“ประยุทธ์” สยบข่าวยุบสภา ลั่นกลางวงประชุม ส.ว. “ผมยืนยัน อยู่มันจนครบนี่แหละ จะได้เลิกพูดกันเสียที” โอดการเมืองแทรก บิดเบือนข่าวลวงด้อยค่ารัฐบาล กล่าวหานายกฯรวบอำนาจบริหารจัดการวัคซีนผิดพลาด ฝ่ายค้าน-พปชร.ชิงไหวชิงพริบแก้รัฐธรรมนูญ “ประเสริฐ” ระบุซีกฝ่ายค้านยื่นรื้อ 5 ประเด็นหลัก 16 มิ.ย. จี้สภาฯถกร่าง พ.ร.บ.ประชามติก่อนค่อยพิจารณาร่างแก้ไข รธน. “วันนอร์” ซัดไม่ใช่หน้าที่ รบ.ดันร่างแก้ รธน.ฉบับ พปชร.เป็นวาระพิเศษ “ไพบูลย์” ดับฝันขวางลำตั้ง ส.ส.ร. ฟันธงหักดาบ ส.ว.ไม่มีทางผ่านด่านหิน ป.ป.ช. รอ “บิ๊กติ๊ก” รับทราบข้อหาแจงบัญชีทรัพย์สินเท็จกลางเดือน มิ.ย.
จากกรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เร่งเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อสร้างความได้เปรียบให้แก่ตัวเอง โดยไม่แตะประเด็นการปรับลดอำนาจ ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ล่าสุดที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านยืนยันท่าทีขอให้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติก่อน จากนั้นค่อยพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นวาระถัดไป และไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลขอให้รัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของ พปชร.เป็นวาระพิเศษ
ฝ่ายค้านจี้ถก ก.ม.ประชามติก่อน รธน.
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 มิ.ย. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคปวงชนไทย และตัวแทนจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ประชุมพิจารณาท่าทีการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากนั้นเวลา 12.00 น. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านต้องการให้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติก่อน จากนั้นค่อยพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นวาระถัดไป ยืนยันว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ 5 ประเด็น โดยเฉพาะที่มานายกฯตามมาตรา 272 ทุกพรรคเห็นพ้องใน ทิศทางเดียวกัน ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ให้มีการตั้ง ส.ส.ร. พรรคเพื่อไทยจะเป็นผู้เสนอ โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 16 มิ.ย. คาดว่าจะมีประชุมร่วมวิป 4 ฝ่ายในเร็วๆนี้ เพื่อกำหนดวาระประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 22 มิ.ย.
...

ก้าวไกลลั่นต้องแก้ไขอำนาจ ส.ว.
ด้านนายพิธากล่าวว่า พรรคก้าวไกลไม่ร่วมสังฆกรรมกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่จะมีการพิจารณาในที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 22 มิ.ย. ยืนยันว่าร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ต้องนำมาสู้วาระการประชุมเพื่อพิจารณาเป็นอันดับแรก เพราะต้องจัดลำดับความสำคัญของกฎหมาย เป้าหมายของเราต้องการแก้วิกฤติโดยมีโจทย์เพื่อแก้ไขอำนาจ ส.ว.ที่เคยเสนอมาตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่าเราจะลงชื่อร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านในการยื่นญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ค้าน รบ.ขอวาระพิเศษ พปชร.รื้อ รธน.
นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า เราสนับสนุนตามหลักการระบบรัฐสภา แต่มองว่าการนำเสนอวาระการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลัง-ประชารัฐ ที่รัฐบาลขอเป็นวาระพิเศษนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นหน้าที่พรรคการเมือง รัฐบาลไม่มีหน้าที่ขอให้รัฐสภาพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ ยกเว้นเรื่องสำคัญเร่งด่วน เช่น พ.ร.ก. ดังนั้น ขอร้องให้ประธานสภาฯใช้อำนาจทำหน้าที่ในเรื่องการบรรจุระเบียบวาระ เพื่อนำร่าง พ.ร.บ.ประชามติเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมก่อน หากรัฐบาลขอร้องให้รัฐสภาบรรจุเรื่องนี้เป็นกรณีพิเศษเท่ากับว่ารัฐบาลมีอำนาจเหนือรัฐสภา การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะช่วยแก้วิกฤติของประเทศ อยากให้ประชาชนช่วยติดตามใกล้ชิด ผลักดันรัฐธรรมนูญเพื่อแก้วิกฤติประเทศ รู้อยู่ว่าเกิดวิกฤติประเทศอย่างไร ใครได้ประโยชน์ต่อระบอบ พล.อ.ประยุทธ์และต้องการคงรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้ได้มากที่สุด
“ไพบูลย์” ขวางตั้ง ส.ส.ร.ยกร่างใหม่
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอให้เร่งพิจารณากฎหมายประชามติก่อนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราว่าจุดยืนพรรคพปชร.ไม่คัดค้านหากจะนำกฎหมายประชามติที่ค้างอยู่มาพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อน แต่ไม่เห็นด้วยที่ฝ่ายค้านคาดหวังว่าเมื่อกฎหมายประชามติผ่านและจะไปทำประชามติยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 60 เพื่อตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แนวทางที่ดีที่สุดเวลานี้ควรแก้ไขเป็นรายมาตรา เชื่อว่าหากเสนอมาจริงจะไม่ได้รับความเห็นชอบจากเสียงข้างมากในสภาฯ
ฟันธงหักดาบ ส.ว.ไม่มีทางผ่าน
เมื่อถามถึงประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับ ส.ว. นายไพบูลย์กล่าวว่า เราแตะเฉพาะมาตรา 270 ที่เดิมเป็นอำนาจของ ส.ว.อย่างเดียวในการติดตามเสนอแนะและเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ แก้ไขให้เป็น อำนาจรัฐสภา ส่วนมาตรา 272 การตัดอำนาจโหวตเลือกนายกฯ รวมถึงในมาตรา 279 ที่เกี่ยวข้องกับ การลบล้างประกาศคำสั่งจากผลพวงการรัฐประหาร ได้สอบถามจาก ส.ว. รวมถึงภายในพรรคด้วย ยืนยันตรงกันว่าไม่เอาด้วย จึงเชื่อว่า 2 ประเด็นนี้จะไม่ผ่าน ความเห็นชอบรัฐสภา เชื่อว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับพรรคพลังประชารัฐเป็นแนวทางประนีประนอมกับทุกฝ่ายรวมถึงฝ่ายค้านด้วย เช่น การแก้ระบบเลือกตั้งให้กลับมาใช้บัตร 2 ใบตามเดิม ร่างที่เสนอมา เราคำนึงถึงทุกฝ่ายมากที่สุด และมองความเป็นไปได้ว่าจะ ได้เสียงเห็นชอบตามหลักเกณฑ์ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
“ชวน” คาดประชุมร่วมรัฐสภา 22 มิ.ย.
ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ได้คุยกับนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แจ้งว่า ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราวันที่ 16 มิ.ย. ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และชาติไทยพัฒนา ยังไม่แจ้งมาว่าจะยื่นญัตติเมื่อใด แต่กำหนดประชุมร่วมรัฐสภาคาดหมายไว้ในวันที่ 22 มิ.ย. นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา แจ้งว่า ส.ว. ติดภารกิจวันที่ 29 มิ.ย. แต่จะพิจารณาวันที่ 22 มิ.ย.วันเดียวหรือไม่ ต้องดูวาระการประชุมว่ามีเท่าไหร่ เมื่อถามถึงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการตั้ง สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องทำประชามติถามประชาชนก่อน แต่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นให้ตั้ง ส.ส.ร.ซ้ำเข้ามาอีก นายชวนตอบว่า ยังไม่เห็นรายละเอียด ต้องดูอีกทีว่าใครยื่นอะไรอย่างไร

รมว.คลังย้ำ ส.ว.จำเป็นต้องกู้เงิน
เมื่อเวลา 10.20 น. มีการประชุมวุฒิสภา (ส.ว.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน ส.ว. ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ที่ผ่านความเห็นชอบจาก ส.ส. มีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ชี้แจงเหตุผลและความจำเป็น ว่า จากการกู้เงินตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ใช้จ่ายไปแล้ว 9.8 แสนล้านบาท เหลือ 1,764 ล้านบาทไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาการระบาดโควิดระยะต่อไป จากนั้นที่ประชุมให้ ส.ว.อภิปราย อาทิ นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ ส.ว.ในฐานะประธาน กมธ.การเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง ส.ว. ระบุว่า พ.ร.ก.กู้เงินรอบแรก 1 ล้านล้านบาท ครม.อนุมัติโครงการได้ 93% แต่เบิกจ่ายเพียง 29% เชื่อว่ามีข้อจำกัด จึงควรทบทวนและปรับปรุง
“บิ๊กตู่” โต้ยึดอำนาจ-การเมืองแทรก
ต่อมา เวลา 11.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงต่อ ส.ว.ว่า วันนี้มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อแก้ไขสถานการณ์การเยียวยา ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ส่วนแผนการจัดหาวัคซีนเมื่อเช้าให้ ศบค. เอาทั้ง กทม. หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงให้เป็นแนวทางเดียวกัน รัฐบาลเตรียมจัดหาวัคซีนในปี 64 กว่า 100 ล้านโดส สร้าง ภูมิคุ้มกันหมู่ ภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 65 และการ จะฉีดให้คนต้องทยอยนัดวันตามจำนวนวัคซีนที่ให้มา เราให้กรอบไปแล้วว่าแต่ละเดือนจะหาวัคซีนได้เท่าไหร่ จะแบ่งปันอย่างไร วันนี้สิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดคือการรับจองฉีดวัคซีน มากกว่าวัคซีนที่แบ่งให้ไป
“ผมยอมรับทั้งหมด การประชาสัมพันธ์ การสื่อสาร แต่กรุณาฟังรัฐบาลหรือฟังผมพูด ถ้าไม่ฟังก็ไป กันใหญ่ ทุกวันนี้มีปัญหาสร้างการบิดเบือนและมีการเมืองเข้ามาแทรกหมด ไม่ได้มีฝ่ายรัฐบาลอย่างเดียว ยังมีฝ่ายค้านและฝ่ายต่างๆ ปีหน้าวัคซีนต้องฉีดทุกคน เหมือนไข้หวัดใหญ่ ยืนยันว่าไม่ปล่อยให้ใครทำผิดจากที่ผมคิด ให้นโยบายไปแล้วโดยเด็ดขาด เรื่องวัคซีน มีจ่ายแน่นอน บริหารในภาพรวมไม่ใช่ว่าผมไปยึดอำนาจ ไม่อยากยึดอำนาจมาหรอก หลายคนบอกว่า ผมรวบอำนาจเพื่อสั่งการเอง ผมจะบ้าหรือ ต้องการจะปลดล็อกให้เขา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
โวยข่าวลวงบิดเบือนด้อยค่ารัฐบาล
นายกฯกล่าวว่า เรื่องการด้อยค่ารัฐบาลก็รู้อยู่ ตามใจมากก็ปวดหัว ถ้าเชื่อตามข่าวลวงข่าวบิดเบือนด้อยค่า ก็ทำอะไรไม่สำเร็จติดกับดักตัวเอง ลองมองภาพกว้างจะรู้ มีอะไรก็บอกมาตนรับฟัง ตนนั่งฟังมาชั่วโมงกว่าแล้วตอน ส.ส.นั่งเป็นวัน ตนขอพูดที่เป็นเรื่องจริง ยืนยันวันนี้วัคซีนโควิดก็จัดหา มี 6 ยี่ห้อ ไม่ใช่แทงม้าตัวเดียว แทงม้าโหล่ใต้แถวได้อย่างไรมันยังไม่มีผลสัมฤทธิ์ วันนี้ทุกคนผลิตมาจนมีผลสัมฤทธิ์แล้ว ประเมินแล้วว่าคนสูงอายุหรือต่ำกว่า 18 ปี ฉีดได้ไหม รับมาเรื่อยๆ แล้วไปฉีดแล้วตายจะทำอย่างไร รัฐบาลดูแลหมด ประเทศอื่นเขาดูแลไหม เขาไม่ได้ดูแลอย่างเราเรื่องการทุจริต ผมไม่ทุจริตแน่นอน เป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศทุกจังหวัด
ลั่นอยู่มันจนครบเทอมสยบหึ่งยุบสภา
“นายกฯเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ ต้องทำตัวของผมให้มีเกียรติบ้าง ให้คนอื่นเขายกย่องเชื่อมั่น เกียรติเป็นสิ่งที่คนอื่นมอบให้ ฝากไว้ด้วยถ้ามีการเลือกตั้งในอนาคต ผมยืนยันว่าอยู่มันจนครบนี่แหละ จะได้เลิกพูดกันเสียที วันหน้าเลือกกันมาให้ดีแล้วกัน ทุกคนลืมง่ายหมดทุกเรื่อง ผมทำไปข้างหน้าวางอนาคตด้วย แก้ปัญหาเดิมที่ทิ้งไว้กี่โครงการต่อสู้ในศาลกี่คดี ไม่ใช่ผมไม่ได้รับการตรวจสอบนะ ป.ป.ช. ปปง. ศาล คดีผมเป็นร้อย แต่ชี้แจงได้มันก็ต้องจบ ผมไปสั่งศาลเขาไม่ได้ ศาล ส.ส. ส.ว. กระบวนการยุติธรรมถ้าทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด ประเทศไทยไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ให้กำลังใจคนทำงาน คนที่มีปัญหา มีความผิดไม่ต้องไปให้เครดิตอีก ขอแค่นี้เอง มีใครซักถามผมอีกไหม ผมอยู่มา 7 ปีไม่มีสตางค์ผ่านมือผมสักบาทเลย มีแต่ตัวเลข ผมก็บอกแล้วไอ้คนที่ทำตัวเลขพวกนี้ต้องรับผิดชอบนะ ทุกคนก็ตัวเป็นเกลียวอยู่ตอนนี้ ถ้าท่านรู้ว่าใครทุจริตส่งมาจะตรวจสอบ” พล.อ. ประยุทธ์กล่าวและว่าวันนี้ทำงานในลักษณะประ-ชาธิปไตย เป็นรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ประชาธิปไตยไทยจะไปไหนกันอีก วันนี้ยังไม่พอเหรอ จะให้ละเมิดใครก็ได้เหรอ จะไม่เคารพพ่อแม่ก็ได้เหรอ ด่าครูอาจารย์ได้เหรอ ต้องคิดเป็นระบบไม่อย่างนั้นไปกันไม่ได้
ทั้งนี้ หลังนายกฯอภิปรายร่ายยาวมากกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนจบได้ถอนหายใจ ก่อนกล่าวกับ ส.ว.ว่า โอเคนะครับ มีอะไรจะถามไหม ต่อมาเวลา 17.05 น. หลังสมาชิกวุฒิสภาอภิปรายกันอย่างกว้างขวางแล้วจึงโหวตลงคะแนน โดยมีมติเอกฉันท์ 205 เสียง งดออกเสียง 2 เสียงเห็นชอบ พ.ร.ก.ดังกล่าว

คาด “บิ๊กติ๊ก” รับทราบข้อหากลาง มิ.ย.
นายพิเชฐ พุ่มพันธ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ช.ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณี ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จว่า คาดว่า พล.อ.ปรีชาจะมารับทราบข้อกล่าวหากลางเดือน มิ.ย. หลังรับทราบข้อกล่าวหาแล้วจะมีเวลามาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน และขอขยายระยะเวลาได้ ยังตอบไม่ได้ว่าจะสรุปคดีนี้ได้เมื่อใด หาก พล.อ.ปรีชามาชี้แจงและอ้างพยานเกี่ยวข้องต่างๆ ป.ป.ช.ต้องไปรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน เพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย แล้วจึงสรุปสำนวนส่งเข้าที่ประชุม ป.ป.ช.พิจารณาคงเป็นเดือน
ป.ป.ช.ปูพรมสอบเสาไฟกินรีทั่ว ปท.
นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการตรวจสอบการใช้งบฯ อบต.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ จัดทำโครงการเสาไฟประติมากรรมกินรีกว่า 1 พันล้านบาท ว่าสั่งการให้ ป.ป.ช.สมุทรปราการ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐาน เพื่อพิจารณาว่าโครงการถูกต้องคุ้มค่าหรือไม่ คงไม่มีโครงการลักษณะนี้แค่แห่งเดียวเห็นสื่อเสนอข่าวอีกหลายท้องที่จึงให้ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดต่างๆลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการลักษณะดังกล่าว
ฟันอดีต ผกก.ทุ่งสงโกงเบี้ยโควิด
นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ช.ในฐานะโฆษก ป.ป.ช.แถลงว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิด พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ผิดอาญาและวินัยร้ายแรง ทุจริตค่าเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 ของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนอกที่ตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จัดสรรให้อัตราคนละ 60 บาทต่อชั่วโมง โดย พ.ต.อ.สมพงศ์สั่งการให้ตำรวจ สภ.ทุ่งสง มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนรายละ 15,000 บาท หากใครได้เกินให้บริจาค สภ.นำไปให้ผู้ที่ได้รับน้อยกว่า 15,000 บาทเพื่อความเท่าเทียมกัน เงินเหลือจากปันส่วนเก็บไว้เป็นกองกลางจัดหาอุปกรณ์ปฏิบัติงานและจัดงานสังสรรค์ ปรากฏข้อเท็จจริงต่อมาว่านำไปจัดสรรน้อยกว่า 15,000 บาท และจัดสรรให้ตำรวจที่ไม่มีสิทธิได้รับเบี้ยเลี้ยงด้วย หากใครไม่ยอมนำเบี้ยเลี้ยงมาบริจาค พ.ต.อ.สมพงศ์จะสั่งย้าย มีมูลความผิดตามป.อาญามาตรา 157 และผิดวินัยอย่างร้ายแรง เห็นควรส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดและผู้บังคับบัญชาดำเนินการ
ชง กก.สอบ 2 นายพลสีกากีอุ้ม “บอส”
นายนิวัติไชยกล่าวถึงความคืบหน้าตรวจสอบกรณีอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตว่า หลังได้รับเอกสารสอบข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่มีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธานแล้ว ป.ป.ช.ได้ตั้งอนุกรรมการกลั่นกรองวินิจฉัยพบว่าเบื้องต้นมีมูล อยู่ระหว่างเสนอ ป.ป.ช.สั่งไต่สวนข้อเท็จจริงผู้ถูกกล่าวหา 10 คนขึ้นไปมีทั้งตำรวจ อัยการ เมื่อถามว่า ตั้งข้อสังเกตว่าเทปบันทึกเสียงในวันที่เปลี่ยนแปลงความเร็วรถนายวรยุทธอาจได้มาโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายใช้เป็นหลักฐานได้หรือไม่ นายนิวัติไชยตอบว่า คลิปเสียง หน่วยงานจะตรวจสอบว่าตัดต่อหรือไม่ บางอย่างแม้ได้มาโดยมิชอบก็เป็นพยานหลักฐานที่ศาลรับฟัง แต่ต้องมีพยานแวดล้อมอื่นสนับสนุนให้เห็นว่าสิ่งที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้องนั้นเป็นความจริง ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าบุคคลที่ ป.ป.ช.ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนประมาณ 10 คน ตามชื่อในรายงานของคณะกรรมการของนายวิชาพบว่ามีนายตำรวจยศ พล.ต.อ.อยู่ด้วย 2 ราย

กมธ.เรียก ศบค.-กทม.แจงปมวัคซีน
ที่รัฐสภา น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในวันที่ 17 มิ.ย. กมธ.เชิญตัวแทนจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้ว่าฯ กทม.มาชี้แจงแผนการกระจายวัคซีนโควิด-19 เพราะการบริหาร จัดการวัคซีนยังไม่ทั่วถึงไม่เป็นไปตามแผนที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยเฉพาะการบริหารจัดการของ กทม. ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านสุขภาพของประชาชน
“ไผ่-กวิ้น” นำทีมขึ้นศาลขอนแก่น
เมื่อเวลา 12.00 น. นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ แกนนำกลุ่มราษฎร พร้อมด้วยนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน และนายวชิรวิทย์ เทศศรีเมือง หรือเซฟ ขอนแก่นพอกันที นำแนวร่วมทำกิจกรรมเดินส่งเพื่อนจากร้านหนังสือแห่งหนึ่งไปยังศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อรายงานตัวตามนัดหลังอัยการสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา ได้แก่ นายพริษฐ์ นายจตุภัทร์ นายวชิรวิทย์ นายปฏิวัติ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำเเบงค์ และนายธนภณ เดิมทำรัมย์ หรืออาร์ต ยุ่น ฐานจัดกิจกรรมชุมนุมเมื่อวันที่ 23 ก.ค.63 ที่สวนรัชดานุสรณ์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น ลักษณะมั่วสุมหรืออันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยหรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค
ตั้งท่าไล่ พปชร.ทาส “ประยุทธ์”
นายจตุภัทร์กล่าวถึงการประชุมพรรคพลังประชารัฐ ที่ขอนแก่นในวันที่ 18 มิ.ย.ว่า ระบอบประยุทธ์ เราไล่หมดไม่มีนัยอะไรมาก พรรคพลังประชารัฐคือส่วนหนึ่งเป็นทาส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สืบทอดอำนาจมาเป็น 3 ป.อย่างชัดเจนโดยเฉพาะรัฐธรรมนูญ 2560