บรรดา อดีตผู้นำโลก ที่ออกมาเรียกร้อง ก่อนการประชุมซัมมิต จี 7 ที่ ประเทศอังกฤษ (เริ่มประชุมวันที่ 11 มิ.ย.) ประกอบด้วย อดีตประธานาธิบดี อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีต รมว.ต่างประเทศ รวมแล้วประมาณ 100 คน ต้องการให้ ประเทศร่ำรวยกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ ช่วย จ่ายค่าวัคซีนโควิด-19 ให้ชาวโลกเพื่อที่จะได้ช่วยกันสร้างภูมิคุ้มกันโลก หยุดยั้งการกลายพันธุ์ของโควิด-19 เป็นการสกัดภัยคุกคามโลกในยุคใหม่
ในโอกาสนี้ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถือโอกาสพบกับ ผู้นำของอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี แคนาดา และญี่ปุ่น เนื้อหาสำคัญก็คือการช่วยกันหยุดยั้งไวรัสร้ายกลายพันธุ์ให้ได้
การระดมทุนโลก ในการยับยั้งโควิด-19 รอบนี้คิดเป็นจำนวน 30,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี เป็นเวลา 2 ปี ถึงจะเอาไวรัสโควิด-19 อยู่ เมื่อเทียบกับภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้เท่ากับจ่ายเงิน 30 เพนซ์ หรือ 0.43 ดอลลาร์ต่อคนใน 1 สัปดาห์เท่านั้น คุ้มค่ามาก

สอดคล้องกับเป้าหมายของ องค์การการกุศล Save the Children ที่สำรวจความเห็นของประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่า จี 7 ควรจ่ายเงินจำนวน 66,000 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการวัคซีนโควิดทั่วโลก
...
ทั้งหมดนี้คือการปรับตัวของสังคมผู้นำโลกที่หันมาสนใจปัญหาของสังคมมากกว่าเศรษฐกิจหรือการเมือง เพราะถ้าโควิด-19 ยังระบาดไปแบบนี้เรื่อยๆ พังทั้งองคาพยพแน่นอน
ประเทศไทย อยู่ในกลุ่มเสี่ยงของการแพร่ระบาดโควิด-19 ดูจากที่หลายประเทศยกเลิกการเดินทางเข้าประเทศสำหรับ คนที่เดินทางไปจากประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหนก็ตาม การกำหนดทิศทางของประเทศทั้งภายในและภายนอกจึงเป็นเรื่องที่ต้องสอดคล้องกันในภาวะที่ไม่ปกติเช่นนี้
ในประเทศ การบริหารจัดการวัคซีนเป็นเหตุ ติดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก เม็ดต่อๆมาย่อมผิดแน่นอน การติดกระดุมผิดทั้งแถว ไม่ว่าจะเป็นความตั้งใจหรือมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร จะนำไปสู่ความล้มเหลวของรัฐบาลชุดนี้โดยสิ้นเชิง
มีกระแสว่า รัฐบาลชุดนี้หาทางหนีทีไล่เอาไว้แล้ว เสร็จศึกงบประมาณรายจ่ายปี 2565 จัดสรรโครงการต่างๆกันเรียบร้อยแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอีกกระทอก จากนั้น ยุบสภา ไปตาย เอาดาบหน้า ไม่แปลกที่จะมีกระแสข่าวทะแม่งในการบริหารงานของรัฐ
ในหน่วยงานต่างๆ เพราะการเลือกตั้งแต่ละครั้ง ต้องสร้างกระแสและใช้กระสุน ปัญหาก็คือว่า รัฐจะตัดสินใจยุบสภาในยามหน้าสิ่วหน้าขวานจริงหรือไม่
บนทางสองแพร่ง ถ้าไม่ยุบสภา เบรกบรรยากาศความล้มเหลว เดินหน้าต่อไปในสภาพนี้ รัฐบาล คงตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ ถ้ายุบสภา หลังจากที่อะไรลงตัวในปลายปีนี้แล้ว ก็ไม่ได้แปลว่ารัฐจะได้เปรียบ เพราะการติดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก จะส่งผลกระทบทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว
นาทีนี้อนาคตรัฐบาลต้องฝากไว้กับ ผู้นำ เพียงคนเดียว.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th