ผมเขียนถึง พระเจ้าไครซัสกษัตริย์ลิเดีย รบแพ้พระเจ้าไซรัส มหาราชเปอร์เซีย ถูกสั่งเผาทั้งเป็น แต่บังเอิญเอ่ยชื่อ “โซโลน” ปราชญ์เอเธนส์ที่เคยเตือน ดูวาสนากษัตริย์ให้ดูตอนตาย ก่อนหน้า...จึงรอดชีวิตได้

นี่เป็นเรื่องราวก่อน ค.ศ.หกร้อยปี เอาเป็นว่า สมัยที่อีสป นักเล่านิทานนั่นแหละ

ปมที่ผมคาใจ แล้วพระเจ้าไครซัสอยู่อย่างไรต่อไป ในอาณาจักรเปอร์เซีย ซึ่งพระเจ้าไซรัสมีอำนาจกว้างขวางยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก หลังจากพิชิตนครบาบิโลนได้

คืนวานซืน ก็ได้ดูหนัง เรื่องอเล็กซานเดอร์มหาราช ทางทีวี เป็นครั้งที่สามที่สี่แล้วกระมัง นครบาบิโลนยิ่งใหญ่โอฬาร...ปานไหน เกินกว่าที่มโน “สวนลอยบาบิโลน หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก” ไว้สมัยยังเด็ก

พระเจ้าไซรัส ยกบาบิโลนให้ลูกชาย ชื่อแคมไบสิส ครอง องค์นี้ เก่งกาจสามารถไม่น้อยกว่าพระเจ้าไซรัส ที่ราษฎรขนานพระนามว่า “พระพ่อ” แต่โหดเหี้ยมกว่าพระพ่อหลายเท่า

ในหัวข้อ อำนาจของกษัตริย์เปอร์เซีย (คอคิดขอเขียนเล่ม 4) กาญจนาคพันธุ์ เล่าว่า พระเจ้าแคมไบสิส องค์นี้แหละ น่าจะเป็นต้นแบบ “เจ้าชีวิต” ที่พวกกษัตริย์นิยมใช้กันต่อมา

เมื่อพระพ่อตาย ขุนหลวงผู้ลูก ก็เกิดระแวง พระเจ้าไครซัส กษัตริย์ลิเดีย ที่พระพ่อทรงชุบเลี้ยงไว้ในฐานะพระสหายคู่พระทัย ให้ทำหน้าที่ที่ปรึกษาส่วนพระองค์

รับสั่งให้นำตัวไปประหารทันที

สั่งไปแล้ว เพชฌฆาตคุมตัวพระเจ้าไครซัสไปแล้ว ก็ทรงนึกเสียพระทัย ที่จะฆ่าพระสหายสนิทของพระพ่อ ก็รีบออกคำสั่งใหม่ ให้ยับยั้งการประหาร

แต่เมื่อเพชฌฆาตกราบทูลว่า ยังไม่ทันลงมือก็ทรงดีพระทัย พระสรวลร่า แต่ไม่ทันไรก็ทรงคิดขึ้นมาได้ “กูสั่งให้ฆ่าแล้ว มัวแต่รีรออะไรอยู่” สั่งให้เอาพวกเพชฌฆาตไปเข้าคุกให้หมด

...

ครั้งหนึ่ง ขุนนางผู้ใหญ่ 12 คน กราบทูลไม่ถูกพระทัย ทรงสั่งให้เอาไปเผาทั้งเป็นทุกคน

ที่หนักหนายิ่งกว่าก็คือ ทรงพระเสน่หา พระน้องนาง “เจ้าฟ้าเมโร” อยากได้เป็นมเหสี แต่ประเพณีเปอร์เซีย พี่ชายจะแต่งงานกับน้องสาวไม่ได้

ทรงเรียกประชุมลูกขุน ได้คำตอบว่า ไม่มีกฎหมายอนุญาตให้พี่ชายแต่งงานกับน้องสาว มีแต่กฎหมายพระเจ้าแผ่นดินจะทำอะไรก็ได้ตามพระทัยชอบ

คำปรึกษานี้ พระเจ้าแคมไบสิสทรงกริ้วผาง สั่งว่า เมื่อกฎหมายห้ามไม่ให้พระน้องนางแต่งกับพี่ชาย ก็ไม่สมควรให้ไปได้กับคนต่ำศักดิ์กว่ากษัตริย์ แล้วก็สั่งให้เอาตัวพระน้องนางไปประหาร

ทรงมีพระสติคุ้มดีคุ้มร้าย ฉายา ขุนหลวงทมิฬ ก็น่าจะมาจากเรื่องนี้

แต่ทั้งที่เห็นกันว่าทรงพระโหดขนาดนี้ ก็ทรงมีพระปรีชาสามารถ ทรงยกทัพไปยึดอียิปต์ ใช้ทัพหน้าเป็น หมา แมว ฯลฯ ที่อียิปต์นับถือเป็นเทพเจ้า เจอองค์เทพตรงหน้า ทหารอียิปต์เปิดตำรารบไม่ถูก ยอมให้ยึดเมืองไปเลย

เรื่องโหดๆที่เล่าขานกันอีกเรื่อง ครั้งหนึ่งพระเจ้าแคมไบสิสทรงจับได้ ตุลาการคนหนึ่งรับสินบน ตามกฎหมายเปอร์เซียโทษแรงมาก...ทรงสั่งให้เอาตัวมาถลกหนังทั้งเป็น แล้วให้เอาหนังมาหุ้มแท่นที่ตุลาการนั่งชำระคดี

แล้วก็ทรงตั้งลูกชายตุลาโกงเป็นตุลาการ นั่งแท่นนั้นชำระคดีต่อไป

มีบันทึกกันไว้ชัดเจน ยุคพระเจ้าแคมไบสิสมีอำนาจ งานตุลาการตรงไปตรงมา นับแต่งานนั้น คำนินทาตุลาโกง ก็ไม่มี.

กิเลน ประลองเชิง