"ห้อยพระอยู่แล้ว" "บิ๊กตู่" เย้ย คนแช่งให้บินตก

โต้อย่าดูถูก 250 ส.ว.ไม่มีสมอง "เจษฏ์" กลับลํา-อนค.ไม่ถึงยุบ! วิญญัติฉะกกต.ไขสือยุบพปชร.

“ประยุทธ์” เริ่มสแกนรายชื่อ ส.ว.ลากตั้ง บอกอย่าดูถูกไม่มีสมอง-บังคับได้ พรรค การเมืองรุมท้า “บิ๊กตู่” ดีเบต “เจ๊หน่อย” ให้เปิดหน้าแมนๆ เตือนว่าที่ 250 ส.ว. อย่าฝืนความรู้สึกประชาชน “ณัฐวุฒิ”เย้ยไม่ต้องลีลาแล้วขึ้นเวทีเลย “มาร์ค” หยัน พปชร.สินค้าก๊อป ชวนทุกพรรคยึดจุดยืนไม่วิ่งหา 250 ส.ว. รองเลขาฯกกต.ชี้ไม่มีข้อห้าม “บิ๊กตู่” ขึ้นเวทีดีเบต “ธนาธร” ปลุกคนเลือกตั้งล้มเผด็จการ อนค.รับใส่ประวัติเคลื่อนแต่รีบแก้แล้ว “เจษฏ์” กลับลำโทษ ไม่ถึงขั้นยุบพรรค “สุดารัตน์” ส่งกำลังใจให้สู้ “วิญญัติ” ซัด กกต.ทำไขสือยุบ พปชร. “แสวง” โต้ทำมาตรฐานเดียวกัน

จากเหตุระทึกเครื่องบินซี-130 ของกองทัพอากาศ เครื่องยนต์เกิดขัดข้องกะทันหัน ระหว่างนำคณะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี-กระบี่ ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ประกาศย้ำไปถึงกองแช่งว่า ให้แช่งไปเถอะไม่เห็นเป็นอะไร เพราะห้อยพระอยู่

“บิ๊กตู่” เริ่มคัดชื่อ ส.ว.ลากตั้ง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ก.พ.ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการคัดเลือก ส.ว.ของ คสช.ว่า เตรียมการไว้แล้ว คัดรายชื่อต่างๆมาดูก่อน เอามาจากหลายที่ ส่วนเจ้าตัวจะรับหรือไม่รับต้องว่ากันอีกที ถึงเราอยากเลือกอยากได้เข้ามา แต่เจ้าตัวอาจไม่มาก็ได้ เพราะวันนี้หลายคนไม่อยากเข้ามาการเมือง เกรงจะมีปัญหา ทั้งเรื่องส่วนตัว สิทธิประโยชน์ที่เคยได้ต้องเลิกทั้งหมดเลย เมื่อถามว่าจะป้องกันคำครหาเลือกคนของตัวเองอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ตั้งอะไรโดนครหาทุกเรื่อง แต่ยืนยันทำตามอำนาจหน้าที่ ไม่ใช่พอเริ่มก็เล่นงานแล้ว ใครจะอยากเข้ามา คนดีๆจะเข้ามาไหม ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง รัฐบาล หรือ ส.ว. อย่าคิดว่ามันง่าย ที่อยู่มา 4-5 ปีนี้เอาคนเข้ามาทำงานกับรัฐบาล คสช.ไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยกติกา ปัญหาส่วนตัว ปัญหาจุกจิก

อย่าดูถูกไม่มีสมอง–บังคับได้

เมื่อถามว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า 250 ส.ว.เข้ามาเพื่อเป็นต้นทุนสนับสนุนให้เป็นนายกฯต่อ พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า จะมาเป็นต้นทุนอย่างไร ที่ผ่านมาเลือกตั้ง ส.ว.เข้ามาเป็นอย่างไร เป็นเครือข่ายใคร พรรคการเมืองและนักการเมืองไหนไม่ดูบ้าง วันนี้ตนขึ้นมาก็กลายมาเป็นเครือข่ายตน พ.ร.บ.หลายฉบับที่พิจารณากันในสภา ไม่เคยออกมาได้ง่ายถ้ามีอำนาจสั่งเขาได้จริง ตามรัฐธรรมนูญไม่ใช่ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯเป็นเรื่องที่ 2 สภาต้องเสนอร่วมกัน ส.ว.มีอำนาจแค่นั้น เว้นกรณีพรรคนี้ได้แต่พอเสนอชื่อขึ้นมาพรรคอื่นไม่ยอมรับ จะขัดแย้งกัน จึงต้องหาวิธีปลดล็อกตรงนี้ ให้ ส.ว.ร่วมพิจารณาได้ แม้ ส.ว.จะตั้งมาจากตน ถามว่าคุณจะดูถูกทั้ง 250 คนนี้หรือ เขาไม่มีสมองไม่รักประเทศหรือ ทุกคนต่างรักประเทศ อย่าหวงรักประเทศรักประชาธิปไตยเพียงพรรค การเมือง นักการเมือง

แขวะกองแช่งจั่วลมห้อยพระดี

เมื่อถามว่าเหนื่อยหรือไม่ที่ทุกพรรคจ้องโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่เหนื่อย เพราะเขาพูดในเรื่องไม่จริงไปสนใจทำไม วันนี้จะเห็นว่าพยายามอารมณ์เย็นลงเยอะ เมื่อก่อนอาจถือสาเป็นอารมณ์บ้าง และไม่ใช่ต้องการเปลี่ยนแปลงเพราะเป็นนักการเมือง มันทรมานตัวเองมากกว่า แต่ต้องคิดว่าจะทำอะไรต่อไป ดีกว่าไปคิดตอบโต้กันแบบนี้ ทุกคนก็รู้การเมืองไทยเป็นแบบนี้ ทำให้คนไม่อยากเข้ามา ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่บอกว่ามีคนแช่งให้เครื่องบินตกรู้สึกอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “แช่งไปเถอะ ผมก็ไม่เห็นเป็นอะไร ผมห้อยพระอยู่แล้ว”

“บิ๊กป้อม” ได้ทีดูงบฯจัดซื้อใหม่

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีเครื่องบินซี-130 ของกองทัพอากาศเกิดใบพัดขัดข้องระหว่างนำคณะนายกฯลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และกระบี่ เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ว่า เครื่องเก่าแล้ว กำลังคิดปรับเปลี่ยนอยู่แต่ต้องดูงบประมาณ เมื่อถามว่าได้ตรวจเช็กเครื่องก่อนขึ้นบินหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า เขาตรวจเช็กอยู่แล้ว เมื่อถามว่ากรณีนี้ถือว่ากองทัพยังจำเป็นต้องใช้งบฯเพื่อจัดซื้อยุทโธปกรณ์หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า จำเป็น เพราะเครื่องนี้เก่าใช้มานาน 30 ปีแล้ว งบฯกระทรวงกลาโหมจำเป็นอยู่แล้วในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ ใช้ตามความจำเป็นไม่ได้มากขึ้น งบฯเท่าเดิมทุกอย่างประมาณร้อยละ 7.5 เมื่อถามย้ำว่ากรณีที่เกิดขึ้นสามารถหักล้างข้อกล่าวหาของบางพรรคที่หาเสียงจะลดงบฯกลาโหมได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า งบฯกลาโหมจำเป็นต้องมี เพราะต้องใช้กับประชาชน ใช้ป้องกันประเทศ สำคัญหรือไม่ไปคิดดู

ทอ.แจงเหตุซี–130 ขัดข้อง

ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ พล.อ.ท.พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ กล่าวชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ระหว่างบินขึ้นไปได้ 15 นาที นักบินได้ตรวจพบว่ารอบความเร็วของเครื่องยนต์ที่ 2 เกิดอาการสวิงส่ายไปส่ายมา เกิดเกณฑ์ไม่สามารถคอนโทรลเครื่องยนต์ได้ จึงต้องดับเครื่องยนต์กลางอากาศ ตัดสินใจบินกลับมาลงที่ท่าอากาศยานทหาร 2 เพราะเกิดเหตุขัดข้องของเครื่องยนต์ มีคนถามกันมากว่าทำไมนักบินไม่นำเครื่องบินไปลงที่สนามบินเกาะสมุย และทำการแก้ไขเครื่องยนต์ กองทัพอากาศไม่มีช่างเครื่องยนต์ที่สนามบินดังกล่าว รวมถึงนักบินไม่สามารถทำการบินด้วยเครื่องยนต์ 3 เครื่องที่เหลือจากสนามบินสมุยได้ เพราะไม่ปลอดภัยด้วยกฎระเบียบของสนามบินนานาชาติ หากสภาพเครื่องยนต์ขาดความพร้อมห้ามไม่ให้ทำการบินขึ้นจากสนามโดยเด็ดขาด และเพื่อให้เกิดความมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ของนักบิน ถือว่าเป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนปกติ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินต้องทำตามขั้นตอนคือการบินกลับมาดอนเมืองเท่านั้น

ชื่นชมนักบินตัดสินใจดีที่สุด

พล.อ.ท.พงษ์ศักดิ์กล่าวอีกว่า พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผบ.ทอ. ได้รับรายงานแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ ต้องชื่นชมนักบินที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรกของผู้โดยสารระดับวีไอพี ดังนั้น เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดของนักบินกองทัพอากาศ อยากให้ประชาชนเข้าใจด้วยว่าภารกิจของเครื่องบินซี-130 ลำดังกล่าว ได้รับการตรวจเช็ก บำรุงรักษาตามวงรอบ แต่เนื่องจากมีอายุการใช้งานมาเกือบ 40 ปี เพราะบรรจุเข้าประจำการตั้งแต่ปี 2523 จึงมีโอกาสเกิดเครื่องยนต์ขัดข้องได้

“เจ๊หน่อย” ท้า “บิ๊กตู่” ดีเบตแมนๆ

เวลา 12.00 น. ที่สุเหร่าหัวหมากน้อย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) ลงพื้นที่ช่วยนายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผู้สมัคร ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทยหาเสียงพบปะประชาชนชาวไทยมุสลิมที่มาละหมาดที่สุเหร่า คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐขอ กกต.ให้นายกฯมาลงพื้นที่ช่วยหาเสียง คุณหญิงสุดารัตน์ตอบว่า ควรเริ่มจากขอ กกต. ให้นายกฯมาแสดงวิสัยทัศน์ดีเบตกับแคนดิเดตนายกฯพรรคอื่นก่อนดีกว่า ถ้ากฎหมายอนุญาตให้ติดรูปได้ก็น่าจะมาดีเบตกับผู้เสนอตัวแบบไร้เส้นได้ เมื่อถามถึงกรณี กกต.อนุญาตให้สมาชิกท้องถิ่นช่วยพรรคการเมืองหาเสียงได้ คุณหญิงสุดารัตน์ตอบว่า ตอนแรกบอกห้ามแต่พอมีกรณีพลังประชารัฐเอาผู้นำท้องถิ่นที่ได้รับตำแหน่งคืนจากการถูกมาตรา 44 แขวนมาขึ้นเวทีแล้วเป็นเรื่องเป็นราว ตอนนี้ไม่ห้ามแล้ว เอาให้แน่ๆ ขอย้ำว่าเลือกตั้งครั้งนี้ต้องยุติธรรม ต้องไม่โกง และต้องไม่ใช้อำนาจรัฐ

หวัง ส.ว.ไม่ฝืนความรู้สึก ปชช.

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ผู้มีอำนาจหรือผู้มีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง โปรดอย่าทำลายความหวังประชาชน ต้องจัดการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม ปราศจากการซื้อเสียง การโกง ทุกวันนี้มีการใช้อำนาจรัฐมากมาย มีการซื้อเสียงมโหฬาร แต่ผู้ที่อำนวยการให้เกิดการเลือกตั้งมองไม่เห็น แต่ไม่คิดว่าเราจะ เสียเปรียบ เมื่อตัดสินใจเดินสู่สนามนี้เรารู้อยู่แล้วว่าจะเสียเปรียบ เมื่อถามว่าถ้า กกต.อนุญาตให้ พล.อ.ประยุทธ์ช่วยหาเสียงได้ จะยิ่งสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ตอบว่า พล.อ.ประยุทธ์มีหมวก 3 ใบ ไม่ได้ลงพื้นที่ในนามแคนดิเดตก็ลงในนามนายกฯ สื่อคงเห็นเองว่าเรียกคะแนนเสียงให้บางพรรคหรือไม่ ไม่รู้สึกตื่นเต้นเพราะท่านก็ลงอยู่แล้ว แต่น่าจะมาร่วมดีเบตในทุกเวทีเช่นเดียวกับแคนดิเดตคนอื่น ไม่ใช่มีความพิเศษหรืออภิสิทธิ์อยู่คนเดียว

ส่งกำลังใจอนาคตใหม่สู้ความจริง

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวอีกว่า อยากฝากคนที่จะมาเป็น ส.ว. แม้ไม่ได้มาจากประชาชน แต่กินเงินภาษีประชาชน หน้าที่คุณคือทำให้ประเทศชาติสงบสุข เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน ถ้าประชาชนมอบความไว้วางใจให้พรรคการเมืองใด เราหวังว่า ส.ว.จะไม่ฝืนความรู้สึกประชาชน ต้องเลือกประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่เลือกคนที่ตั้งท่านเข้ามา เมื่อถามถึงกระบวนการตั้งข้อหาเพื่อยุบพรรคในฝั่งประชาธิปไตย ล่าสุดเป็นพรรคอนาคตใหม่ คุณหญิงสุดารัตน์ตอบว่า โดนกันหมด เมื่อเข้าสู่สนามเรารู้ว่าจะเจออะไรบ้าง กลไกที่วางไว้อย่างเอียงกะเท่เร่ เอาเปรียบทุกอย่าง ทั้งอำนาจรัฐ การเอื้ออำนวยให้บางพรรค พรรคฝ่ายประชาธิปไตยคงโดนอีกเยอะ ขอให้กำลังใจนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคอนาคตใหม่ เชื่อว่าเขาคิดเหมือนตนคือรู้ว่าจะเดินไปสู่อะไร แต่เมื่อเรามีความมุ่งมั่นตั้งใจจะเข้ามาสู่เวทีประชาธิปไตยอย่างไร้เส้น ก็ต้องอดทนต่อสู้กับความจริง และหวังว่าจะเกิดความยุติธรรม คนไทยไม่ชอบอะไรที่ไม่ยุติธรรม ไม่ชอบอะไรที่เอารัด เอาเปรียบ นี่คือนิสัยคนไทย

“สมชาย” เดินสายช่วยที่อุบลฯ

ขณะที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ช่วยนายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ และผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทยทั้ง 10 เขตเดินหาเสียงในตลาดสดเทศบาลเมืองเดชอุดม อ.เดชอุดม มีประชาชนเข้ามาพูดคุยและขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก จากนั้นนายสมชายกล่าวปราศรัยถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทยว่า ช่วงที่ผ่านมาไม่มีโอกาสได้พูดกับพี่น้องประชาชน เพราะหลังทหารยึดอำนาจ ไม่มีใครมาเชิญไปพูด ขอให้ประชาชนช่วยกันเอาประชาธิปไตยคืนกลับมา เพื่อให้มีความกินดีอยู่ดีจากเศรษฐกิจที่จะเติบโตขึ้นเมื่อประเทศเป็นประชาธิปไตยแล้ว

“ชัชชาติ” เดิน 3 ตลาดเมืองปทุม

ที่ตลาดนานาเจริญคลอง 2 ปทุมธานี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานีของพรรคหาเสียง โดยจุดแรกที่ตลาดนานาเจริญคลอง 2 จากนั้นเดินทางต่อมายังตลาดรังสิตและตลาดไท โดยทั้ง 3 จุดมีพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมมอบดอกไม้เป็นกำลังใจให้นายชัชชาติและผู้สมัคร ส.ส. นายชัชชาติกล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบว่าสิ่งที่ชาวบ้านอยากให้แก้ไขอย่างเร่งด่วน คือ ปัญหาด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อย ไม่มีทุนหมุนเวียน อีกทั้งระบบการกู้ยืมของภาครัฐก็ไม่อำนวยให้กับประชาชนที่มีรายได้น้อยมากนัก

“ธนาธร” ปลุกเลือกตั้งล้มเผด็จการ

วันเดียวกัน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมทีมงานลงพื้นที่ช่วยนางกฤษณ์กมล แพงศรี นายหรรษธร กำปั่นทอง และ ส.ต.ศักดิ์ปรินทร์ เกษมธนพัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคอนาคตใหม่ทั้ง 3 เขตหาเสียง นายธนาธรกล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่มุ่งหวังเปลี่ยนแปลงประเทศ ต้องการเห็นประชาชนไทยมีรัฐสวัสดิการ มีรายได้ และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อยากให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. รวมพลังประกาศให้ประชาคมโลกรู้ว่า ประเทศไทยทนไม่ไหวกับผู้ปกครองที่ยึดอำนาจจากประชาชนมา พร้อมกับเน้ยย้ำนโยบายปฏิรูปกองทัพ ทำกองทัพให้ทันสมัยใช้เทคโนโลยีมาบริหาร ลดไขมันส่วนเกิน ลดนายพลที่ใช้อิทธิพลข่มเหงประชาชนมาตลอด

รับใส่ประวัติเคลื่อนแต่รีบแก้

น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีอดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ออกมาให้ความเห็นตีความว่าพรรคอนาคตใหม่เข้าข่ายกระทำผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 73 (5) มีโทษถึงการยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี ว่า เป็นเรื่องตลก เหมือนสมัยนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกถอดถอนจากตำแหน่งนายกฯ เพราะทำกับข้าวออกทีวี ถือเป็นคดีติดแผ่นดิน ยอมรับว่าการใส่ประวัตินายธนาธรคลาดเคลื่อนไป เมื่อทางพรรคได้รับแจ้งก็รีบดำเนินการแก้ไขภายใน 2 ชั่วโมงทันที ไม่ได้เข้าข่ายเจตนาหลอกลวงอย่างที่กล่าวหากัน ประวัตินายธนาธรปรากฏข้อมูลอยู่ทั่วไปบนอินเตอร์เน็ต สามารถสืบทราบกันได้อยู่แล้ว หากถูกยุบพรรคจริงประวัติศาสตร์จะซ้ำร้อยเป็นคดีแผ่นดินครั้งที่ 2 ยืนยันว่าเราไม่ได้กังวล เชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณพอ ความเห็นดังกล่าวจึงถือเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองช่วงโค้งสุดท้าย

“เจษฏ์” กลับลำโทษไม่ถึงยุบพรรค

ด้านนายเจษฏ์ โทณวณิก อดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ที่เคยระบุว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 73 (5) มีโทษถึงขั้นยุบพรรคนั้น เมื่อไปดูรายละเอียดในกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. พบว่าบทลงโทษกรณีดังกล่าวไม่ถึงขั้นยุบพรรค แต่มีโทษตามมาตรา 159 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี รวมถึงกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ศาลสั่งจ่ายเงินสินบนนำจับไม่เกินกึ่งหนึ่งจากจำนวนเงินค่าปรับให้แก่ผู้แจ้งความนำจับด้วย ส่วนโทษที่ทำให้ถึงขั้นถูกยุบพรรค อยู่ในมาตรา 75

ท้า “บิ๊กตู่” ไม่ต้องลีลาขึ้นเวทีเลย

ที่พรรคไทยรักษาชาติ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง แถลงภายหลังการประชุมยุทธศาสตร์การหาเสียงเลือกตั้งว่า พรรคกำหนดการทำงานไว้หลายพื้นที่ ทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด อาทิ จ.ชัยนาท นครปฐม พิจิตร พิษณุโลก ภูเก็ต พังงา กาญจนบุรี และจะจัดปราศรัยใหญ่ปิดท้ายใน กทม. ได้รับข้อมูลมาว่าช่วงโค้งสุดท้ายพรรคพลังประชารัฐ จะให้ พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นเวทีปราศรัย ช่วยสร้างกระแส สิ่งที่ทำมาได้เปรียบเกินกว่าที่จินตนาการไว้แล้ว ไม่ขอท้าดีเบตกับ พล.อ.ประยุทธ์ เดี๋ยวท่านจะหาวิธีหลีกเลี่ยง แต่ขอเชิญขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงได้เลย เพราะพูดตลอดว่าผ่านการรบมามาก ตนก็ผ่านการต่อสู้ทางการเมืองมาหลายเหตุการณ์เช่นกัน ในเมื่อเราจะไปสู้กันในสนามเลือกตั้ง น่าจะสู้กันอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา

จี้ สนช.ถอน พ.ร.บ.ข้าวไร้เงื่อนไข

นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า สำหรับร่าง พ.ร.บ.ข้าว พรรคพลังประชารัฐไปเปิดเวทีปราศรัยที่ จ.ชัยนาท บอกประชาชนว่าถ้าได้รับเลือกตั้งจะไปยกเลิกมาตราที่เป็นปัญหานั้น พลังประชารัฐไม่ควรเอาชาวนาเป็นตัวประกัน ไม่ควรตั้งเงื่อนไข ขอเรียกร้องผู้มีอำนาจสั่งการไปยัง สนช. ให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ข้าวอย่างไม่มีเงื่อนไข

“พิชัย” เจออีก บก.ปอท.เรียกสอบ

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท. ว่า วันที่ 12 มี.ค.เป็นนัดส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมตัวผู้ต้องหา ต่อพนักงานอัยการ เพื่อพิจารณามีคำสั่งในคดีกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการโพสต์ภาพห้ามจำหน่ายนิตยสารไทม์ ปก พล.อ.ประยุทธ์ และโพสต์การดูด 4.0 ที่ถูกเชิญร่วมสัมมนาทางวิชาการกับคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ที่สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย พร้อมตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ โดยนำข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในสื่อมวลชนอยู่แล้ว นำเสนอในด้านวิชาการ ทั้ง 2 ภาพไม่ปรากฏว่ามีการกล่าวถึง คสช. แต่ผู้ฟ้องคือตัวแทน คสช. แต่พร้อมไปพบเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าที่โดนดำเนินคดีเพราะวิพากษ์วิจารณ์การดำเนินการทางเศรษฐกิจที่ผิดพลาดของรัฐบาล ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อน

“มาร์ค” เย้ย พปชร.สินค้าก๊อป

ช่วงสายวันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ เดินทางไปยังศาลเจ้าปึงเฒ่ากง ตลาดหาดเสี้ยว อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ช่วยผู้สมัคร ส.ส.สุโขทัยของพรรคหาเสียง มีประชาชนกว่า 500 คนมารอต้อนรับ และรุมถ่ายเซลฟี่ โดยนายอภิสิทธิ์ชี้แจงถึงนโยบาย อาทิ การประกันรายได้ขั้นต่ำ 120,000 บาทต่อปี นโยบายโฉนดชุมชน นโยบายเรียนฟรีถึง ปวส. เพิ่มค่าตอบแทน อสม. พร้อมย้ำให้ระวังสินค้าลอกเลียนแบบ เพราะหลังพรรคประกาศนโยบายเกิดปั๊บรับสิทธิเงินแสน พล.อ.ประยุทธ์รีบบอกว่าอย่าไปเชื่อ แต่พรรคพลังประชารัฐที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ กลับบอกว่าจะให้เยอะกว่าเพราะเพิ่งมาคิดตามหลัง และ 4-5 ปีมานี้ทำไมไม่ทำ จากนั้นนายอภิสิทธิ์เดินทางไปหาเสียงต่อที่วงเวียนเทวดาดีดพิณ ตลาดสดสวรรคโลก อ.สวรรคโลก และ อ.ทุ่งเสลี่ยม

ชวนยึดจุดยืนไม่วิ่งหา 250 ส.ว.

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวในรายการเจาะกึ๋นขั้วการเมือง ถึงการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งว่า พรรคประชาธิปัตย์ตั้งใจเป็นแกนนำรัฐบาล ไม่สนใจว่าต้องสนับสนุนใคร สิ่งสำคัญคือทำให้ประเทศหลุดพ้นจากวงจรความขัดแย้ง การเลือกตั้งต้องเป็นไปโดยเสรีและเป็นธรรม แต่ขณะนี้ยังมีการใช้อำนาจรัฐ สร้างความได้เปรียบหลายอย่าง แต่เราไม่ติดใจว่าประชาธิปัตย์จะเสียเปรียบ เพราะเราเคยอยู่ในภาวะเสียเปรียบมาแล้วหลายครั้ง กกต.ต้องทำหน้าที่เที่ยงตรง เป็นอิสระ และกล้าหาญ ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลต้องเคารพเสียงประชาชน แม้ ส.ว. 250 คนจะมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จึงต้องการให้ทั้ง 250 คน เคารพการตัดสินใจของผู้ที่มาจากการเลือกตั้ง อยากให้ทุกพรรคตกลงกันว่า เลือกตั้งเสร็จอย่าวิ่งไปหา ส.ว. 250 คน แต่ควรตกลงกันว่าใครอยากจับมือกับใคร เพราะทราบมาว่ามีการวางแผน เอา ส.ส. 126 คนไปจับ ส.ว. 250 คนเลือกนายกฯก่อน จากนั้นจะเสนอเรื่องตำแหน่งต่างๆ ขอให้พรรคใดก็ตามที่คิดแผนนี้อยู่ล้มเลิกความคิดนี้เสีย

“เจ๊นา” อ้อนปักธงที่ปากน้ำโพ

ที่ จ.นครสวรรค์ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมแกนนำพรรค นำคาราวานรถจักรยานยนต์ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน ช่วยผู้สมัคร ส.ส.นครสวรรค์ทั้ง 6 เขต หาเสียง โดยเข้ากราบไหว้ขอพรศาลหลักเมืองนครสวรรค์ ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยบริเวณลานหน้าตลาดศรีนคร ต.ปากน้ำโพ อ.เมืองนครสวรรค์ มีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังนับพันคน ชูนโยบายพรรคมุ่งเน้นแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ การเกษตร และแก้ไขปัญหาหนี้สินประชาชนเป็นหลัก ที่ผ่านมาพรรคมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับชาวจังหวัดนครสวรรค์มายาวนาน การเลือกตั้งครั้งนี้หวังว่าพรรคชาติไทยพัฒนาจะปักธงที่นครสวรรค์ได้เหมือนในอดีต

แจกกล้วยน้ำว้าขึ้นนายกฯฉลุย

ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ลงพื้นที่ช่วยนายมหวรรณ กะวัง ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ ที่ชุมชนบ้านกำแพงงาม ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่น มีชาวบ้านมอบกล้วยน้ำว้าเครือใหญ่ให้พร้อมกล่าวอวยพรให้ขึ้นบริหารประเทศเป็นนายกฯ ง่ายๆ ดังกล้วยที่มอบให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวขอบคุณและรับปากจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดตามนโยบาย

“กอบศักดิ์” คืนถิ่นเก่าย่านสีลม

ที่ตลาดละลายทรัพย์ ย่านสีลม นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ นำคณะลงพื้นที่ ช่วย น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ หาเสียง พร้อมเสนอนโยบายพัฒนาพื้นที่ต่อพ่อค้า แม่ค้าและประชาชน ที่มาจับจ่ายซื้อของ บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก ประชาชนให้ความสนใจเข้ามาขอถ่ายรูป นายกอบศักดิ์กล่าวว่า ดีใจมากที่ได้มาลงพื้นที่นี้ เหมือนได้กลับมาเยือนถิ่นเดิม เพราะเคยทำงานอยู่ในย่านนี้มา 5 ปี รู้จักร้านอาหารอร่อยที่นี่ทุกที่ พร้อม เชิญชวนประชาชนมาจับจ่ายใช้สอยที่ตลาดละลายทรัพย์ ถ้ามาสีลมแล้วไม่มาละลายทรัพย์ก็เหมือนมาไม่ถึงสีลม

รอ กกต.แจงขอบข่าย “ประยุทธ์”

ที่พรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค กล่าวถึงการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ช่วยพลังประชารัฐหาเสียงว่า พรรคส่งหนังสือสอบถามข้อกฎหมายไปยัง กกต.แล้ว ว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถทำอะไรได้หรือไม่ได้บ้าง แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดเรื่องนโยบายอาจทำให้ประชาชนรับทราบว่าท่านคิดอะไร แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย คาดว่าจะทราบผลจาก กกต.เร็วๆนี้ เมื่อถามว่าเมื่อเสร็จสิ้นการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาพรรคได้หรือไม่ นายสนธิรัตน์ตอบว่า อาจยังไม่ได้ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ยังดำรงตำแหน่งนายกฯ ส่วนจะโฟนอินมาให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.ที่พรรคได้หรือไม่ ต้องดูข้อกฎหมายก่อน

พปชร.ปัดวัดกระแสบัตรคนจน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคพลังประชารัฐได้ออกคำชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก “พรรคพลังประชารัฐ-กรุงเทพฯ” ระบุว่า พลังประชารัฐไม่มีนโยบายหรือคำสั่งใดๆให้สมาชิกพรรค เจ้าหน้าที่ และผู้เกี่ยวข้องดำเนินการสอบถามเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐต่อประชาชน ยืนยันว่าเป็นการกระทำของผู้ที่แอบอ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกประการกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อปกป้องคุ้มครองผลประโยชน์พ่อแม่พี่น้องที่ตกเป็นเหยื่อของผู้แอบอ้างดังกล่าว เพื่อร่วมกันปกป้องวิถีแห่งประชาธิปไตยป้องกันการให้ร้าย ดำเนินการพิสูจน์ความจริง และดำเนินคดีตามกฎหมาย หากทราบเบาะแสหรือพบเห็นการกระทำ ติดต่อโดยตรงมายังพรรคเพื่อแจ้งข้อมูลรายละเอียดได้

“กรวีร์” ยื่นศาลฎีกาขอคืนสิทธิ

ช่วงเช้าที่ศาลฎีกา นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สมาชิกพรรคภูมิใจไทย เข้ายื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ให้วินิจฉัยคุณสมบัติและคืนสิทธิการเป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย หลัง กกต.ไม่ประกาศรับรองการเป็นผู้สมัคร โดยนำเอกสารหลักฐานการยื่นต่อศาลเพื่อยืนยันสถานะการเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เกินกว่า 90 วัน รวมทั้งใบเสร็จรับเงิน ภาพเหตุการณ์วันสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค นายกรวีร์กล่าวว่า ไม่หนักใจ และหวังว่าจะได้คืนสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทยอย่างถูกต้อง ยังคงเดินหน้าหาเสียงต่อเนื่องจาก กกต.ยังไม่ได้ตัดสิทธิ หรือเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

ดีเบต “เทือก” ปชช.ได้ประโยชน์

ที่ตลาดบางจาก นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ในฐานะผู้สนับสนุนพรรคเพื่อชาติ ลงพื้นที่ช่วย น.ส.ณัฐภัสสร ธนาบวรพาณิชย์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. หาเสียง นายจตุพรกล่าวว่า ภาพรวมประชาชนให้การต้อนรับดี ส่วนกรณีประกาศท้านายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ดีเบตนั้น เรา 2 คนต่างสงบปากสงบคำกัน แต่ระยะหลังนายสุเทพ ประกาศในสามเวทีสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯอีกครั้ง และตนประกาศชัดเจนว่าไม่สนับสนุน เมื่อต่างไม่ได้เข้าสภาฯ การโต้วาทีหรือดีเบตจึงถือเป็นประโยชน์กับประชาชนทั้งสองฝ่ายยืนยันจะไม่สร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง มาพูดในเวทีสาธารณะไม่ใช่ต่างคนต่างพูด ถือเป็นมธุรสวาจา

รวมใจไทยยื่น กกต.ยุบ 12 พรรค

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนพดล อมรเวช หัวหน้าพรรครวมใจไทย ยื่นหนังสือให้ประธาน กกต. ตรวจสอบการกระทำผิดของพรรคการเมือง และให้พิจารณายื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมือง 12 พรรค ประกอบด้วย ประชาชนปฏิรูป รวมพลังประชาชาติไทย พลังท้องถิ่นไท เพื่อแผ่นดิน เศรษฐกิจใหม่ ไทยศรีวิไลย์ ครูไทยเพื่อประชาชน ประชาธรรมไทย พลังปวงชนไทย รักษ์ผืนป่าประเทศไทย ถิ่นกาขาวชาววิไล และภราดรภาพ เนื่องจากมีข้อมูลปรากฏตามสื่อมวลชนว่ามีการแก้ไขข้อมูลระยะเวลาการเข้าเป็นสมาชิกพรรคให้ครบ 90 วัน ในระบบฐานข้อมูลเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง หากเป็นเรื่องจริงอาจเข้าข่ายเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 92

“วิญญัติ” ซัด กกต.ไขสือยุบ พปชร.

นายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ (สกสส.) ผู้ยื่นคำร้องให้ยุบพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณี พ.ต.อ. จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ระบุเรื่องยุบพรรคไทยรักษาชาติเร็วกว่ายุบพรรคพลังประชารัฐ เพราะมีหลักฐานชัดเจนกว่า ว่า กกต.ทราบดีว่าผู้ร้องอ้างเหตุว่าเสนอชื่อผู้นำรัฐประหารเป็นแคนดิเดตนายกฯ เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย ถือเป็นประเด็นเดียวกัน ข้อเท็จจริงรู้กันทั่วไป หากอ้างไม่รู้แสดงว่ามาจากดาวอังคารหรือไม่ เป็นข้ออ้างที่ไม่สมเหตุสมผล อาจส่อไปในทางมิชอบ เนื่องจาก กกต.ใช้เวลา 1 วัน ยื่นยุบพรรคไทยรักษาชาติ แต่กับพรรคพลังประชารัฐคาดใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ค่อยเสนอต่อที่ประชุม กกต. ตรงนี้มองว่า กกต.ใช้อำนาจเชิงเป็นผลร้ายต่อพรรคไทยรักษาชาติ ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องชี้แจง รวบรัด เร่งรีบ จะรอฟัง กกต. วินิจฉัยอย่างไร ก่อนดำเนินการกล่าวโทษต่อ กกต. ต่อไปหรือไม่

ไม่ห้าม “บิ๊กตู่” ขึ้นเวทีดีเบต กกต.

ช่วงบ่าย ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. เป็นประธานการประชุมพรรคการเมือง เพื่อจับสลากเลือกคำถามสำหรับประชันนโยบาย ที่ กกต.จะจัด ให้กับ 54 พรรค มี 6 ด้าน คือ ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา การเกษตร และสาธารณสุข ซึ่งผลการจับสลากประกบคู่ดีเบตมีที่น่าสนใจ อนาคตใหม่กับประชาชนปฏิรูป ดีเบตด้านการเกษตร ภูมิใจไทยกับประชาธิปัตย์ และเสรีรวมไทย ดีเบตด้านเศรษฐกิจ พลังประชารัฐกับประชาภิวัฒน์ ดีเบตด้านสังคม เพื่อไทยกับไทยศิวิไล ดีเบตด้านเศรษฐกิจ นายแสวงตอบคำถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ พรรคพลังประชารัฐ จะมาร่วมดีเบตในเวทีนี้ได้หรือไม่เพียงสั้นๆว่า “กฎหมายไม่ได้ห้าม”

“แสวง” ยันทำมาตรฐานเดียว

นายแสวงยังกล่าวถึงการตรวจสอบคำร้องยุบพรรคพลังประชารัฐ เรื่องการระดมทุน และการบริจาค ว่า กกต.มีมาตรฐานตรวจสอบเดียวใช้กับทุกพรรค ต้องอาศัยเวลาตรวจสอบที่มาของเงิน มีคนต่างชาติร่วมบริจาคด้วยหรือไม่ ส่วนที่ร้องว่า พล.อ.ประยุทธ์ ขาดคุณสมบัติเพราะเป็นหัวหน้าคสช. เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนกรณีพรรคอนาคตใหม่ลงประวัตินายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เกินความเป็นจริงนั้น ยังไม่ได้ตรวจสอบว่ามีผู้ร้องมาแล้วหรือไม่ แต่ถ้าเป็นกรณีความปรากฏหรือมีเหตุสงสัย กกต.สามารถตรวจสอบเองได้ แต่ขอยังไม่ให้ความเห็นว่าเป็นความผิดหรือยัง

“ศรีวราห์–จรุงวิทย์” ถกรับมือ ลต.

ที่ห้องประชุม ศปก.ตร. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. และตัวแทนจาก บช. 1-9 บช.น. ร่วมประชุมกำหนดแนวทางปฏิบัติดำเนินคดีอาญา ตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และพรรคการเมืองครั้งที่ 2/2562 พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า สั่งการให้ บช.ภาค ส่งแผนการดูแลความเรียบร้อยดูแลการเลือกตั้งภายในวันที่ 1 มี.ค. เพื่อรายงานให้ กกต.ทราบ พร้อมเฝ้าระวังการกระทำผิดกฎหมาย

เผยได้เบาะแสซื้อเสียง 42 เรื่อง

พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า กกต.เป็นห่วงเรื่องการรักษาความปลอดภัย ยิ่งช่วงใกล้วันเลือกตั้งจะมีความเห็นไม่ตรงกัน แต่คงไม่เกิดความรุนแรง ขอความร่วมมือตำรวจ เน้นดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทางการขนส่งหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า ที่จะจัดส่งมาที่ กทม. เพื่อรอนับคะแนนพร้อมกันในวันที่ 24 มี.ค. และเน้นให้ดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพิเศษ เพราะอาจใช้เวลานับคะแนนถึงเวลา 21.00 น. ขณะที่ตำรวจขอสนับสนุนงบฯรวม 37.28 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม กกต.ได้รับข้อมูลการซื้อเสียงเลือกตั้งแล้ว 42 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเก็บบัตรประชาชน แต่ยังไม่พบการกระทำผิดซึ่งหน้า

ตั้งวอร์รูมจับโซเชียลป่วน

อีกเรื่อง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญา กรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตร. กล่าวว่า ร่วมกับ กสทช. จัดทำวอร์รูมเฝ้าระวังการใช้สื่อโซเชียลในทางที่ผิด โดยเฉพาะช่วงเลือกตั้งที่มีการใช้สื่อโซเชียลทางการเมืองมากขึ้น ผู้ใช้สื่อโซเชียลต้องระมัดระวังการโพสต์หรือแชร์ ไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อบุคคลอื่น หรือทำให้เกิดความวุ่นวาย ตั้งแต่ต้นปีมีการจับกุมผู้กระทำผิดกว่า 50 ราย ส่วนใหญ่โพสต์ข่าวปลอมข่าวลือสร้างความตื่นตระหนก แม้จะกระทำผิดในต่างแดนก็สามารถดำเนินคดีได้ ส่วนการติดตามตัวผู้เผยแพร่เอกสารปลอมการโยกย้าย ผบ.เหล่าทัพ ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว มีทั้งคนไทยและต่างชาติ ทั้งหมดอยู่ในประเทศแถบยุโรป อยู่ระหว่างการประสานขอส่งตัวกลับมาดำเนินคดี

ปัดไม่ใช่ตัวก่อหนี้ถลุงเงินสำรอง

เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวผ่านรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ว่า ตั้งแต่ปี 2557 ถึงปัจจุบัน ต้องดูว่าการจัดสรรงบประมาณแต่ละกระทรวงเพิ่มขึ้นมีสัดส่วนสัมพันธ์กันอย่างไร ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายความมั่นคง ทุกกระทรวงย่อมกำหนดสัดส่วนรายรับรายจ่ายชัดเจน งบฯที่ลงไปสู่ประชาชนมีมากกว่าเดิมในทุกมิติ ไม่อยากให้นักการเมืองนำมาหาเสียงคลุมเครือไม่ชัดเจน สร้างความเกลียดชัง โดยไม่มี หลักการ ไม่เข้าใจ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำ ปี หรือ พ.ร.บ.การเงินการคลัง รัฐบาลนี้ไม่ได้ทำให้หนี้สาธารณะสูงขึ้น หรือกองทุนเงินสำรองของประเทศลดน้อยลงไปแต่อย่างใด

ให้ฉุกคิดคนมุ่งโจมตีงบฯทหาร

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การใช้จ่ายงบฯด้านความมั่นคง ใช้ในส่วนที่ได้รับจัดสรรจัดซื้อหาอาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อให้ดำรงสภาพและศักยภาพของกองทัพของเราทุกคน ดังนั้นสิ่งที่เราคนไทยควรระลึกถึง คือ ความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ ถ้าบ้านเมืองไม่มีความมั่นคง ไม่มีเสถียรภาพ เราจะทำอย่างอื่นไม่ได้เลย ที่หลายคนพยายามโจมตีให้ดูว่าความมุ่งหมายอย่างไรคืออะไร วันนี้มีเพียงทหารและสถาบันที่เข้มแข็ง หากจะมีใครมุ่งทำลาย 2 สิ่งนี้อยู่หรือไม่ช่วยกันคิดดู

นายกฯรับคืนสมบัติชาติ 104 ชิ้น

ที่ศาลาสำราญมุขมาตย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานพิธีมอบโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุยุคก่อนประวัติศาสตร์วัฒนธรรมบ้านเชียงเพื่อเป็นสมบัติของชาติจำนวน 104 รายการ จากนายธรรมฤทธิ์ จิรา นายกฯกล่าว ว่า ขอขอบคุณครอบครัวนายธรรมฤทธิ์ จิรา ที่เป็นแบบอย่างที่ดีจะกระตุ้นให้เยาวชนคนรุ่นหลังเกิดความรักห่วงแหนในมรดกทางวัฒนธรรมชาติไทย โบราณวัตถุทั้ง 104 รายการ นอกจากมีคุณค่าทางวิชาการแล้วยังมีคุณค่าทางจิตใจต่อคนไทยทั้งประเทศ ขณะที่นายกฯได้มอบบัตรกิตติมศักดิ์เข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุทยานประวัติศาสตร์ โบราณสถาน และโรงละครแห่งชาติให้กับครอบครัวนายธรรมฤทธิ์ได้ตลอดชีพ

วธ.ยันทวง 2 ทับหลังคืนได้แน่

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้รับโบราณวัตถุให้กลับมาเป็น สมบัติของชาติจากสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย 8 ครั้ง รวม 751 รายการ ขณะเดียวกันได้ประสาน งานไปยังสำนักสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯให้ตรวจสอบข้อมูลรูปพรรณโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑ์ต่างๆที่คาดว่าน่าจะมีแหล่งกำเนิดจากประเทศไทยนำมาเทียบเคียงหลักฐานที่ไทยมีอยู่ ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการทวงคืน และยืนยันที่จะทวงคืนทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว และทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ กลับมาได้อย่างแน่นอน

อ่านข่าวล่าสุด เจาะลึกข้อมูลเลือกตั้ง 2562
https://www.thairath.co.th/election