รักษาการนายกฯ “ป้อม” เครื่องแรงฟิตต่อเนื่อง 5 ก.ย.ลงลุยกระบี่ หูทวนลมไม่สน ฟื้นภาพ 3 ป. ลงพื้นที่ “รมว.กลาโหมตู่” ไม่น้อยหน้าไปเยี่ยมทหารช่วยน้ำท่วมอยุธยา ผิดคิวไม่ทักกองเชียร์ ต้องรีบฝาก “ธนกร” แจงขอโทษแฟนคลับ มามุกแปลกคืนรถเบนซ์ประจำตำแหน่งนายกฯ “วิษณุ” ปัดแค่ไม่อยากใช้รถผู้นำ ไร้นัยฝ่าปม 8 ปี เผยเอกสาร “นายกฯตู่” ชี้แจงศาล รธน.ระบุวาระ 8 ปี ไม่เริ่มนับปี 57 “สุวัจน์” เปิดบ้านรับ “กรณ์” เข้า ชพน.จับมือลุยเลือกตั้ง ชู “ขุนคลังโลก” ฟื้นเศรษฐกิจประเทศ วางเป้าคัมแบ็กผงาดกลับมาเป็นพรรคใหญ่

การเมืองยังต้องจับตาความเคลื่อนไหวของพี่น้อง 2 ป. โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ยังฟิตต่อเนื่อง เตรียมบินลงใต้ติดตามงานบริหารจัดการน้ำ จ.กระบี่ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไปตรวจเยี่ยมกำลังพลของกองทัพที่ปฏิบัติการช่วยน้ำท่วม จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่เปิดกระจกรถทักทายกองเชียร์ ต้องรีบสื่อสารขอโทษประชาชนพัลวัน

...

“บิ๊กป้อม” ถกแก้ปัญหาที่ทำกิน

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 ก.ย. ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรามาการ์เดนส์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรักษาราชการแทนนายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบาย แนวทางและมาตรการการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน ครั้งที่ 2/2565 โดยที่ประชุมเห็นชอบ 3 เรื่อง 1.ร่างหลักเกณฑ์การจำแนกประเภทที่ดิน 2.การแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าไม้ถาวร และให้กรมป่าไม้กำหนดพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ป่าไม้ถาวร และ 3.ร่างแผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (2566-2570) ที่ประชุมยังมีมติรับทราบความคืบหน้าการจัดทำนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (2566-2580) จากนั้น พล.อ.ประวิตร เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ 21 หน่วยงานภายใต้โครงการบูรณาการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในพื้นที่คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ร่วมลงนาม โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยินดีและทราบความต้องการประชาชน โดยเฉพาะที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ไฟฟ้า น้ำประปา เส้นทางคมนาคม แหล่งน้ำ ฝากทุกหน่วยงานร่วมมือกันบูรณาการช่วยเหลือประชาชนให้อยู่ดีกินดีขึ้น

เด้งเชือกจัดทริป 3 ป. ลงพื้นที่พร้อมกัน

ภายหลังเสร็จพิธี ทันทีที่ พล.อ.ประวิตร เจอสื่อมวลชนที่ดักรอสัมภาษณ์ ได้ยิ้มทักทายนักข่าวก่อนทันทีว่า “ถามทุกวันไม่เบื่อกันบ้างเหรอ” เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีเพจเฟซบุ๊ก “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ General Prawit Wongsuwon” มีความเคลื่อนไหว โพสต์ผลงานรักษาการนายกฯยอดติดตามพุ่งขึ้น พล.อ.ประวิตร ตอบว่า “ไม่มี ไม่รู้” เมื่อถามว่า มีโอกาสเห็นภาพ 3 ป. ลงพื้นที่ร่วมกันหรือไม่หรือลงพื้นที่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ตอบคำถาม โดยเดินก้าวขึ้นรถไปทันที

ยังไม่เห็นโผทหาร-กฎหมายลูก

พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าของบัญชีการปรับย้ายนายทหารปลายปีว่า ยังมาไม่ถึงมือ เมื่อถามว่า ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองทั้ง 2 ฉบับ มีรายงานว่า นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้ส่งมายังรัฐบาลแล้ว พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ยังไม่เห็น น่าจะอยู่ที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ

เพจ FC อวยไม่เคยอยู่หลังลูกน้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ General Prawit Wong suwon” ที่จัดทำขึ้นโดย FC ของ พล.อ.ประวิตร มีผู้ติดตาม 7.3 พันคน โพสต์เคลื่อนไหวต่อเนื่องหลังจาก พล.อ.ประวิตรเข้ามารักษาราชการแทนนายกฯ ล่าสุดวันที่ 1 ก.ย.โพสต์ในหัวข้อ “พี่ป้อม ผู้รักแม่และชอบชิม รบหนักไม่เคยอยู่หลังลูกน้อง” เนื้อหาบางช่วงบางตอนมาจากหนังสือ “พี่ป้อม พี่ใหญ่ พี่ชายที่แสนดี” จัดทำขึ้นเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 76 ปี พร้อมภาพชุดของ พล.อ.ประวิตร ตั้งแต่เป็นนักเรียนเตรียมทหาร กระทั่งเข้ารับราชการทหารและนักการเมือง

5 ก.ย.ลงใต้ลุยบริหารน้ำกระบี่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 5 ก.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.กระบี่ โดยมีนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และคณะทำงาน ร่วมลงพื้นที่ เพื่อติดตามสถานการณ์ และบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคใต้ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำการเกษตร พบปะเกษตรกรปาล์มน้ำมัน พร้อมมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ ส.ป.ก. 4-01 และพบปะประชาชน ทั้งนี้ เป็นการลงพื้นที่เป็นจังหวัดที่ 2 ต่อจาก จ.ฉะเชิงเทรา ของ พล.อ.ประวิตรหลังเป็นรักษาราชการแทนนายกฯ และยังกำหนดการลงพื้นที่ต่อเนื่องอีกหลายจังหวัด

เซ็นย้อนหลังให้ “จุรีพร” พ้นเก้าอี้

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 219/2565 เรื่องให้ข้าราชการการเมืองออกจากตำแหน่ง เนื่องจากนางจุรีพร สินธุไพร ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แสดงเจตจำนง ขอลาออก โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.65 ทั้งนี้ นางจุรีพรเป็นน้องสาวของนายนิสิต สินธุไพร อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด เป็นน้าของจิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ย้ายเข้าพรรคพลังประชารัฐปลายปี 2561 โดยการชักชวนของนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ล่าสุดลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ร้อยเอ็ด ที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 ก.ย.ในนามอิสระ

“บิ๊กตู่” ไม่ทักทายกองเชียร์ยืนรอเก้อ

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น.ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปตรวจเยี่ยมกำลังพลของกองทัพที่ปฏิบัติภารกิจสนับสนุนช่วยเหลือน้ำท่วมที่วัดกษัตราราชวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีประชาชนกลุ่มปกป้องสถาบันและรักนายกประยุทธ์มายืนชูป้ายรอต้อนรับ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ทักทายทำให้เกิดกระแสในโซเชียลมีเดีย ระบุ น้อยใจที่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ทักทายด้วย โดยบอกว่า จะไม่มาต้อนรับอีกแล้ว

อ้างระบบ รปภ.ฝากขอโทษ ปชช.

ต่อมานายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณแฟนคลับ พล.อ.ประยุทธ์ที่มาให้กำลังใจ ได้เรียนเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ทราบแล้ว อยากชี้แจงว่า ที่ขบวนไม่สามารถแวะทักทายได้ เป็นไปตามระบบการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ที่สำคัญกระจกรถเปิดไม่ได้ทุกบาน พล.อ.ประยุทธ์ฝากขอโทษแฟนคลับทุกคนด้วย และยืนยันว่าเห็นหน้าแฟนคลับที่มาให้กำลังใจก็ดีใจแล้ว ขณะที่นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วย รมต.ประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ฝากขอโทษมายังประชาชนที่มารอต้อนรับ รถรักษาความปลอดภัยไม่สามารถเปิดกระจกได้ทุกบาน พล.อ.ประยุทธ์อยากเปิดกระจกลงมาโบกไม้โบกมือทักทายเช่นที่เคยทำมาตลอด แม้ไม่ได้เปิดกระจกรถแต่ได้เห็นประชาชนรอก็ปลื้มใจ และภูมิใจ ยิ้มในรถตลอดเวลา ไม่อยากให้นำไปวิพากษ์วิจารณ์เปรียบเทียบว่าไม่ได้มีบทบาทเช่นเดิมแล้วทำเช่นเดิมไม่ได้

หวั่นครหาคืนรถเบนซ์นายกฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลอีกเลย แต่เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ รมว.กลาโหม ที่กระทรวงกลาโหม ตั้งแต่ที่ 26 ส.ค.โดยรถเบนซ์ส่วนตัวทะเบียน ญค 1881 กรุงเทพมหานคร ล่าสุดพลขับได้นำรถเบนซ์ประจำตำแหน่งนายกฯ ทะเบียน 4 กต 29 กรุงเทพมหานคร พร้อมรถผู้ติดตามในขบวน 3 คัน รวม 4 คัน ส่งคืนให้กองสถานที่ยานพาหนะ และรักษาความปลอดภัย ทำเนียบรัฐบาล เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาเสียงวิจารณ์ ขัดข้อกฎหมายในการใช้ทรัพย์สินทางราชการ

“วิษณุ” แจงไร้นัย-แค่ไม่อยากใช้

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงคืนรถประจำตำแหน่งนายกฯว่า ไม่ต้องคืน เช่นเดียวกับบ้านพักที่ไม่ต้องคืน เหมือนกรณีเดินทางไปต่างประเทศที่ไม่ต้องคืนรถ แต่ในส่วนของเงินเดือนนั้นปกติ พล.อ.ประยุทธ์ รับเฉพาะเงินตำแหน่งนายกฯ กรณีนี้จะไม่ได้รับเงินเดือนในส่วนของนายกฯตามจำนวนวันที่ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และจะไปรับเงินเดือนในตำแหน่ง รมว.กลาโหม ตามจำนวนวันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ และถ้า พล.อ.ประยุทธ์กลับมาทำหน้าที่นายกฯ เงินเดือนนายกฯที่ถูกหักไปไม่ได้รับการชดเชยย้อนหลัง เมื่อถามว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ นำรถมาคืนเช่นนี้เป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า “ไม่มีอะไรแปลว่า ท่านไม่อยากใช้ ท่านใช้รถของกระทรวงกลาโหมได้”

“นายกฯตู่” ยัน 8 ปี ไม่เริ่มนับปี 57

นายวิษณุกล่าวถึงกรณีทีมกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์ ส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณีคำร้องให้วินิจฉัยการเป็นนายกฯ 8 ปีว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริงและยื่นไปเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ศาลให้เวลา 15 วัน แต่ฝ่ายกฎหมายนายกฯ ใช้เวลา 7 วัน เห็นเนื้อหาแล้วนำความลับมาเปิดเผยไม่ได้ ก็ไม่มีอะไร กล่าวหาว่าอะไรก็แก้ไปทั้งหมด ในความคิดเห็นของตนคิดว่า เนื้อหาฟังขึ้นตอบไปทุกประเด็นและตรงกับใจ ถ้าเปิดเผยออกมาคนที่เห็นจะรู้ว่าชี้แจงขึ้น เมื่อถามว่า คำชี้แจงระบุหรือไม่ว่าควรนับอายุ 8 ปีเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ นายวิษณุตอบว่า ไม่ชี้ชัด การชี้ชัดเป็นเรื่องของศาลแต่ชี้ชัดอย่างเดียวว่า ไม่ใช่วันที่ 24 ส.ค.57 แต่บอกไม่ถูกจะนับเมื่อไหร่ เมื่อถามว่า มั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถกลับมาเป็นนายกฯต่อได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่มั่นใจแต่ชี้แจงไปได้เท่านั้น ศาลรัฐธรรมนูญว่าอย่างไรแล้วแต่ศาล และไม่ทราบว่าจะใช้เวลาพิจารณาเท่าใด ศาลไม่มีหน้าที่ต้องมานั่งบอก ข้อสำคัญคือรอให้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการกฤษฎีกา และอดีตเลขานุการ กรธ. ยื่นคำให้การอยู่

เผย ก.ม.ลูกรอผ่านด่านศาล รธน.

นายวิษณุยังกล่าวถึงความคืบหน้าร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ว่า ขณะนี้นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ยังไม่ได้ส่งมาที่รัฐบาล ทราบว่ามีการยื่นคำร้องให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ หากประธานรัฐสภาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แล้วส่งมาที่รัฐบาลให้ผู้ที่จะค้านตามมาค้านที่รัฐบาลก็ได้ เพราะรัฐบาลต้องเก็บไว้ 5 วัน ก่อนทูลเกล้าฯ แต่ช่วง 3 วันที่อยู่ในมือประธานรัฐสภา มีการยื่นคำร้องให้ส่งศาลรัฐ ธรรมนูญ ดังนั้นระหว่างนี้ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเสร็จก่อนที่จะส่งมายังรัฐบาล ขั้นตอนต่างๆต้องหยุดนิ่ง ไม่นับวัน และศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่มีกรอบเวลาพิจารณา เมื่อถามว่า ประธานรัฐสภาแจ้งรัฐบาลหรือไม่กรณีที่มีผู้ร้องให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ นายวิษณุตอบว่า เห็นจากข่าว และทราบว่ามีลายเซ็นไม่ตรงกับต้นฉบับ 3 ชื่อ ให้เซ็นมาใหม่ ตนก็ทราบจากสื่อ เพราะตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมประธานรัฐสภาไม่ส่งเรื่องมาที่รัฐบาล

พท.จี้ รก.นายกฯแก้ค่าครองชีพ

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรค พท.เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่ามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ลำบากมาก เพราะค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าก๊าซหุงต้ม ราคาเนื้อไก่ ไข่ไก่ สูงขึ้น ค่าครองชีพที่สูงขึ้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รักษาราชการนายกฯจะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ พล.อ.ประวิตรต้องใช้โอกาสนี้สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และออกมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องประชาชน และควรสั่งให้กระทรวงพาณิชย์หามาตรการแก้ปัญหาค่าครองชีพให้ประชาชนโดยด่วน หากทำไม่ได้ก็ไม่ควรรักษาการนายกฯ เพราะ พล.อ.ประวิตรจะไม่รู้อย่างเดียวไม่ได้

จี้ รบ.ยกระดับระบบเตือนภัย

นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานด้านนโยบายปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการน้ำ พรรค พท.กล่าวว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รักษาราชการแทนนายกฯ บริหารประเทศมา 8 ปี ประเทศอยู่ในสภาพยิ่งแก้ น้ำยิ่งท่วม เป็นเพราะกรมทางหลวงเน้นสร้างถนนให้สูงหนีน้ำ กรมโยธาธิการและผังเมืองทำกำแพงป้องกันตลิ่งจนเกิดปัญหา ฝ่ายทหารขยันขุดลอกคลองเอาดินมาเสริมกั้นแปะสองข้างตลิ่งทำให้ตลิ่งแคบ สร้างแหล่งน้ำและระบบชลประทานไม่มีประสิทธิภาพ ต้องหยุดบริหารแบบสะเปะสะปะ ขณะที่การรายงานและเตือนภัยทำแบบต่างคนต่างพูด ควรปรับปรุงอย่างเร่งด่วน ต้องเพิ่มบทบาทการรายงานและเตือนภัยให้กับศูนย์เตือนภัยแห่งชาติเพิ่มมากขึ้น หน่วยงานนี้ตนเองเป็นผู้ก่อตั้งเพื่อสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจ และจัดการมหาวิกฤติปี 54 มาแล้ว เสียดายปัจจุบันไม่ได้รับความสนใจ

ทวงนายกฯไฟเขียว ก.ม.การพนัน

ที่รัฐสภา นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไทแถลงว่า ขอทวงถามนายก รัฐมนตรีถึงความคืบหน้าของการยื่นแก้ไขร่าง พ.ร.บ.การพนันที่พรรคได้เสนอร่างแก้ไข โดยเพิ่มการจดทะเบียนการพนันออนไลน์เข้าไปให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อเก็บค่าธรรมเนียมการจดแจ้งและเก็บภาษีจากรายได้การพนันออนไลน์ ทำให้รัฐบาลมีรายได้ เข้าประเทศ ทั้งกฎหมายดังกล่าวได้เสนอต่อประธานสภาฯ และเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเงินที่นายกฯต้องพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน เพื่อนำกลับมาบรรจุเป็นวาระพิจารณาในสภาฯบัดนี้ล่วงเลยเวลามาหลายเดือนแล้ว ยังไม่ได้รับการตอบรับจากนายกฯ ขอให้นายกฯเร่งรัดการพิจารณา

จ่อ ชง ป.ป.ช.ฟันจริยธรรม “เอกราช”

นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) โฆษกคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ หรือ กมธ.ป.ป.ช. สภาฯ แถลงถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเรื่องร้องเรียน การทุจริตเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัดกว่า 431 ล้านบาทว่า กมธ. ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบแล้วทุกคดี ไม่มีความคืบหน้า ตอนนั้นมีนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นผู้จัดการสหกรณ์ฯ และจากการประชุมของสหกรณ์ฯในปี 53 เคยมีมติอนุมัติเซ็นสัญญาซื้อขายสลากกินแบ่ง มียอดเงินเหลือในบัญชี 1,144 ล้านบาท จากการเชิญพนักงานสอบสวนมาให้ข้อมูลทราบว่ามีการดำเนินคดี 2 คดี อีกทั้งเราได้ติดตามในคดีฟอกเงิน และได้เชิญเจ้าหน้าที่คณะกรรมการป้องการฟอกเงิน (ปปง.) มาสอบถามแล้ว จนวันที่ 25 ส.ค. มีประกาศราชกิจจานุเบกษายึดทรัพย์ชั่วคราวของนายเอกราช ทั้งนี้ ยังปรากฏข้อเท็จจริงว่านายเอกราชได้ทำความผิดไว้ในช่วงปี 64 และต่อเนื่องหลายปีก่อนเป็น ส.ส.ประกอบกับกระทำความผิดเสียหายมากถึง 431 ล้านบาท ถือเป็นพฤติกรรมต่อเนื่องมาตรฐานจริยธรรม ดังนั้น กมธ.ป.ป.ช.จะส่งเรื่องให้กับประธานสภาฯ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบตามมาตรฐานจริยธรรมอีกข้อหาหนึ่ง

“สุวัจน์” เปิดตัว “กรณ์” เข้า ชพน.

เมื่อเวลา 10.35 น. ที่บ้านเลขที่ 333 ถนนราชวิถี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) และนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีต รมว.คลัง ร่วมกันแถลงกรณีเชิญนายกรณ์เข้าพรรค ชพน. โดยนายสุวัจน์กล่าวว่า ขณะนี้ทุกพรรคการเมืองต้องเตรียมพร้อมเลือกตั้ง พรรค ชพน.เตรียมนโยบาย ผู้สมัคร และบุคลากรต่างๆรองรับ ตั้งแต่ทำงานการเมืองมาวันนี้ถือว่าวิกฤติที่สุด โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจจากโควิด-19 ทำให้รายได้หลักจากการท่องเที่ยวหายไป การผลิตหยุดชะงัก ผู้ประกอบการรายย่อยได้รับผลกระทบ และคนตกงาน รัฐบาลต้องกู้เงินแก้ปัญหาทำให้เกิดหนี้สิน ซ้ำด้วยสงครามพลังงาน และสินค้าแพง พรรค ชพน. เห็นว่าต้องรวมพลังจับมือกันเพื่อแก้ปัญหา มือเศรษฐกิจต้องเข้าใจปัญหาของคนรากหญ้า หนี้สิน และปัจจัยต่างประเทศ ทั้งดุลอำนาจ ภูมิรัฐศาสตร์ เงินเฟ้อโลก ฯลฯ จึงเชิญนายกรณ์ที่มีประสบการณ์ทั้งในภาครัฐ เอกชน และเป็นอดีต รมว.คลัง ที่พาประเทศผ่านพ้นวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ เป็น รมว.คลังระดับเอเชีย และระดับโลก จบจาก ม.ออกซ์ฟอร์ด มาร่วมงาน

ยันเชิญมาส่วนตัวปัดรวมพรรค

นายสุวัจน์กล่าวว่า การแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจ ต้องมีการเมืองที่มีเสถียรภาพ พรรค ชพน.ทำการเมืองมา 30 ปีเต็ม อยู่บนพื้นฐานการทำการเมืองสร้างสรรค์ประนีประนอม ไม่ขัดแย้ง ยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก วันนี้ส่วนผสมลงตัว มีนายกรณ์มืออาชีพและทีมเวิร์กจากพรรคที่มีประสบการณ์ ไม่ได้เป็นการรวมพรรค แต่พรรค ชพน.เชิญมาร่วมงานในนามบุคคล แต่จะมาอยู่ในตำแหน่งใดถึงขั้นเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคหรือไม่ ต้องประชุมหารือภายในพรรคตามปฏิทินการเมืองอีกที เมื่อถามว่า ในอนาคตมีโอกาสเชิญคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) และนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) กับนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค (สอท.) หรือไม่ นายสุวัจน์ตอบว่า วันนี้เริ่มต้นที่นายกรณ์ก่อน ท่านอื่นๆยังตอบไม่ได้ แต่วันนี้เราต้องหันหน้าเข้าหากัน ตอนนี้ตั้งเป้าว่าอยากเห็นบทบาทพรรค ชพน.กลับมาเป็นพรรคการเมืองใหญ่เหมือนอดีต ที่ลดความขัดแย้ง สร้างเสถียรภาพทางการเมืองให้ได้ ฉะนั้น ใครที่เข้ามาแก้ปัญหาให้ประเทศได้ เรายินดีต้อนรับหมด ส่วนนายกรณ์จะดำรงตำแหน่งอะไรยังตอบไม่ได้ แต่ต้องมีบทบาทหน้าที่ที่ทำให้เกิดความมั่นใจทางเศรษฐกิจ

“กรณ์” เผยปฏิบัตินิยมตรงกัน

ด้านนายกรณ์กล่าวว่า ในสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วพรรคการเมืองต้องมีหลักการ และเป้าหมายการทำงานชัดเจน ตนมีเป้าให้ประชาชนอยู่ดีกินดี แก้ไขปัญหาปากท้อง สร้างโอกาส ความหวัง การตัดสินใจจับมือกันในวันนี้ ทำให้เราทั้ง 2 คน มีโอกาสช่วยประชาชนได้ตามเป้าหมาย และมีโอกาสขับเคลื่อนความคิดนโยบายได้มากยิ่งขึ้น รู้จักนายสุวัจน์มานาน ทำงานร่วมกันในช่วงวิกฤติพลังงานน้ำมันทำให้เห็นว่าปรัชญาการเมืองใกล้เคียงกันมาก ยึดหลักสำคัญปฏิบัตินิยมลงมือทำเหมือนกัน ทั้งในฐานะนักการเมืองและนักธุรกิจ การตัดสินใจจับมือกันเลยง่ายขึ้น ตนมาในนามนายกรณ์ จาติกวณิช ส่วนพรรคกล้าเป็นเรื่องของพรรคต้องพิจารณาต่อ แต่ยืนยันไม่มีการยุบพรรคกล้า ได้หารือกับทีมงานในพรรคกล้ามาก่อนแล้วทุกคนเห็นตรงกัน และมาร่วมงานเป็นทีมเศรษฐกิจกับพรรคชาติพัฒนาด้วย แต่เรื่องอื่นๆ รวมถึงเรื่องลาออกจากหัวหน้าพรรคกล้าเรายังพูดไม่ได้มาก เพราะติดในเรื่องเกี่ยวกับข้อกฎหมายพรรคการเมือง ที่ต้องทำตามขั้นตอนต่างๆให้ครบถ้วนก่อน ต่อมา นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กติดแฮชแท็กว่า #กล้าพัฒนาชาติ “ผมเชื่อมั่นพี่กรณ์ มันเป็นการรวมเอาความแข็งแกร่ง ประสบการณ์ทางเศรษฐกิจ และ การเมือง มาไว้ในที่เดียวกัน”