การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ของ พรรคพลังประชารัฐ พรรคแกนนำรัฐบาล ที่ จ.ขอนแก่น ในวันนี้ กับคำถามว่าทำไมถึงได้ไปจัดประชุมที่ ขอนแก่น ก็เพราะผลกระทบจาก โควิด–19 ซึ่งมีมาตรการบังคับการจัดประชุมในพื้นที่สีแดงเข้มอย่าง กทม.อยู่ก็เลยต้องไปจัดในพื้นที่สีเขียวที่ จ.ขอนแก่น ส่วนชาวขอนแก่นคงไม่ได้ดีใจเท่าไหร่นักเพราะกลัวว่าจะเอาโควิดจาก กทม.ไปฝากคนขอนแก่นด้วย

ที่ต้องโฟกัสมากที่สุดในการประชุมครั้งนี้ของ พลังประชารัฐ ก็คือการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหาร อย่างน้อยก็ทดแทนตำแหน่งของ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต รมว.ศึกษาฯ ที่มีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรคด้วย ถูกจำกัดสิทธิ์ทางการเมืองและลาออกจากส.ส.บัญชีรายชื่อและสมาชิกพรรคไปตามระเบียบ

ส่วนตำแหน่งหัวหน้าพรรคของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ คงต้องลาออกตามพิธี ให้เป็นไปตามข้อบังคับพรรค ที่จะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และตามข้อเสนอให้มีการปรับลดจำนวนกรรมการบริหารพรรคลงจาก 23 คน เช่น รองหัวหน้าพรรค เดิมมี 10 คน ก็อาจจะปรับให้เหลือเพียง 4 คน ดูแล 4 ภาค ส่วนใหญ่ก็จะมีการตีตราจองกันเรียบร้อย อาทิ ไพบูลย์ นิติตะวัน วิรัช รัตนเศรษฐ สมศักดิ์ เทพสุทิน หรือ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

แต่ตำแหน่ง เลขาธิการพรรค หรือแม่บ้านพรรคนี่แหละเป็นที่หนักอกหนักใจทั้งคนในพรรคและนอกพรรค มองไปทั่วพรรคในยามนี้ ชื่อเสียงของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ คับแก้ว จากรองหัวหน้าพรรคมาเป็นเลขาธิการพรรค ไม่มีอะไรเสียหาย ผลงานที่สร้างเอาไว้ให้กับ พลังประชารัฐ ก็เป็นที่โดดเด่นประทับใจผู้บริหารพรรค แทบจะไร้คู่แข่ง

แล้วเลขาธิการพรรคคนปัจจุบัน อนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ จะเอาไปหลบอยู่เหลี่ยมมุมไหนของพรรค จากรองหัวหน้าเป็นเลขาฯพรรคไม่เท่าไหร่ แต่จากเลขาฯพรรคไปเป็นรองหัวหน้า อดคิดไม่ได้ เมื่อ อนุชา ก็คือ สามมิตร เมื่อ สามมิตร ก็คือ อนุชา นอกจากนี้ยังมี ตาอยู่ รอเสียบอีกหลายคน อาทิ สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ที่เคยประกาศคุณสมบัติตัวเอง พร้อมที่จะรับตำแหน่ง รมว.คลังมาแล้ว

...

หมากเกมนี้ต้องรอการเคลียร์ใจระหว่าง พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรค ที่ตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ในเมื่อถนนทุกสายมุ่งไปแต่ที่บ้านรอยต่อกันทั้งนั้น การมอบให้ คณะกรรมการบริหารพรรค เป็นคนตัดสินใจ เป็นเพียงนามธรรม กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงจะไม่ใช่หัวหน้าพรรคแต่ก็เป็น หัวหน้ารัฐบาล ที่ต้องทำงานร่วมกับนักการเมืองใน พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะบัญชีรายชื่อนายกฯของพลังประชารัฐ

หวานก็ต้องอม ขมก็ต้องกลืน

และถ้าหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐไม่ใช่ พล.อ.ประวิตร หัวหน้ารัฐบาล ไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็อีกนั่นแหละ พลังประชารัฐก็พลังประชารัฐเถอะ คงอยู่ด้วยกันลำบาก มาถึงจุดนี้แล้วเมื่อเรียนผูกก็ต้องเรียนแก้ให้ดี.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th