ระยะนี้มีคดีที่ข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่รัฐถูกกล่าวหาทุจริตต่อหน้าที่มากมายหลายคดี มีตั้งแต่เจ้าหน้าที่ระดับล่างขององค์การบริหารส่วนตำบลถูก กล่าวหายักยอกเงิน อบต.จนถึงระดับอธิบดี เช่น อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ที่ถูกกล่าวหาเรียกรับส่วยจากข้าราชการ ผู้ใต้บังคับบัญชา พูดง่ายๆก็คือการซื้อขายตำแหน่ง
หลังจากที่เป็นข่าวโด่งดังอยู่หลายวัน ในที่สุดคณะผู้ตรวจสอบก็ระบุข้อหา กระทำผิด ป.อาญา มาตรา 149 ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต และยังโดนความผิดมาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต โทษจำคุก 1 ถึง 10ปี
ยังมีกรณีที่รัฐมนตรียุติธรรมสั่งย้ายฟ้าผ่า สลับตำแหน่งให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ไปรักษาการ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หลังจากเกิดเรื่องอื้อฉาว เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ 5 นาย พร้อมด้วยตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ 191 อีก 9 นาย ทหาร 1 นาย ถูกกล่าวหารีดเงินจากชาวจีน 9.5 ล้านบาท เพื่อให้หลบหนี
งานชิ้นแรกที่ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ที่ถูกย้ายไปรักษาการอธิบดีกรมดีเอสไอ ได้แก่ การออกคำสั่งยุบชุดปฏิบัติการด้านข่าว ที่มีเจ้าหน้าที่ 5 คน ถูกกล่าวหาร่วมรีดทรัพย์ต่างชาติ เหตุผลที่สั่งยกเลิกชุดปฏิบัติการ เพื่อไม่ให้มีข้อกล่าวหาว่าเป็นชุดที่ตั้งขึ้นมา เพื่อเรียกรับผลประโยชน์ กลายเป็นชุดเฉพาะกิจรีดทรัพย์
แต่คดีที่โด่งดังที่สุด ยืดเยื้อที่สุดและกระทบต่อเกียรติภูมิของประเทศไทยมากที่สุด คือคดีนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ “ตู้ห่าว” ที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องนายตู้ห่าวพร้อมกับพวกรวม 41 ราย ใน 9 ข้อหาหนัก รวมทั้งข้อหาร่วมกันค้ายาเสพติด ความผิดฐานฟอกเงิน เป็นอั้งยี่ มีส่วนรวมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
...
แม้ผู้ต้องหาทั้ง 41 ราย จะโดนข้อหาหนัก เช่น ข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดที่มีอัตราโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต แต่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้ขุดคุ้ยและผลักดันคดีมาโดยตลอดยังไม่มั่นใจ ล่าสุด นายชูวิทย์แฉว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐอยู่เบื้องหลังขบวนการทำลายพยานหลักฐาน เสนอผลประโยชน์ให้พยานกลับคำ หรือหลบหนี
เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพล อาจทำให้พยานเสียหายหรือเปลี่ยนแปลง หรือหายตัวไป โดยไม่ต้องไปให้การต่อศาล ถ้าทำได้จริงตามที่นายชูวิทย์กังวลต้องถือเป็นเรื่องที่น่าอนาถ ปล่อยให้ต่างด้าวครอบงำเหนือเจ้าหน้าที่กระบวนการ ยุติธรรมไทย กฎหมายไทยใช้บังคับไม่ได้ คนไทยที่ไม่มีเส้นสาย ไม่มีอิทธิพลจะพึ่งใคร.