“ก้าวไกล” ปลุกกระแสต้านต่ออายุระบอบ คสช. “ชัยธวัช” สะกิด ส.ส.ทุกพรรคอย่าไปหลงกลร่วมสังฆกรรมละครฉากใหญ่ “วิโรจน์” อัดสมุนซูฮกระบอบประยุทธ์ แก้กติกาให้ตัวเองได้เปรียบศึกเลือกตั้ง ปชป.-ภท.-ชทพ.แยกวงชงแก้ รธน.ในนาม 3 พรรคร่วมฯ “เพื่อไทย” ยื่น 16 มิ.ย. ร่างแก้ไข รธน. 5 ฉบับ ดักสองทางทั้งโละยกฉบับกับแก้รายมาตรา “ประเสริฐ” เผยเขียนใส่ชัดๆ รัฐประหารผิดกฎหมาย ให้อำนาจ ปชช.ต่อต้านด้วยสันติวิธี โอ่พร้อมลงสนามมั่นใจยังเข้าวินมาที่ 1 “ภราดร” ขู่ 24 มิ.ย. คิกออฟระเบิดเวลาประชาชนฮือขับไล่ “ลุงตู่” จับตา พปชร.ประชุมใหญ่ สลายอำนาจกลุ่มก๊วน ลด กก.บห. หั่นรอง หน.พรรคจาก 10 เหลือแค่ 4 คน “ธรรมนัส” จ้องยึดเลขาฯพรรค

นักการเมืองตื่นตัวจับกระแสร้อน หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ส่งสัญญาณนับถอยหลัง 1 ปี เร่งรัดให้รัฐมนตรีสร้างผลงานให้เป็นรูปธรรม นำไปสู่การตีความว่าเป็นการส่งสัญญาณเตรียมยุบสภา ขณะที่พรรคก้าวไกลเรียกร้อง ส.ส.และพรรคการเมืองอื่น อย่าเข้าร่วมสังฆกรรมกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่เสนอยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญสร้างความได้เปรียบให้ตัวเองในการเลือกตั้งครั้งหน้า

กก.ซัด พปชร.ต่ออายุระบอบ คสช.

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่พรรคก้าวไกล ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับพรรคพลังประชารัฐคือ การต่ออายุระบอบ คสช. การเสนอแก้ไขหลายมาตราเพียงทำให้สับสนและปะผุให้แก่รัฐธรรมนูญฉบับ คสช. เป้าหมายแท้จริง อาทิ แก้ไขระบบเลือกตั้งที่ คสช.เชื่อมั่นว่าจะเป็นขนมล่อให้นักเลือกตั้งจำนวนมากสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ แก้ระบบเลือกตั้งให้ตนเองได้เปรียบ ไม่ยกเลิกอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ การเปิดช่องให้ฝ่ายรัฐบาลเข้าไปเบียดบังนำงบประมาณของประเทศ มาใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมือง จึงเป็นเพียงการต่ออายุให้แก่ระบอบ คสช.

...

ปลุก ส.ส.อย่าร่วมสังฆกรรมละคร

“พรรคก้าวไกลขอเรียกร้อง ส.ส.และพรรคการเมืองอย่าร่วมสังฆกรรมกับละครฉากนี้ของพปชร. ไม่ได้นำประเทศออกจากวิกฤติรัฐธรรมนูญมันไม่นำไปสู่อะไรเลย นอกจากการปูทางให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกฯอีกสมัย ขอให้หันกลับมาสู่แนวทางการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย ส.ส.ร. ผลักดันให้ร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติผ่านการพิจารณาของรัฐสภาโดยเร็วที่สุด เปิดทางไปสู่การทำประชามติ การยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2560 ต้องมาก่อนการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา”

อัดพลิกแก้ รธน.ให้ตัวเองได้เปรียบ

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิสร ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐชงแก้รัฐธรรมนูญใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แต่ไม่ตัดอำนาจ ส.ว. คือการซูฮกและศิโรราบต่อระบอบ คสช.หรือระบอบประยุทธ์ มารีบเร่งเสนอแก้รัฐธรรมนูญโดยไม่ตัดอำนาจ ส.ว.ในช่วงพรรคร่วมเกิดร้อยร้าวและกระแสข่าวยุบสภาหนาหู แก้เพื่อให้ตนเองได้ประโยชน์ในการเลือกตั้ง ประชาธิปไตยของคนกลุ่มนี้คือปล่อยให้เลือกตั้งภายใต้การครอบงำของระบอบประยุทธ์ เป็นเพียงสถาปนาให้มีการเลือกตั้งภายใต้ระบบที่มีเงื่อนงำบางอย่าง ภายใต้การครอบงำของระบอบคสช.และการแก้ไขระบบเลือกตั้ง ทำให้ตัวเองได้เข้ามาเป็นลูกสมุนระบอบประยุทธ์ระบอบ คสช.ต่อไปแล้วทุกคนไปศิโรราบกับ พล.อ.ประยุทธ์หรือหุ่นเชิดของ คสช.ตัวต่อไป กลายเป็นระบบการเกณฑ์ลูกสมุนของระบอบ คสช.ที่ให้ประชาชนเป็นคนกาเลือก อย่าเรียกประชาธิปไตยเสี้ยวใบเลย มันเล็กกว่าเสี้ยว

รบ.ร้าว-สู้โควิดเหลวจุดตายยุบสภา

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์หลังการอภิปราย พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ว่า ผลการลงมติไม่เหนือความคาดหมาย แต่เห็นรอยร้าวในรัฐบาล ส่อให้เห็นการบริการราชการแผ่นดินลำบากยากขึ้นในการควบคุม สั่งการ พล.อ.ประยุทธ์อาจสื่อสารกับรัฐมนตรีหรือรองนายกฯต่างพรรคไม่ดี ขัดแข้งขัดขากันมีสัญญาณเป็นไปได้ว่ารอยร้าวนี้จะปริมากขึ้นและนำไปสู่การยุบสภา ต้องยอมรับว่าการบริหารสถานการณ์ภายใต้โควิดไม่สามารถทำให้ได้ดีไปกว่านี้ จะกลายเป็นจุดตายรัฐบาลทำให้จำเป็นต้องยุบสภา การตรวจสอบการใช้เงินต่างๆของรัฐบาล จะใช้ กมธ.ที่ตัวแทนพรรคเป็นประธาน เป็นหัวหอกตรวจสอบต่อไป อย่างไรอาจนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่อุบไว้ก่อน ส่วนการเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งต้องตั้งสมาชิกพรรคประจำ 350 เขตเลือกตั้งให้ครบทั่วประเทศเรามีแล้วกว่า 200 เขต มีอีกหลายเขตจำนวนสมาชิกถึงแล้ว แต่ยังไม่ได้จัดตั้งเพราะติดโควิดยังพอมีเวลา โดยเฉพาะเขตที่มีงูเห่าเราต้องช่วงชิงกลับมาให้ได้ ประชาชนโมโหเลือกเราแล้วไม่อยากอกหักอีก

พท.โอ่ลงสนาม ลต.มั่นใจยังมาที่ 1

ที่พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า หากยุบสภาเมื่อใดพรรคเพื่อไทยพร้อมเลือกตั้ง ลงพื้นที่พบปะตลอดและมีผู้แสดงตนขอสมัคร ส.ส.ในนามพรรคเพื่อไทยทุกเขต เราส่งได้ครบทั้ง 350 เขต ต่อให้แก้รัฐธรรมนูญให้มี 400 เขต เราพร้อมและมั่นใจเราจะได้ ส.ส.มากที่สุด เพราะวันนี้ประชาชนเบื่อรัฐบาลบริหารประเทศล้มเหลวมา 7 ปี ไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้ทั้งเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดโควิด ผลงานที่ผ่านมาของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย พิสูจน์แล้วว่าเราทำงานเป็น และเป็นที่พึ่งหวังของประชาชนได้ ถ้ามีการเลือกตั้งเราได้เป็นพรรคอันดับหนึ่งแน่นอน เพราะเขาอยากให้เรากลับมาพลิกฟื้นประเทศ

เขียนใส่ รธน.ให้รัฐประหารผิด ก.ม.

นายประเสริฐกล่าวต่อว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญวันที่ 16 มิ.ย. พรรคเพื่อไทยจะยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อประธานสภาฯ แบ่งยื่นทั้งหมด 5 ฉบับ เป็นการแก้ทั้งฉบับมาตรา 256 ไม่แตะต้องหมวดหนึ่งหมวดสอง และแก้เป็นรายมาตราอีก 4 ประเด็น ที่สำคัญจะให้เขียนไว้ชัดเจนว่าให้การรัฐประหารเป็นเรื่องผิดกฎหมายไม่สามารถกระทำได้และให้อำนาจประชาชนในการต่อต้านการรัฐประหารด้วยสันติวิธี เชื่อว่าการแก้รัฐธรรมนูญเช่นนี้จะสามารถแก้ปัญหาประเทศในระยะยาวได้และเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนให้ประเทศไทยได้ หวังว่าพรรคร่วมรัฐบาลควรรับฟังประเด็นที่เป็นประโยชน์ที่พรรคเพื่อไทยเสนอ อย่ามองแต่ประเด็นการเมืองที่ให้ตัวเองได้ประโยชน์เท่านั้น

“โจ้” จวก รบ.ไม่จริงใจอาจล้มกระดาน

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จุดยืนพรรคเพื่อไทยยืนยันเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะยื่นแก้แบบทั้งฉบับตามมาตรา 256 ไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 และแก้รายมาตราแก้สิทธิเสรีภาพของคนไทย ในหมวด 3 และแก้บัตรเลือกตั้งเป็นแบบ 2 ใบ แก้มาตรา 272 ปิดสวิตช์ ส.ว. วันที่ 14 มิ.ย. จะประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านและแถลงเป็นทางการ ทั้งนี้ พ.ร.บ.ประชามติยังค้างอยู่ในสภาฯ พรรคร่วมรัฐบาลระบุวันที่ 22มิ.ย.จะประชุมร่วมรัฐสภาจะนำรัฐธรรมนูญเข้าสภาก่อน ทั้งที่ควรนำ พ.ร.บ.ประชามติเข้าตามลำดับ แสดงว่ารัฐบาลไม่จริงใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจมีการล้มกระบวนการเหมือนครั้งที่ผ่านมาก็ได้ ส่วนกระแสข่าวการยุบสภาฯ พรรคเพื่อไทยพร้อม ยุบสภาฯเร็วก็พร้อมเลือกตั้ง มั่นใจว่าจะได้ ส.ส.เพิ่ม

ท้าทำโพลถาม ปชช.เอาไหมเรือดำน้ำ

นายยุทธพงศ์กล่าวอีกว่า การประชุมกรรมาธิการ (กมธ.) งบฯปี 2565 สัปดาห์หน้าพิจารณาตั้งอนุ กมธ. 8 คณะพิจารณาแผนงานพื้นฐานและ ยุทธศาสตร์ 8 ด้าน ส่วนกรณีกองทัพเรือเปิดแฟนเพจเฟซบุ๊กเพื่อเปลี่ยนแนวคิดของประชาชนต่อการจัดซื้อเรือดำน้ำ ปีที่แล้วยังถกเถียงว่าจะซื้อเพิ่มอีก 2 ลำจึงถอนเรื่องไป แต่มาปีนี้เรื่องนี้ถูกพูดถึงอีกครั้ง ยังไม่จำเป็น เนื่องจากประเทศไทยอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต้องใช้งบฯแผ่นดินแก้ไขเรื่องนี้ ขอท้าให้มหาวิทยาลัยหรือสื่อมวลชนทำโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนว่าเห็นด้วยกับเรื่องนี้หรือไม่

ขู่ 24 มิ.ย. ดีเดย์ระเบิดเวลาไล่ “ลุงตู่”

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การครองอำนาจของรัฐบาลสืบทอดอำนาจจนถึงวันนี้ เยาวชนคนรุ่นใหม่เกิดคำถามหลายอย่าง เริ่มจากรัฐบาลนี้คิดเป็นหรือไม่ ถ้าคิดเป็นการฉีดวัคซีนโควิดรัฐควรจัดหาฟรีวัคซีนควบคู่ไปกับวัคซีนทางเลือก จะรวดเร็วตรงใจประชาชน การชะล่าใจว่าเยาวชนและคนรุ่นใหม่จะนิ่งเฉยเดี๋ยวจะรู้สึก พวกเขาขอส่งเสียงว่าการกู้เงินมโหฬารของรัฐบาลก่อหนี้สินไว้ พวกเขาไม่ขอแบกรับภาระการใช้หนี้คืนอย่างไร้อนาคต จึงมิอาจก้มหัวยอมรับได้ จะลุกขึ้นต่อสู้ให้พ้นจากสังคมที่มืดมิด ผนวกเข้ากับการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจที่ยากแสนเข็ญ จึงมาถึงบทสรุปว่านายกฯสืบทอดอำนาจคือต้นตอก่อวิกฤติทั้งปวงต้องออกไป ไม่ว่าลาออกหรือยุบสภาฯ ที่จะเกิดจากการบังคับวิถีโดยการลุกฮือขับไล่นายกฯสืบทอดอำนาจของกลุ่มเยาวชนและคนรุ่นใหม่มาบรรจบเข้ากับภาคประชาชนกลุ่มสามัคคีประชาชนไทยไม่ทนและกลุ่มราษฎรต่างๆ วันที่ 24 มิ.ย. จะเป็นจุดเริ่มต้นระเบิดเวลาของการขับไล่

หยันมั่นใจได้คัมแบ็กรีบยุบสภา

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์สารภาพแล้วว่าการเป็นนายกฯไม่ใช่งานง่าย โดยเฉพาะสถานการณ์วิกฤติโควิดจนต้องเอ่ยปากขอโทษประชาชน 2-3 รอบ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์จะรอยุบสภาเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นคงต้องรออีกนาน ไม่ใช่แค่ฉีดวัคซีนแล้วปัญหาจะจบ ยังมีโจทย์หินงานยากฟื้นฟูเศรษฐกิจรออยู่ พล.อ.ประยุทธ์อาจเข้าใจผิดว่าที่อยู่มาได้ 7 ปี อดทนสูง จะหวานอมขมกลืนแค่ไหน ทู่ซี้สืบทอดอำนาจต่อไปเรื่อยๆไม่ไหวก็ลาออก ถ้ามั่นใจว่าจะได้กลับมารีบยุบสภาเลือกตั้งใหม่ให้ประชาชนตัดสินใจ

เจ้าถิ่นเตือนอย่าปล่อยวีไอพีกร่าง

นายอนุสรณ์กล่าวอีกว่า ส่วนการประชุมสามัญประจำปีพรรคพลังประชารัฐที่ จ.ขอนแก่น วันที่ 18 มิ.ย. พปชร.ไปจัดในพื้นที่ขอนแก่นอาจขยายผลทางการเมืองเสมือนพรรคพลังประชารัฐคิดแต่เรื่องการเมืองก่อนคิดถึงความเดือดร้อนของประชาชน จัดประชุมใหญ่แก้ปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคยิ่งไม่สมควร นายจตุพร เจริญเชื้อ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถ้าในสถานการณ์ปกติ คนขอนแก่นยินดีต้อนรับผู้มาเยือนและนักท่องเที่ยวทุกคน จะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน แต่ช่วงนี้อยู่ในภาวะโควิดระบาดฝากบอก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้กำชับลูกพรรคทุกคน โดยเฉพาะบรรดาวีไอพีและผู้ติดตามทั้งหลาย ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการที่จังหวัดกำหนดอย่างเข้มงวด อย่าทำตัวเป็นอภิสิทธิ์ชน อย่ากร่างและสร้างความหนักใจให้เจ้าหน้าที่ควบคุมโรค ขอให้ระวังอย่าทำให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่ และขอให้เร่งรัดจัดส่งวัคซีนมาฉีดให้คนขอนแก่นให้มากกว่านี้ เพื่อให้เปิดเมืองได้ตามปกติโดยเร็ว

ปชป.-ภท.-ชทพ. จับมือยื่นแก้ รธน.

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่เขตบางเขน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้รัฐธรรมนูญว่า สัปดาห์นี้จะหารือร่วมกับพรรคภูมิใจไทยและชาติไทยพัฒนา ร่วมกันพิจารณาว่าควรปรับปรุงแก้ไขตรงไหนก่อนยื่นต่อประธานรัฐสภาในนามพรรคร่วมรัฐบาล 3 พรรคต่อไป หากพรรคพลังประชารัฐจะเข้าร่วมด้วยก็ยินดี จะมีพรรคใดเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ละประเด็นเป็นเรื่องที่แต่ละพรรคจะพิจารณา พรรคมีหลักการพิจารณาว่าจะสนับสนุนร่างไหน หรือไม่ชัดเจนว่าร่างนั้นต้องนำไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น ไม่ใช่แก้แล้วถอยหลังเข้าคลอง ไม่สนับสนุน

ไม่หวั่นอดีต ส.ก.ลาออกซบ พปชร.

นายชนินทร์ รุ่งเเสง อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า กรณีนายคมสัน พันธุ์วิชาติกุล อดีต ส.ก.เขตบางพลัด พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศลาออกตามคำแนะนำของบิดาผู้เป็นซินแสดวงฮวงจุ้ยว่านายคมสันเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ พรรคไว้วางใจให้เป็นคณะที่ปรึกษาคุณหญิงกัลยา โสภณ-พนิช รมช.ศึกษาธิการ เสียดายแต่ยอมรับการตัดสินใจ บางพลัดไม่กังวล เป็นพื้นที่เก่าแก่ของพรรค มีผู้สนใจคุณสมบัติพร้อมลงเลือกตั้งเป็น ส.ก.แทนหลายคน แว่วมาหนาหูนานแล้วว่านายคมสันจะไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ

“เรืองไกร” บี้สอบ “โจ้” ผิด พ.ร.บ.คอมฯ

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กมธ.งบประมาณ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ติดตามข่าวนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุถึงงบลับในร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 65 พบว่านายยุทธพงศ์แถลงข่าวและโพสต์ในเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย 3 ครั้ง ไม่ตรงกับเอกสารงบฯ ปี 65 เพราะไม่มีงบลับแทรกซึมไปในทุกกระทรวง แต่มีเพียงบางหน่วยเท่านั้น และสำนักปลัดสำนักนายกฯไม่มีรายการงบลับ 19 รายการ รวมทั้งสิ้น 558 ล้านบาท ตรวจสอบเชิงลึกพบมีงบลับตั้งไว้ที่สำนักเลขาธิการนายกฯ จึงมีเหตุต้องตรวจสอบว่าจะเข้าข่ายเป็นความผิดตามความมาตรา 14 และหรือมาตรา 15 ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 หรือไม่ วันที่ 14 มิ.ย. จะส่งเรื่องทางไปรษณีย์ EMS ขอให้นายกฯตรวจสอบกรณีดังกล่าวโดยเร็ว พร้อมทั้งขอให้สั่งกระทรวงดีอีเอสตรวจสอบ และดำเนินการตามกฎหมายต่อไปอีกทางหนึ่งด้วย

“เอกราช” เถียง พปชร.ไร้ปมขัดแย้ง

เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ตรงข้ามศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ถนนศรีจันทร์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ประชุมคณะทำงานเตรียมการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 วันที่ 18 มิ.ย. ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.ขอนแก่น หรือไคซ์ โดยนายเอกราช กล่าวว่า ภาพรวมเรียบร้อยจำกัดผู้เข้าร่วมประชุม 350 คน ใครไม่ได้หนังสือเชิญประชุมจากหัวหน้าพรรคไม่มีสิทธิเข้า ไม่มีสิทธิ์นับองค์ประชุมหรือลงมติใดๆ มีเจ้าหน้าที่ สสจ.ตรวจคัดกรองตามมาตรฐานอย่างเข้มงวด ประชุมจบเวลา 15.00 น. กลับทันทีไม่มีการลงพื้นที่ วาระเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคยังไม่มี แต่หากสมาชิกท่านใดเสนอต่อที่ประชุมทำได้ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรค ยืนยันว่าพรรคไม่มีปัญหาขัดแย้งใดๆ หากเสนอเปลี่ยนเลขาธิการพรรค บุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งต้องมีคุณสมบัติเหนือกว่าและมากว่าเลขาธิการพรรคคนปัจจุบัน เมื่อถามว่ามีการมองว่าปรับเปลี่ยนโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรคใหม่รองรับการเลือกตั้ง นายเอกราชกล่าวว่า ไม่ทราบ ยังไม่มีสัญญาณให้เตรียมพร้อมเลือกตั้ง จากที่สอบถามผู้หลักผู้ใหญ่ทุกคนต่างบอกรัฐบาลอยู่ครบเทอม แต่แม้ยังไม่มีสัญญาณเลือกตั้ง แต่เราเตรียมพร้อมตลอดอยู่แล้ว

เล็งลด กก.บห.สลายอำนาจก๊กก๊วน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า วาระการประชุมใหญ่สามัญพรรคพลังประชารัฐประจำปี 1/2564 ที่ จ.ขอนแก่น ในวันที่ 18 มิ.ย.เป็นที่จับตาอย่างมากในการปรับโครงสร้างพรรคโดยเฉพาะเก้าอี้เลขาธิการพรรค ที่มีความพยายามเปลี่ยนแปลงเพื่อเตรียมความพร้อมเลือกตั้งครั้งต่อไปอีกทั้ง
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต รมว.ศึกษาธิการ และอดีตรองหัวหน้าพรรค ต้องคำพิพากษาศาลชั้นต้น ถูกตัดสิทธิทางการเมือง และลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้องพิจารณาสัดส่วนที่เหมาะสม แนวทางหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรค จะลาออกจาก ตำแหน่งให้ กก.บห.พ้นไปทั้งคณะ ตามข้อบังคับพรรคแล้วเลือกชุดใหม่เข้ามาแทน โดย พล.อ.ประวิตรกลับมารั้งตำแหน่งเดิม และปรับลด กก.บห. ให้น้อยลงเพื่อให้คล่องตัวมากขึ้น ลดอำนาจกลุ่มก๊วนต่างๆในพรรค โดยรองหัวหน้าพรรคเดิมมี 10 คน เบื้องต้นจะลดเหลือแค่ 4 คน ผู้ที่คาดหมายว่าจะถูกเสนอชื่อ อาทินายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ส่วนกลุ่มสามมิตร อาจเป็นนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

จับตา “ธรรมนัส” นั่งเลขาฯพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ตำแหน่งเลขาธิการพรรค พล.อ.ประวิตรระบุว่า ให้ขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรค แต่กลุ่ม 4 ช.เดินเกมผลักดันเสนอชื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ และรองหัวหน้าพรรค มาเป็นเลขาธิการพรรค แทนนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ โดยกลุ่มสามมิตรก็พยายามเต็มที่สนับสนุนให้นายอนุชาอยู่ในตำแหน่งเดิมต่อไป อย่างไรก็ตาม ตอนที่นายอนุชาขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค เคยมีสัญญาใจกับนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะ ผอ.พรรค ในฐานะคู่แคนดิเดตชิงตำแหน่งเลขาธิการพรรคว่าจะขอนั่งเป็นเลขาฯพรรคเพียง 6 เดือน แต่เวลาต่อมากลุ่ม 4 ช.ต้องการให้ ร.อ.ธรรมนัสมานั่งในตำแหน่งนี้แทน ขณะที่ พล.อ.ประวิตร อยู่ระหว่างตัดสินใจจะให้เกิดความเปลี่ยนแปลงหรือคงไว้เหมือนเดิม