มาตรการเยียวยาและระบบสาธารณสุข อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ไม่ประสบความสำเร็จ จนเกิดปัญหาในการบริหารจัดการ กระทบกับคุณภาพชีวิตของคนไทยทั้งประเทศ ทำให้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ในช่วงขาลงเร็วอย่างคาดไม่ถึง
ที่ผ่านมามี มวลชน หลายกลุ่มที่ออกมาเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุผลทางการเมือง ที่ไม่ถูกต้องตามครรลองของประชาธิปไตย แต่รัฐบาลพยายามที่จะประคับประคองสถานการณ์และใช้มาตรการทางกฎหมาย เข้าจัดการกับผู้ชุมนุม ถึงกระนั้นก็ยังไม่สะเด็ดน้ำเสียเลยทีเดียว
แต่ปัญหาใหญ่กว่าคือความล้มเหลวในการรับมือกับโควิด
เป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลใกล้จะถึงทางตัน มาตรการ นโยบาย การเยียวยา ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบไหนก็ตาม รัฐไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน นำไปสู่การหมดศรัทธา เดิมพันปัญหาด้วยชีวิตของประชาชน หนึ่งชีวิตต่อหมื่นต่อแสนศรัทธา ดังนั้น รัฐบาลจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปิดศึกหลายด้านไปพร้อมๆกัน อีกต่อไป
มีสัญญาณหลายอย่างที่ บอกว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กำลังเจรจาปรองดองทางการเมืองกับทุกขั้ว รวมทั้ง เพื่อไทย ที่เป็นพรรคการเมืองที่มีจำนวน ส.ส.ในสภามากที่สุด ในขณะที่ท่าทีของเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านอ่อนยวบยาบ ปรากฏการณ์ งบกลาง 1.6 หมื่นล้าน หรือความไม่เต็มที่ในการที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อบวกกับ กระแสทักษิณกลับบ้าน หรือการเขย่าขั้วพรรคร่วมรัฐบาลใหม่
ล้วนแต่เป็นปรากฏการณ์ที่ต้องจับตาห้ามกะพริบ
อีกปรากฏการณ์ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จับเข่าคุยกับ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ วราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา โดยไม่มีแกนนำพลังประชารัฐ ออกมาโชว์ความเหนียวแน่นของความเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เป็นปรากฏการณ์ที่ต้องมองให้ลึก
...
ในอารมณ์ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการจะให้เพื่อไทยและพลังประชารัฐเห็นว่าอะไรจริงอะไรเท็จ และเหมือนกับ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการจะเปรยๆให้พรรคร่วมรัฐบาลได้ตระหนักว่า อะไรกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
ย้อนเหตุการณ์ทางการเมืองระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลครั้งที่มีกระแส ประชาธิปัตย์ จับมือ ภูมิใจไทย ต่อรองถอนตัว ก็มีกระแสแกนนำ พลังประชารัฐ ต่อท่อไปถึง เพื่อไทย ให้ 5 ตำแหน่ง รมต.ในการเข้าร่วมรัฐบาล ดีลนี้เกือบจะสำเร็จ ตามด้วยกระแส รัฐบาลแห่งชาติ นายกฯคนนอก นายกฯพระราชทาน
ต้องเข้าใจว่า การเมืองไทย มีปัจจัยและอุปสรรค ที่ต้องระมัดระวัง ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น ลำพัง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถที่จะชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ได้ทุกเรื่อง
การเมืองแบบไทยๆกำลังใกล้จะถึงทางตันจนสุดซอยเข้าทุกที การกดดันจากภายนอกและการกดดันจากภายใน ภายใต้การเมืองที่ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
ไม่มีพี่ไม่มีน้อง ผลประโยชน์ขัดกันก็บรรลัย.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th