ผู้บริหารเพื่อไทยเอาด้วยเร่งเกมเปิดเขียงซักฟอกนายกฯ “ชลน่าน” ล็อกเป้าชัดฟัน “บิ๊กตู่” กับ รมต.ทีมแก้โควิด “วรวัจน์” เฉ่งรัฐบาลหมดสภาพ ไร้ประสิทธิภาพ ไม่รับผิดชอบ อยู่ต่อยิ่งหายนะ “สุทิน” ย้ำฝ่ายค้านลับปังตอรอชำแหละงบฯปี 65 ฮึ่มจัดหนักประจานบริหารห่วยจนถังแตก รวมพลคนเคยรักหันหลังร่วมไล่ “ลุงตู่” “ทนายนกเขา” นำทีมแกนนำ คปท.-แนวร่วมอดีต กปปส.ตั้งกลุ่ม ปชช.คนไทยตะเพิด “ประยุทธ์” เสียสละไขก๊อก เปิดทางตั้งรัฐบาลสร้างชาติ เลือกนายกฯคนนอก เฉ่งยับปล่อยทุจริต บิดเบือนอำนาจ ขาดสำนึกรับผิดชอบ เล็งทำบัญชีรายชื่อผู้นำให้ประชาชนโหวตเลือก “พิชิต” ฉะ 7 ปีดับความหวังสังคม ปฏิรูปเหลว “ปรีดา” สวดจะแก้ปัญหาได้จริงต้องได้คนรักชาติ ไม่ใช่รักแต่ปาก

จากกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสนอยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทันทีเมื่อเปิดประชุมสภาสมัยสามัญในเดือน พ.ค. เนื่องจากบริหารประเทศบกพร่องผิดพลาดอย่างรุนแรง โดยที่ประชุมผู้บริหารพรรคเพื่อไทยเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าเป็นเวลาเหมาะสม รอหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านต่อไป

...

ผู้บริหาร พท.เอาด้วยซักฟอก “ลุงตู่”

เมื่อวันที่ 15 พ.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่เปิดประเด็นนี้ไป พรรคเพื่อไทยประชุมคณะผู้บริหารจึงได้เสนอต่อที่ประชุม ซึ่งที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าสถานการณ์เหมาะสม โดยเฉพาะนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกฯ ในฐานะคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค เห็นชอบตามที่ตนเสนอ เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเป็นแบบนี้ สภาฯในฐานะฝ่ายตรวจสอบสมควรเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อบอกให้ผู้บริหารทราบว่าไม่เหมาะสม ไม่ควรได้รับไว้วางใจให้บริหารต่อ เนื่องจากจะทำความเสียหายมากขึ้น จะอภิปรายเมื่อใดอย่างไร พรรคเพื่อไทยคงหารือกันอีกครั้ง และไปหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านต่อไป

เป้าเชือดชัด “บิ๊กตู่-รมต. คุมโควิด”

นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า เบื้องต้นต้องอภิปรายฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม รวมถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับปัญหาโควิดเป็นหลัก เมื่อถามว่าหากอภิปรายแล้วยังไม่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ นพ.ชลน่านตอบว่า เป็นข้อบ่งชี้ให้ประชาชนดูว่าถ้าบ้านเมืองเป็นแบบนี้ แล้วรัฐบาลยังดื้อดึงบริหารบ้านเมืองต่อไป ไม่มีจิตสำนึกรับผิดชอบ ขึ้นอยู่กับประชาชนจะใช้มาตรการอย่างไรจัดการ

เฉ่ง รบ.หมดสภาพอยู่ต่อยิ่งหายนะ

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รองประธานคณะกรรมการการเมืองพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะทำงานตู้ต้านโกง กล่าวว่าหมดหวังกับการบริหารประเทศแบบไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความรับผิดชอบ และไม่จริงใจต่อการแก้ปัญหาของประชาชน หากให้อยู่บริหารประเทศต่อไป ประเทศไทยคงหายนะมากขึ้น คนไทยคงต้องอดทนและช่วยเหลือตัวเองมากที่สุด อย่าไปรอความช่วยเหลือจากรัฐบาลหมดสภาพเช่นปัจจุบันเลย กรณี นพ.ชลน่านเสนออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลปล่อยปละละเลยให้ขนแรงงานเถื่อน จนเกิดการแพร่ระบาด การจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว จับได้แต่เจ้าหน้าที่รายเล็กๆ แรงงานไม่กี่คนเหมือนขอจับ ส่วนกลุ่มผลประโยชน์รายใหญ่ยังคงทำเป็นกระบวนการเหมือนเดิม แต่ปรับเปลี่ยนวิธีการ คือดาบ จ. ส่งให้เจ้ บ.คนดัง เมื่อเปิดเผยข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจกลับเก็บค่าหัวเพิ่มจากหัวละ 18,000 บาท เป็นหัวละ 30,000 บาท สร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีก จึงขอเรียกร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านภาคเหนือเข้มงวดจับกุมจริงจัง

เตรียมพร้อมขย่มสู้โควิดเหลว

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ไต่สวนเอาผิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค.แก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ล้มเหลว ว่า แต่ละพรรคได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน หลังจากนี้ตัวแทนทุกพรรคจะหารือกันเตรียมการยื่นญัตติอภิปรายการแก้ปัญหาวิกฤติโควิด-19 ของรัฐบาล ทั้งขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ และอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่การปล่อยแก๊งกักตุนแมสก์ลอยนวล ไม่ลงโทษ 2 รมต.ทำเชื้อโควิด-19 ระบาด สาเหตุที่โครงการนำเข้าวัคซีนทางเลือกของสมาคม รพ.เอกชนไม่คืบหน้า ติดขัดต้องซื้อผ่านองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ที่คิดค่าบริหารจัดการ 5-10% บวก VAT อีก 7% จริงหรือไม่ การขึ้นทะเบียนวัคซีนในไทยยังมีแค่ 4 ยี่ห้อ วัคซีนไฟเซอร์-สปุตนิก ที่รัฐบาลขอซื้อมากู้หน้าถึงขั้นตอนใด ขนาดพรรคร่วมรัฐบาลยังออกปากยอมรับว่าแก้วิกฤติโควิดล้มเหลว

หาช่องเปิดเวทีฟังเสียง ปชช.รื้อ รธน.

นายอนุสรณ์กล่าวอีกว่า กรณีรัฐบาลพยายามปูพรมฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินทั่วประเทศต้องระบุให้ชัดอย่าถนัดแต่พูดเอาหน้า แล้วให้เจ้าหน้าที่ตามไปแก้ปัญหาไปวันๆ ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมหารืออย่างใกล้ชิดถึงการเปิดเวทีรับฟังความเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ หากยังไม่สามารถเดินสายเปิดเวทีได้เพราะสถานการณ์โควิด-19 จะทำในรูปแบบใดทดแทน เช่น เปิดเวทีรับฟังความเห็นของประชาชนทางออนไลน์ ผ่านเพจฝ่ายค้านเพื่อประชาชนจะดำเนินการได้หรือไม่ จะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของพรรคร่วมฝ่ายค้านต่อไป

ลับปังตอรอชำแหละงบฯปี 65

ที่พรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงความพร้อมพรรคเพื่อไทยในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท วาระแรกในวันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย. ว่า พรรคเพื่อไทยให้คณะผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการของพรรคพิจารณารายละเอียด จากนั้นจะสรุปประเด็นเพื่อให้ ส.ส.เพื่อไทยพิจารณา และแจ้งให้ ส.ส.ที่จะอภิปรายแสดงเจตจำนง ก่อนนัดซักซ้อมและเตรียมความพร้อมต่อการอภิปราย วันที่ 17 พ.ค.รัฐบาลจะส่งรายละเอียดร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 65 ให้สภาผู้แทนราษฎร

ฮึ่มจัดหนักบริหารห่วยจนถังแตก

นายสุทินกล่าวอีกว่า ส่วนการจัดสรรงบฯปี 65 ที่ลดลงจากปีที่ผ่านมา ตั้งข้อสังเกตได้ว่ารัฐบาลถังแตก บริหารงานไร้ประสิทธิภาพ ไม่มีงบฯเพียงพอจัดสรรให้หน่วยงานหรือโครงการเพื่อพัฒนาประเทศ หลังจากเผชิญวิกฤติโรคระบาด ในปี 2565 มองว่ามีความจำเป็นอย่างมากที่ประเทศต้องฟื้นฟูและพัฒนา การอภิปรายครั้งนี้พรรคเพื่อไทยเตรียมจัดหนักแน่นอน เพราะเป็นไปตามสถานการณ์บ้านเมืองเมื่อรัฐบาลไม่แก้ปัญหา ทำให้ประเทศแย่ลง ฝ่ายค้านต้องจัดหนักให้มากกว่าปีที่ผ่านมา

อัดมีแต่ทางตันไม่เผื่อเหลือเผื่อขาด

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะ ผอ.ศูนย์นโยบายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การจัดทำงบฯปี 65 มีข้อจำกัดชนเพดานทุกมิติ จนจะนำไปสู่ทางตันทางการคลัง 4 ทางคือ ขาดดุล เต็มพิกัด ต้องกู้ชดเชยเต็มเพดาน มาตรา 21 พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ กู้เพื่อชดเชยการขาดดุลได้ไม่เกิน 20% ของงบฯ รวมกับงบฯที่ตั้งไว้สำหรับชำระคืนเงินต้น เท่ากับ 700,000 ล้านบาท ถ้าเก็บภาษีไม่เข้าเป้าที่ 2.4 ล้านล้านบาท จะเข้าสู่ภาวะทางตันทางงบฯทันที 2.ขาดดุลงบฯ 700,000 ล้านบาท แซงหน้างบฯรายจ่ายลงทุน ขัดต่อ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง มาตรา 20 (1) ไปเรียบร้อย 3.หนี้สาธารณะต่อจีดีพีจะทะลุ 60% ในปี 65 หนี้สาธารณะถูกประเมินว่าจะอยู่ที่ 56-57% ณ ก.ย.64 ถ้ารวมกับผลกระทบโควิดทั้ง 3 รอบจะทำให้หนี้สาธารณะต่อจีดีพีจะทะลุ 60% ในปี 65 และ 4.เงินที่กู้มาเยียวยาฟื้นฟู 1 ล้านล้านบาทจะหมดแล้ว โอนจากงบฯฟื้นฟูมาโปะงบเยียวยาอยู่เรื่อยๆแทบไม่ได้ลงทุนฟื้นฟูเท่าไหร่ ไม่มีเงินเผื่อเหลือเผื่อขาดไปพยุงเศรษฐกิจและเยียวยาประชาชนจากโควิดต่อจาก นี้แล้ว งบฯปี 65 ใน 6 ยุทธศาสตร์ไม่ได้มีเผื่อเหลือเผื่อขาดสำหรับการเยียวยาสรุปงบฯปี 65 มืดแปดด้าน ชักหน้าไม่ถึงหลัง ไปทางไหนเจอแต่ทางตัน

ซัดอย่าใช้โควิดเอาเปรียบการเมือง

น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลล้มเหลวประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลทำให้ประชาชนกลัว ขาดความมั่นใจ รัฐต้องพูดความจริง ระดมให้ข้อมูลที่ถูกต้องตอนนี้ ประชาชนลงทะเบียนจองวัคซีนน้อย และแผนกระจายวัคซีนให้จังหวัดไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จ.กระบี่ เดือน เม.ย.และ พ.ค.ได้วัคซีนเพียง 20,000 โดส เดือน มิ.ย.รอ 150,000 โดส จะได้เพียง 50,000 โดส สำคัญสุดอย่าใช้วิกฤติโควิดเป็นข้อได้เปรียบทางการเมือง สร้างความเหลื่อมล้ำซื้อประกันภัยให้อาสาสมัครบางส่วนเพื่อผลการเมือง รัฐมนตรีควรเสนอเป็นนโยบายรัฐ สร้างประกันให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

“ระวี” ชงเลื่อนเปิดสภา 2 สัปดาห์

นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ให้เลื่อนเปิดประชุมสภาฯวันที่ 27 พ.ค.ไป 2 สัปดาห์ ส.ส.เกือบ 500คนเพิ่งฉีดวัคซีนไป 300 คน ยังเหลืออีกมากไม่ได้ฉีด ผู้ช่วย ส.ส. คนขับรถติดตาม ส.ส.มาร่วมประชุมน้อยมากที่ได้ฉีด พนักงานบริการจำนวนมากก็ไม่ได้ฉีด การประชุมสภาฯใช้เวลานานมากเช้าจนค่ำ กินน้ำกินข้าวร่วมกัน เสี่ยงสูงมาก สุดท้ายอาจเกิดโควิดคลัสเตอร์สภาฯ กระจายทั่วทั้ง 350 เขตทั่วประเทศได้ ขอให้นายชวนประสานให้ ส.ส.ทุกคนฉีดวัคซีนด่วน

อดีต คปท.ไล่ “ลุงตู่” ตั้ง รบ.สร้างชาติ

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่อาคารพญาไทพลาซ่า ชั้น 1 กลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) นำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา นายปรีดา เตียสุวรรณ์นายศิริชัย ไม้งาม และนายพิชิต ไชยมงคล ร่วมแถลงข่าวเรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสียสละลาออก เพราะล้มเหลวแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และการปฏิรูปการเมือง เปิดทางให้ตั้ง “รัฐบาลสร้างชาติ” ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 โดยนายพิชิต ไชยมงคล อดีตแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และแนวร่วมกลุ่ม กปปส. กล่าวว่า เรายืนยันต้องการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ แต่ตลอด 7 ปีที่ผ่านมารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กลับทำลายความหวังของสังคม ไม่สามารถปฏิรูปประเทศไทยได้เลยแม้สักข้อเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิรูปตำรวจและปฏิรูปการเมือง ถึงเวลาที่ต้องเสียสละเปิดโอกาสให้เกิดรัฐบาลสร้างชาติ ภายใต้กลไกรัฐสภา เพื่อแก้ปัญหาเป็นรูปธรรม แก้ปัญหาการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ให้กระจายถึงประชาชนเร็วที่สุด ปฏิรูปประเทศไทยโดยมีกรอบเวลาชัดเจน เพื่อความปรองดองแห่งชาติให้เกิดขึ้นให้ได้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องลาออกเปิดทางให้ตั้งรัฐบาลสร้างชาติขึ้นมาบริหารแทน

บี้ไขก๊อกเปิดทางเลือกนายกฯคนนอก

นายปรีดากล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลนี้นำเสนอเรื่องการปฏิรูปมาไม่ถูกต้อง 7 ปีคนกลุ่มเดียวบริหารประเทศ แต่กลับไม่มีการปฏิรูปใดๆ ถ้าต้องการแก้ปัญหาของประเทศให้ได้จริง ต้องได้คนรักชาติ ไม่ใช่รักแต่ปาก หรือเป็นคนไม่ได้ทำเพื่อตนเอง ทำเพื่อประชาชน สังคมและประเทศชาติ จึงขอให้เขียนร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจากคนที่มีจิตวิญญาณที่รักประเทศอย่างแท้จริง นายนิติธรกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ควรเสียสละลาออก คำปรารภของรัฐธรรมนูญ 2560 ชี้ให้เห็นถึงวิกฤติประเทศเกิดจากการมีผู้ไม่นำพา หรือไม่นับถือยำเกรงกฎเกณฑ์การปกครองบ้านเมือง ปล่อยให้มีการทุจริตฉ้อฉล บิดเบือนอำนาจ ขาดความตระหนักสำนึกรับผิดชอบต่อประเทศชาติและประชาชน จนทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นผล จึงต้องเปิดให้เลือกนายกฯจากนอกบัญชีพรรคการเมือง โดยใช้มาตรา 272 วรรค 2 วันที่ 18 พ.ค.พวกเราจะไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาล ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์เสียสละเพื่อส่วนรวมลาออกจากตำแหน่ง จะมีการยกระดับการเรียกร้องหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาต่อไป

เล็งทำบัญชีรายชื่อผู้นำให้ ปชช.โหวต

เมื่อถามว่า จุดยืนและจุดประสงค์ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ของกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) คล้ายกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กลุ่มไทยไม่ทน มีโอกาสเคลื่อนไหวรวมกลุ่มกันหรือไม่ นายนิติธรกล่าวว่าไม่สามารถตอบได้ ต่างคนต่างดำเนินการ เมื่อถามว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส.เคยร่วมกับอดีตเครือข่าย คปท.ยังโพสต์เฟซบุ๊กให้กำลังใจนายกฯทำงานต่อไป นายนิติธรกล่าวว่า เป็นเรื่องของนายสุเทพ ตนไม่ได้พูดคุยกัน ไม่จำเป็นต้องหารือ ใครจะเชียร์ก็เชียร์ไป แต่ถ้าประเทศเสียหายนายสุเทพจะร่วมรับผิดชอบกับนายกฯด้วยหรือไม่ ทั้งนี้คุณสมบัตินายกฯตามมาตรา 272 (2) ระบุว่าต้องมีคุณธรรมจริยธรรม เห็นแก่ประโยชน์ของประชาชน ประเทศชาติมากกว่าประโยชน์พวกพ้อง มีวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหาและยอมรับความจริงในสังคม ส่วนจะเป็นใครในอนาคตอาจจัดรายชื่อให้ประชาชนโหวต ขณะเดียวกันยังเรียกร้องให้องค์กรอิสระได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาล คสช.ลาออก ขณะนี้เป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งแล้ว