ไม่รู้เพราะผลพวงจากการเคลื่อนตัวของดวงดาวใดบนฟากฟ้า ตามตำราดาราศาสตร์ โหราศาสตร์เล่มใดหรือไม่ วันนี้นอกจากภาวะโรคระบาดลุกลามรุนแรง
การเคลื่อนตัวของคนใหญ่คนโตประเทศไทยชักขบเหลี่ยมปีนเกลียว แคร็กกันสนั่นวงการ
ไม่เฉพาะในปีกพรรคร่วมรัฐบาล ที่ตบแล้วจูบ ลูบหัวลูบหลัง แล้วตบหัวกันหลายรอบ หรือประเภทอาณาจักรของใครของมัน “รัฐอิสระ” ก้อนกรวดในรองเท้าชวนหงุดหงิด
ทั้งหมดก็สงบ สยบลงได้ ตามธรรมชาติการเมืองว่าด้วยการจัดสรร “อำนาจ-ผลประโยชน์”
การเมืองก็ราวๆนี้ มือหนึ่งเช็กแฮนด์ มืออีกข้างดาบยาวโง้งรอเชือดเมื่อจังหวะมา
และแน่นอน การขบเหลี่ยม เขี้ยวงาเกี่ยวกัน ระบาดลามไปยังพรรคฝ่ายค้าน เพื่อไทย–
ก้าวไกล สองค่ายหลักฟากตรงข้ามรัฐบาล ที่ระหองระแหงหนักในคิวโหวตแปรญัตติงบฯ
ปี 2565 ที่ปรับลดตัดมารวมกองกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท โดยกรรมาธิการฯจากเพื่อไทยโหวตหนุนแปรไปลงงบฯกลาง ส่วนคนก้าวไกลโวยลั่น
ตั้งข้อสงสัย “ตีเช็คเปล่า” ไปให้ผู้นำทำไม มีวาระฮั้วแบ่งกันอยู่หรือไม่
ซัดกันในเวที ไปยันโลกเสมือนโซเชียลฯ ทั้งโพสต์เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ไปจนกระทั่งไปตั้งวงยำ เปิดฟลอร์ฟัดกันในคลับเฮาส์ ดุเดือดเลือดพล่านชนิดคนแห่มากันล้นลิมิตจำนวนคนเข้าห้อง
ตัวเอ้ ตัวพ่อ ตัวแม่มาครบ ทั้งแกนนำพรรคก้าวไกล บิ๊กๆคณะก้าวหน้า แบรนด์สีส้มหวาน
ยังเจนฯไม่ยอมโดน “ตบเกรียนซ้ำ” เคยโดนพวกเท สมคบคิดเกลี่ย “แบ่งของ” จากคิว กมธ.งบฯเหมือนปีก่อน กมธ.ทั้งฝ่ายรัฐบาล–ฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย มีรายการ

...
นอกรอบนอกห้องเปิดปฏิญญา “ฮั้วแลนด์”
ขณะที่เพื่อไทยก็มีเหตุผลที่อ้าง เพื่อปล่อยให้เงินไปทำงานช่วยชาวบ้านเดือดร้อนวิกฤติโควิด คิดกันคนละมุม วันนี้ก็ยังประกาศร่วมงานกันได้ แม้มีเสียงบ่นดังๆจากพรรคเพื่อไทย “อดทนอดกลั้นถึงที่สุด”
“ฐานเสียงทับซ้อน” มีโอกาสล่อก็ล่ออยู่แล้ว
รายการ “คนชนคน” แบ่งขั้วข้างฟาดกันยังไม่เท่านี้ ประเภทเพื่อนรักหักเหลี่ยม ชิงเก้าอี้ในฝันก็ทำเอาคาใจกันมาให้เห็นล่าสุดที่การแต่งตั้งบิ๊กกระทรวงมหาดไทย อ่านกันข้ามช็อตถึงผลกระทบพิมพ์เขียวอำนาจ ในโปรแกรมเปิดพรรคสาขา ค่ายเครือข่ายสำรอง
ไม่พับก็ต้องปรับจูนกันใหม่
กระนั้นก็ดี มีข่าวลอยมาจากคนใกล้ชิด “ปลัด ฉ.ฉิ่ง” ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ประคองตัวอยู่บนเก้าอี้มาจะครบ 4 ปี ยังไม่รวมเส้นทางที่ผ่านมา เจอครบหมดในชีวิตราชการ
ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุดจนวันสุดท้าย โดยเฉพาะการนำทัพฝ่ายปกครองมหาดไทย ร่วมยันต้านสู้โควิดทั่วประเทศ แผนชีวิตที่คิดไว้ระยะสั้นๆคือ อยู่กับครอบครัวให้เต็มที่ เข้าวัดเข้าวาทำบุญทำกุศล พักผ่อนกาย-ใจสักระยะ
ส่วนแผนยาวที่มีเสียงเชียร์ ทั้งน้องๆสิงห์มหาดไทย แฟนคลับชาวบ้านที่เคยรู้ฝีไม้ลายมือ เชื่อ ฉ.ฉิ่งยังตีดัง ยังมีศักยภาพ ดีกรีคุณภาพก็อยากให้ “ไปต่อ” ทำงานเพื่อส่วนรวมบนเวทีการเมือง

จบภารกิจขอเว้นวรรคพักแป๊บ มีเวลาตัดสินใจ
จะ “รัวฉิ่ง” กระหึ่มอีกครั้งหรือไม่
แล้วก็ไม่รู้จะเป็นจังหวะเดียวกับที่หลายฝ่ายอ่านทาง สถานการณ์เดินสู่ “จุดเปลี่ยน” หลัง พ.ร.บ.งบฯ 2565 ผ่านสภาฯ แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ จัดคลัง–จัดทัพเสร็จสิ้น โอกาสโบ๊ะบ๊ะการเมืองเกิดขึ้นได้เสมอ
ปัจจัยสำคัญให้ผู้นำดูทิศทางลม สัญญาณประเทศไทย
ในภาวะที่ผู้นำดึงจังหวะ บริหารอำนาจลงตัว สัมพันธภาพกับพรรคร่วมกลับมาพร้อมกลมเกลียวไปต่อในวงอำนาจที่ไม่มีใครอยากเสียโอกาส “เสียของ”
บริหารคน บริหารเสียงในสภาฯอยู่หมัด เหลือแต่บริหารงานยาก คุมโรคระบาดโควิดได้เพียงใด ในระยะเวลาที่ว่าใกล้จุดพีกการระบาดเดือน ก.ย.–ต.ค.นี้
“วัคซีน” ยังเป็น “คำตอบสุดท้าย”
ประเมินแล้วปูพรมฉีดเข้าสูตรครบทั้งหมด จบได้ราวๆ ก.พ.–เม.ย.ปีหน้า ที่คาดว่าจะไปวัดดวงในสนามเลือกตั้งช่วงนั้นก็ยังมีคำถาม บริหารกระแสผู้คนแบบมั่นใจเอาอยู่จริงหรือไม่
วันที่โควิดสร่างซา อารมณ์ผู้คนในสังคมยังฝังใจ ช่วงเวลาทุกข์ยากกันถ้วนหน้า
คนไทยลืมง่ายจริงหรือไม่ หายแหยงฝีมือผู้นำชัวร์รึเปล่า.
ทีมข่าวการเมือง