โควิด-19 กำลังจะไปอะไรจะตามมา?

แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศจะอยู่ในอัตราศูนย์ (0) มาอย่างต่อเนื่องที่ตรวจพบก็เป็นคนไทย ซึ่งเดินทางมาจากต่างประเทศเท่านั้น

ด้วยสถานการณ์อย่างนี้ทำให้รัฐบาลสามารถประเมินความเป็นไปได้ง่ายขึ้น การผ่อนปรนมาตรการจึงดำเนินการจากเฟส 1 มาถึงเฟส 3 และกำลังจะก้าวไปสู่เฟส 4 ที่เปิดกว้างมากขึ้น

ข้อเสนออย่างหนึ่งก็คือการยกเลิก “เคอร์ฟิว” ที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตโดยตรงของประชาชนทั้งประเทศ

เบื้องต้นจะให้มีการทดลองก่อน 15 วัน

จากนั้นจะประเมินว่ามีผลต่อการแพร่เชื้อในประเทศเกิดขึ้นหรือไม่ หากไม่มีปัญหาคงยกเลิกถาวรไปเลย

แต่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินน่าจะรอไปอีกสักระยะเพราะฝ่ายรัฐบาลต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ายังมีความจำเป็นเพื่อให้การแก้ไขมีเอกภาพไปในทิศทางเดียวกัน

พูดง่ายๆว่ายังถืออำนาจเอาไว้ในมือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ แม้จะมีเสียงคัดค้านทำนองว่าคงไว้เพื่อผลทางการเมือง

การเปิดกว้างให้สามารถดำเนินกิจการและกิจกรรมล้วนมีผลต่อเศรษฐกิจอย่างแยกไม่ออก ซึ่งจะต้องให้ความสำคัญไม่ต่างกัน

หลังจากแนวทางเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบผ่านไปหลายระดับเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและทำให้เศรษฐกิจฟื้นฟูก่อนที่จะทรุดโทรมไปมากกว่านี้

ว่ากันถึงการเยียวยาในแต่ละส่วนที่มีปัญหาอยู่บ้างในการส่งเงินผ่านไปถึงมือประชาชนแต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้

ที่มีปัญหามากสุดคือ เงินประกันสังคม

ถึงเวลานี้ไม่รู้ว่าจบไปหรือยัง เพราะล่าช้าจนไม่สามารถที่จะร่วมขบวนไปกับหน่วยงานอื่นๆ เป็นแพ็กเกจใหญ่ทำให้การกระตุ้นขาดน้ำหนักไป

แรกๆกระทรวงแรงงานจะไม่ยอมรับงานนี้ โยนกลองให้กระทรวงการคลังรับไปทั้งหมดในเรื่องการเยียวยา

...

ไม่รู้ว่าไม่พร้อมหรือเอาเงินสะสมไปหมุนไม่ครบวงรอบ

หลังจากที่ผ่อนคลายให้ธุรกิจเดินหน้าไปเป็นส่วนใหญ่ แต่ด้วยมาตรการที่เข้มข้นจนทำให้ต้องปรับรูปแบบแม้จะเปิดได้แต่รายได้ลงลด

ยิ่งเจ้าของธุรกิจขนาดกลางขนาดเล็กที่สายป่านไม่ยาวนัก ยิ่งมีปัญหาเพราะต้องแบกรับภาระหนักไหนจะต้องปิดกิจการ ต้องดูแลพนักงานจำนวนมาก

หวังจะได้เยียวยาจากกระทรวงแรงงานให้พนักงาน ลูกจ้างก็มีปัญหาทำให้การเริ่มต้นใหม่ยากลำบากหนักเข้าไปอีก

เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะมองข้ามไม่ได้ และต้องคิดส่งเสริมพวกเขาอย่างไร

วันนี้กิจการที่เปิดดำเนินการส่วนใหญ่ ใจหนึ่งก็ดีใจแต่อีกใจหนึ่งก็คือปัญหาว่าไปได้ดีหรือจะไปไม่รอด

หลายแห่งไม่มีคนเข้าหลายแห่งมีคนเข้าแต่ไม่ซื้อ

อาจจะเป็นเพราะยังกลัวไวรัส จึงไม่ออกจากบ้านแต่ที่เป็นเหตุเป็นผลมากกว่า ก็คือขาดกำลังซื้อเงินเยียวยาคนละ 5,000 บาทนั้น ซึมหายไปหมดแล้ววูบเดียวก็จบ

ยิ่งการส่งออกคงไม่ต้องพูดถึง การท่องเที่ยวก็ต้องรอเวลาไปอีกระยะหนึ่ง หากธุรกิจในประเทศต้องสะดุด การฟื้นฟูเศรษฐกิจก็จะไม่ลื่นไหล

ถ้าไม่แก้ไขเสียก่อนไตรมาส 3 ได้เจอฤทธิ์เดชแน่!

“สายล่อฟ้า”