ถ้าไม่เพิ่มบวก ก็อย่าให้ติดลบ
เป็นวิถีทางการเมืองของหลายรัฐบาลที่กำลังจะก้าวไปสู่สนามเลือกตั้ง เพราะต้องสร้างคะแนนนิยมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
มิฉะนั้นการเลือกตั้งคงมีแต่เสมอตัวหรือพ่ายแพ้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ยืนยันชัดเจนไปแล้ว ยุติการแก้ไข พ.ร.ป.กกต.ว่าด้วยผู้ตรวจการเลือกตั้ง
แต่ให้ กกต.ชุดเก่าและชุดใหม่ไปพูดคุยเพื่อหาทางออกให้ดีที่สุด
เพราะเรื่องนี้มันมีเงื่อนงำให้ชวนสงสัยอยู่หลายประเด็น
ที่แน่ๆ แม้ว่า คสช.จะไม่มี “ใบสั่ง” แต่เป็น สนช.สั่งกันเองเล่นกันเอง
ทว่า คสช.ก็หนีไม่พ้นที่จะถูกข้อหาว่าต้องการยื้อเลือกตั้งออกไปอีก
แค่กลุ่ม “สามมิตร” เคลื่อนไหวเพื่อเพิ่มพลังดูดอย่างนี้ ก็แทบจะตอบคำถามไม่ได้ ได้แต่บิดตะกรดไปวันๆเท่านั้น
เนื่องจากไม่รู้จะหาคำตอบใด เพราะขืนตอบไปตรงๆก็อาจจะเจอความผิด หรือเมื่อไม่ตอบก็ต้องถูกถล่มไปเรื่อยๆ ว่าจับผิดคนอื่นแต่ปล่อยของพวกเดียวกันเอง
ก็นั่นแหละ...ปัญหาหญ้าปากข้องอย่างนี้ ต่างก็รู้เหลี่ยมรู้คมกันแล้ว เพราะการที่ยังไม่ปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้นั้นหวังผลอะไร
ว่าไปแล้ว ก็คงไปโทษนักการเมือง หรือพรรคการเมืองที่กล่าวหาเรื่องนี้ เพราะจะมาอ้างว่ากลุ่มสามมิตรนั้นไม่ใช่นักการเมือง เป็นการเดินสายในกลุ่ม ไม่ผิดกฎหมายข้อบังคับแต่อย่างใด
ที่รู้กันดี กลุ่มสามมิตรเป็นใครมาจากไหน ไม่ว่าจะเป็นนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน
และหรือ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกฯ ที่นั่งอยู่ใกล้ตัว
ทางออกที่ดีสุดก็คือ “ปลดล็อก” เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถเคลื่อนไหวทำกิจกรรมการเมืองไปพร้อมๆกัน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่ายจะได้เลิกกล่าวหากันจนยุ่งไปหมด
...
เห็นนายกฯระบุว่า เดือนหน้าคือกันยายนจะประกาศท่าทีความชัดเจนทางการเมือง ว่าจะตัดสินใจอย่างไร
จะเล่นไม่เล่น ถ้าไม่เล่นจะไปทำอะไร ถ้าเล่นจะเล่นแบบไหน จะลงเล่นในเกมคือสังกัดพรรคการเมืองไหน หรือจะเป็นแบบ “คนนอก”
ก็ดีครับ...ความชัดเจนนี้จะสัมพันธ์กันไปทั้งระบบ
อย่าง กกต.ชุดใหม่ 5 ท่านก็ได้รับการโปรดเกล้าฯแล้ว จึงเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มตัว เพื่อเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง
อีกทั้งหาก พล.อ.ประยุทธ์ประกาศความชัดเจนทางการเมือง ก็เท่ากับเป็นการเล่นการเมืองแบบเปิดหน้าเสียที
ทำให้กระบวนทัพ “กองหนุน” ก็จะได้เข้าที่เข้าทาง ใครจะไปทางไหน อย่างไร ก็จะมีภาพที่ชัดเจนมากขึ้น
เพราะต่างก็รู้กันดีแล้วว่า “นายกฯลุงตู่” นั้นเอาแน่
ยิ่งไปว่านั้น หากเปิดตัวแล้วพรรคคู่แข่งคู่ต่อสู้ก็จะได้เปิดไต๋ที่กลบเอาไว้ออกมาให้ได้เห็นกันเมื่อรู้อะไรเป็นอะไร
อย่างพรรคเพื่อไทยคู่แข่งสำคัญที่รอเวลานี้เหมือนกัน ก็จะได้เคลื่อนไหวเพื่อเปิดตัวหัวหน้าพรรคที่จะขึ้นมานำทัพคนใหม่
ที่ว่าอย่างนี้ก็เพราะสงสารบรรดาแกนนำพรรค ลูกพรรค มวลชนสนับสนุนที่นั่งลุ้นนอนลุ้น ไม่รู้ว่าจะออกหัวออกก้อยอย่างไร
ขืนล่าช้าออกไปจะกลายเป็น “เสก โลโซ” กันไปหมด...ล่ะยุ่งแน่.
“สายล่อฟ้า”