เฉลิมชัยเคลียร์ใจส.ส. สนธิรัตน์ทำใจพ้นเลขา จวกยับรุมทึ้งกู้ 4 แสนล.

ปชป.กลบข่าวพรรคร้าวไล่ หน.พรรค “ชวน” ทวงเป็นหนี้บุญคุณพรรคอย่าก่อไฟขัดแย้ง “จุรินทร์” ปฏิเสธลูกพรรคก่อหวอดเลื่อยขา มั่นใจไร้คลื่นใต้น้ำ “เฉลิมชัย” เปิดบ้านเคลียร์ใจ ส.ส.-รมต. เช็กแผนเปลี่ยนหัวล่ม เหตุลูกพรรคยังฟินเป็นรัฐบาล “ราเมศ” รับมีเห็นต่าง แต่ไม่แตก “ภูมิสรรค์” ยัน 30 กก.บห.หนุน “อู๊ดด้า” “บิ๊กป้อม” บอกเดี๋ยวดูอีกทีนั่ง หน.พปชร. “สนธิรัตน์” เผย 3 ก.ค. ประชุมใหญ่เฟ้นผู้บริหารชุดใหม่ ลั่นไร้ปัญหาถ้าพ้นเลขาฯพรรค “สุวิทย์” ชี้ปรับ ครม.แน่ แต่ยังไม่ใช่เวลานี้ สภาฯถกตั้ง กมธ.วิสามัญสแกนเงินกู้ “สาทิตย์”แฉ 3.8 หมื่นโครงการไหลละเลง 7.83 แสนล้านท่วมวงเงินกู้ 4 แสนล้าน เฉ่งงบฟื้นฟูเอื้อผู้มีอิทธิพล “เทพไท” บี้สอบบัญชีผีโผล่งาบเงินเยียวยา 5.5แสนล้าน ชี้เป้า 6 โครงการโจรสูบงบฯตุนทุนเลือกตั้ง “จิรัฏฐ์” อัดอีอีซีผลาญเงินพาเด็กเที่ยว

กรณีที่มีกระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์เกิดปัญหาภายใน เหมือนกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยมีความพยายามรวบรวมรายชื่อกรรมการบริหารพรรคให้ได้เกินครึ่งจาก 39 คนให้ลาออก เพื่อกดดันให้เลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยผู้ใหญ่ของพรรคต่างปฏิเสธว่าไม่เป็นความ จริง ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ปรามให้นึกถึงบุญคุณพรรค

...

“ชวน” กรีดเป็นหนี้บุญคุณพรรคอย่าป่วน

เมื่อเวลา 08.20 น.วันที่ 11 มิ.ย.ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระเเสข่าวการรวบรวมรายชื่อกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคประชาธิปัตย์ให้ได้เกินครึ่งจาก 39 คนให้ลาออก เพื่อขอให้เลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ว่า ใจตนคิดว่าอย่าไปสร้างปัญหา เเต่ละพรรคการเมืองความคิดความเห็นแต่ละคนแตกต่างกัน แต่อย่าไปทำให้พรรคเสียหาย ไม่ชอบใครเป็นเรื่องส่วนตัว อย่าทำให้พรรคเสียหาย เพราะต้องคิดถึงชาวบ้านที่เขาเลือกเรามาด้วย เขาไม่อยากเห็นความขัดแย้ง เมื่อถามว่าความเคลื่อนไหวเหมือนการล่ารายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ เหมาะสมหรือไม่ นายชวนตอบว่า ต้องไปถามผู้ล่ารายชื่อเอง แต่ใจตนคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์มีประสบการณ์อย่างนี้มาเยอะ ทั้งเรื่อง 10 มกราคมเป็นต้น เรามีบทเรียนมาก่อน เเต่ละครั้งพรรคก็กระทบ ผลต่อมาในการเลือกตั้งก็เสียหาย บทเรียนในอดีตควรเป็นข้อที่เตือนใจสำหรับคนในพรรค แต่ว่าสำหรับคนที่อาศัยพึ่งพาพรรคอย่างพวกตน เป็นหนี้บุญคุณพรรค อะไรจะทำให้พรรคเสียหายต้องระวัง เข้าใจว่าบางคนคิดไม่เหมือนกัน เเต่ว่าพวกเราสมาชิกพรรคต้องคิดถึงประชาชนที่เขาเลือกเรามา อย่าให้เขารู้สึกว่าเลือกมาเเล้วเราขัดแย้งกันเอง

เตือนไม่พอใจอะไรให้ไปคุยกัน

เมื่อถามว่าในฐานะผู้ใหญ่ในพรรค เป็นไปได้หรือไม่จะเป็นตัวกลางประสานให้คนที่ขัดแย้งมาพูดคุยทำความเข้าใจกัน นายชวนกล่าวว่า มันไม่มีตัวตนว่าเป็นใคร มีเเต่ข่าวออกมา แต่สมมติว่าถ้ามีข้อความในไลน์ ที่มีปัญหาก็เตือนว่ามีอะไรคุยกัน อย่าไปทำให้เกิดความขัดแย้ง เมื่อถามว่าขณะนี้มีกลุ่ม ส.ส.พรรคบางกลุ่มไม่พอใจการทำงานของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อย่างต่อเนื่อง นายชวนตอบว่า ตรงนี้แล้วแต่เหตุการณ์ มีโอกาสให้ไปถามนายจุรินทร์ เมื่อถามต่อว่า ส่วนตัวมองการทำงานของนายจุรินทร์ ยังทำหน้าที่ได้อย่างดี ไม่บกพร่องใช่หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า อย่างที่ตนบอกคือเมื่อเลือกหัวหน้าพรรคไปแล้ว สมาชิกต้องช่วยกันทำงาน แต่ถ้าไม่พอใจอะไรในระบอบอย่างนี้ สามารถพูดคุยชี้แจง บอกกล่าวให้รู้ว่ามีอะไรไม่พอใจหรือขาดตกบกพร่อง ถ้ามีประเด็นอะไรหัวหน้าพรรคต้องชี้แจง เมื่อถามว่าเงื่อนไขอะไรที่สมควรทำให้หัวหน้าพรรคต้องออกจากตำแหน่ง “อันนี้ต้องไปถามหัวหน้าพรรคครับ”

โฆษก ปชป.รับมีเห็นต่าง–แต่ไม่ร้าว

เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ห้อง 310 ชั้น 3 อาคารรัฐสภา ฝั่งห้องประชุมพระสุริยัน นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงปฏิเสธกระแสข่าวความเคลื่อนไหวล่ารายชื่อกรรมการบริหารพรรคให้เปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรค และ กก.บห.พรรค ได้ตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริง ไม่มีใครดำเนินการ ยังไม่เห็นเอกสารการล่ารายชื่อ ยืนยันว่าพรรคมีเอกภาพภายใต้การนำของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคและนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ทุกคนในพรรคพร้อมสนับสนุน แต่ยอมรับว่าในพรรคอาจมีปัญหาความเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่เป็นเรื่องภายในคุยกันได้ ผู้นำพรรคไม่เคยปิดกั้นรับฟังความเห็นสมาชิก และมีหลายเวทีให้สมาชิกได้แสดงความเห็น และกำลังจะจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีเร็วๆนี้ แต่ติดสถานการณ์โควิด-19 หรือหากสมาชิกพรรคคนใดมีข้อขัดข้อง สงสัยต้องการหารือคุยกับหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคได้ กรรมการบริหารพรรคทุกคนก็มาทำงานรับฟังความเห็นจากสมาชิกเช่นกัน เป็นไปไม่ได้ที่นายจุรินทร์จะทอดทิ้งพรรค ทำงานให้พรรคมาตลอดที่เดินสายพบปะสมาชิกพรรค ส.ส.และอดีต ส.ส.ทุกภาค มีผลงานให้เห็นชัดเจน

เมินกระแสตก แจงข้าวบริจาค จ.พังงา

เมื่อถามว่านายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค ระบุที่ผ่านมาไม่มีการพูดคุยปัญหาสมาชิกลาออกเลือดไหลไม่หยุด มีคุยเป็นกลุ่มคนใกล้ตัวผู้บริหารพรรค นายราเมศกล่าวว่ายอมรับว่ามีปัญหาติดขัดบ้างไม่สอดคล้องต้องกัน แต่ได้ปรับความเข้าใจกัน หากมีสมาชิกคนใดขัดข้องหมองใจ เดินมาหาจะประสานหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรครวมถึงผู้อาวุโสของพรรค เพื่อพูดคุยกันได้ กก.บห. หัวหน้าพรรค มาบริหารพรรคภายใต้ครรลองประชาธิปไตย ใครจะกล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์กระแสไม่ดีไม่เป็นไร เป็นหน้าที่และความท้าทายของเราและคนรุ่นต่อไปที่จะทำให้พรรคเป็นที่ตอบรับของประชาชน ส่วนข่าวนายจุรินทร์นำข้าวสารไปแจกเฉพาะ จ.พังงาพื้นที่ตนเองเป็นข้อมูลคลาดเคลื่อน ข้าวสารที่นำไปแจกจ่ายไม่ได้เป็นข้าวสารกระทรวงพาณิชย์ แต่เป็นของกลุ่มผู้บริจาคใน จ.พังงา ที่ต้องการกระจายให้แต่ละตำบล จังหวัดอื่นได้ประสานช่วยเหลือตลอด ดูแลทุกคนรวมทั้งอดีต ส.ส. นายจุรินทร์ลงพื้นที่อย่างเท่าเทียม เพิ่งไปพบปะอดีต ส.ส.และสมาชิกพรรคในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ลูกหาบยัน 30 กก.บห.หนุน “จุรินทร์”

นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ ภาคอีสาน กล่าวว่า กระแสข่าวที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริง ถ้ามีคนคิดจริงน่าละอายใจ ส.ส.และผู้ปฏิบัติหน้าที่ส่วนใหญ่เคารพวัฒนธรรมและระบบพรรคที่ดีงาม สมาชิกจะเข้าหรือออกเป็นปกติทุกยุคสมัย บางคนมีอุดมการณ์ใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา บางคนผิดหวัง บางคนแสวงหาลู่ทางใหม่ๆ เพื่อตนเองหรือเพื่อประชาชน ต่างหมุนเวียนเปลี่ยนกันไป ขณะนี้สำรวจแล้ว มี กก.บห.อย่างน้อย 30 คน จาก 38 คน ที่เคารพระบบวินัย กติกาและวัฒนธรรม กก.บห.ทุกคน ผ่านการเลือกตั้งตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง และต่างพอใจกับการทำงานหนัก เพื่อพลิกฟื้นคะแนนนิยมของพรรค วันที่ 12 มิ.ย.นายจุรินทร์จะไปแจกถุงยังชีพที่ จ.สตูล วันที่ 14 มิ.ย.จะไป จ.ราชบุรีและสมุทรสงคราม สัปดาห์ถัดไปอีกช่วงศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ จะลงพื้นที่มอบโฉนดให้เกษตรกรในโครงการนโยบายช่วยแก้หนี้สินให้เกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูเกษตรกร มอบเช็คสั่งจ่ายซื้อหนี้แทนเกษตรกร ติดตามนโยบายแก้ไขหนี้สินเกษตรกรที่ จ.ศรีสะเกษ จ.อุบลราชธานี

“อัครเดช” อ้างโควิดไม่ใช่เวลาเปลี่ยน รมต.

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตามข่าวที่อ้างว่านายจุรินทร์ ยังไม่สามารถสร้างคะแนนนิยมของพรรคให้ดีขึ้น ไม่ทราบว่าที่มาของข่าวเป็นอย่างไร แต่ยืนยันได้ว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริง เพราะไม่มีสมาชิกพรรคเคลื่อนไหวล่ารายชื่อ กก.บห.ให้ลาออก เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งหัวหน้าและ กก.บห.ชุดใหม่ ได้สอบถามนายอันวา สาและ ส.ส.ปัตตานี และรองเลขาธิการพรรค ที่มีชื่อถูกพาดพิงยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวนี้เลย กระแสข่าวที่ออกมานี้ต้องการให้มีการปรับ ครม.ของพรรคหรือไม่นั้น คิดว่าเวลานี้ไม่ใช่ช่วงของการปรับ ครม. ควรให้เวลารัฐมนตรีแต่ละคนทุ่มเททำงานเต็มที่แก้ไขปัญหาวิกฤติโควิด ฟื้นฟูเยียวยาประเทศ ไม่ใช่เวลาที่จะมากดดัน เพื่อเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีของพรรค

โอ่ รมต.เจ๋ง อัดปชช.รำคาญคนตีรวน

นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าเป็นแค่ข่าวลือยังไม่มีใครออกมาแสดงตัว การนำของนายจุรินทร์ ชัดเจนเรื่องแนวนโยบายอุดมการณ์ ทันสมัย รักษาอุดมการณ์พรรคมั่นคง วางยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนผ่าน 3 กลไก คือ กลไกรัฐบาล สภาฯและพรรค รัฐมนตรีทุกคนของพรรคทำหน้าที่โดดเด่นเป็นที่พึงพอใจของประชาชน จากการสำรวจคะแนน นิยมของโพลแต่ละสำนัก โดยเฉพาะนโยบายประกันรายได้เกษตรกรตามเงื่อนไขเข้าร่วมรัฐบาล พร้อมเร่งขับเคลื่อนบูรณาการของกระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงเกษตรฯ กก.บห.ชุดนี้มีวาระดำรงตำแหน่งเช่นชุดก่อนๆ การเรียกร้องหรือประเมินต้องตามกติกา วาระและต้องผ่านการสร้างผลงานในการเลือกตั้งครั้งต่อไปเสียก่อนด้วย จึงจะประเมินได้ว่า การบริหารภายใต้การนำของนายจุรินทร์ จะเป็นที่ยอมรับของประชาชนหรือไม่ การมีเพียงบางคนมาสร้างกระแสปั่นป่วนช่วงนี้ มีแต่จะทำให้พรรคเสียหาย ประชาชนรำคาญ ไม่เป็นการดีต่อพรรคและประชาชน

“จุรินทร์”โต้ข่าวเลื่อยขาไม่จริง

เมื่อเวลา 13.20 น. ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวความขัดแย้งในพรรคประชาธิปัตย์ว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ทุกวันนี้ตนในฐานะหัวหน้าพรรคยังคงเดินสายพบปะสมาชิกพรรคในแต่ละภาคอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ ล่าสุดพบกับเพื่อสมาชิกใน กทม.มาแล้ว 2-3 รอบ เพื่อชี้แจงและรับฟังแนวทางการดำเนินงานของพรรค ในเร็วๆนี้จะมีการลงพื้นที่ในภาคอีสาน รวมถึงภาคใต้ด้วย ถ้ายังมีอะไรก็แลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันได้ เมื่อวันอังคารที่ 9 มิ.ย.ผ่านมาก็เพิ่งรับประทานอาหารกับ ส.ส. 20-30 คน ร่วมกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค

มั่นใจไร้คลื่นใต้น้ำสมาชิกเข้าใจ

เมื่อถามถึงข่าวการล่ารายชื่อให้ กก.บห.พรรคลาออกเพื่อกดดันให้ลาออกจากหัวหน้าพรรคนายจุรินทร์กล่าวว่า เชื่อว่าไม่ใช่การเคลื่อนไหวแบบคลื่นใต้น้ำ เป็นเพียงแค่ข่าวลือ ไม่มีที่มา ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบที่มาของข่าว ข้อเท็จจริงไม่เป็นไปตามนั้น กก.บห.ทั้งหมดได้ทำหน้าที่แต่ละส่วนเต็มที่ ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริง หลังจากนี้พรรคยังจะเดินหน้าทำงานต่อไป คิดว่าสมาชิกส่วนใหญ่เข้าใจ การสร้างผลงานในรัฐบาลถ้าทำงานแล้วมีผลงานที่ดี เสียงตอบรับจากประชาชนจะตอบรับในทางที่ดี พรรคยังได้เตรียมผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ทุกภาคไว้แต่เนิ่นๆ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ได้เตรียมไว้ร้อยละ 70-80 แล้ว รวมถึงผู้สมัครระดับท้องถิ่นได้เตรียมไว้แล้วเช่นกัน ทุกอย่างเดินหน้าไปโดยลำดับทุกภาค มั่นใจว่าสมาชิกส่วนใหญ่เข้าใจ

“เฉลิมชัย” เปิดบ้านเคลียร์ใจ ส.ส.–รมต.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังข่าวรวบรวมรายชื่อกก.บห.พรรคเกินครึ่ง เพื่อให้ผู้บริหารพรรคชุดปัจจุบันพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะถูกเผยแพร่ออกมา ทำให้กลุ่มที่ไม่อยากเปลี่ยนแปลงภายในพรรค เพราะเกรงจะกระทบต่อการร่วมรัฐบาล ต่างออกมาสนับสนุนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ให้เป็นหัวหน้าพรรคต่อไป และให้ข่าวไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อทำลายความเคลื่อนไหวดังกล่าว เป็นการขยับเพื่อเคลื่อนไหวชิงตำแหน่งรัฐมนตรีในพรรค โดยไม่มีการพูดถึงปัญหาการบริหารภายใน รวมทั้งจุดยืนทางการเมืองหลายอย่างที่ทำให้ ส.ส.จำนวนหนึ่งอึดอัด จนคิดย้ายพรรค ปัญหาที่เกิดขึ้นได้มอบให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค นัดคุยนอกรอบกับ ส.ส.ที่บ้านดาวล้อมเดือน เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. มี ส.ส.ไปร่วมสังสรรค์ราว 27 คน รวมถึงรัฐมนตรี ขาดคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ และนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยนายเฉลิมชัยเชิญชวนให้ ส.ส.พรรคมาร่วมรับประทานอาหารที่บ้านทุกวันอังคาร หลังประชุม ส.ส.พรรคเพื่อพบปะพูดคุยสังสรรค์ของ ส.ส. และรัฐมนตรีพรรคด้วย

ประเมินแผนล่มลูกพรรคยังฟินเป็น รบ.

รายงานข่าวแจ้งว่า ในวงหารือได้ประเมินว่าการล่าชื่อกกดันเปลี่ยนแปลง กก.บห.ไม่น่าจะทำสำเร็จ เพราะแม้จะเปลี่ยนหัวหน้าได้ก็ไม่รู้ว่าจะเอาใครมาเป็นหัวหน้าพรรค หากจะให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯและอดีตหัวหน้าพรรคกลับมารับตำแหน่ง ก็มีเงื่อนไขว่าพรรคต้องออกจากการร่วมรัฐบาล ขณะที่ ส.ส.ส่วนใหญ่ยังต้องการร่วมรัฐบาลอยู่ นอกจากนี้ยังมีการขู่กาปูนแดง ส.ส.และ กก.บห.ที่เคลื่อนไหวเรื่องนี้ที่ยังไม่เปิดตัวว่าเป็นใครและคนมักให้ความเห็นไม่สอดรับกับท่าทีพรรค หรือวิจารณ์การบริหารของรัฐบาล จะไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สมัยหน้า ยิ่งทำให้ ส.ส.และสมาชิกพรรคที่ผิดหวังกับบทบาทของพรรคอยู่แล้ว ยิ่งไม่มีใจจะอยู่กับพรรค เพราะผู้ใหญ่ในพรรคไม่ว่านายชวน หลีกภัย หรือนายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค ที่ทราบปัญหามาตลอด แต่ไม่เคยหยิบยกไปพูดคุยกับผู้บริหารพรรคอย่างจริงจัง บอกเพียงให้ไปคุยกันเองและยืนกรานว่าต้องสนับสนุนให้นายจุรินทร์บริหารพรรคจนครบวาระ จนเกิดเป็นปัญหาการบริหารภายในพรรคที่ไม่ได้รับการแก้ไข จึงเชื่อว่าจะมีสมาชิกทยอยลาออกจากพรรคเพิ่มอีก หลังจากก่อนหน้านี้ลาออกไปหลายคน อาทิ นายกรณ์ จาติกวณิช และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม. และ นพ.ปรีชา มุสิกุล อดีต ส.ส.กำแพงเพชร

“บิ๊กป้อม” พลิ้วเดี๋ยวดูอีกทีนั่ง หน.พรรค

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์กรณีมีเสียงสนับสนุนให้นั่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า ทุกอย่างก็แล้วแต่เขา แล้วแต่สมาชิกพรรค เมื่อถามว่าหากสมาชิกเลือกก็เป็นใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า “ก็ไม่รู้ เดี๋ยวดูอีกที” เมื่อถามถึงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร กล่าวสั้นๆ ว่า ไม่มีอะไร

“สนธิรัตน์” ไร้ปัญหาถ้าพ้นเลขาฯ

ที่กระทรวงพลังงาน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะรักษาการเลขาธิการพรรค เปิดเผยว่า วันที่ 19 มิ.ย.จะประชุมรักษาการกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐทั้ง 34 คน ในวันที่ 19 มิ.ย.เพื่อกำหนดวาระและสถานที่ประชุมใหญ่สามัญ เบื้องต้นกำหนดไว้วันที่ 3 ก.ค. สำหรับพรรคพลังประชารัฐอาจมีบางส่วนที่ความเห็นแตกต่างกันถือเป็นธรรมชาติของพรรคการเมืองใหญ่และพรรคใหม่ที่เติบโตเร็ว ตำแหน่งเลขาธิการพรรคขึ้นอยู่กับเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกเลือก ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหา ทำหน้าที่แม่บ้านพรรคมาเกือบ 2 ปี ทุ่มเทเต็มที่และภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งนำพาพรรคพลังประชารัฐ มาถึงวันนี้ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่น้อยใจที่ถูกกดดันให้พ้นตำแหน่งเลขาธิการพรรค เพราะเข้ามาทำหน้าที่ช่วงรอยต่อ ที่ทุกคนต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง มั่นใจว่า ส.ส.และสมาชิกทุกคนจะร่วมกันขับเคลื่อนพรรคไปข้างหน้าได้อย่างไม่มีปัญหา

“สุวิทย์” ชี้ปรับ ครม.แน่ แต่ยังไม่ใช่เวลา

ที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของกระทรวงการอุดมศึกษาฯ มีนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อว.และผู้บริหาร อว. อธิการบดีมหาวิทยาลัยต่างๆเข้าร่วมรับฟังนโยบาย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยนายสมคิดปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์เรื่องการเมืองและการปรับ ครม.

นายสุวิทย์กล่าวว่า “เรื่องการปรับ ครม.ยังไงก็ต้องปรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่จะต้องตัดสินใจ แต่สถานการณ์ขณะนี้อาจจะยังไม่ใช่เวลา” สำหรับตน พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆ เพียงแต่ให้ดูเรื่องงบประมาณ พ.ร.ก. 4 แสนล้านบาท และการจ้างงานนักศึกษา บัณฑิตที่จบไปแล้วแต่ยังไม่มีงานทำ รวมทั้งประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

โวคลี่คลาย 3 ก.ค.ได้ กก.บห.ใหม่จบ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า สถานการณ์ในพรรคพลังประชารัฐทุกอย่างคลี่คลายแล้ว ได้รับแจ้งจากนายอุตตม สาวนายน รักษาการหัวหน้าพรรคว่าจะประชุมรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรควันที่ 19 มิ.ย.เพื่อกำหนดวันประชุมใหญ่สามัญเพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ในวันที่ 3 ก.ค. ดังนั้นเมื่อเลือกเสร็จทุกอย่างก็จบ เป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย

กลุ่มแคร์ได้ฤกษ์เปิดตัว 17 มิ.ย.

นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน ในฐานะผู้ประสานงานกลุ่มแคร์ เปิดเผยว่า การประชุมกลุ่มแคร์ครั้งที่ 2 วันที่ 9 มิ.ย.มีผู้เข้าร่วมจากหลากหลายอาชีพ หลากหลายวัยเพิ่มขึ้น วันที่ 17 มิ.ย.จะมีการเปิดตัวกลุ่มแคร์ ประกาศเจตนารมณ์และแนวทางของกลุ่มที่ Voice Space ภายในงานจะมีการอภิปรายเรื่อง “150 วันอันตราย : ทางเลือกทางรอด” มีผู้ร่วมเสวนา คือ นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร นายดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิก ชื่อดัง นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษากลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกฯ ยืนยันว่ากลุ่มแคร์จะมาแชร์ความคิดเห็น หากใครเห็นว่ามีประโยชน์หยิบไปใช้ได้ กลุ่มแคร์จะกลายเป็นพรรคการเมืองหรือไม่ ตอนนี้เรายังไม่ได้คิดไปถึงขนาดนั้น แต่ไม่ปิดโอกาสอะไรในตอนนี้

“หน่อย” ลั่นไม่ขโมย ส.ส.–เพาะงูเห่า

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวทานข้าวกับ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกลชักชวนย้ายพรรคว่า แปลกใจกับการปล่อยข่าวนี้ เพราะ 2 พรรคมีอุดมการณ์ร่วมกันเพื่อไทยให้ความสำคัญกับการให้เกียรติและความไว้วางใจจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยืนยันรังเกียจพฤติกรรมเพาะเลี้ยงงูเห่าไม่ว่าฉกฉวยขโมยของเพื่อน หรือนำผลประโยชน์อื่นใดมาล่อ ไม่มีวันจะวางยุทธศาสตร์ขโมยคนของมิตรร่วมอุดมการณ์มาเป็นคนของตัวเองเด็ดขาด นักการเมืองจะนัดพบปะทานอาหารร่วมกันถือเป็นเรื่องปกติของคนร่วมสังคม

ปชป.แฉงบฯฟื้นฟูเอื้อผู้มีอิทธิพล

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติด่วนการพิจารณาตั้งคณะ กมธ.วิสามัญติดตามตรวจสอบการใช้จ่ายเงินตาม พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อแก้ปัญหาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อโควิด-19 โดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า เพียงแค่วันที่ 9 มิ.ย.งบฯเงินกู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 4 แสนล้านบาท มีการเสนอโครงการมากว่า 38,000 โครงการ 7.83 แสนล้านบาทเกินวงเงินกู้เกือบเท่าตัว มีทุกรูปแบบแม้แต่ขอซื้อโทรทัศน์ 3 หมื่นกว่าบาทก็มี บางโครงการขอเงินทำป้ายปรับภูมิทัศน์ที่จังหวัดกับผู้รับเหมาอาจตกลงกันไว้แล้ว สร้างรายได้ให้ผู้มีอิทธิพลประจำท้องถิ่น ไม่ใช่เพื่อจ้างงานตามวัตถุประสงค์การกู้เงิน

อึ้ง กก.อีอีซีผลาญงบฯพาเด็กเที่ยว

นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล กล่าวว่า หลายโครงการที่เสนอใช้เงินกู้ไม่ได้ตั้งฐานคิดฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่เป็นโครงการที่พิมพ์คำว่าโควิด-19 เข้าไปเท่านั้น กลัวจะตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ คณะกรรมการจะกลั่นกรองกว่า 30,000 โครงการอย่างไร โครงการใดจะอกหักหรือสมหวัง กล้าตัดสินใจหรือไม่ เช่น โครงการกระทรวงกลาโหมกับท้องถิ่นทั่วไป หรือโครงการของคณะกรรมการอีอีซีลูกรักนายกฯ อาทิ โครงการไทยเที่ยวไทยไปอีอีซีให้เด็กไปทัศนศึกษาสวนนงนุช พัทยา เล่นน้ำที่สวนน้ำการ์ตูนเน็ตเวิร์ก 265 ล้านบาท หรือแข่งฟุตบอลการกุศลนัดพิเศษอีอีซี 4 เส้า 50 ล้านบาท และใครจะทำหน้าที่ตรวจสอบคณะกรรมการกลั่นกรอง นั่นคือเหตุผลที่ต้องมี กมธ.ตรวจสอบป้องกันการทุจริต ไม่ใช่แค่เสือกระดาษ

“คึก” ฉะ 6 โครงการโจร–บัญชีผีรับเยียวยา

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากให้ตรวจสอบงบฯเยียวยาโควิด-19 วงเงิน 550,000 ล้านบาท ที่ล่าสุดมีผู้ได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆถึง 48 ล้านคน ดูแล้วคลางแคลงใจ ขอให้ กมธ.ไปตรวจสอบตัวเลข 48 ล้านคนว่า มีบัญชีผีไม่มีตัวตนหรือไม่ ถ้ามีแค่ 1 ล้านบัญชีจ่ายเงิน 3 เดือน ก็มีเงินรั่วถึง 15,000 ล้านบาทไปอยู่ในกระเป๋าใครหรือเป็นทุนเลือกตั้งให้พรรคใด ขอชี้เป้าให้ไปตรวจสอบงบฯอีก 6 โครงการที่มักมีโจรในเครื่องแบบ โจรในคราบนักการเมือง ได้แก่ 1.ติดตั้งกล้องซีซีทีวี 2.ขุดลอกคูคลอง 3.ติดตั้งเสาไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ 4.ทำซุ้มประตูทางเข้าชุมชน 5.ปรับภูมิทัศน์ 6.โครงการต่างๆที่มีวงเงินไม่เกิน 5 แสนบาท หรือการซอยโครงการเลี่ยงการจัดซื้อจัดจ้าง โครงการเหล่านี้มีเงินทอนมากตรวจสอบให้ดี

สภาฯไฟเขียวตั้ง กมธ.สแกนเงินกู้

ต่อมาเวลา 18.20 น. ภายหลัง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน อภิปรายแสดงความเห็นกันครบถ้วน ใช้เวลาร่วม 8 ชั่วโมง ที่ประชุมลงความเห็นให้ตั้ง กมธ.วิสามัญฯดังกล่าว โดยไม่มีการลงมติเนื่องจากตลอดการอภิปราย ส.ส.ทั้งสองฝ่ายต่างอภิปรายไปในแนวทางเดียวกัน สนับสนุนให้ตั้ง กมธ.จำนวน 49 คนขึ้นมาพิจารณาต่อไป

พท.จวกแก้ ศก.เหลือแต่เถ้ากระดูก

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทยประเมินผลกระทบโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจปีนี้หดตัวร้อยละ 8.8 ว่า มาตรการแจกเงินเยียวยา 5 พันบาทจะจบใน มิ.ย.ยังไม่เป็นรูปธรรม ยังคงส่งสัญญาณต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช้ความมั่นคงนำไม่ส่งสัญญาณให้เกิดความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ ก่อนหน้านี้ ศบค.ระบุว่าถ้าผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ครบ 14 วัน จะเปิดกิจกรรมทุกอย่าง แต่เมื่อเลย 14 วัน กลับบอกว่าต้องรอให้พ้น 28 วัน หมายถึงต้องรอ 14 วันสองรอบ วิกฤติรอบนี้ไม่ใช่ก่อนโควิด-19 เผาหลอกหลังโควิด-19 เผาจริง แต่เลยมาถึงจุดเก็บกระดูกลอยอังคารแล้ว รัฐบาลต้องเร่งออกมาตรการก่อนคนจะอดตาย

จับตาศาลชี้ปมนายกฯใช้บ้านทหาร

นายอนุสรณ์กล่าวอีกว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องกรณีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยและคณะ เข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานสภาฯส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีนายกฯอยู่บ้านพักทหารโดยไม่มีสิทธิการพักอาศัยหรือไม่ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายกฯสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.ว่าด้วยการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านขอเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันติดตาม

“ชวน” ส่งเรื่อง “สิระ–ธรรมนัส” ไปศาล รธน.

ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ กล่าวถึงกรณีส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจริยธรรมของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กรณีใช้อำนาจแทรกแซงข้าราชการประจำระหว่างลงพื้นที่ จ.ภูเก็ตว่า จำไม่ได้ว่าส่งไปตอนไหน ทุกเรื่องส่งไปตามวาระจะมีการตรวจสอบหากไม่เป็นไปตามข้อบังคับจะเรียกให้แก้ไข เอกสารต้องทำถูกต้อง ไม่เช่นนั้นศาลรัฐธรรมนูญจะตำหนิได้ ตรวจแม้กระทั่งรายชื่อว่าซ้ำหรือไม่ ลายเซ็นต์จริงหรือไม่ ตรวจละเอียดเพื่อไม่ให้เกิดข้อบกพร่องเสียหายทุกกรณี หากเป็นไปตามขั้นตอนถือว่าเข้าเงื่อนไข ประธานสภาฯไม่มีสิทธิไปยับยั้ง เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ได้ส่งเรื่อง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐและ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว 2 เรื่อง มีหนึ่งเรื่องต้องเอากลับมาทำให้ถูกต้อง

นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาฯ กล่าวว่า ได้ส่งคำร้องกรณีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ตั้งแต่ ก.ย.62 ศาลฯไม่มีหนังสือให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม

“ปิยบุตร” พ้น ส.ส.มีทรัพย์สินเฉียด 10 ล้าน

เมื่อเวลา 08.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ 3 อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ กรณีพ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 21 ก.พ.63 เนื่องจากการยุบพรรค ประกอบด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ มีทรัพย์สิน 9,916,605 บาท มีหนี้สิน 1,891,893บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 8,024,712 บาท ทรัพย์สินที่น่าสนใจคือ หนังสือภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ 2,650 เล่ม มูลค่ารวม 1,325,000 บาท เทียบกับช่วงที่นายปิยบุตรเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นประมาณ 3 แสนบาท น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ บุตรสาวนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย มีทรัพย์สิน 26,517,098 บาท มีหนี้สิน 264,488,926 บาท ส่วนใหญ่เป็นหนี้จากเงินกู้ธนาคาร โดยเฉพาะเงินกู้จากธนาคารอิสลามสูงถึง 228,284,450 บาท กู้เมื่อวันที่ 3 ก.ย.61 และหนี้ที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 28 ล้านบาท รวมแล้วมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน 237,971,828 บาท เทียบกับช่วงเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.พบว่า มีหนี้เพิ่มขึ้นกว่า 12 ล้านบาท และนายสุรชัย ศรีสารคาม อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ มีทรัพย์สิน 97,200,493 บาท ส่วนใหญ่เป็นที่ดินหลายรายการ อาทิ จ.เชียงใหม่ เชียงราย นครนายก สุพรรณบุรี มูลค่ากว่า 43.9 ล้านบาท และสิ่งปลูกสร้าง อาทิ โรงแรมสูงไม่เกิน 4 ชั้น ที่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ มูลค่า 27.4 ล้านบาท

“โรม” ตามหา “วันเฉลิม” ทุกวินาทีมีค่า

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กว่า กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน มีมติเชิญเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญ หน่วยงานด้านความมั่นคงไทย มาให้ข้อมูลกรณีการหายตัวของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธ์ หรือต้าร์ วันที่ 17 มิ.ย.องค์กรภาคประชาชนหลายองค์กรเข้ามายื่นข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้ กมธ.พิจารณา ยืนยันว่าการทำหน้าที่ของ กมธ.พยายามเต็มประสิทธิภาพทุกวินาทีมีค่า

“ช่อ” สิ้นหวัง “ดอน” หันไล่บี้กัมพูชา

ที่สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ว่านายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรมและนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ตอบกระทู้การหายตัวของนายวันเฉลิมอย่างน่าเสียดาย ไม่ได้เป็นคำตอบที่ประชาชนพอใจ ผิดหวังต่อนายดอน 2 ประเด็นใหญ่ๆ คือแทนที่จะทำให้มั่นใจว่ากระทรวงการต่างประเทศมีความกระตือรือร้นติดตามทวงถามแทนว่าใครต้องรับผิดชอบทั้งที่มีพยานหลักฐานมากมาย กลับแบ่งว่านายวันเฉลิมเป็นคนไม่มีความสำคัญ คนไทยส่วนน้อยมีปัญหาส่วนมากไม่มีปัญหา และการที่อภิปรายขึ้นมาลอยๆไม่มีอะไรอ้างอิงว่า กรณีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่มีความสำคัญประเทศไหนๆก็มี เคยชี้แจงกับทูตต่างประเทศต่างก็เข้าใจไม่มีใครติดใจ

พปชร.ซัดใช้ “ต้าร์” จุดปมการเมือง

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวหารัฐไม่ติดตามกรณีนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธ์ หายตัวไปในกัมพูชาว่า รัฐบาลดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายสิทธิและหน้าที่อำนาจอธิปไตยของรัฐอย่างเต็มที่ แต่นายวันเฉลิมไม่ได้แสดงตนต่อสถานทูต ไม่มีสถานะลี้ภัยในบัญชีของยูเอ็นเอชซีอาร์จึงยากติดตาม รัฐไทยต้องเคารพอำนาจอธิปไตยกัมพูชาไม่แทรกแซงกิจการภายใน นายธนาธรน่าจะลักปิดลักเปิดทางความคิด ไม่สนใจกฎหมายหลงผิดในความหมาย “สิทธิที่พึงมี” จนหลงลืม “หน้าที่ที่พึงกระทำ” จึงสับสนนำเสนอสิ่งที่บิดเบือนสังคม ยังสงสัยว่านายธนาธรอาจนำเรื่องการหายตัวของนายวันเฉลิมมาหาประโยชน์ทางการเมือง สร้างกระแสความเข้าใจผิด ไม่พอใจต่อรัฐบาล