ไม่ว่าโลกนี้จะมีความรู้ใหม่ อธิบายว่าฝนตกเพราะเหตุปัจจัยอะไร ผมก็ยังอยากเชื่อตามที่ฝังใจมาตั้งแต่สมัยเด็กว่าฝนตกเพราะกบมันร้อง
อาจารย์ “พลูหลวง” เขียนไว้ในหนังสือ รหัสวิทยาและพลังเร้นลับ (สำนักพิมพ์ข้าวฟ่าง พิมพ์ครั้งที่ 4 พ.ศ.2543) ว่า ชาวนาจีนมีความเชื่อว่า กบมีญาณพิเศษหยั่งรู้เรื่องฝน
ถ้ากบร้องในวันที่อากาศแจ่มใส เชื่อได้เลยอีกสองวันต่อมาฝนที่แล้งมานานแสนนานจะตกแน่นอน
ข้อสังเกตชุดเดียวกัน หลังฝนตกขาดเม็ด ถ้ากบไม่ร้องเลยแสดงว่าอากาศจะแจ่มใสต่อไปอีกหลายวัน
หรือแม้ว่าฝนจะตกพรำๆ ติดต่อกันหลายๆวัน ถ้ากบไม่ร้องให้ได้ยินพึงรู้เถิดว่า ฝนจะตกต่อไปอีกหลายวัน
สถิติต่อไปนี้ อาจารย์พลูหลวง บอกว่า เป็นของชาวนาไทย ตกเย็นวันใด ถ้ากบร้องระงม ก็ระงมงึมงำ แบบที่รุ่งเพชร แหลมสิงห์ ร้องในเพลงฝนเดือนหกนั่นแหละ ท่านว่า แน่ใจได้เลย คืนนั้นฝนจะตกแน่นอน
หลักฐานยืนยัน กบกับฝนผูกพันกันมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ก่อนสมัยประวัติศาสตร์ก็คือกลองมโหระทึก ที่นิยมทำกันในภาคใต้ของจีน ผิวกลองด้านบนมีรูปกบเกาะอยู่ 4 มุม
ชาวบ้านเรียกกลองแบบนี้ว่า กลองขอฝน
ความพิเศษข้อสุดท้าย กบจะฝังตัวอยู่ในดิน หรือในรูโคลนได้เป็นเวลา 3 เดือนตลอดฤดูแล้ง
พอย่างเข้าหน้าฝน กบก็จะออกจากรู ออกมาเล่นน้ำฝน และหากิน
ตลอดเวลาสามเดือนที่อยู่ในดิน ชาวบ้านเรียกกระบวนการนี้ว่า “กบจำศีล”
โดยธรรมชาติกบเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่ผูกพันอยู่ในห่วงโซ่ธรรมชาติ ผมอ่านจากรีดเดอร์ไดเจสต์ เจอเรื่องกบในกัลกัตตา เมืองอินเดียก่อน ค.ศ.1980 ก็ยังจำศีลในฤดูแล้ง ออกมาหากินยอมศีลขาดในฤดูฝน
เกิดค่านิยมกินเนื้อกบจากยุโรป คนอินเดีย ก็ค้นหากบป้อนตลาดภัตตาคารฝรั่ง ไม่กี่ปีต่อมากบในกัลกัตตาก็หมด มณฑลใกล้เคียงก็ไม่มี
ผลที่ตามมา เมื่อไม่มีกบ สัตว์ที่กินยุงตามธรรมชาติ ยุงก็เริ่มชุกชุม รบกวนผู้คน ทั้งยังเกิดปูเล็กๆออกมาทำลายนาข้าว
ชาวนาอินเดียได้บทเรียนสำคัญ เงินที่ได้จากกบสินค้าส่งออก น้อยกว่าค่าสารเคมีกำจัดปูหลายเท่า
คิดถึงเมืองไทยของเรา ปัญหาพิพาททางการเมือง เรื่องสารเคมีบางยี่ห้อที่จะลากยาวให้ขายกันต่อไป แล้วเถียงกันว่ายังหาสารเคมียี่ห้อใหม่ทดแทนไม่ได้...ต้นเหตุจริงๆไม่แน่ว่ามาจากการไม่มีกบหรือเปล่า
ผมอ่านเรื่องกบกับฝนของอาจารย์พลูหลวง แล้วนึกถึงสามเดือนในเมืองไทย ตลอดฤดูแล้งที่ผ่านมาคนไทยต้องทำตัวเหมือนกบจำศีล อยู่ในบ้านเพื่อชาติ เอาทั้งชีวิตตัวเองให้รอด ช่วยบ้านเมืองให้รอด
เท่าที่ผมพอรู้มา กบแถวๆเมืองไทยจำศีลในฤดูแล้งเดียว แค่สามเดือน แต่ถ้าเป็นกบในแถบทะเลทรายของออสเตรเลีย...บางช่วงแล้งติดต่อกันสามสี่ปี กบก็ยังจำศีลอยู่ได้
วิถีชีวิตสามัญของกบ ยืดหรือหดการจำศีลได้ตามสภาวะแวดล้อมที่ไม่เท่ากัน
ต่างจากคนที่ทนจำศีลได้ไม่เท่าไหร่ ก็ออกอาการทุรนทุราย...ส่งเสียงระงมงึมงัมเหมือนกบร้องบอกว่า
คนตายจากโควิด-19 ไม่เท่าไหร่ ถ้าหากให้คนจำศีลต่อไป จำนวนคนอดตายจะมากกว่า
เหตุผลข้อนี้ก็มีน้ำหนักฟังได้ ก็เป็นเรื่องของอำนาจรัฐแล้วล่ะครับ... จะขีดเส้นให้คนตายจากทางไหน
สำหรับคนแก่อย่างผม ตื่นขึ้นมารอลุ้นหวยหมอทวีศิลป์ คนป่วยเพิ่มเท่าไหร่ คนตายลดลงเท่าไหร่ สนุกพอครึ้มๆ เอาตัวรอดไปได้ไปวันๆ จนทำท่าจะสนุกกับหวยอื่นไม่เป็น.