กลับฉุกเฉินเปลี่ยนลำใหม่ ได้ทีหนุนกองทัพซื้อ ‘อาวุธ’ พปชร.จัดทัพใหญ่โอ๋ชาวนา

“อภิรัชต์” นำ 5 เสือ ทบ.ตั้งแถววิ่งทดสอบความฟิตเคล้าเสียงเพลงมาร์ช ทบ.-หนักแผ่นดิน ลั่นกองทัพสตรอง รักกันจะตาย คสช.ปัดเร่ง ปอท.ฟัน หน.พรรคอนาคตใหม่ไลฟ์สดวิจารณ์พลังดูด “บิ๊กตู่” ระทึกซี 130 ใบพัดขัดข้องเปลี่ยนเครื่อง ทบ.บินตรวจราชการสมุย-กระบี่ โวยบางคนแช่งให้เครื่องบินตก ได้ทีอ้างเหตุจำเป็นต้องซื้ออาวุธ กร้าวไม่ยอมให้ใครทุบความเชื่อมั่นทหาร “อภิสิทธิ์” โอ่คุยกันได้ลดงบฯกลาโหม “ธนาธร” ปลื้มปฏิรูปกองทัพเป็นวาระของสังคม ไม่ห่วงโดนคดีมีตัวตายตัวแทนลุยต่อ “ชัชชาติ” เหน็บงบฯทหารเป็นไขมันต้องหั่นทิ้งได้ “สุชาติ” ตอกทุ่มซื้ออาวุธไร้ประโยชน์ พปชร.ถาม กกต.ข้อปฏิบัติของนายกฯ “สมศักดิ์” หยันคู่แข่งสู้ไม่ได้ สร้างวาทกรรมขยี้กองทัพ “อิทธิพร” โต้มีอำนาจตรงชงยุบ ทษช. “จรุงวิทย์” อ้างยุบ พปชร.รอรวบรวมหลักฐาน

หลังถูกพรรคการเมืองรุมถล่มกองทัพ พร้อมประกาศนโยบายจะตัดงบประมาณกระทรวงกลาโหมนำไปพัฒนาด้านอื่น ล่าสุด พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ได้นำนายทหารระดับ 5 เสือกองทัพบกทดสอบสมรรถภาพร่างกายประจำปี 2562 โดยยืนยันถึงความแข็งแกร่งเป็นปึกแผ่นของกองทัพ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศไม่ยอมให้ใครทำลายความเชื่อมั่นของทหาร

...

“บิ๊กแดง” นำ 5 เสือ ทบ.ทดสอบฟิต

ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 21 ก.พ. พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ได้นำนายทหารระดับ 5 เสือกองทัพบก ได้แก่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รอง ผบ.ทบ. พล.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา พล.อ.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. พล.อ.ธีระวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เสนาธิการทหารบก รวมถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูงในกองบัญชาการกองทัพบก ผู้บังคับหน่วยของกองทัพภาคที่ 1 และกำลังพลในสำนักงานผู้บังคับบัญชา ทดสอบร่างกายประจำปี 2562 ครั้งที่ 1 ตามนโยบาย “Smart Soldiers Strong Army”

เปิดเพลง “มาร์ช ทบ.–หนักแผ่นดิน” คลอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการทดสอบสถานีแรกด้วยท่ายึดพื้น พล.อ.อภิรัชต์ ได้นำเบาะผ้าใบรองพื้น ออก และได้ยึดพื้นกับพื้นซีเมนต์โดยไม่ได้ใช้เข่าพยุง ผลการทดสอบปรากฏว่ายึดพื้นได้ 42 ครั้ง ผ่านเกณฑ์ 70 % ส่วนท่าลุกนั่งผ่านเกณฑ์ทดสอบ 100 % ลุกนั่งได้ 71 ครั้ง แต่การทดสอบด้วยการวิ่งจะแตกต่างจากปีที่ผ่านมาจะใช้การวิ่งเป็นหน่วยระยะทาง 2 กิโลเมตร ด้วยการตั้งแถวตอนเรียง 6 มี พล.ท.ธรรมนูญ วิถี แม่ทัพน้อยที่ 1 เป็นผู้ควบคุมแถว ระหว่างการวิ่งทั้งหมดได้ร้องเพลงมาร์ชกองทัพบก และมาร์ชสามัคคีสี่เหล่าไปพร้อมกันอย่างเข้มแข็ง ขณะที่ภายในกองทัพบกยังเปิดเพลงหนักแผ่นดิน (อะคูสติกเวอร์ชันใหม่) มาร์ชกองทัพบก ความฝันอันสูงสุด เป็นต้น คลอตามไปด้วย โดยการวิ่งดังกล่าวมีการเดินผ่อนกำลังเพื่อให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบที่สมรรถภาพร่างกายแตกต่าง สามารถวิ่งไปพร้อมกัน ใช้เวลาทดสอบ 10.30 นาที ถือว่าผ่านเกณฑ์

โชว์สตรองกองทัพรักกันจะตาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการทดสอบ พล.อ. อภิรัชต์ ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 (ผบ.ฉก.ทม.รอ. 904) กล่าวสั้นๆกับผู้สื่อข่าวว่า “ทหาร ทม.แข็งแรงทุกคน ยึดพื้น เข่าต้องไม่แตะพื้น” ทั้งนี้นายทหารในหน่วย ฉก.ทม.รอ.904 ที่เข้าทดสอบร่างกายในครั้งนี้ ประกอบด้วย พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) พล.ต.ปิยพงษ์ กลิ่นพันธ์ ผบ.กองพลทหารราบที่ 2 รักษา พระองค์ (ผบ.พล.ร.2 รอ.) พล.ท.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารบก เป็นต้น หลังการทดสอบ ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า “เหนื่อยมั้ย” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า “เหนื่อยอะไรดูสิ ทหารรักกันจะตาย” พร้อมชี้ไปที่กำลังพลและผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่มาร่วมทดสอบร่างกายก่อนกล่าวว่า “ให้กำลังใจ ทหารรักกันขนาดนี้ และพอใจสถิติวันนี้ในภาพรวม ผู้บังคับบัญชาทุกระดับมีกำลังกายที่แข็งแรง ทำให้สถิติดีขึ้นทุกคน สตรองอาร์มมี่” เมื่อถามต่อว่า ช่วงนี้กองทัพถูกโจมตีเยอะจะชี้แจงอย่างไร พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า “ก็นี่ไง สตรอง”

ทหารแจงเหตุต้องมี บก.กองทัพไทย

พล.ต.กฤษณ์ จันทรนิยม โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคเสรีรวมไทยเสนอยุบ บก.กองทัพไทยว่า กองทัพไทยถือกำเนิดคู่กับความเป็นชาติไทยเหล่าทหารหาญพลีเลือดเนื้อชีวิตพิทักษ์รักษาเอกราช และอธิปไตยของชาติ สร้างความผาสุกให้ประชาชนมาตลอด การปฏิบัติการทางทหารในอนาคตยากที่เหล่าทัพใดจะชนะได้โดยลำพัง จำเป็นต้องสนธิกำลังของทุกเหล่าทัพเข้าด้วยกัน กองบัญชาการกองทัพไทยเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่วางแผน อำนวยการ สั่งการ และกำกับดูแลการปฏิบัติการร่วมถือเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง สิ่งที่ควรถามจึงไม่ใช่ ทำไมต้องมีกองบัญชาการกองทัพไทย แต่สมควรถามว่า ทำอย่างไรจะช่วยพัฒนาเสริมสร้างให้ขับเคลื่อนงานด้านการปฏิบัติการร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเผชิญกับความท้าทายภายใต้สภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคงที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อประเทศชาติและลูกหลานไทยของเรามากกว่า

คสช.ปัดเร่งรัด ปอท.ฟัน “ธนาธร”

ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช.กล่าวถึงกรณีพรรคอนาคตใหม่ระบุว่า คสช.เร่งรัดให้คดีกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายไกลก้อง ไวทยาการ นายทะเบียนสมาชิกพรรค และ น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ กรรมการบริหารพรรค ที่ไลฟ์สดวิจารณ์พลังดูดว่า คสช.ไม่ได้เร่งรัด ไม่เลือกปฏิบัติทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่กฎหมายที่มีที่มาจาก คสช. ทุกคดีกรณีศาลยังไม่ตัดสินย่อมถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ และเปิดกว้างให้ผู้ถูกกล่าวหาแก้ต่างตามกระบวนการ คดีนี้เริ่มมาก่อนการประกาศวันเลือกตั้ง การให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อก็ไม่อยากให้ไปกล่าวหาลักษณะดูหมิ่นเจ้าพนักงานเพราะมีความจำเป็นต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอนและหน้าที่ตามกฎหมาย

ระทึกเครื่องบินนายกฯลงใต้ขัดข้อง

สำหรับภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.กระบี่ เมื่อเวลา 07.00 น. นายกฯ พร้อมคณะประกอบด้วย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม และนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ข้าราชการ เจ้าหน้าที่และสื่อมวลชน รวม 56 คน เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ด้วยเครื่องบิน C-130 เลขที่ 60109 ของกองทัพอากาศ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติสมุย ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

บินวกกลับเปลี่ยนเครื่อง ทบ.แทนซี 130

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเครื่องขึ้นบินไปได้ 45 นาที ได้เกิดเหตุการณ์ระทึกขึ้น เมื่อใบพัดที่ 4 ของเครื่องเกิดขัดข้อง นักบินจึงตัดสินใจนำเครื่องบินกลับกองบิน 6 ทันที โดยผู้ช่วยนักบินได้แจ้งให้ทีมงานนายกฯทราบและเปลี่ยนมาใช้เครื่องบิน CN 295 เลขเครื่อง 16150 กองทัพบกแทน ใช้เวลาเปลี่ยนเครื่อง 1 ชั่วโมง 30 นาที

ได้ทีอ้างเป็นเหตุจำเป็นซื้ออาวุธ

ต่อมาเวลา 09.58 น. นายกฯและคณะถึงท่าอากาศยานนานาชาติสมุย ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นรถตู้โตโยต้าอัลพาร์ด ทะเบียน 2 กอ 2022 กรุงเทพมหานคร ไปยังท่าเทียบเรือเกาะสมุย (บ้านหน้าทอน) ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย เป็นประธานพิธีส่งน้ำประปาผ่านท่อลอดใต้ทะเลสู่เกาะสมุย 125 กิโลเมตร งบก่อสร้างกว่า 2 พันล้านบาท และสักขีพยานมอบหนังสือโครงการป่าชุมชน บ้านธารน้ำร้อน 1 รายและสักขีพยานมอบหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ให้เกษตรกร 10 ราย มีประชาชนมาต้อนรับกว่าพันคน นายกฯ จับมือทักทายพร้อมทำมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยู ชาวบ้านตะโกนให้กำลังใจ “นายกฯ สู้ๆ” โดยนายกฯ กล่าวว่าขอโทษที่มาถึงช้า แต่ไม่มีอะไรมาสกัดกั้นได้ แม้เครื่องบินขัดข้อง นั่นแหละจะได้รู้ว่าเราต้องซื้ออุปกรณ์กองทัพเพราะอะไร ไม่ใช่ตนนั่งคนเดียว วันหน้าเครื่องบินลำเดียวกันนี้ ต้องขนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ถึงต้องปลอดภัยที่ผ่านมาอายุใช้ยาวนานแล้ว บางอันอายุมากกว่าตนอีก เวลากำลังพลขึ้นต้องยกมือไหว้ ขออย่าเป็นอะไรนะเว้ย ปลอดภัยนะ ต้องเห็นใจเขาบ้าง นึกถึงคนใช้งาน ทุกคนมีความรับผิดชอบ

อ้อนขออย่าเกลียดชังฉันนักเลย

นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลนี้ไม่ได้เลือกข้างใคร วันข้างหน้าใครเข้ามาก็ได้ ให้ทำอย่างที่ตนทำ ไม่เลือกว่าเป็นพื้นที่ใคร วันนี้มีการหาเสียงเป็นรัฐบาลจะรับซื้อข้าวทุกเม็ด จะใช้งบที่ไหนมารับซื้อราคาสูง แต่ละปีกี่ล้านตัน จะเอาคลังที่ไหนมาเก็บ ที่ผ่านมาซื้อแล้วเก็บไว้ในคลังจนเน่าขายไม่ได้ ฟังดูดีแต่ไม่มีที่ไหนในโลกทำกัน ไม่ได้ว่าพรรคไหน แต่ถ้าพูดเช่นนี้ทักท้วงหมด รวมถึงพรรคที่เอาชื่อตนไปขึ้นอยู่ รัฐบาลทยอยแก้ไขปัญหาไม่ได้ฟังข้อมูลจากราชการฝ่ายเดียว ตนไม่ฉลาดน้อยแบบนั้น ส่วนอยากได้นายกฯ อย่างไรไปเลือกตั้งกันมา ต้องนึกถึงบ้านเมืองว่าจะอยู่ต่อไปอย่างไร วันนี้รักทุกคน อย่าเกลียดชังฉันนักเลย ถ้าตามใจมากจะเละเทะ ทุกอย่างต้องหารือและแก้ปัญหา

ชิมลางสาดชมแรงหรอยจังฮู้

จากนั้นนายกฯเดินทางมายังชุมชนโอทอป นวัตวิถีบ้านหินลาด หมู่ที่ 2 ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย เยี่ยมชมสวนลางสาดของนายประวิทย์ พรหมรักษ์ ปีนบันไดขึ้นไปตัดลางสาดลองชิม ก่อนชมว่า “หรอย แรง หรอยจังฮู้” (อร่อยมากๆ) จากนั้นนั่งรถรางเยี่ยมชมสินค้าชุมชนบ้านหินลาดและของดีเมืองสมุย มีชาวบ้านมารอรับตะโกน “รักลุงตู่ เอฟซีลุงตู่ นะคะ” นายกฯได้เซลฟี่ด้วยอย่างอารมณ์ดี แล้วเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ชุมชน ทดลองชิมทุเรียน มังคุด เงาะ ชิมน้ำพริกพริกไทยดำ ทันทีที่ตักเข้าปาก นายกฯ ถึงกับสะดุ้งเพราะเผ็ด ก่อนบอกว่า “สมัยหนุ่มๆกินได้อยู่ แต่เดี๋ยวนี้แก่แล้ว” ต่อมาได้ทดลองกวนกะละแมอายุยืน พร้อมร้องเพลงว่า “กวนกะละแมกันๆ” ก่อนลองใส่หมวกจักรยานทำจากกะลามะพร้าว ขณะที่ชาวบ้านมอบปิ่นโตอาหารกลางวันให้นายกฯ จากนั้นนายกฯจึงเดินทางต่อไปยัง จ.กระบี่

ไม่ยอมให้ใครทุบความเชื่อมั่นทหาร

ต่อมาเวลา 15.00 น. นายกฯและคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ต.เหนือคลอง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เดินทางไปที่ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมอันดามัน ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ เป็นประธานมอบธงสัญลักษณ์จัดงานการแสดงศิลปกรรมร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, 2020 ส่งต่อให้ จ.นครราชสีมา และเป็นสักขีพยานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนฯ 1 ราย มอบหนังสือโครงการป่าชุมชนบ้านคีรีวงศ์ 1 ราย นายกฯกล่าวกับชาวบ้านว่าตั้งใจมาแต่เช้าแต่เครื่องบินขัดข้อง นี่แหละคือเหตุผลทำไมต้องจัดซื้อ ทหารลูกหลานท่านทั้งนั้น เวลาบ้านเมืองวุ่นวายเขามาช่วยเรา ตนเป็นอดีตทหารที่ยังรัก มั่นใจความเป็นทหารไม่อยากให้ใครทำลายความเชื่อมั่นความไว้วางใจในทหารทุกคน ถ้าทำให้เสียขวัญไม่มีกำลังใจ วันหน้าใครจะมารบให้เรา

โวยบางคนแช่งให้เครื่องบินตก

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า กระสุนห่า กระสุนปืนใหญ่ ปืนเล็กตกมาแล้วจะไปไหม ถ้าจ้างเงินเดือนน้อยไม่ไปครับจะได้หรือไม่ คิดตรงนี้ด้วย อะไรต้องแก้ไขก็แก้ไขไปในจุดที่บกพร่อง แต่อย่าให้ใครมาบิดเบือน คนไทยเกณฑ์เป็นทหารโดยไม่มีค่าจ้าง เวลาใครมาบุกประเทศ พระมหากษัตริย์จะนำทัพไปสู้รบใช่หรือไม่ ไม่ได้เงินได้ทองหรอก ต้องไปครั้งนึง 3-4 เดือน จะได้กลับมาหาเมียหรือเปล่ายังไม่รู้ ออกจากบ้านคือไปแล้วไปลับเลย วันนั้นเขายังเสียสละได้ นั่นคือหน้าที่ของทหาร เฝ้าอธิปไตยชาติ และพัฒนาประเทศ รักษาความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้นายกฯได้ถามขึ้นว่า ใครเกลียดทหารขอให้ยกมือ ปรากฏว่าไม่มีใครยก แต่เมื่อถามว่า ใครรักทหารขอให้ยกมือขึ้น ทั้งห้องต่างยกมือ รวมถึงนายกฯด้วย ก่อนกล่าวว่า “ผมภูมิใจในความเป็นทหารของผม เพราะไม่ได้ทุจริตคดโกงใครเขามา ผมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย คนที่เป็นทหารผ่านการสู้รบผ่านศึกสงครามมาแล้วทั้งนั้น ใครไม่เป็นไม่รู้ ไอ้คน ที่พูดวันนี้ไม่เคยเป็นทหารสักคนเลย ลูกหลานของเราทั้งนั้น แต่ยังไงวันนี้ต้องมา หลายคนบอกนายกฯลางไม่ดี กลับบ้านดีกว่าไม่ต้องมาอีกแล้ว บางคนแช่ง ให้ตกๆไปเลย อะไรว่ะนั้น แค่จะมาเยี่ยมประชาชนยังแช่งผมเลย มันเกลียดชังอะไรผมขนาดนี้”

อัดทำแตกแยกเพื่ออำนาจใช้ไม่ได้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ตนรักทุกคนใครจะด่าจะว่า เป็นคนไทยทั้งนั้น ยิ่งเป็นนายกฯ เป็นหัวหน้า คสช. ต้องรักคนไทยทั้งหมด ทั้งที่ไม่ติดคุกหรือติดคุกยังต้องรักเลย ส่วนที่หนีคุกไม่รัก เข้าใจยัง ผิดก็ยังจะหนี บอกทำถูกแล้ว ถ้าถูกแล้วทำไมต้องหนี ไม่ได้ว่าใครเลย ขอสักที สงบมาให้ หลายวันแล้ว ส่วนการเลือกตั้งต้องสงบเรียบร้อยเพราะจะมีงานพระราชพิธีใช่หรือไม่ เขารอดูว่าหลัง การเลือกตั้งจะสงบเรียบร้อยหรือไม่ ใครสัญญาว่า จะให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยขอให้ยกมือ แผ่นดินนี้ ศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีใครทำอะไรได้ การเลือกตั้งต้องได้นายกฯที่มีคุณธรรมไม่โกง ที่ผ่านมาพฤติกรรมมีอยู่แล้ว รัฐบาลนี้ไม่ได้มาจากพรรคไหน หรือพรรคของใคร แต่ทำให้คนทุกจังหวัด ใครที่ทำให้คนไทยแตกแยก ทำให้ความรักความสามัคคีแตกสลาย เพื่อให้ตัวเองเข้ามามีอำนาจถือว่าใช้ไม่ได้ ทำให้คนอื่น อ่อนแอแล้วตัวเองเข้ามาใช้ไม่ได้ ขอโทษอย่าโกรธฉันเลย เอาไว้ชมเชยในวันข้างหน้า วันนี้ไม่ได้มาหาเสียง แต่มาเพราะคิดถึง และไปทุกที่ ยิ่งด่ายิ่งไป เพราะไม่ได้ทำผิดกฎหมาย มาพูดเรื่องการบ้าน ไม่ได้พูดการเมือง ถ้านั่งเฉยๆไม่ทำอะไรแล้วกดดันรัฐบาลก็ล้มละลายทั้งประเทศ

ยกเลิกดูประติมากรรมปูดำ

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะไปเยี่ยมชมนิทรรศการภาพถ่ายศิลปกรรมร่วมสมัยนานาชาติจ.กระบี่ พิพิธภัณฑ์ลูกปัดอันดามัน พร้อมทำท่ารำมโนราห์ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับนักแสดงรำมโนราห์ ลองเขียนผ้าบาติกและเซ็นชื่อลงบนผ้า ก่อนเยี่ยมชมภาพวาดศิลปะเด็กนักเรียน โดยเด็กนักเรียนมอบภาพวาดเหมือนนายกฯให้เป็นที่ระลึก ก่อนเดินถนนสายประติมากรรมไม้มะหาด ริมปากแม่น้ำเมืองกระบี่ ทักทายประชาชนบอกรักคนกระบี่ ไม่ได้รักเพราะเลือกตั้ง แต่รักมา 5 ปีแล้ว ดีใจมากระบี่อีกครั้ง เคยมาอ่าวนางเมื่อครั้งตามสมเด็จพระบรมราชินีนาถในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายกฯได้ยกเลิกเยี่ยมชมประติมากรรมปูดำ เพื่อเดินทางไปเยี่ยมเด็กชาวต่างชาติ ที่ถูกสุนัขรุมกัดที่โรงพยาบาลกระบี่นครินทร์ อินเตอร์เนชั่นแนลแล้วกลับ กทม.

“อภิสิทธิ์” ลงพื้นที่ช่วยตระกูล “ม่วงศิริ”

เมื่อเวลา 06.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมนายถวิล ไพรสณฑ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมคณะออกรณรงค์หาเสียงพบประชาชนที่มาออกกำลังกายในสวนธนบุรีรมย์ แจกเอกสารแนะนำนโยบายพรรคและขอคะแนนเสียงสนับสนุนนายสาทร ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 24 ทุ่งครุ-ราษฎร์บูรณะ มีพ.ต.อ.นพ.สามารถ ม่วงศิริ ผู้สมัครเขตบางบอน-หนองแขม และนายสากล ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ส.เขต บางขุนเทียน พี่ชายนายสาทรร่วมเดินหาเสียงด้วย โดยประชาชนให้ความสนใจขอถ่ายรูปด้วยคึกคัก จากนั้นคณะได้ขึ้นรถแห่หาเสียงไปที่ตลาดใหม่ทุ่งครุ ประชาอุทิศ 61พบปะกลุ่มแม่ค้าพ่อค้า กลุ่มแม่บ้าน ผู้สูงอายุที่มาจ่ายตลาดเช้า

ปชป.มีวิธีอัปเกรดคุณภาพกองทัพ

นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระทรวงกลาโหมชี้แจงว่างบประมาณของกระทรวงมีการกลั่นกรองผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ไม่ได้มาจากความต้องการของกองทัพว่า งบฯทุกกระทรวงเป็นเรื่องของฝ่ายการเมืองจะจัดลำดับความสำคัญ ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา มีการลดงบฯกระทรวงกลาโหม เพียงครั้งเดียวคือ สมัยที่ตนเป็นนายกฯ และมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็น รมว.กลาโหม แต่ไม่เคย นำมาเป็นประเด็นการเมือง การปรับลดงบฯเป็นไปตามความเหมาะสมของสถานการณ์ และได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทำได้โดยไม่จำเป็นต้องหยิบยกมาเป็นประเด็นความขัดแย้งทางการเมือง อยากบอกว่าพรรคที่ชูนโยบายปรับลดงบฯของกองทัพขณะนี้ไม่เคยได้ปรับลดงบฯกระทรวงกลาโหมในสมัยที่มีอำนาจเลย แต่จะนำเสนอเป็นสิทธิทำได้ แต่ต้องอธิบายให้ชัดเจนถึงวัตถุประสงค์และผลลัพธ์ที่จะตามมา พรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายจะทำให้กองทัพมีประสิทธิภาพมากขึ้น กระชับคล่องตัวมากขึ้น

สอนเชิงคุยกันได้ไม่ต้องทำให้ขัดแย้ง

นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า เชื่อว่ากำลังพลบางส่วนที่ถูกใช้ไปในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงปรับลดได้ ต้องพิจารณาตามความเหมาะสม แต่ขอให้วางใจได้ว่าเราจะจัดสรรงบฯ ให้เป็นประโยชน์สูงสุดของประเทศ กองทัพเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการทำงานให้ประเทศ เรื่องนี้พูดคุยกันได้ในแบบที่ไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ขณะนี้ท่าทีของกองทัพตรงกับประเด็นมากขึ้น แทนที่จะทำให้เป็นความขัดแย้งเชิญชวนให้ฝ่ายการเมืองเสนอแนวความคิดได้ อยากให้การเมืองเป็นเรื่องของข้อมูลและการสร้างสรรค์ไม่ใช่ความขัดแย้งหรือเอาอารมณ์ใส่กัน

กังวล ขรก.เอียง-ใช้อำนาจรัฐเอื้อพวก

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ที่ทำให้เกิดรัฐประหาร 2 ครั้งที่ผ่านมาเกิดจากความขัดแย้งทางการเมือง แต่ไม่ใช่เป็นเหตุผลที่จะบอกว่า การรัฐประหารชอบธรรมหรือไม่ ไม่ใช่เหตุผลที่จะต้องมีการสืบทอดอำนาจ พูดมาตลอดว่าการเกิดรัฐประหารทุกฝ่ายต้องร่วมกันรับผิดชอบ ต้องยอมรับกลไกการเมืองล้มเหลวและเปิดช่องให้มีรัฐประหาร หากต้องการก้าวพ้นจากตรงนี้ แนวทางที่พรรคเสนอคือเลือกพรรคที่เข้าไปบริหารประเทศแล้วไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดปัญหาเช่นนั้นอีก ต้องนำบทเรียนในอดีตที่ผ่านมาคิดทบทวน โดยเฉพาะการทุจริตคอร์รัปชัน ส่วนกรณีที่มีการปราศรัยนำหัวหน้าส่วนราชการเป็นประเด็นโจมตีทางการเมือง ข้าราชการควรแสดงออกอย่างชัดเจนว่ามีความเป็นกลางทางการเมือง ขณะนี้ไม่สบายใจต่อการใช้อำนาจรัฐในพื้นที่

“ธนาธร” ไปสวนดุสิต นศ.ต่อคิวเซลฟี่

เมื่อเวลา 12.30 น. ที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิต นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมแกนนำพรรค ลงพื้นที่พบปะนักศึกษา และประชาชนละแวกชุมชนสวนอ้อยบรรยากาศคึกคักมาก มีนักศึกษามายืนรอรับพร้อมตะโกนฟ้ารักพ่อ จนต้องจัดแถวต่อคิวเซลฟี่กับนายธนาธรนานนับชั่วโมง จากนั้นนายธนาธรได้ชวนนักศึกษาล้อมวง ก่อนกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงขนาดเล็ก รณรงค์ปลุกใจให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.

ไม่ห่วงโดนคดีมีตัวตายตัวแทน

จากนั้นนายธนาธรให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการหาเสียงช่วงสุดท้ายว่า ตอนนี้ตนคิวแน่นมาก ตารางลงพื้นที่หาเสียงแน่นจนถึงวันที่ 10 มี.ค. กำลังออกแบบกิจกรรมช่วงสุดท้ายระหว่างวันที่ 11-22 มี.ค.อยู่ ช่วยแปลคะแนนเสียงออนไลน์ให้เป็นคะแนน เสียงในวันเลือกตั้งได้ ทั้งนี้ไม่กังวลต่อคดีวันที่ 27 ก.พ.ทุกคนในพรรคทดแทนกันได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ความเป็นพรรคอนาคตใหม่จะดำรงอยู่ต่อไป

ยิ้มปฏิรูปกองทัพขึ้นวาระหลักสังคม

เมื่อถามถึงการชี้แจงจากกองทัพว่างบฯได้รับมาจากฝ่ายการเมืองไม่เกี่ยวกับทหาร นายธนาธร กล่าวว่า นี่เป็นภาระของรัฐบาลพลเรือนในอนาคต กระแสการปฏิรูปกองทัพที่ทุกพรรคพูดถึงตอนนี้ แสดงให้เห็นว่าทุกอย่างเป็นไปได้ ก่อนหน้า 2-3 เดือน ทุกคนต่างบอกว่าเป็นเรื่องเพ้อฝัน ทำไม่ได้หรอก แต่ตอนนี้กลายเป็นวาระหลักของสังคม แต่เมื่อเราร่วมกันผลักดันรณรงค์อย่างต่อเนื่อง ทุกอย่างเป็นไปได้ นี่คือสิ่งที่อนาคตใหม่ต้องการ

“ชัชชาติ” ลั่นงบทหารเป็นไขมันต้องหั่นทิ้ง

เมื่อเวลา 14.30 น.ที่ห้องสมุดพรรคเพื่อไทย มีการจัดเสวนา “เศรษฐกิจด้วยวิธีคิดแบบคนรุ่นใหม่” โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกฯพรรค มีนักศึกษาและประชาชนเข้าร่วมเสวนาเต็มห้อง นายชัชชาติกล่าวตอนหนึ่งว่า โจทย์ของเศรษฐกิจยุคใหม่คือ เทคโนโลยีเป็นตัวเปลี่ยนแปลง เยาวชนต้องปรับตัวให้ทันกับโลกยุคใหม่ พรรคมุ่งส่งเสริมคนตัวเล็กตัวน้อยในสังคมใช้เทคโนโลยีเสริมประสิทธิ-ภาพการผลิต เอื้ออำนวยโอกาสใหม่ๆให้ประชาชน ทุกวันนี้โลกไร้พรมแดน การค้าขายปัจจุบันเปลี่ยนแปลง ไป เราต้องทำโลกเป็นตลาดของเรา จากนั้นนายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับลดงบกลาโหมว่า งบทุกส่วนราชการถ้ามีไขมันต้องปรับออก กองทัพเป็นส่วนหนึ่งถ้ามีไขมันต้องตัดได้ ไม่ได้เน้นเฉพาะกองทัพ ปัจจุบันการเงินขาดดุลงบประมาณปีนี้ 4.5 แสนล้านบาท ไม่รวมงบกลางปี หนี้สาธารณะอยู่ประมาณ 41% ของจีดีพี อีก 3 ปีคาดการณ์ว่าจะเพิ่มไปถึง 48% การใช้งบในอนาคตต้องระมัดระวัง

มั่นใจไม่มีอะไรขวางวันหย่อนบัตร

นายชัชชาติกล่าวอีกว่า ยอดคนลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าสูงถึง 2.6 ล้านคน อยากให้คนออกมาเลือกตั้งมากๆสะท้อนเสียงคนส่วนใหญ่ กระแสคนรุ่นใหม่ตื่นตัวมาก คนกลุ่มนี้จะมาใช้สิทธิมาก เพราะได้รับผลกระทบจากการเลือกตั้งมากที่สุด ต้องอยู่กับรัฐบาล กฎหมายและการบริหารยาวนาน ส่วนที่มีวิเคราะห์ว่าอาจมีเหตุทำให้ไม่เกิดการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. ไม่น่ามีแล้วถึงขั้นนี้จะมีได้หรือ ทุกอย่างไปได้ด้วยจังหวะของมัน เรื่องเล็กๆน้อยๆอย่าไปสนใจ ทุกคนมุ่งหน้าชี้แจง ประชาชนเตรียมตัวเลือกตั้ง อยู่ คงยากที่จะไปขวางไม่ให้เกิดการเลือกตั้ง

“สมชาย” นำทีมลุยแปดริ้ว

ที่ จ.ฉะเชิงเทรา นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ แกนนำพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่พบปะประชาชนที่ตลาดคลอง 16 ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว ช่วยหาเสียงให้นายสมชัย อัศวชัยโสภณ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ทั้งชาวไทยพุทธและไทยมุสลิมเรียกร้องให้แก้ปัญหาข้าวเปลือกตกต่ำ เศรษฐกิจฝืดเคือง นายสมชายกล่าวว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะสานต่อนโยบายเดิมที่พรรคเพื่อไทยเคยทำมา แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ปัญหาผูกขาดให้ชาวนาต้องไปซื้อ พันธุ์ข้าวจากนายทุน และคนเป็นฮีโร่ต้องทำให้คนอื่นพอใจ ไม่ใช่เป็นฮีโร่เพราะไปบังคับใครให้มายกย่อง

ทษช.เล็งปรับงบทั้งระบบไม่ใช่แค่ กห.

ด้านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวถึงกรณีหลายพรรคเสนอปรับลดงบกระทรวงกลาโหมว่า ตั้งแต่ปี 2549-2562 งบกระทรวงกลาโหมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 8 หมื่นกว่าล้านในปี 2549 เป็น 2.2 แสนกว่าล้านในปี 2562 หรือเกือบ 300% ต้องมาดูความจำเป็น หากเปลี่ยนไปใช้อย่างอื่น เช่น แก้ปัญหาเศรษฐกิจย่ำแย่จะเป็นประโยชน์กว่าหรือไม่ ก่อนปรับลดงบต้องมีพิจารณาเหตุผลความจำเป็นในรายละเอียดอยู่แล้ว ถ้าชี้แจงด้วยเหตุผลกระทรวงกลาโหมจะเข้าใจ ปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกว่าการซื้ออาวุธบางอย่างไม่คุ้มค่า พรรคจึงมีนโยบายการปรับงบประมาณทั้งระบบไม่ใช่เฉพาะของกระทรวงกลาโหมเพื่อมาพิจารณาความสำคัญของการใช้งบแก้ปัญหาให้ประชาชนและพัฒนาประเทศให้ตรงจุดที่สุด

“สุชาติ” ตอกทุ่มซื้ออาวุธไร้ประโยชน์

นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.คลัง คณะทำงานเศรษฐกิจ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่าเหตุการณ์รัฐประหารส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 58-61 ทำให้เติบโตเฉลี่ยร้อยละ 3.5 เกือบต่ำที่สุดในอาเซียน รัฐบาลทหารไม่มีความรู้เชี่ยวชาญบริหารเศรษฐกิจ ยึดอำนาจทำให้ประเทศพัฒนาส่วนใหญ่หยุดการเจรจาการค้ากับไทย การซื้ออาวุธจำนวนมากเป็นรายจ่ายที่ไม่เกิดประโยชน์ ไม่เพิ่มรายได้ประชาชนยากจนลง รัฐบาลกู้เงินกว่า 120,000 ล้านบาทแจกประชาชน สร้างหนี้เพิ่มขึ้นกว่า 6.8 ล้านล้านบาท บัตรคนจนต้องนำมาซื้อสินค้าจากนายทุน รวยกระจุกจนกระจาย บริหารประเทศแบบก้าวร้าว เช่น กรณีเรือล่มที่ภูเก็ตนักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิต พูดปัดความรับผิดชอบ นักท่องเที่ยวหายไปจำนวนมาก หากไม่แก้ไขจะติดกับดักประเทศรายได้ปานกลาง กับดักหนี้ต่อประชากรสูง กับดักเทคโนโลยีต่ำเพราะเทคโนโลยีที่ซื้อมาใช้ไม่เต็มที่ และกับดักประชากรสูงอายุ

“ก่อแก้ว” โวกระแส ทษช.ปักษ์ใต้ขยับ

นายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการประสานงานภาคใต้ กล่าวว่า ในฐานะทีมปราศรัยหาเสียงพื้นที่ภาคใต้ ยืนยันว่าผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ของพรรคไทยรักษาชาติ ยังคงลงพื้นที่พบปะประชาชนต่อเนื่อง ทุกคนต่างมุ่งมั่นขออาสามาเป็นตัวแทนประชาชนชาวใต้ หลังจากได้ลงพื้นที่พบประชาชน ปรากฏว่าผลการตอบรับของพี่น้องชาวใต้ให้การตอบรับพรรคไทยรักษาชาติเป็นอย่างดี พี่น้องชาวใต้อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง อยากให้เศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ทางพรรคได้นำปัญหาต่างๆมาเปลี่ยนเป็นนโยบาย เพื่อให้แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ช่วงเวลาที่เหลือ 1 เดือนจะยังคงเดินหน้าลงพื้นที่อย่างหนักต่อไป

พปชร.ถาม กกต.ข้อปฏิบัติ “บิ๊กตู่”

เมื่อเวลา 08.30 น. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประธานยุทธศาสตร์การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง กทม. พรรคพลังประชารัฐ ขึ้นรถแห่ช่วย น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตบางซื่อ-ดุสิต หาเสียงย่านซอยประชานฤมิตร หรือซอยโรงไม้ย่านการค้าเขตบางโพ ทั้งนี้ นายพุทธิพงษ์ให้สัมภาษณ์ว่า ยืนยันอีกครั้งการเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.เป็นแคนดิเดตนายกฯบัญชีพรรค ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ ที่หลายพรรคเรียกร้อง พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นเวทีดีเบต เป็นเพียงพูดต่อๆกันว่าโดยกฎหมายทำไม่ได้ แต่ยังมีอีกหลายข้อที่คลุมเครืออย่างสื่อเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ไปแสดงวิสัยทัศน์ได้หรือไม่ ดังนั้น เพื่อความชัดเจนเร็วๆนี้ พรรคจะทำหนังสือถึง กกต.สอบถามแนวทางปฏิบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ในการเลือกตั้ง

ทัพใหญ่ลุยชัยนาทโอ๋เกษตรกร

เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ อ.เมือง จ.ชัยนาท พรรคพลังประชารัฐเปิดเวทีปราศรัยนโยบายข้าว “ข้าวได้ราคา ชาวนาได้เงินเพิ่ม” นำโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พร้อมแกนนำพรรค มีตัวแทนกลุ่มชาวนาร่วมรับฟัง นายอุตตมปราศรัยว่า ขออาสาช่วยเกษตรกรโดยนโยบายเกษตรยั่งยืน 3 ลด 3 เพิ่ม คือลดต้นทุน ลดภาระหนี้ ลดความเสี่ยงจากราคาตกต่ำ เพิ่มรายได้ เพิ่มช่องทางทำการเกษตร เพิ่มแนวทางหารายได้ที่กระจายและยั่งยืน

ไม่มีใครเหมาะนั่งนายกฯเท่า “บิ๊กตู่”

ต่อมาเวลา 18.30 น. ที่สนามกีฬากลาง จ.ชัยนาท พรรคพลังประชารัฐจัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรกในภาคกลาง มีกรรมการบริหารพรรค แกนนำพรรคและผู้สมัคร ส.ส.เขตหลายจังหวัดในภาคกลาง รวมทั้งนายวราเทพ รัตนากร อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่มาให้กำลังใจ ท่ามกลางประชาชนหนาแน่น โดยนายอุตตมกล่าวปราศรัยว่าอีก 31 วันจะเข้าคูหากาเบอร์เลือกตั้ง เป็นการเลือกตั้งที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย ถ้าเดินหน้าต่อต้องมีผู้นำในรัฐบาลต่อไปที่จะรักษาความสงบสุขให้พวกเราได้ นำพาประเทศก้าวหน้าไป นำความเจริญและประโยชน์ได้อย่างทั่วถึง นั่นคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วันนี้เดี๋ยวนี้ไม่มีใครเหมาะสมกว่า

ชูสายกลางไม่รังเกียจพรรคอื่น

ด้านนายสมศักด์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้ง กล่าวว่า ทำไมเราต้องสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ พรรคเรามีโอกาสจะเป็นรัฐบาลสูงมาก เราต้องเป็นรัฐบาล การจัดตั้งรัฐบาลถ้าพรรคพลังประชารัฐได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ แต่ถ้าเรามีคะแนนเสียงไม่พอ สามารถรวมกับพรรคอื่นได้ ไม่ได้รังเกียจพรรคใด เพราะเราคือทางสายกลาง บางคนบอกว่ารัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์มีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ อยากให้ย้อนไปปี 2553-2557 บ้านเมืองมีแต่ม็อบ มีแต่คนเดินขบวน ประชาชนต่างจังหวัดได้แต่ภาวนาม็อบทั้งหลายจะกลับบ้านหรือหยุด จนได้ พล.อ.ประยุทธ์มาแก้ปัญหา

“สนธิรัตน์” ปัดไม่มีตัวช่วยพิเศษ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีหลายคนมองว่าพรรคพลังประชารัฐไม่เป็นพรรคประชาธิปไตยว่า เราจดทะเบียนแตกต่างกับพรรคอื่นหรือไม่ เป็นวาทกรรมที่พยายามโจมตีพรรคเรา ยืนยันว่าเราเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยและทำตามกติกาภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ ที่คนมองว่าเราใช้อำนาจรัฐกลั่นแกล้งพรรคอื่น ยืนยันว่าเราไม่มีอำนาจไปแทรกแซงกลั่นแกล้งใคร ไม่ได้มีอำนาจพิเศษ ทุกวันนี้อยู่ในสายตาประชาชน เราฝืนทำอะไรที่ประชาชนบอกว่าไม่ใช่ไม่ได้อยู่แล้ว เราทำอย่างประชาธิปไตยเต็มที่ ไม่มีหรอกแต้มต่อ

“สมศักดิ์” หยันแข่งสู้ไม่ได้หันโจมตีทหาร

นายสมศักด์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้ง กล่าวว่า วันนี้มั่นใจว่าจะได้ ส.ส. 120 คน จากนโยบายที่ประกาศมา หากอธิบายให้ประชาชนเข้าใจและรับรู้ จะได้ ส.ส.มากกว่าที่คิดไว้อีก ตัวเลขที่เราพูดไว้คิดว่าไม่น่ามีปัญหา นโยบายที่เราเน้นมากคือเรื่องข้าว ที่ทำได้จริง ส่วนพรรคอื่นคาดการณ์ว่าจะทำได้ ส่วนการที่หลายพรรคออกมาโจมตีกองทัพและเสนอนโยบายตัดงบฯกระทรวงกลาโหม การโจมตีหน่วยงานราชการอื่นเป็นเรื่องของพรรคการเมืองคิดว่านโยบายสู้พรรคพลังประชารัฐไม่ได้ จึงเกิดเป็นวิวาทะหรือวาทกรรมพูดไป เขาไม่รู้ว่าจะคิดอะไรให้ดีกว่าพรรคพลังประชารัฐ การตัดงบฯหรือไม่ตัดงบอยู่ที่เหตุผล แต่บางคนพูดเพื่อให้ได้คะแนน หากใครไปโต้เถียงถือว่าพวกเขานั้นประสบความสำเร็จ ไม่มีเหตุผลอื่นใดที่การเลือกตั้งจะเป็นอย่างอื่นได้

“ชัช” โหมกระแสผู้สมัครพริตตี้

เมื่อเวลา 14.30 น. ที่พรรคพลังท้องถิ่นไท นายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท นายชื่นชอบ คงอุดม โฆษกพรรค แถลงเปิดตัว น.ส.พลอยไพลิน รัตนเสถียร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 มหาสารคาม ที่เป็นกระแสฮือฮาในโลกโซเชียลในภาพลักษณ์เซ็กซี่ประกอบอาชีพพริตตี้ น.ส.พลอยไพลิน กล่าวว่าพร้อมและตั้งใจลงสมัคร ส.ส.จบปริญญาตรีรัฐศาสตร์ มุ่งมั่นอยากมาลดความเหลื่อมล้ำ กระจายความเจริญสู่ท้องถิ่น ภาพลักษณ์พริตตี้อยากให้มองเป็นอาชีพสุจริต ไม่ใช่อาชีพน่ารังเกียจ ถูกมองเป็นพวกไซด์ไลน์ทั้งที่ไม่เป็นความจริง ยิ่งมีกระแสวิจารณ์ด้านลบยิ่งกระตุ้น อยากเข้าไปผลักดันทำให้พริตตี้เป็นอาชีพมั่นคง ได้รับการยอมรับจากสังคม ขึ้นทะเบียนทำธุรกรรมต่างๆ หรือกู้เงินได้เหมือนอาชีพอื่น รวมถึงจะผลักดันอาชีพขายของออนไลน์ให้เด็กรุ่นใหม่รู้จักวิธีหาเงินด้วยตัวเอง

11 ผู้สมัครใส่ข้อมูลผิดไม่ได้แก้ข้อมูล

นายชื่นชอบ คงอุดม โฆษกพรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวว่า การที่พรรคนำ น.ส.พลอยไพลินมาเป็นผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 มหาสารคาม ไม่ใช่เพราะหน้าตา แต่มีความสามารถด้านอื่น การเป็นพริตตี้ไม่ได้มีปัญหาภาพลักษณ์ อย่ามองแค่ภายนอก ให้ดูความสามารถด้วย ลงพื้นที่ทุกครั้ง น.ส.พลอยไพลินแต่งกายเหมาะสมรัดกุมตลอด ถ้ามีข้อเสนอหรือข้อติติงที่มีเหตุผล พรรคพร้อมรับฟังและแก้ไข ส่วนที่กรณี กกต.ไม่ประกาศรับรอง 11 ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค เพราะแก้ไขข้อมูลระยะเวลาการเป็นสมาชิกพรรคในฐานข้อมูลพรรคให้ครบ 90 วัน เท่าที่ตรวจสอบพบว่าเป็นปัญหาใส่ข้อมูลผิดพลาด แต่ผู้สมัครทั้ง 11 คน เป็นสมาชิกพรรคครบ 90 วัน ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้ไปแอบแก้เอกสารข้อมูลใดๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างการชี้แจงการทำเอกสารผิดพลาดต่อ กกต.

“จตุพร” ท้าดีเบต “เทพเทือก”

ที่ศาลหลักเมืองสมุทรสาคร นายอารี ไกรนรา รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อชาติและแกนนำพรรค ลงพื้นที่หาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาครทั้ง 3 เขต โดยเข้าสักการะศาลหลักเมืองสมุทรสาคร ก่อนเดิน ตลาดมหาชัยและตลาดบ้านแพ้ว นายจตุพรกล่าวว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้ขุดเรื่องราวต่างๆเหมือนก่อนการยึดอำนาจ 22 พ.ค.2557 ขึ้นมา ไม่ว่าจะคำว่า ระบอบทักษิณหรือเผาบ้านเผาเมือง การเลือกตั้งครั้งนี้ตนและนายสุเทพจะไม่เข้าสภาฯทั้งคู่ ขอท้านายสุเทพ มาดีเบตหัวข้อที่ว่านายสุเทพต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อ ตนไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์จะจัดโดยใครก็ได้ ตนกับนายสุเทพเคยวิวาทะกันมาหลายเรื่อง แต่ครั้งนี้จะเป็นปุจฉา วิสัชนา สร้างปัญญาให้กับคนในชาติ

ประธาน กกต.กำชับ จนท.เป็นกลาง

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่เมืองทองธานี นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.พร้อมกรรมการ กกต.และเลขาธิการ กกต. เข้าร่วมประชุมเตรียมความพร้อมสนับสนุนการเลือกตั้ง ส.ส. เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจถึงแนวทางและกฎระเบียบต่างๆในการจัดการเลือกตั้ง มีผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และผู้ว่าฯทั่วประเทศ 1,399 คน รับฟัง นายอิทธิพรกล่าวถึงบทบาทหน้าที่ข้าราชการต่อการเลือกตั้ง ส.ส.ว่า การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอีก 30 วัน ถือเป็นวันที่สำคัญต่อบ้านเมือง เป็นประตูก้าวแรกไปสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยอีกครั้ง ข้าราชการมีตำแหน่งหน้าที่เป็นตัวกำกับ จึงต้องระมัดระวังให้เป็นกลางทางการเมือง เชื่อว่าข้าราชการมีความกล้าหาญไม่อยู่ใต้การครอบงำของผู้ใด ขอให้ยึดมั่นความเป็นธรรม อำนวยความสะดวกให้ประชาชนและผู้สมัคร

คาดหวังการเลือกตั้งสมานฉันท์

ด้านนายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย กกต.กล่าวว่าการเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 24 มี.ค. เป็นครั้งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ที่คนไทยเฝ้ารอ ทุกฝ่ายจึงคาดหวังว่าหลังการเลือกตั้งจะไม่เกิดความขัดแย้งรุนแรง ให้เป็นการเลือกตั้งสมานฉันท์ ทั่วโลกยังจับตาดูประเทศไทยว่าการเลือกตั้งจะเรียบร้อยสุจริต เที่ยงธรรม ได้รับการยอมรับในมาตรฐานสากลหรือไม่ ขอให้ เร่งประชาสัมพันธ์เพื่อให้คนออกมาใช้สิทธิ เพราะ กกต.ตั้งเป้าให้มีผู้มาใช้สิทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 บัตรเสียไม่เกินร้อยละ 2 สิ่งที่ห่วงคือการทำความเข้าใจถึงกฎระเบียบต่างๆ และการกาบัตรลงคะแนน

สั่งเพิ่มคนรับใช้สิทธิล่วงหน้าทะลัก

นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการ กกต.กล่าวว่า กกต.เป็นห่วงการใช้สิทธิลงคะแนนล่วงหน้าวัน 17 มี.ค. เดิมตั้งเป้าว่าจะมีผู้ลงทะเบียนไม่เกิน 2 ล้านคน แต่วันสุดท้ายวันเดียวยอดผู้ลงทะเบียนเพิ่มขึ้น 8 แสนคน โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ มีผู้ลงทะเบียนจากต่างเขตเลือกตั้งนับหมื่นคน จึงแนะนำให้วางแผนรองรับตั้งแต่การจราจรไม่ให้ติดขัด ต้องจัดคนเข้าตามภาคและจังหวัดให้ได้ กรณีบัตรเลือกตั้งจะมี 4 สี ใช้ภาคละสี บัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตและนอกราชอาณาจักร จะมีตำหนิไม่เหมือนบัตรที่ใช้ในวันที่ 24 มี.ค. ไม่ต้องกังวลว่า จะมีบัตรพลัดหลง วันที่ 6-7 มี.ค. จะติวเข้มการเลือกตั้งล่วงหน้า ส่วนกรุงเทพมหานครทราบว่าวันที่ 23 ก.พ. จะประชุมเตรียมความพร้อมบริหารจัดการ การเลือกตั้งล่วงหน้าของผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิ 4 แสนคน ส่วนกรณีผู้สมัคร ส.ส.ชุมพรเขต 2 และร้อยเอ็ดเขต 4 เสียชีวิตไป สามารถกาบัตรลงคะแนนให้ได้ ไม่ถือเป็นบัตรเสียเพราะในบัตรมีคะแนนปาร์ตี้ลิสต์แฝงอยู่ คะแนนคนตายจะถูกส่งต่อให้พรรค แต่ถ้าผู้เสียชีวิตชนะเลือกตั้ง กกต.ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ยกเว้นเฉพาะผู้สมัครที่ถูกตัดสิทธิจะเป็นบัตรเสีย ดังนั้นครั้งนี้บัตรเสียจะน้อย จะมีเพียงเขียนข้อความหรือจดหมายฝากลงไปในบัตร หลังประกาศชื่อผู้สมัครล่าสุดมีคดีที่ศาลฎีกา 241 คดี แนวโน้มจะได้รับสิทธิสมัครกลับเข้ามาครึ่งๆ

“อิทธิพร” ยันมีอำนาจส่งศาลยุบ ทษช.

ต่อมานายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ กกต.ตัดสิทธิผู้สมัคร ส.ส.และผู้สมัครได้ยื่นร้องต่อศาลฎีกาว่า ไม่สามารถพูดได้ เพราะอยู่ในการพิจารณาของศาลฎีกาแล้ว ต้องเคารพศาล ส่วนกรณีที่ กกต.ไม่ตั้งคณะกรรมการไต่สวนกรณีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯของพรรคไทยรักษาชาติและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรค ขอให้ไปอ่านคำแถลงข่าวของ กกต.ยืนยันว่า กกต.มีอำนาจพิจารณาตามมาตรา 92 ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ระบุว่าเมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคนั้น จึงไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการไต่สวน เมื่อถามว่าถ้าหากศาลตัดสินให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ กกต.ต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่ ในฐานะที่เป็นผู้รับสมัคร นายอิทธิพร กล่าวว่าการมายื่นใบสมัครเป็นการรับเรื่องไว้เฉยๆ เหมือนกับการที่ใครมาส่งจดหมายก็รับเรื่องเอาไว้ แต่ยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณา เปรียบเหมือนศาลรับเรื่องเอาไว้ แต่ยังไม่ได้รับฟ้อง

มีแต่คำร้องยุบ พปชร.รอหาหลักฐาน

ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า ถ้าผู้สมัครไม่ว่าพรรคใด กกต.ไม่ประกาศรับรองเป็นผู้สมัครหรือถูกตัดสิทธิในภายหลัง กกต.จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่าผู้สมัครในเขตนั้นเป็นผู้ไม่มีสิทธิรับสมัครรับเลือกตั้ง ใครกาบัตร จะกลายเป็นบัตรเสีย เมื่อถามว่าพรรคไทยรักษาชาติเข้าชี้แจงให้ศาลรัฐธรรมนูญ กกต.ต้องมีคำชี้แจงอะไรเพิ่มหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า ยังไม่ได้รับเรื่อง แล้วแต่ศาล แต่มีนัดพิจารณาวันที่ 27 ก.พ.เมื่อถามถึงกรณีคำร้องให้ยุบพรรคพลังประชารัฐเข้าสู่การพิจารณาของ กกต.แล้วหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังตรวจสอบ อยากชี้แจงการพิจารณาของ กกต. ที่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเพราะปรากฏหลักฐานให้ กกต.เห็นและเชื่อได้ว่ากระทำความผิดตามมาตรา 92 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง ส่วนกรณียื่นคำร้องมานั้นยังไม่ปรากฏหลักฐาน มีแค่คำร้อง จึงต้องไปตรวจสอบหลักฐานเพื่อรวบรวมให้ กกต.พิจารณา ต้องเข้าใจว่าหลักฐานและคำร้องแตกต่างกัน อยากอธิบายกระบวนการให้เข้าใจ เพราะมีการเปรียบเทียบว่าร้องแล้วทำไมไม่ยุบเลย ทีอันนี้ทำไมยุบเลย คาดว่าคำร้องของพลังประชารัฐจะเสนอให้ กกต.ได้เร็วๆนี้ภายใน 1-2 สัปดาห์

“ธนาธร” ยุติหรือไปต่อรอศาลตัดสิน

เมื่อถามถึงกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกร้องกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า ถ้าศาลตัดสินค่อยมาว่ากันอีกที เพราะเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของผู้สมัคร เมื่อถามว่าเมื่อนายธนาธรถูกฝากขังจะมีผลต่อการเลือกตั้งหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่าถูกฝากขังจำคุกโดยหมายของศาล ต้องไปดูตัวบทอีกครั้ง ส่วนที่ กกต.พบว่าผู้สมัครบางพรรคแก้ไขข้อมูลจะนำไปสู่การให้ใบส้มหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ยังไม่มองถึงขนาดนั้น ชั้นนี้เราทำข้อมูลจากฐานข้อมูลของ กกต.เกี่ยวกับนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อให้จังหวัดไปแถลงต่อศาลจังหวัด ที่ทำหน้าที่แทนศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งว่าเหตุที่ตัดสิทธิไม่ประกาศชื่อผู้สมัคร เพราะมีการไปแก้ไขข้อมูลในฐานข้อมูล จะมีความผิดทางอาญาหรือไม่ ต้องพิจารณาอีกครั้ง

ข้อมูลเท็จ “ธนาธร” ไม่น่าแปะไว้ 5 เดือน

นายเจษฎ์ โทณวณิก อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีเว็บไซต์พรรคอนาคตใหม่ระบุประวัตินายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ผิดจากข้อเท็จจริงว่าเคยเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 2 สมัย เพิ่งมาแก้ไขข้อมูล อาจไม่ได้มองว่าตั้งใจหลอกลวง แต่เป็นพรรคที่ชูเรื่องเทคโนโลยีและหาเสียงโลกออนไลน์เป็นหลัก เมื่อพบข้อมูลไม่ถูกต้องจากความเป็นจริงควรรีบแก้ไข ไม่ใช่ปล่อยทิ้งไว้นานถึง 5 เดือน การอ้างว่าเป็นความผิดพลาดของทีมงาน แต่ทิ้งข้อมูลไม่ถูกต้องไว้นานขนาดนี้เป็นคำแก้ตัวที่อ้างยาก

“เจษฎ์” ชี้ล่อลวงจูงใจเข้าข่ายยุบพรรค

นายเจษฎ์กล่าวอีกว่า ตามกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 73 (5) กำหนดห้ามไม่ให้ผู้สมัครจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งด้วยการหลอกลวง ความผิดนี้มีโทษถึงขั้นยุบพรรค จึงต้องติดตามดูว่าจะมีผู้ใดไปยื่นคำร้องเรื่องนี้ต่อ กกต.หรือไม่ เรื่องนี้อาจถือว่าเป็นมรสุมการเมืองลูกใหม่ของพรรคอนาคตใหม่ ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งแต่ละพรรคการเมืองจะช่วงชิงความได้เปรียบจนขาดความเหมาะสมมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น มีทั้งการใช้วิธีไม่สมควร การใช้ข้อมูลไม่ถูกต้องไปจนถึงเคลื่อนไหวปลุกระดมยั่วยุ เป็นการทำลายบรรยากาศการเลือกตั้ง มั่นใจว่าถ้าไม่มีเหตุชุมนุมลุกลามบานปลายไม่มีเหตุจะต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไป

ช่วงเลือกตั้งศาลเลื่อนคดี นปช.

ที่ศาลอาญา ศาลนัดสืบพยานคดีพนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 โจทก์ฟ้องนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีต รมช.พาณิชย์ นพ.เหวง โตจิราการ นายยศวริศ ชูกล่อม นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำและแนวร่วม นปช.รวม 24 คน เป็นจำเลยที่ 1-24 ฐานร่วมกันก่อการร้าย และข้อหาอื่นๆกรณีชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2553 ทนายจำเลยแถลงต่อศาลขอเลื่อนนัดสืบพยานจำเลยออกไปเพราะอยู่ในช่วงการเลือกตั้ง จำเลยบางคนต้องเดินทางไปหาเสียง บางคนต้องเดินทางไปศาลรัฐธรรมนูญ ศาลอนุญาตให้เลื่อนสืบพยานจำเลยได้ โดยให้ยกเลิกวันนัดทั้งหมดในเดือน ก.พ. และ มี.ค.ให้ไปเริ่มสืบพยานจำเลยนัดแรก 4 เม.ย.

ร้อง ปอท.ฟันเว็บข่าวปลอม

ที่ บก.ปอท.พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมาย คสช. เข้าพบ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.3 บก.ปอท.แจ้งความดำเนินคดีกับเว็บไซต์ “https://jookthai.com/กฎหมายใหม่4ปี/” และบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ บิดเบือนเสนอข่าวกรณีที่มีการเผยแพร่ว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯกับ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. จับมือร่างกฎหมายใหม่ ทหารเกณฑ์จาก 2 ปีเป็น 4 ปี ขณะที่ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์เปิดเผยว่า เว็บไซต์ดังกล่าวนำเสนอข่าวปลอมบิดเบือนตลอด ได้เสนอกระทรวงดีอีให้ปิดกั้นแล้ว