เป็นนายกฯคนที่ 30

ตารางลุยงานอยุธยา-สระบุรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 8 มี.ค. พล.อ.ประวิตร และแกนนำพรรค พปชร. มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี เพื่อติดตามแผนบรรเทาอุทกภัยพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง และแผนงานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่วัดสะตือพุทธไสยาสน์ ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จากนั้นจะไปตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำ และพบปะประชาชน ที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี

ปชป.โชว์ตัว 33 ผู้สมัคร กทม.

วันเดียวกัน เวลา 15.00 น.ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมแกนนำพรรค อาทิ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค นายสุชัชวีร์สุวรรณ สวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. ร่วมกันแถลงเปิดตัว 33 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. ภายใต้ชื่องาน “ประชาธิปัตย์=ประชาชน DEM FOR ALL” มีประชาชนเข้าร่วมคึกคัก โดยนายองอาจให้ว่าที่ผู้สมัครทั้ง 33 คน ขึ้นเวทีแสดงเจตจำนงมุ่งมั่นเพื่อรับใช้ชาว กทม. อาทิ นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ ลงเขตพระนคร-ป้อมปราบฯ-สัมพันธวงศ์-ดุสิต น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ เขตปทุมวัน-สาทร-บางรัก นายธนา ชีรวินิจ เขตดินแดง-ห้วยขวาง นายแทนคุณ จิตต์อิสระ (อี้) เขตลาดพร้าว พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ (แต้ม) เขตหลักสี่-จตุจักร นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ เขตบางนา-พระโขนง นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ เขตธนบุรี-คลองสาน นายสากล ม่วงศิริ เขตบางขุนเทียน นายชนินทร์ รุ่งแสง เขตบางพลัด-บางกอกน้อย เป็นต้น

“องอาจ” ประกาศคัดมาเน้นๆ

นายองอาจกล่าวว่า วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ของ ปชป.ใน กทม. เปิดตัวผู้สมัคร 33 คน 33 เขต เดินหน้าสู่ชัยชนะ ทุกคนมีความรู้ความสามารถมีประสบการณ์ที่พรรคพิจารณามาอย่างถูกต้องเหมาะสมมาเป็นผู้แทนของประชาชนทั้ง กทม. มีอุดมการณ์ตามแนวทางของพรรคในทุกอณูของร่างกาย ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยึดมั่นในความซื่อสัตย์ สุจริต และที่สำคัญคือทุกคนยึดมั่นในหัวใจที่รับใช้ประชาชน เพราะรากฐานของ ปชป.คือประชาชน

นายสุชัชวีร์กล่าวว่า ประชาธิปัตย์ไม่หนีไปไหน เราอยู่ร่วมกันมา 77 ปี ยังคงอยู่ที่นี่กับพวกเราตลอดไป มีความมุ่งมั่น มีพลัง อยากทำงานเพื่อ กทม. และบ้านเมืองขอประชาชนให้โอกาส 33 เขต 33 คน

“จุรินทร์” ประกาศแก้ รธน.ทั้งฉบับ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์กล่าวว่า ประชาธิปัตย์กำลังเปลี่ยนอย่างมีวุฒิภาวะ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยคิดเปลี่ยนคืออุดมการณ์ ด้วยจุดยืน 3 ข้อ คือ 1.มุ่งมั่นเป็นสถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็ง ยั่งยืนต่อไปไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ 2.เดินหน้าพาประเทศไปสู่ประชาธิปไตย 3 เสาหลัก ยึดมั่นในระบอบประชาธิป ไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สนับสนุนให้แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับโดยไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 ที่ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ยกเลิกมาตรา 112 เดินหน้าประชาธิปไตยสุจริต และเป็นประชาธิปไตยท้องอิ่ม 3.ไม่เอาธนกิจการเมือง ไม่เอาการเมืองที่ใช้เงินประมูลตัว ส.ส.

“นิพนธ์” เชื่อ “ชัยชนะ” ไม่เจตนา

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปฏิเสธข่าวลือว่ากรรมการบริหารพรรค ไม่พอใจและกดดันนายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช ไม่ให้ลงสมัคร ส.ส.เขตในการเลือกตั้งที่จะถึงว่าไม่เป็นความจริง กรณีปราศรัยที่ จ.พัทลุง พาดพิงด้อยค่ามหาวิทยาลัยทักษิณนั้น นายชัยชนะได้ออกมาขอโทษแล้วคิดว่าเจ้าตัวไม่ได้มีเจตนาที่จะด้อยค่าสถาบันการศึกษา เพียงแต่ยกตัวอย่างให้เห็นถึงความพร้อมของผู้สมัครที่ต้องการนำความรู้ต่างๆมาพัฒนาบ้านเกิดให้เจริญรุ่งเรืองเท่านั้น นายชัยชนะนั้นถือเป็นกำลังสำคัญในการสู้ศึกเลือกตั้งในพื้นที่นครศรีธรรมราช เป็นบุคคลที่ดูแลปัญหาทุกข์ สุขของพี่น้องชาวนครศรีฯมาตลอด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เชื่อมั่นว่าเจ้าตัวจะนำไปเป็นบทเรียนแก้ไขให้มีความรอบคอบมากขึ้น ทราบว่าขณะนี้มีบางพรรคพยายามจะทำให้เรื่องนี้เป็นประเด็นทางการเมือง

“สุดารัตน์” พบคณะทูตหญิง 7 ปท.

น.ส.ธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ได้รับเชิญไปร่วมแบ่งปันประสบการณ์และแลกเปลี่ยนในฐานะนักการเมืองหญิงชั้นนำของไทย เนื่องในวันสตรีสากล วันที่ 8 มี.ค. ณ ที่พำนักของนางซาราห์ เทย์เลอร์ เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย พูดคุยมุมมองการส่งเสริมนโยบายการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในพรรคการเมือง โดยเอกอัครราชทูตและอุปทูตหญิง 7 ประเทศ เข้าร่วม ได้แก่ นางซาราห์ เทย์เลอร์ น.ส.แอนเจลา เจน แม็กดอนัลด์ เอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลีย น.ส.มุนา อับบาว มะฮ์มูด รอฎี เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่ง ราชอาณาจักรบาห์เรน นางซีบีย์ เดอ การ์ทีเย ดีฟว์ เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเบลเยียม นางโกโลนเน อัปปุหามิลาเค จมินทะ อิโนกา โกโลนเน เอกอัคร ราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา นางอูล์ปาจ์นา ลามา อุปทูตแห่งสถานเอกอัครราชทูตโคโซโว นางโธเบกา ดลามินี อุปทูตแห่งสถานเอกอัคร ราชทูตสาธารณรัฐแอฟริกาใต้

ตกเขียว อสม. อัดฉีดหัวละ 2 พัน

อีกเรื่อง นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอเรื่องเพิ่มค่าป่วยการให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เพิ่มจาก 1,000 บาท เป็น 2,000 บาท เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 7 มี.ค.นี้ และยังเสนอขอเพิ่มจำนวน อสม. บัญชี 2 ที่สมัครเข้ามาใหม่ประมาณ 35,000 คน แต่ไม่ได้รับค่าตอบแทน เนื่องจากติดกรอบจำนวน อสม.ที่อนุมัติให้ได้ค่าตอบแทนเพียง 1,050,000 คน หาก ครม. เห็นชอบ จะสามารถจ่ายค่าป่วยการอัตรา 2,000 บาท ได้ในปีงบประมาณ 2567 หรือต้น ต.ค.2566 เงินนี้ครอบคลุม อสม.ทุกคน เมื่อถามว่าจะถูกมองเป็นประชานิยมหรือไม่ นายสาธิตตอบว่า เป็นนโยบายที่พูดกันมานาน เรื่องนี้ไม่ได้เพิ่งมาทำ แต่ถ้าจะมองว่าเป็นการหาเสียงหรือไม่ ถ้าอะไรที่ทำแล้วประชาชนได้ประโยชน์ก็เป็นเรื่องปกติทางการเมือง แต่เราไม่ได้เสนออะไรที่เป็นภาระงบฯมาก