สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร สูตรนับแต้มปาร์ตี้ลิสต์ หาร 500 ได้ยื้อลมหายใจสู้ต่อจนเฮือกสุดท้าย มีความหวังเล็กๆ
ลุ้นสร้างปาฏิหาริย์ ตามคิวที่ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา สั่งบรรจุวาระการประชุมร่วมรัฐสภาเพิ่มเติม ในวันที่ 15 ส.ค.นี้ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ไฟต์สิ้นสุดเส้นตาย 180 วัน ที่ต้องพิจารณาร่างกฎหมายลูกให้แล้วเสร็จ
แม้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะสั่งการลูกพรรคในวันเกิด ให้เข้าร่วมประชุมรัฐสภานัดเดดไลน์ แต่คงได้แค่ให้ความหวังลมๆแล้งๆ
อย่างมาก 2 พรรคใหญ่ “พลังประชารัฐ-เพื่อไทย” และ ส.ว.บางส่วน ก็แค่ช่วยเป็นองค์ประชุมก่อนลงมติ
พอเป็นพิธี เพื่อลดแรงเสียดทาน แต่พอถึงตอนเสียบบัตรก็นั่งเฉยๆ ไม่กดปุ่มลงคะแนนใดๆ ทำให้องค์ประชุมไม่ครบ ซ้ำรอยโหวตร่างกฎหมายลูกล่าสุด เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา
วนเข้าอีหรอบเดิม สภาล่ม สมประโยชน์กฎหมายลูกเสร็จไม่ทันตามเวลาที่กำหนด ต้องกลับไปใช้วิธีคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หาร 100 ตามร่างเดิมของ ครม.ที่เสนอมาในชั้นแรก
สูตร 500 หาร ใกล้อวสาน ถูลู่ถูกังไปต่อลำบาก แนวโน้มพรรคเพื่อไทยได้กลับมา
สู้ตามกติกาถนัด ประตูแลนด์สไลด์เปิดกว้าง
ตรงข้ามกับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ต้องไล่แก้เกมในช่วงเวลาที่เหลือ เพื่อพลิกกติกากลับมาเป็นสูตรหาร 500 ถ้าทำไม่สำเร็จ ก็ตกที่นั่งลำบาก ต้องต่อสู้ในกติกาเสียเปรียบ ในภาวะที่ความเชื่อมั่นตัวผู้นำตกเป็นรองสุดกู่
ตีคู่ไปกับสัมพันธภาพพี่น้อง 2 ป. “บิ๊กตู่–บิ๊กป้อม” ที่ถูกเร่งปฏิกิริยาให้แตกคอกันหนักขึ้น จากผลพวงการล้มโต๊ะสูตรปาร์ตี้ลิสต์ หาร 500
...
“พี่ใหญ่–น้องเล็ก” เห็นต่างไปคนละทางในกติกาสำคัญ ฝ่ายพี่หนุนสูตรหาร 100 แต่ฝ่ายน้องอยากได้ 500 หาร เปิดศึกวัดพลังเกมในสภา ทำสูตรคำนวณพลิกไปมาหลายตลบ
สุดท้ายขุมกำลังฝ่าย “ลุงในป่า” สยบทีมตึกไทยคู่ฟ้า เขย่าองค์ประชุมล่ม ทำแท้งกฎหมายสำคัญ

ลือกระฉ่อนถึงขั้น “บิ๊กบราเธอร์” ยกหูหาลูกพรรครายคน ที่ยังอยู่ในห้องประชุม ให้ออกจากห้องประชุม
ห้ามมีส่วนร่วมโหวตกฎหมายลูก เหมือนจงใจหักหน้า “น้องเล็ก” ไม่ให้สมหวังในสิ่งที่อยากได้
พี่น้องมีแต่เรื่องขบเหลี่ยม เพิ่มชนวนชวนระแวงกันต่อเนื่อง แม้จะสร้างภาพรักใคร่กลมเกลียวในงานเป่าเค้กวันเกิด “พี่ใหญ่” แต่ก็กลบรอยบาดลึกในใจตามสภาพความเป็นจริงลำบาก
อนาคต 2 ป. ยังไม่รู้จะร่วมหอลงโรงกันไปตลอดรอดฝั่งหรือไม่
ตามกระแสข่าวล่าสุดที่ลือกันหนาหูถึงสัญญาณเดินแผนเชิงลึก ดีลลับ 2 ขั้วใหญ่การเมือง “พลังประชารัฐ-เพื่อไทย” จับมือตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง มีเหล่าตัวจี๊ดการเมืองหลายคนนำไปขยายผลเอิกเกริก แผนฮั้วข้ามขั้ว “ล้มตู่–ชูป้อม” เชิด พล.อ.ประวิตรขึ้นเป็นนายกฯหลังเลือกตั้ง
เห็นสัญญาณอันตราย “บิ๊กตู่” ถูกทิ้งกลางทาง เพราะจนถึงวันนี้อนาคต พล.อ.ประยุทธ์ในพรรคพลังประชารัฐยังไม่ชัดเจน จะถูกส่งเป็นแคนดิเดตนายกฯรอบหน้าหรือไม่ จนต้องไปตั้งพรรคสำรอง “รวมไทยสร้างชาติ” เผื่อเป็นทางหนีทีไล่ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน
ซ้ำยังติดปมล่อแหลมที่รอการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดเร็วๆนี้ กรณีวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 จะเริ่มนับจุดสตาร์ตเมื่อใด
ชวนให้หวาดเสียวเก้าอี้ผู้นำของ “บิ๊กตู่” จะอันตรธานหายไป หลังจากวันที่ 23 ส.ค.นี้หรือไม่
“ลุงตู่” มีแต่ชนวนระเบิดเวลาพันรอบตัวให้ถอดสลักวุ่นวายไปหมด ทั้งประเด็นกติกาเลือกตั้ง ความแตกแยกในพรรค ข้อกฎหมายเรื่องวาระนายกฯ 8 ปี
สถานการณ์ตกที่นั่งลำบาก เลยตกเป็นเป้าถูกกดดันต่อรองหนักในหลายเรื่อง อาทิ การบีบปรับ ครม.สลับเก้าอี้สำคัญให้ “บิ๊กป้อม” นั่งเป็น รมว.มหาดไทย แทน “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่อาจถูกโยกไปคุมกระทรวงพลังงาน
สภาพ“บิ๊กตู่”เหมือนถูกมัดมือชก อำนาจต่อรองเหลือน้อย ต่างจาก “บิ๊กป้อม” ที่บารมีอยู่ในช่วงขาขึ้นเดินเกมเปิดดีลการเมืองต่อรองไปทุกขั้ว
รอเป็นได้ทั้งนายกฯขัดตาทัพ หากเกิดอุบัติเหตุการเมือง หรือนายกฯอย่างทางการ หลังเลือกตั้งรอบหน้า
ปากบอกไม่รู้ๆ แต่เดินเกมวางแผนอนาคตไปไกลแล้ว!!!
ทีมข่าวการเมือง