“ดาวดับ” ศิลปินในตำนาน “พรศักดิ์ ส่องแสง-อ๊อด คีรีบูน” ลาลับติดๆกัน ในบรรยากาศแห่งความสูญเสียที่แทรกมาเป็นข่าวใหญ่ ข่าวเศร้า ท่ามกลางวิกฤตการณ์โรคระบาดไวรัสมรณะยังคร่าชีวิตคนไทยล้มหายตายจากรายวันยอดสะสมทะลักกว่า 18,300 ศพไปแล้ว โควิดยังไม่แผ่วแค่เงียบไปเพราะสังคมหันไปโฟกัสการเมืองย้อนยุคพระเจ้าเหา เกมกบฏในค่ายพลังประชารัฐ หลงไปกับฉากตบจูบละครน้ำเน่าค่ายทหารเฒ่า 3 ป.จนลืมเรื่องสำคัญที่เกี่ยวพันกับชีวิตของตัวเอง ตามแนวโน้มสถานการณ์ที่ผู้นำรัฐบาลแบบที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ไม่อาจเลี่ยงพันธสัญญาที่ประกาศมัดคอตัวเองต้องเปิดประเทศใน 120 วันเดิมพันทางเศรษฐกิจ ไฟต์บังคับทางการเมือง ต้องเสี่ยงเปิดประตูบ้านให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศทางอากาศในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ตามความหวังในการเดินเครื่องยนต์หลัก ผู้นำรัฐบาลลุ้นภาคการท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก โกยรายได้เข้าประเทศโปะคลังที่ใกล้ถังแตก ไม่เหลือเงินแจกประคองปากท้องชาวบ้านที่โดนล็อกดาวน์ถ้าเข้าเป้าก็เท่ากับ “ป๊อก 2 เด้ง” เศรษฐกิจหมุน แผนต่อโปรโมชันเกมอำนาจการเมืองฉลุย“บิ๊กตู่” ถึงลุยเสี่ยงเดิมพันหมดหน้าตัก แต่เปิดประเทศแล้วจะมีนักท่องเที่ยวกล้าเข้ามาหรือไม่ ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ได้จะคุ้มค่าหรือเปล่ากับที่เอาชีวิตประชาชนคนไทยเข้าเสี่ยงนี่ต่างหากคือเครื่องหมายคำถาม ตามสภาพตัวเลขการติดเชื้อภายในประเทศไทยยังทรงๆทรุดๆอยู่ที่ระดับหมื่นต้นๆต่อวัน ยอดเสียชีวิตต่ำกว่าหลักร้อย แต่ก็ตายรายวันคลัสเตอร์ใหม่โผล่ที่ 3-4 จังหวัดชายแดนใต้ ที่เชียงใหม่ก็โผล่กลับมาอย่างน่าตกใจ อย่าว่าแต่ทัวร์ต่างชาติจะแหยง แม้แต่คนไทยในประเทศยังกล้าๆกลัวๆ ตามเสียงสะท้อนล่าสุดจาก “สวนดุสิตโพล” ประชาชนกว่าร้อยละ 60 มองว่ายังไม่ถึงเวลาที่ไทยจะเปิดรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัวเสียวผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะโควิดกลับมาเด้งสูงขึ้น ล้อกับเสียงทักดังๆจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการด้านสาธารณสุข ในกรณีเหตุร้ายทางลบ เปิดประเทศแล้วพลาด ทำให้เชื้อแพร่ในประเทศเพิ่มหนักขึ้น ระลอกสี่ ระลอกห้า เกินมือหมอ พยาบาล โรงพยาบาล ระบบสาธารณสุข ไม่สามารถรับได้ถึงตอนนั้น “สวดมนต์” ก็เอาไม่อยู่เรื่องของเรื่องชาวบ้านรู้ มีหรือที่ผู้นำรัฐบาลจะไม่รู้ว่า โจทย์ปัญหาใหญ่ของประเทศไทยก็คือ “วัคซีน” จนถึงวันนี้ยังฉีดได้ไม่เข้าเป้า ตามเกณฑ์ร้อยละ 70 ของพลเมือง 65 ล้านคน ไม่ถึงจุดกระตุ้น “ภูมิคุ้มกันหมู่” อยู่กับเชื้อไวรัสมรณะได้แบบปลอดภัยสภาพวัคซีนหลักๆยังต้องอาศัยของ “บริจาค” และยิ่งตอกย้ำ ประจานซ้ำซาก ความบ้อท่าในการบริหารจัดการวัคซีนทางเลือกยี่ห้อ “โมเดอร์นา” ที่ล่าช้า คุยจะมาตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงตอนนี้เงียบฉี่“ไทยแลนด์โอนลี่” ที่ประชาชนต้องเสียเงินจองซื้อวัคซีนเอง โดยที่รัฐบาลเป็นแค่ตัวกลางในการประสาน แต่ไร้ศักยภาพ ไม่สามารถนำวัคซีนเข้ามาทันเวลา แม้แต่การให้ความชัดเจนกับประชาชนที่เสียเงินจอง ยังไม่รู้จะได้ฉีดวัคซีนโมเดอร์นาตอนไหนคำตอบชัดอย่างเดียวคือ ไม่มีการคืนเงินจองให้ นั่นไม่แสบเท่ายุทธการ “ไอโอ” กุนซือพีอาร์ของ ศบค.อย่างนายวรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศบค.โพสต์เฟซบุ๊ก อ้างไม่ใช่ไทยที่รอวัคซีนโมเดอร์นาสหรัฐอเมริกาเองก็มีปัญหากับยี่ห้อนี้ไม่ยอมผลิตวัคซีนให้ แล้วตบท้ายก็ด่าย้อนศร ใครที่รอโมเดอร์นาว่าทำไมไม่มาเสียที ด่ารัฐบาล ด่าองค์การเภสัชฯ ว่าทำงานห่วยแตก เสียเงินไปแล้วไม่ได้ของ และก็ไม่รู้จะได้เมื่อไหร่ วางแผนอนาคตตัวเองไม่ได้กรุณาช่วยอ่านข่าวต่างประเทศกันด้วยว่าทั่วโลกเขาก็รอเหมือนกัน มันก็น่าแปลกข้อมูลแบบนี้ ทำไมไม่เป็นองค์การเภสัชฯผู้รับผิดชอบในการดีลตรงกับโมเดอร์นาแถลงข้อมูลให้ประชาชนรับทราบ และน่าจะเลยไปถึงระดับผู้นำอย่าง “บิ๊กตู่” ต้องเคลียร์กับประชาชนเพราะมันคือผลจากรัฐบาลบ้อท่า แทงม้าผิด ไม่จองวัคซีน mRNA มาตั้งแต่ต้น ทำให้คนไทยส่วนหนึ่งต้องเสียเงินจองวัคซีนเอง เพื่อความปลอดภัยในชีวิต ผิดหลักการรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้เป็นหน้าที่ของรัฐในการดูแลสวัสดิภาพคนไทยทุกคนบริหาร “ห่วยแตก” ยังมีหน้าปล่อยไอโอด่าประชาชน.ทีมข่าวการเมือง