ผมมีชีวิตรอดปลอดภัยข้ามปีมาได้ เพราะเชื่อคำแนะของหมอทวีศิลป์ ครับ ท่านว่า เพื่อให้อยู่ในระยะห่างที่ปลอดภัย วัดที่เคยไปทำบุญ ถ้าเว้นได้ก็ต้องเว้น หัดสวดมนต์อยู่แต่ในบ้าน หมอก็พูดแบบหมอ ปลอบให้อุ่นใจก็เป็น ขู่ให้กลัวก็เป็น ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอ และทุกจังหวัด ต้องรักษาแต้มที่หมายถึงสีเอาไว้ถ้าเผลอพลั้ง เป็นสีแดง แต่ก็หมายความว่า ความสะดวกสบายที่เคยมี ก็ต้องหมดไปสำหรับผม เด็กวัดเก่า การสวดมนต์อยู่ในบ้าน ไม่ใช่เรื่องยาก หากสวดบทอิติปิโส ภควา ฯลฯ ที่คล่องปากจบ อยากจะสวดมนต์ที่โบราณเชื่อว่าขลัง ช่วยคุ้มภัย ช่วยต่อชีวิตได้ อย่างบทโพชฌงค์ ช่วยคุ้มภัย ก็หาหนังสือมาเปิดตาดูหนังสือไป ก็สวดไป ข้อดีที่ได้คือมีสมาธิ ลดความว้าวุ่นได้เวลาหนึ่งแต่มนต์ที่สวดเป็นภาษาบาลี ถ้าอยากรู้คำแปล ต้องไปหาหนังสือแปล แต่เชื่อผมดีกว่า มนต์หรือคาถาหลายๆบท ที่เกจิอาจารย์ท่านสวดเร็วๆดังๆ ดูขลังนั้น ไม่รู้คำแปลเสียเลยดีกว่ามีธรรมบทเรื่องหนึ่ง พระราชาท่านขยัน ยามค่ำคืนก็ชวนบริวาร ปลอมตัว ออกตรวจตราบ้านเมือง ไปถึงบ้านคหบดีหลังหนึ่ง ก็เห็นพวกหัวขโมยสองคนกำลังปีนเข้าไปในบ้านพระราชาสั่งให้บริวารสงบ รอดูสถานการณ์ ตั้งพระทัยว่าจะช่วยจับขโมยให้ได้คาหนังคาเขาขโมยย่องเงียบเข้าถึงประตูบ้าน ทันทีนั้น ท่านก็ได้ยินเสียงเจ้าบ้าน สวดมนต์เป็นคาถาสั้นๆซ้ำสองสามครั้งอัศจรรย์...ขโมยได้ยิน ก็ตระหนกตกใจ วิ่งหนีเตลิดเปิดเปิง โดยไม่ทันได้ทรัพย์สินอะไรไปเลยพระราชาเข้าไปหาเจ้าของบ้าน ถามว่าท่องคาถาอะไร เจ้าของบ้านบอกว่า ได้คาถานี้มาจากอาจารย์ทิศาปาโมกข์ เมื่อพระราชาออกปากขอ เจ้าของบ้านก็ยินดีสอนแล้วก็ย้ำว่า ควรท่องทุกครั้ง ท่องซ้ำเสียงดังๆ พระราชาทรงจดจำจนขึ้นใจพระราชาองค์นี้ ทรงมีศัตรูคู่ชิงบัลลังก์ เป็นอำมาตย์มีอำนาจมาก ร่ำรวยมาก เขาวางแผนจ้างกัลบกประจำพระองค์ฆ่า ตอนเวลาที่พระราชาทรงตัดผมงานฆ่าพระราชา เดิมพันด้วยชีวิต กัลบกใช้กรรไกรตัดผมพระราชาแล้ว ถึงเวลาใช้มีดโกนแทนที่จะโกนทันที ความเครียดปนความไม่แน่ใจมีดโกนจะคมพอ ตั้งใจลับไป ลับมา นานกว่าที่เคยขณะพระราชาทรงรอ ก็ทรงท่องคาถา...ท่องซ้ำถึงครั้งที่สาม กัลบก ก็ทิ้งมีดโกน ก้มกราบพระบาทสารภาพเรื่องต่อไปจะเป็นอย่างไร คงพอนึกภาพต่อกันได้เองคาถามหาปราบศัตรูขลังชะงัดบทนี้ จดจำต่อๆกันมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลจนถึงปัจจุบัน ในตำราไสยศาสตร์ ฉบับพระอาจารย์ญาณโชติ ที่ผมก็ซื้อไว้ ก็มี เล่าถึงตรงนี้ หลายคนคงอยากได้ไว้ป้องกันตัวจะจำเอาไปท่องก็เอา ฆเฏสิ ฆเฏสิ กิงกรณัง อหัง ชานามิ สั้นๆ แค่นี้แหละครับคงมีคนติดใจ ถามถึงคำแปล ผมบอกแล้วไง...ไม่ควรแปล แต่อยากได้ ก็จะแปลให้ฟังฆเฏสิ แปลว่า พยายามเข้าเถิด กิงกรณัง อหัง ชานามิ เรารู้นะ ว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่รู้แล้ว อยากท่องต่อ ก็ท่องเอาไว้...นี่คือคาถา ที่นับถือกันว่าเหนือของขลังทั้งหลายทั้งปวงท่องอยู่ในบ้าน นานสักเดือนสองเดือน...นอกจากช่วยให้รอดจากโควิด-19 แล้ว ยังช่วยให้คนในบ้านสบายใจ คนในหมู่บ้านก็ปลอดภัย เชื่อมโยงไปถึงตำบล อำเภอ ไปถึงจังหวัด และสุดท้ายช่วยประเทศนี่ว่ากันในเรื่องความเชื่อ แต่ถ้าจะเอากันจริงๆทางจิตวิทยา บทท้ายคาถาที่ว่า “เรารู้นะ ว่าทำอะไรอยู่”ก็เมื่อเห็นกับตา เชื้อโควิด-19 มาจากพม่าหนีเข้าเมือง มาจากบ่อนการพนัน...เรื่องที่เกิดจากกิจกรรมสีเทาๆ ในเงามืดสลัว ไม่ต้องบอกเขา ก็รู้ เป็นงานของสีกากี งานนี้หนีไม่พ้นตำรวจอีกจนได้ เวรกรรม!กิเลน ประลองเชิง