ถอยกรูดแทบไม่ทัน กับคิวที่ “บิ๊กช้าง” พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม รีบถอนโครงการจัดซื้อเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ วงเงินกว่า 6 พันล้านบาท ออกจากที่ประชุม ครม.

แม้จะผ่านการอนุมัติทำสัญญาไปตั้งแต่ พ.ย.62 แต่มาซื้อตอนนี้ยังไงก็โดนด่ากระจุย

ตามคาดฝ่ายค้านออกมาขยี้ขยาย บอกให้เอาเงินมาเยียวยาประชาชน ซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ดีกว่า

ถูกจี้จุดขุดคุ้ยรอยด่างดำรัฐบาลชุดนี้เพลิดเพลินกับการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์
ชั่วโมงนี้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกฯ และ รมว.กลาโหม

รวมทั้งประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.

ต้องโชว์ภาวะผู้นำ แก้ปัญหาอย่างเด็ดขาดบูรณาการ ควรสั่งยกเลิกแผนการซื้ออาวุธของกองทัพทั้งหมด แล้วโยกงบประมาณไปแก้ปัญหาโควิด-19

เพราะสถานการณ์ตอนนี้รัฐบาลต้องใช้เงินเยอะมากเพื่อเยียวยาประชาชน ผู้ประกอบการ รวมทั้งใช้ในวงการแพทย์ที่เป็นแนวหน้าทำสงครามกับศัตรูที่มองไม่เห็น

ล่าสุดนายกฯบอกว่าจำเป็นต้องใช้งบประมาณทั้งภายในภายนอก รวมทั้งต้องออก พ.ร.ก.กู้เงินฉุกเฉิน

หาเงินจนมือเป็นระวิง บรรดาเจ้าสัวนายทุนถ้ายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือกันเยอะๆหน่อยน่าจะดี

คนเราจะเห็นน้ำใจกันก็ยามยาก ยามวิกฤตินี่แหละ

วันนี้กลไกทุกอย่างหยุดหมด เศรษฐกิจไม่ขับเคลื่อน เจอโควิด-19 ทำพังพินาศ ห้างร้านทยอยปิด คนตกงาน และแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สถานการณ์การแพร่ระบาดยิ่งนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งเสียหายเท่านั้น

รัฐบาลต้องตั้งหลักรับมือให้ดี เร่งแก้ปัญหาควบคุมการแพร่ระบาดโควิด–19 และออกมาตรการเยียวยาฟื้นฟูไปพร้อมกัน และต้องทำอย่างต่อเนื่อง

...

สงครามครั้งนี้ต้องใช้เวลานานพอสมควร ล่าสุดรัฐบาลมีมาตรการเยียวยาระยะ 3-4 แต่อาจต้องมีไปถึง 10-20

ดูทรงแล้ววิกฤติสาหัสครั้งนี้คงไม่จบลงง่ายๆ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯที่งัดมาใช้เดือนเดียวไม่พอแน่ แต่เป็นวิธีการแบบค่อยเป็นค่อยไป รัฐบาลค่อยๆใช้มาตรการหนักขึ้นๆ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการต่อต้านจากการตื่นกลัวของประชาชน

ตอนนี้หลายจังหวัดออกมาตรการขอความร่วมมือประชาชนงดออกจากบ้านช่วงดึกแล้ว ขณะที่กรุงเทพมหานครสั่งปิดร้านค้าทุกประเภทเที่ยงคืนถึงตี 5

ขอความร่วมมือเพื่อสร้างความคุ้นชิน ต่อไปรัฐบาลอาจประกาศ “เคอร์ฟิว” ทั้งประเทศ

เรื่องระยะห่างทางสังคม Social distancing ยังเป็นปัญหาใหญ่ที่น่าห่วงกังวล ผู้ป่วยรายใหม่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับขนส่งสาธารณะ รถเมล์ รถบัส รถตู้ รถไฟฟ้า เรือ เครื่องบิน

ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง จน “บิ๊กตู่” กลุ้มใจ ขู่จะหยุดการเดินทางขนส่งทุกรูปแบบ

ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษก สตช. เผยว่า ช่วง 4-5 วันที่ผ่านมายังมีหลายกรณีที่ไปมั่วสุม ตั้งวงสังสรรค์ เล่นการพนัน ปาร์ตี้ยาอี ผิดทั้ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

แบบนี้ต้องเชือดไก่ให้ลิงดู ลงโทษให้หนัก แม้ตัวเองจะไม่กลัวแต่มันเดือดร้อนคนอื่น

เหล่านี้คือสาเหตุหัวใจหลักของการแพร่ระบาดโควิด–19 อยู่ที่ “บิ๊กตู่” จะเด็ดขาดแค่ไหน ขู่ไปเรื่อยๆแบบนี้สถานการณ์คงไม่สะเด็ดน้ำ จะห้ามรถเมล์ รถไฟ จะจับคนฝ่าฝืนไหม

วันนี้คนโกงหน้ากากอนามัยยังลอยนวลอยู่เลย ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ผู้นำต้องโชว์ Absolute Power พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯเวนคืนอำนาจทั้งหมดไปอยู่ในมือ นายกฯแล้ว สงครามไวรัสมรณะครั้งนี้แพ้ชนะต้องรับผิดชอบไปคนเดียวเต็มๆ

เห็นท่าทีให้ความร่วมมือของนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแล้วต้องชื่นชม

พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านพร้อมอย่างยิ่งที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ทั้งการออกกฎหมายเร่งด่วน จัดสรรงบประมาณ เสนอแนวทางแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์เพื่อฝ่าวิกฤติไปด้วยกัน

ติติงบ้างในเรื่องของความไม่เป็นระบบที่ผ่านมา แต่ก็ให้กำลังใจรัฐบาลที่ทำงานอย่างหนัก

วางตัวได้สมบทบาทผู้นำฝ่ายค้าน เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ไม่เหมือนกับพวกลิ่วล้อนักการเมืองบางจำพวกที่เสพติดการด่าหาประเด็นเสียดสีรัฐบาล ไม่เว้นแม้ยามหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้

สุดท้ายโดนประชาชนสั่งสอนด่ากลับจนสำนึกผิดไม่ทัน แล้วก็ค่อยๆหายไปด้วยความอับอายขายขี้หน้า

เวลานี้คือเวลาที่จะหันหน้ามาร่วมมือกันช่วยประเทศ ไม่ใช่ถ่วงแข้งถ่วงขา

พูดแล้วก็เห็นภาพรัฐบาลแห่งชาติฝ่าวิกฤติ พลังประชารัฐจับมือเพื่อไทย เป็นรัฐบาล 2 พรรคใหญ่ การทำงานคงไหลลื่นคลื่นสงบ เรือเหล็กไม่กระเพื่อมกระฉอกเหมือนตอนนี้

ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์เป็นประเภทเขี้ยวลากดิน เล่นการเมืองทุกจังหวะ ทุกโอกาส แบ่งแยกอาณาจักรใครอาณาจักรมัน การทำงานของรัฐบาลจึงย้อนแย้งยุ่งเหยิง หลายเรื่องอืดเป็นเรือเกลือ

แต่พรรคเพื่อไทยถือเป็น “กากี่นั้ง” คนที่มาอยู่พลังประชารัฐตอนนี้ส่วนใหญ่ก็เคยเป็นเครือข่ายพรรคเพื่อไทย

พรรคขวัญใจคนรากหญ้าเชิงการเมืองไม่สูง ทำงานแล้วสบายใจกว่าเยอะ.

ทีมข่าวการเมือง