ทีมกฎหมายพรรคเศรษฐกิจไทย วิชิต ปลั่งศรีสกุล ในฐานะรองหัวหน้าพรรค และในฐานะนักกฎหมาย ทำนายการดำรงตำแหน่งนายกฯครบ 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ฟันธงว่า พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกฯมาครบ 8 ปีในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ ตามมาตรา 158 และ 264 แห่งรัฐธรรมนูญปี 2560 รวมทั้งเหตุผลอื่นๆอีกมากมายที่มีทั้งนักกฎหมายและนักวิชาการได้แสดงความคิดเห็นกันมาแล้ว

ไม่มีทางแหวกกับดักรัฐธรรมนูญออกไปได้เด็ดขาด

ทั้งนี้ รองหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยยังระบุว่า ในคำปรารภที่เป็นส่วนสำคัญของรัฐธรรมนูญปี 60 ได้บัญญัติถึงนายกฯตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ที่หมายถึง พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการรัฐธรรมนูญปี 60 และเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการในฐานะนายกฯปี 2557 ถือว่าเป็นการสืบทอดต่อเนื่อง

เท่ากับว่าเป็นนายกฯครบ 8 ปีแล้ว

ในเมื่อ รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด ในการวางหลักโครงสร้างการปกครองประเทศ ไม่ใช่กฎหมายอาญาหรือกฎหมายแพ่ง ที่ต้องเกิดปัญหาก่อนแล้วจึงไปร้องต่อศาลได้ แต่ รัฐธรรมนูญ มีความขัดแย้ง สามารถไปร้องศาลให้วินิจฉัยได้เลย

สิ่งที่รองหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยพูดเอาไว้น่าคิด คือความสง่างามของผู้นำ โดยเฉพาะการเป็นตัวอย่างในการเคารพกติกาตามระบอบประชาธิปไตย ถ้าในสังคมไม่มีการเคารพกฎหมาย เคารพกติกา สังคมจะอยู่กันอย่างไร

จะมองหน้านานาชาติอย่างไร

นอกจากนี้ คุณวิชิต ยังได้แสดงความเป็นห่วงต่อความพยายามที่จะบิดเบือนกติกาของสังคม บิดเบือนหลักกฎหมายสูงสุดของประเทศ อาทิ คำวินิจฉัยเกี่ยวกับสถานะของนายกฯกับบางคำร้องวินิจฉัยว่า ตำแหน่งนายกฯไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ แต่บางคดีวินิจฉัยว่า สถานะของนายกฯเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ

...

กลายเป็นสองมาตรฐาน

คำว่า สองมาตรฐาน กับคดีการเมืองหรือกระบวนการยุติธรรม เราได้ยินกันมานาน เคยเกิดขึ้นกับประเทศไทยมาหลายครั้ง ที่กระทบกับการบริหารราชการแผ่นดิน กระทบกับประเทศและประชาชนมาแล้ว เช่น การวินิจฉัย ยุบพรรคการเมือง การสิ้นสุดการทำหน้าที่นายกฯ การสิ้นสุดสมาชิกภาพของ ส.ส.ไปจนถึงคดียายฉิมเก็บเห็ดในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เป็นต้น

วิกฤติการเมืองที่ผ่านมาทุกครั้งมักจะเริ่มต้นจากคำว่าสองมาตรฐาน ซึ่งองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญจะถูกมองว่าเป็นสารตั้งต้นทุกครั้ง ต่อให้มีแรงกดดันจากภาคประชาชนมากมายขนาดไหน ก็ไม่มีผลต่อคำว่าสองมาตรฐานเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ว้าเหว่.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th