งัดแท็กติกกฎหมาย วาดลวดลายตามที่ลั่นวาจาไว้

เพื่อไทย-พลังประชารัฐ แท็กทีมปิดประตูตีแมว บีบให้ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.แท้งก่อนคลอด ตายทั้งกลม

ทำทุกวิถีทางเพื่อให้รัฐสภาพิจารณาร่างกฎหมายลูกไม่ทันเวลา ตามเดดไลน์ 180 วัน

กลายเป็นเดดล็อก ต้องกลับไปใช้ร่างตั้งต้น ที่ ครม.เป็นผู้เสนอโดยอัตโนมัติ

หมายความว่าสูตรหาร 500 กลายเป็นหมัน ต้องกลับไปใช้หาร 100 ตามเดิม

เข้าทางพรรคเพื่อไทย และ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการบัตร 2 ใบ หาร 100 มาตลอด

หักหน้า ลบเหลี่ยม “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ที่อยากได้สูตรหาร 500 ถึงขั้นลงทุนยอมโดนด่า พลิกเปลี่ยนกติกากันชั่วข้ามคืน

สุดท้ายองค์ประชุมรัฐสภาก็ล่มไปตามแผนจริงๆ

สำหรับท่าทีของพรรคเพื่อไทยนั้นเข้าใจได้ ตามแผนแลนด์สไลด์ต้องเป็นสูตรบัตร 2 ใบหาร 100 เท่านั้น ถึงมีโอกาสมากที่สุด

แต่ที่ยังไม่เข้าใจสงสัยเรื่อยมาคือ “บิ๊กป้อม” ทำไมยืนกระต่ายขาเดียวเอาสูตรหาร 100 ทั้งๆที่ดูตามเชิงแล้วพลังประชารัฐน่าจะเสียเปรียบจมหู เพราะกระแสที่กำลังตกต่ำ แม้แต่ ส.ส.ในพรรคยังคิดจะย้ายหนีเลย

...

เสียงลือเสียงเล่าอ้างหนาหู “บิ๊กบราเธอร์” ดีลเพื่อไทย เดินแผนเชิงลึกตามสูตรบัตร 2 ใบหาร 100 ตกลงร่วมหอลงโรงเป็นรัฐบาลร่วมกันหลังเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อไทยมาที่ 1 แต่ “บิ๊กป้อม” แต่งตัวรอเป็นนายกฯ

ทิ้ง “บิ๊กตู่” ไว้ข้างหลัง เขี่ยออกนอกเส้นทางกลับไปเลี้ยงหลานอยู่บ้าน

ตามที่ “เดอะหนวด” ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อชาติ ออกมาแฉอย่างดุเดือด ต่อจิ๊กซอว์เชื่อมโยงเหตุการณ์ได้น่าสนใจคล้อยตาม

ก่อนชี้เปรี้ยงไปยัง “ป.ที่ 4” คือตัวเป้งจอมบงการคนสำคัญ อยู่เบื้องหลังคอยชี้นำ “บิ๊กป้อม”

ตบท้ายจิกกัดเหน็บแนม “บิ๊กป้อม” แค่ปากหวานหว่านล้อมให้ “บิ๊กตู่” เคลิบเคลิ้ม อยู่ต่อได้อีก 2 ปี แต่มือจับอยู่กับพรรคเพื่อไทย

มีจังหวะเมื่อไหร่ก็แอบเสียบ แซะ “บิ๊กตู่” ให้หลุดจากเก้าอี้ผู้นำ

จากร่องรอยที่ผ่านมาก็ชัดเจน เหตุการณ์ “กบฏผู้กอง” แผลยังสดใหม่ “บิ๊กตู่” ทั้งเจ็บแค้น ทั้งปวดใจพี่ใหญ่ทำเป็นเฉไฉ ไม่รู้ ไม่รู้ แต่จ้องจะดึงเก้าอี้ผู้นำไปนั่งแทน

แรกๆ “บิ๊กตู่” ก็ยังไม่อยากจะเชื่อ พี่ใหญ่จะทำกันได้ลงคอ แต่มาถึงวันนี้รู้ซึ้งแล้ว

เลิกพึ่ง เลิกหวัง หันมาเดินด้วยลำแข้งตัวเอง ทำพรรครวมไทยสร้างชาติ ไว้เป็นทางเลือก ทางรอด แม้จะดูเหมือนล่าช้าไม่ทันการณ์ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นใด

เพราะยึดพรรคพลังประชารัฐไม่สำเร็จ โดนพี่ใหญ่สกัดทุกทาง ส่งใครไป “บิ๊กป้อม” ก็เฉย ไม่เขี่ยออกก็ให้ไปยืนรอท้ายแถว แม้จะดึงดันส่งไปเป็นนั่นเป็นนี่ “บิ๊กป้อม” ก็ใช้วิธีตั้งทีมของตัวเองขึ้นมาฝังกลบไปดื้อๆเนียนๆ

เส้นทางการเมืองข้างหน้าของ “บิ๊กตู่” จึงดูคับแคบเกินไป ยังยืนเองไม่ไหว มือไม้ไม่มี เพราะไม่ได้คิดอ่านสร้างไว้ เพิ่งมารู้สึกตัวก็สายเกิน

แต่เหนืออื่นใดอาจไม่ต้องมองไกลมากนัก ปมร้อนๆว่าด้วยเงื่อนไขรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 นายกฯอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกิน 8 ปี

ถึงตอนนี้ยังมีความเห็นแตกแยกมากมาย จะเริ่มนับเวลาเป็นนายกฯของ “บิ๊กตู่” ตั้งแต่เมื่อไหร่

นับตั้งแต่สมัย คสช.ปี 2557 นับตอนรัฐธรรมนูญบังคับใช้เมื่อปี 2560 หรือนับหลังเลือกตั้งปี 2562 ที่ “บิ๊กตู่” ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกฯ ตามระบอบประชาธิปไตย

แม้ล่าสุดจะมีการกระหน่ำความเห็นจากต้นขั้ว คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ว่าควรนับเวลาตั้งแต่เป็นนายกฯวันแรกเมื่อปี 2557 แต่ก็ยังไม่ใช่คำตอบสุดท้าย

ผู้ตัดสินเด็ดขาด คือ 9 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

ถึงวันนี้ยังไม่เห็นสัญญาณอะไร อย่าว่าแต่สะเก็ดไฟ แม้แต่ควันยังไม่มี

คนที่คิดแทน คิดล่วงไปไกลคือบรรดากองแช่ง กองเชียร์ สวมบทนักกฎหมายพิพากษากันเรียบร้อย

แต่ที่แน่ๆพี่ใหญ่ 3 ป. ลึกๆคงไม่ได้อยู่ฝ่ายกองเชียร์อีกแล้ว.

ทีมข่าวการเมือง