หลังมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป พ.ศ.2562 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้กำหนดไทม์ไลน์ในการเลือกตั้งไว้ดังนี้

28 ม.ค.-19 ก.พ.2562 ให้ผู้จะไปเลือกตั้ง สามารถลงทะเบียนขอใช้สิทธิลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง, นอกเขตเลือกตั้ง หรือนอกราชอาณาจักร

วันที่ 4-8 ก.พ.2562 เปิดรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง, ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และให้พรรคการเมืองแจ้งรายชื่อ ผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ในบัญชีของแต่ละพรรค

15 ก.พ.2562 ประกาศรายชื่อผู้สมัครที่มีคุณสมบัติครบถ้วน

4-16 มีนาคม 2562 เป็นวันเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร 17 มีนาคม 2562 เป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง, นอกเขตเลือกตั้ง และที่เลือกตั้งกลาง สำหรับผู้พิการ หรือผู้สูงอายุ

24 มี.ค.2562 เป็นวันเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ

วันที่ 9 พ.ค.2562 ครบ 150 วัน นับแต่กฎหมายเลือกตั้งบังคับใช้ หรือเท่ากับ กกต.มีเวลาในการประกาศรับรองผลเลือกตั้ง 45 วัน

ขั้นตอนที่เหลือคาดว่าภายในวันที่ 27 พ.ค.2562 คสช.จะนำรายชื่อสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่ง คสช.คัดเลือกมาจาก 10 กลุ่มอาชีพจำนวน 50 คน กับ ส.ว.ที่มาจากคณะกรรมการสรรหาอีก 194 คน รวมทั้ง ส.ว.โดยตำแหน่งจากเหล่าทัพต่างๆอีก 6 คน ขึ้นทูลเกล้าฯถวาย

ถ้าทุกอย่างเดินไปตามไทม์ไลน์นี้ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะสิ้นสุดวาระ หรือสิ้นสภาพในวันที่ 7 มิ.ย.2562 และคาดว่าจะมีการเปิดประชุมรัฐสภาได้ในวันที่ 8 มิ.ย.2562

จากนั้นจะมีการเลือกประธานสภาฯ ประธานวุฒิสภา และผู้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป

ตามขั้นตอนนี้ เท่ากับทุกพรรคการเมืองจะมีเวลาหาเสียงเพียง 60 วัน

ซึ่งตามประกาศ กกต.ได้กำหนดค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัครแต่ละราย และค่าใช้จ่ายของพรรคการเมืองไว้ว่า ผู้สมัคร ส.ส. ในระบบเขต สามารถใช้จ่ายได้ไม่เกินคนละ 1.5 ล้านบาท

...

ส่วนพรรคการเมืองแต่ละพรรคจะใช้เงินในการหาเสียงเลือกตั้ง ได้พรรคละไม่เกิน 35 ล้านบาท

เช่น ค่าจ้างทำเสื้อแจ็กเกต หมวก เสื้อยืด ค่าโฆษณาต่างๆ ค่าสื่อสิ่งพิมพ์ ค่าผลิตสื่อเพื่อการออกอากาศ ค่าใช้จ่ายในการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ ทวิตเตอร์ ยูทูบ อินสตาแกรม กูเกิล ฯลฯ ค่าเช่าสำนักงานเพื่อเป็นศูนย์รณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ค่าเช่าสถานที่เพื่อปราศรัยหาเสียง ค่าเช่ายานพาหนะ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าเช่าที่พัก ค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปา เป็นต้น

หากผู้สมัคร ส.ส. หรือพรรคการเมืองใด ใช้เงินเกินกว่านี้ มีโทษถูกปรับตั้งแต่ 2 แสน–2 ล้านบาท หรือปรับ 3 เท่า ของค่าใช้จ่ายส่วนที่เกินจากที่กฎหมายกำหนด แล้วแต่อย่างใดจะมากกว่า

ยิ่งถ้าหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เหรัญญิกพรรค รู้เห็นเป็นใจ ต้องถูกปรับตั้งแต่ 2 แสน-2 ล้านบาท หรือปรับ 3 เท่าของค่าใช้จ่ายที่เกินจาก 35 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี

ภายใต้บรรยากาศและกฎเกณฑ์ในการหาเสียงเลือกตั้งปี 62 ที่ถูกกำหนดเอาไว้อย่างคุมเข้มนี้ มาดูกันว่าบรรดาผู้สมัคร ส.ส. และพรรคการเมืองต่างๆ ขานรับหรือต้องโหมโรงในศึกหาเสียงครั้งนี้กันอย่างไร

“บอกเลยว่าครั้งนี้ไม่บูมเหมือนเมื่อเลือกตั้งครั้งก่อนๆ ยิ่งจำกัดการใช้งบหาเสียงเอาไว้อย่างนี้ ยิ่งทำให้กระแสการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ช่วยหาเสียงรอบนี้เงียบกริบ งานที่มาสั่งทำส่วนใหญ่ เป็นแค่บัตรแนะนำตัว ผู้สมัครไซส์นามบัตร กับไซส์ A5”

ภาวนา สุวรรณ์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท เอ็นโฟร์ โปรพริ้น จำกัด หนึ่งในโรงพิมพ์ชื่อดังและใหญ่สุด ใน อ.เมือง จ.ปทุมธานี ตั้งข้อสังเกต

เธอว่า อัตราค่าพิมพ์นามบัตรแนะนำตัวแบบ 4 สี หน้า-หลัง ด้านหน้าเป็นรูปผู้สมัคร ด้านหลังเป็นโลโก้พรรค ถ้าสั่งพิมพ์ด้วยกระดาษอาร์ตการ์ดอย่างดี ตั้งแต่ 1,000 ใบขึ้นไป ตกใบละ 4-5 บาท

ส่วนบัตรแนะนำตัวขนาด A5 กว้าง 14.5 ซม. ยาว 21 ซม. หรือประมาณครึ่งของ A4 ภาวนาบอกว่า ใช้กระดาษแบบเดียวกัน ถ้าสั่งพิมพ์ตั้งแต่ 1 หมื่นแผ่นขึ้นไป ตกแผ่นละ 1 บาทกว่า

แต่ภายใต้เงื่อนไขการพิมพ์ดังกล่าว เธอว่า ต้องขอเรียกเก็บค่ามัดจำก่อนอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือวันส่งของขอเรียกเก็บเป็นเงินสดทั้งหมด เพราะปริมาณการสั่ง และมูลค่าเงินที่เรียกเก็บไม่มาก

“ช่วงนี้แต่ละพรรคคุมเข้มค่าใช้จ่ายของผู้สมัคร ทำให้ยอดสั่งพิมพ์ของผู้สมัครลดลงอย่างฮวบฮาบ ยังทำให้การแข่งขันในเรื่องราคาของแต่ละโรงพิมพ์รุนแรง โดยต่างคนต่างตีราคาให้ต่ำเข้าไว้ เพื่อให้ได้งาน แต่พอได้งานมาแล้วสมใจ บางรายก็ขาดทุนป่นปี้ อยู่ไม่ได้ ต้องปิดกิจการ”

“บอกตามตรงนะ ทุกวันนี้หลายโรงพิมพ์แทบจะอยู่กันไม่รอด ที่ยังอยู่ได้เพราะยังพอมีงานรับพิมพ์วารสาร กับคู่มือของโรงงานอุตสาหกรรม เช่น คู่มือการใช้แอร์ งานทั่วไป กับสิ่งพิมพ์หาเสียงเลือกตั้ง ชั่วโมงนี้เหลือลูกค้าไม่เกิน 10%”

เทียบกับบรรยากาศที่ บริษัท ไซน์ลีดดิ้ง จำกัด ร้านอิงก์เจ็ตชื่อดังในตัวเมืองปทุมธานี รับทำป้ายไวนิล ไวนิลโครงไม้ และป้ายกองโจรแบบต่างๆ

แหล่งข่าวผู้หนึ่งพนักงานของบริษัท แจงถึงค่าจ้างทำป้ายว่า ถ้าเป็นป้ายไวนิลแบบทึบแสง สำหรับติดตั้งกลางแจ้งทั่วไป ตกตารางเมตรละ 150 บาท ถ้าเป็นงานพิมพ์ความละเอียดสูง ตร.ม.ละ 350 บาท โดยราคานี้ได้แค่แผ่นป้ายไวนิลเฉยๆ ต้องเอาไปขึงขึ้นโครงไม้ และต่อขาไม้เอาเอง

แต่ถ้าต้องการงานสำเร็จรูป ป้ายไวนิล แบบป้ายกองโจร (Street Cutout) ที่มีขนาดมาตรฐาน 120×240 cm พร้อมขึงขึ้นโครงไม้ และมีขาไม้ให้เสร็จ นิยมนำไปติดตั้งข้างทางตามถนนสายหลัก ที่มีผู้คนสัญจรพลุกพล่าน ราคาแผ่นละไม่เกิน 1,000 บาท ยิ่งสั่งทำจำนวนมาก ราคาจะถูกลงกว่านี้

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวบอกว่า ช่วงนี้เพิ่งอยู่ในระยะโหมโรง เลือกตั้ง ยังไม่ถึงเวลาบุกกัน จึงยังไม่มีใครมาติดต่อสั่งทำ แต่เชื่อว่า รออีกสักพัก น่าจะมีลูกค้ามาสั่งทำบ้าง

ขณะที่แหล่งข่าวร้านอิงก์เจ็ตอีกราย แถว ถ.บางกรวย-ไทรน้อย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี บอกว่า ถ้าเป็นช่วงหาเสียงเลือกตั้งสมัยก่อน ป่านนี้มีผู้สมัคร ส.ส. แห่มาจ้างทำป้ายกองโจร เจาะรูผูกลวด ผูกตามเสาไฟฟ้ากันบ้างแล้ว แต่เลือกตั้งครั้งนี้ยังไม่มีวี่แวว

“เมื่อก่อนจะใช้วิธีพิมพ์สติกเกอร์ก่อน แล้วเอาไปแปะไว้บนแผ่นป้ายฟิวเจอร์บอร์ดอีกที ป้ายไซส์ 120×240 cm พร้อมติดตั้งขาไม้ให้ด้วย แผ่นละ 550 บาท แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีใครใช้แบบนั้นแล้ว หันมาใช้ป้ายกองโจรทำจากไวนิลกันหมด ไซส์เดียวกันพร้อมไปติดตั้งให้ด้วย ป้ายละ 720 บาท ถ้า 50 ป้ายขึ้นไป เหลือแค่ 570 บาท”

แต่แหล่งข่าวเตือนว่า อย่าได้นำไปปักไว้ข้างทาง หรือใช้ลวดผูกติดตามเสาไฟฟ้า สุ่มสี่สุ่มห้าเหมือนเมื่อก่อน ถ้าไม่ขออนุญาตจากเทศบาล หรือ อบต.ก่อน อย่างมากติดอยู่ได้แค่วันเดียว รุ่งขึ้นป้ายหายเกลี้ยง

“เลือกตั้งครั้งนี้เงียบสุดๆ อย่าว่าแต่ป้ายไวนิลเลย ขนาดนามบัตรแนะนำตัวผู้สมัคร ใช้กระดาษอาร์ตมัน พิมพ์ 300 ใบขึ้นไป เฉลี่ยแค่ใบละ 2 บาท พิมพ์ 500 ใบ แถมฟรีให้อีก 100 ใบ หรือเฉลี่ยแค่ใบละ 1.66 บาท ป่านนี้ยังไม่มีผู้สมัคร ส.ส.คนไหนมาสั่งทำเลย”.