พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินปราบไวรัสตัวร้ายให้สูญพันธุ์ ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา

บัดนี้ การใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ผ่านไปครบ 7 วันพอดี

ปรากฏว่าจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสเพิ่มใหม่ “ยังไม่ลดลง”

แต่ไม่เพิ่มพรวดๆ อย่างที่ผู้เชี่ยวชาญห่วงใย

จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสทั่วประเทศเพิ่มขึ้นวันละร้อยกว่าคน ถัวเฉลี่ยเพิ่มวันละ 130 คน โดยประมาณ

ถือว่าสถานการณ์แพร่ระบาดหลังการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 สัปดาห์ “ยังทรงตัว”

ยังพอรับไหว ยังพอคุมได้ ยังไม่เตลิดเปิดเปิง

ที่ประชุมศูนย์บริหารฉุกเฉินฯ ซึ่งมี “นายกฯลุงตู่” เป็นประธาน เห็นพ้องต้องกันว่าอัตราการเพิ่มของผู้ติดไวรัสยังอยู่ในระดับน่าพอใจ

คาดว่าอีก 7 วันต่อไป ถ้าประชาชนให้ความร่วมมือ กักตัวอยู่ในบ้าน และเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างพร้อมเพรียง

จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสใหม่จะเริ่มลดลงๆๆอย่างชัดเจน

“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่าเมื่อสถานการณ์เป็นที่น่าพอใจ จึงยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการให้เข้มข้นยิ่งกว่าที่ทำอยู่ในปัจจุบัน

ยกเว้น...ประเด็นสำคัญที่ “นายกฯลุงตู่” กำลังคิดหนักว่าจะเอายังไงดี??

เพราะอีกไม่กี่วันจะเข้าสู่ “เทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทย”

กองทัพประชาชนในกรุงเทพฯปริมณฑล จะยกขบวนเดินทางกลับต่างจังหวัดเพื่อฉลองสงกรานต์ตามประเพณี

ถึงแม้ปีนี้ ทางราชการจะยกเลิกวันหยุดยาวสงกรานต์ แต่พี่น้องลูกจ้างแรงงานซึ่งกำลังตกงานชั่วคราว ต่างเตรียมยกทัพใหญ่เดินทางกลับไปตั้งหลักที่บ้านเกิดกันระเบิดเถิดเทิง

คาดว่าพี่น้องประชาชนนับแสนคน หรือหลายแสนคน จะเดินทางไปฉลองเทศกาลสงกรานต์พร้อมกัน

...

การเคลื่อนที่ของประชากรจำนวนมากทำให้เชื้อไวรัสโควิด–19 แพร่กระจายไปทั่วทุกทิศทุกทาง

นี่คือเรื่องสำคัญที่นายกฯลุงตู่ ผู้บัญชาการปราบไวรัสต้องคิดหนัก คิดเยอะ คิดหลายแง่ คิดหลายมุม

นายกฯลุงตู่ แย้มว่าถ้าหากพบประชาชนเดินทางจำนวนมาก อาจต้องลดจำนวนเที่ยวการขนส่งผู้โดยสารลง

หรืออาจจำเป็นต้องสั่งหยุดระบบขนส่งผู้โดยสารอย่างสิ้นเชิง

“แม่ลูกจันทร์” มองว่าถึงจะสั่งหยุดระบบขนส่งของรัฐ ก็ยังมีบริการขนส่งภาคเอกชน ยังมีรถยนต์ส่วนตัว ยังมีรถแท็กซี่ รถปิกอัพ ฯลฯ ขนคนกลับต่างจังหวัดได้อยู่ดี

แม้มีการตั้งด่านสกัดคัดกรอง ก็ไม่สามารถสกัดคนจำนวนมากที่ต้องการเดินทางกลับไปฉลองสงกรานต์ที่บ้านเกิดได้อย่างแน่นอน

ข้อสำคัญ คือมีเงินแจกฟรีจากรัฐบาลคนละ 5 พันบาทเป็นเบี้ยต่อไส้ให้เดินทางกลับบ้านได้อย่างสะดวกโยธิน

“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่ามาตรการกักตัวคนเดินทางกลับบ้าน 14 วัน ก็ยากจะควบคุมได้ทั่วถึงรัดกุม

การรักษาระยะห่างสังคมในช่วงฉลองสงกรานต์ คงยากที่จะปฏิบัติตามอย่างจริงๆจังๆ

แถมการเล่นสาดน้ำสงกรานต์ ยังเปิดช่องให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายจนไม่รู้ว่าใครติดใคร??

“แม่ลูกจันทร์” ฟันธงว่าสงกรานต์ปีนี้ กรุงเทพฯจะกลายเป็น “มหานครร้าง” ยิ่งกว่าทุกปี

จำนวนผู้ติดไวรัสในกรุงเทพฯจะลดลง

แต่จำนวนผู้ติดไวรัสในต่างจังหวัดจะบานทะโร่อย่างแรง

ท่านผู้นำจะรับมืออย่างไร? มีเวลาให้ลุงตัดสินใจอีก 7 วัน.

“แม่ลูกจันทร์”