ผมแว่บไปเวียงจันทร์เมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มา 3 วันกับ 2 คืน เมื่อศุกร์–เสาร์–อาทิตย์ ที่ผ่านมา ได้ข้อมูลได้ความรู้และได้บุญกลับมาด้วย เพราะคณะผู้เชิญเขาจัดให้ไปไหว้พระไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พี่น้องชาวลาวให้ความเคารพนับถือมาหลายแหล่งหลายที่

แต่ก็คงจะต้องเก็บเรื่องบุญ เรื่องความรู้ หรือเรื่องข้อมูลต่างๆเอาไว้ก่อน เพราะไม่ใช่เรื่องรีบด่วนอะไรมากนัก...ขออนุญาตเล่าถึงความระทึกใจส่วนตัวของผมในวันออกเดินทางเสียก่อนดีกว่าครับ

เพราะเป็นความระทึกใจที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจนทำให้ผมรู้สึกว้าวุ่นจนค่อยๆกลายเป็นความเครียด และเกือบจะทำให้การเดินทางไปลาวของผมครั้งนี้หมดสนุกเสียตั้งแต่เครื่องบินยังไม่ขึ้นจากสุวรรณภูมิ

ดังที่ท่านผู้อ่านทราบกันดีอยู่แล้วนั่นแหละครับ เวลา 9 โมงเช้าเศษๆ ของวันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ ก็เกิดข่าวแพร่สะพัดไปทั่วผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆว่า พรรคไทยรักษาชาติได้เสนอชื่อ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในนามของพรรค และได้ยื่นเอกสารแก่ กกต.เรียบร้อยแล้ว

ผมนั่งรอขึ้นเครื่องบินของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สอยู่ จึงได้ทราบข่าวไปด้วย และตามมาด้วยความรู้สึกเครียดด้วยเหตุผลเดียวกับพี่น้องชาวไทยจำนวนมากที่รับทราบข่าวนี้

ความเครียดเกาะติดสมองผมไปจนถึงเวียงจันทร์ และเกาะอยู่ตลอดทั้งวัน

โชคดีที่เจ้าภาพที่เชิญผมและคณะชาวไทยรัฐส่วนหนึ่งไปดูโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ “น้ำงึม 2” เขาจัดโปรแกรมให้อย่างหลวมๆ และไม่เร่งรัดอะไรมากนัก ชวนเข้าวัดเข้าวาและตระเวนชมนครเวียงจันทน์ เพื่อความสบายใจกันเสียก่อนในวันแรก

ผมก็เลยมีโอกาสได้ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพี่น้องชาวลาวหลายๆแห่ง รวมทั้งวัดศรีสะเกศที่เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดในเวียงจันทน์ มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่องค์น้อยประดิษฐานอยู่ถึง 6,840 องค์ น่าจะมากกว่าทุกๆวัดเท่าที่มีอยู่ในโลกนี้

...

ทำให้ความเครียดของผมพอจะบรรเทาลงไปได้บ้างระดับหนึ่ง

จนกระทั่งเกือบ 3 ทุ่มของคืนเดียวกันนี้เอง เพื่อนๆจากโรงพิมพ์ก็ไลน์ไปบอกว่าให้รอฟังข่าวสำคัญตอน 3 ทุ่ม ผมจึงรีบกลับโรงแรมไปเปิดเครื่องรับโทรทัศน์ในห้องพัก ซึ่งสามารถรับช่อง 7 สี กับช่อง 3 สี จากประเทศไทยได้ เพื่อรอฟังข่าวสำคัญที่เพื่อนบอกล่วงหน้า

ในที่สุดก็ได้ฟังการอ่านพระราชโองการเมื่อเวลาใกล้ๆ 5 ทุ่ม พร้อมๆกับพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศ และบังเกิดความรู้สึกเหมือน “ฟ้ามาโปรด” เมื่อผู้ประกาศอ่านจบลง

ความเครียดความหนักใจที่เกิดขึ้นมาตลอดทั้งวันพลันคลี่คลาย และในที่สุดก็หายไปราวปลิดทิ้ง ณ นาทีนั้น

สามารถที่จะล้มตัวลงนอนหลับและหลับสนิทได้ตลอดทั้งคืน ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาด้วยความเอิบอิ่มในเช้าตรู่วันต่อมา และแยกตัวจากกลุ่มที่ไปดูงานด้วยกันขอหลบไปข้ามฟากข้ามโขงมุ่งหน้าสู่จังหวัดหนองคาย เพื่อร่วมพิธีเปิดโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 105 (เชือกหม้วยวิทยา) ตำบลพระธาตุบังพวน อำเภอเมืองหนองคาย ตามข้อเขียนที่ผมเขียนจากโปรแกรมล่วงหน้าทิ้งเอาไว้และลงตีพิมพ์ไปในไทยรัฐฉบับเมื่อวานนี้

ผมก็ขออนุญาตบันทึกเหตุการณ์และความรู้สึกเครียดๆที่เกิดขึ้น กับผมเมื่อเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา และต่อมาก็คลี่คลายลงด้วยพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 10 ในคืนเดียวกัน ซึ่งก็คงจะเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นแก่ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่เอาไว้พอสังเขป

เพราะถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของห้วงเวลาเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยรอบใหม่ของประเทศไทยที่ควรจะได้จดจารึกไว้

ผมไม่ทราบว่ายังจะมีเหตุการณ์ที่ชวนให้เคร่งเครียดเกิดขึ้นอีกหรือไม่ เพราะวัน 2 วันนี้ก็ยังมีข่าวลือบ้าง ข่าวปลอมบ้างอยู่ตลอดเวลา

อย่ามีอะไรอีกเลยครับ สมัคร ส.ส.กันครบถ้วนตามกติกาทุกอย่างแล้ว รายชื่อคนที่พร้อมจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีเราก็รู้ๆกันอยู่แล้ว

เดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งกันเถอะครับ อย่ามัวแต่วุ่นๆกันอยู่เลย 24 มีนาคมเนี่ยอีกเดี๋ยวเดียวเท่านั้น...เดี๋ยวจะหาเสียงไม่ทัน.

“ซูม”