ให้บิ๊ก ขรก.บีบ สนช.ผ่านฉลุย ‘ก.ม.คณะสงฆ์’
เพื่อไทยถล่มบิ๊กคสช.ส่งขุนทหารปั่นผลงานแลกตำแหน่ง บีบอดีต ส.ส.ย้ายขั้วร่วมพลังประชารัฐ กดดันหนักทั้งขอพบ-ต่อสายตรงเสนอเงินเดือน แจกงบฯ เฉือนแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ การันตีไม่มีแพ้ “อนุสรณ์” แฉ “หมูตอนผู้ยิ่งใหญ่” สั่งต้อนทีมอดีต ส.ส.โคราชมาคุยที่กรุงเทพฯ ขู่งัดหลักฐานแฉคลิปดูด “สุชาติ” ปูดพลังไดโว่ลามภาคกลาง หยันดึงไปได้แค่พวกตัวสำรองหรือกองเชียร์ “นิพิฏฐ์” ประชดเชื่อ “สมคิด” ไม่มีเอี่ยวกลุ่มสามมิตร ดักคอ คสช.คงไม่ชั่วร้ายทำสิ่งสกปรกสวนกระแสปฏิรูป สนช.ผ่านฉลุย 3 วาระรวด พ.ร.บ.คณะสงฆ์ คืนพระราชอำนาจแต่งตั้ง มส.
ขณะที่แกนนำกลุ่มสามมิตรเดินหน้าดูดอดีต ส.ส.เข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยไม่สนใจพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ที่เรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ล่าสุดพรรคเพื่อไทยอ้างว่ามีข้อมูลว่ามีแกนนำ คสช.สั่งการให้นายทหารชั้นผู้ใหญ่เร่งสร้างผลงาน ติดต่อกดดันอดีต ส.ส.นครราชสีมาให้มาหารือย้ายพรรค โดยเสนอผลประโยชน์ทั้งเงินสนับสนุน และความช่วยเหลือเรื่องคดีความและธุรกิจ พร้อมขู่เตรียมแฉคลิปเจรจาดูดอดีต ส.ส.ของพรรค
พท.อัดส่งขุนทหารบีบ ส.ส.ย้าย
เมื่อวันที่ 5 ก.ค. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่เดินสายติดต่ออดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย มาหารือกับแกนนำ คสช.ที่กรุงเทพฯ ว่า ถ้าคิดจะปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือในยุคนี้ เป็นไปได้ยากมาก ไปทำอะไรไว้ โลกรู้ประชาชนรู้ อดีต ส.ส.หลายคนให้ข้อมูลสอดคล้องกันในยุทธวิธีดูดอดีต ส.ส.ของกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม โดยมีการใช้ข้าราชการระดับสูง ระดับแม่ทัพนายกอง ทั้งมาพบ ทั้งโทรศัพท์กดดันและเสนอผลประโยชน์แลกกับการดูด ในรูปเงินเดือน เงินงบประมาณ สิทธิพิเศษในการแบ่งเขตให้ได้เปรียบ การันตีไม่มีแพ้ มีการเสนอตำแหน่งทางการเมือง มีการนำเอาคดีความต่างๆ มาต่อรองหรือไม่ โดยรางวัลสำหรับข้าราชการระดับสูงที่ดูดอดีต ส.ส.ได้มาก จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้นหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นจริง ข้าราชการเหล่านั้นจะเอาเวลาที่ไหนไปทำงานดูแลประชาชน อดีต ส.ส.บอกข้อมูลตรงกันว่าขณะนี้เกิดความพยายามทุกวิถีทาง เพื่อจะนำตัวอดีต ส.ส.มาพบกับบุคคลที่เขาเรียกว่า “หมูตอนผู้ยิ่งใหญ่” ใน กทม.หรือไม่ ได้พยายามสอบถามว่าคือใคร อดีต ส.ส.บอกว่าเมื่อถึงเวลาจะเปิดเผยแน่นอน
...
ขู่ไม่หยุดเตรียมแฉหลักฐานคลิปดูด
คนที่ไม่ยอมให้ดูด โทร.ยังไง กดดันแค่ไหนคงไม่ยอมให้ดูด หากยังกระทำการอุกอาจเช่นนี้ต่อไป ในไม่ช้าอาจได้เห็นคลิปออกมาแฉเป็นหลักฐานยืนยัน เพื่อจะสื่อสารกับประชาชนว่า ประชาชนจะเชื่อมั่นได้อย่างไรว่าการดำเนินการจัดการเลือกตั้งในสถานการณ์เช่นนี้จะเสรีและเป็นธรรม จะได้การเลือกตั้งที่เป็นทางออกของประเทศแท้จริง” นายอนุสรณ์กล่าว

“สุชาติ” ปูดพลังดูดรุกคืบภาคกลาง
นายสุชาติ ลายน้ำเงิน อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มพลังประชารัฐที่เดินสายทาบทามนักการเมืองจากหลายพรรคให้ไปร่วมว่า หลังไปยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบพฤติกรรม นักการเมืองกลุ่ม 3 ส. เข้าข่ายทำผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่ และเรียกร้องไม่ให้ กกต.รับรองการจดจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ เพราะขับเคลื่อนทางการเมืองได้เพียงพรรคเดียว สร้างความไม่เป็นธรรมทางการเมือง ต้องขอบคุณนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมากระทุ้งช่วยให้สังคมและ กกต.ร่วมตรวจสอบ พวกที่ไปร่วมงานกับกลุ่มดังกล่าวล้วนแต่ได้ผลประโยชน์ทั้งสิ้น ที่รู้มาในการไปพูดคุยทาบทามนักการเมืองเพื่อไทยจะมีการถามเลยต้องการอะไรบ้าง เมื่อถามว่าพื้นที่อีสานที่ถูกทาบทามอย่างหนัก พื้นที่ภาคกลางโดนไปด้วยหรือไม่ นายสุชาติตอบว่า โดนหมดที่รู้ตอนนี้ จ.อุทัยธานี นครสวรรค์ พิจิตร อยุธยา โดนหมด แต่ถ้าให้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ที่เขาเอาไปได้ทั้งประเทศไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ และพวกที่เอาไปไม่ใช่ของจริง นักฟุตบอลเวลาซื้อตัวเขายังเลือกแต่ตัวจริง ไม่ใช่เอาไปแต่พวกตัวสำรอง หรือพวกนั่งเชียร์ ที่ได้ไปไม่ใช่ของแท้ ตนพบชาวบ้านหลายพื้นที่ล่าสุดลงมาแถว จ.ชุมพร ระนอง ชาวบ้านยังบอกเลยว่าคิดถึงคนแดนไกล ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง แต่เรื่องเศรษฐกิจเขาเก่งจริง ส่วนนักการเมืองพรรคเพื่อไทยใน จ.ลพบุรี ขอการันตียังอยู่กับพรรค 100 เปอร์เซ็นต์

เย้ยก๊อบปี้ “ทักษิณ” ไม่มีทางชนะ
นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า “เงียบเถอะ” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยสอนตนว่าผู้ชนะคือผู้ที่คิดเกมใหม่ และนำแนวคิดนี้มาใช้กับการเมือง ก่อนหน้านี้พรรค การเมืองเน้นตอบโต้ด้วยวาทะโวหาร พรรคไทยรักไทยจึงเริ่มหาเสียงด้วยนโยบาย จนปัจจุบันกลายเป็นสมบัติของประชาชน ถึงแม้จะมีคนเอาไปเปลี่ยนชื่อ แต่ประชาชนทราบว่าลอกเลียนมา นายทักษิณยังเป็นผู้ริเริ่มรายการ “นายกทักษิณพบประชาชน” สื่อสารกับประชาชน การประชุม ครม.สัญจรต่างจังหวัด การประชุม ครม.ร่วมกับต่างประเทศ รวมทั้งการไปสอนหนังสือเด็ก ไม่ทราบว่าใครไปแนะนำหัวหน้ารัฐบาลบางคนให้เลียนแบบ เช่น รายการวิทยุ แต่เปลี่ยนชื่อและวันเวลา รายการของนายทักษิณมีคนสนใจมาก เพราะท่านให้เกียรติผู้ฟัง จึงสื่อสารด้วยเนื้อหาที่มีคุณภาพไม่ทำให้ประชาชนต้องมาทนฟัง ส่วนบางรายการท่าทีการสื่อสารไม่เคยให้เกียรติผู้ฟัง สักแต่ให้ได้ชื่อว่ามาพูดโดยไม่คัดกรองเนื้อหาที่มีประโยชน์ หรือบางครั้งเลยเถิดใช้เป็นเวทีอบรมประชาชน จึงกลายเป็นช่วงเวลาการประหยัดพลังงานของประเทศ หรือเลียนแบบการไปสอนหนังสือเด็ก ผลจึงออกมาตามที่นายทักษิณเคยบอกคือนอกจากจะไม่มีทางชนะแล้วยังเกิดการเปรียบเทียบ

ดักทางหาเรื่องยกเลิกไพรมารีฯ
นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่าการทำไพรมารีโหวตรายภาคไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญว่า พรรคเพื่อไทยมองว่าในเมื่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 45 บัญญัติว่าให้สมาชิกมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางในการกำหนดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้นสมาชิกพรรคในแต่ละเขต แต่ละจังหวัด ควรจะมีส่วนร่วมกำหนดตัวผู้สมัคร ถ้าทำเป็นรายภาคไม่น่าจะใช่เจตนาที่ถูกต้องของรัฐธรรมนูญ จึงควรทำตามที่กฎหมายพรรคการเมืองวางไว้ เพียงแต่พรรคที่ตั้งใหม่ยังทำไม่ได้ เพราะต้องหาสมาชิกและต้องจ่ายเงินค่าสมาชิกคนละ 100 บาท ไม่รู้ว่าจะไปหาสมาชิกให้ครบถ้วนได้อย่างไร เลยหาเรื่องจะยกเลิกไพรมารีโหวต

“นิพิฏฐ์” ประชดเชื่อ “สมคิด” ไม่โกหก
ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ปฏิเสธและขอร้องสื่อว่าอย่าโยงตัวเองกับกลุ่มสามมิตรที่เดินสายดูดอดีต ส.ส.เข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ เพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯต่อ เพราะนักการเมืองเหล่านี้ล้วนเป็นเพื่อนที่รู้จักกัน โดยนายนิพิฏฐ์หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ตนเป็นคนหัวอ่อนเชื่อคนง่าย ผู้มีอำนาจพูดอะไรเชื่อทั้งหมด ยิ่งนายสมคิด หนึ่งในผู้ที่มีอำนาจขณะนี้บอกอะไร ยิ่งต้องเชื่อในสิ่งที่เขาพูด เพราะ คสช.ล้มรัฐบาลพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ถ้าคิดจะอยู่ต่อท่ออำนาจ แต่กลับให้คนไปดูดสมาชิกหรืออดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เพื่อให้มาสนับสนุน คสช.ต่อนั้น มันไม่มีหลักการอดีต ส.ส.ที่เห็นเป็นข่าวมีรายชื่อ 40-50 คน ล้วนเป็นอดีตคนพรรคเพื่อไทยทั้งสิ้น จึงเชื่อว่านายสมคิดพูดจริง ไม่โกหก แต่ถ้าไปดูดมาเพื่อตั้งพรรคใหม่และพรรคนั้นยืนตรงข้ามกับ คสช.หรือรัฐบาลทหาร เห็นว่าสิ่งนี้มีเหตุผล
ดักคอ คสช.คงไม่ทำสกปรกสวนปฏิรูป
“ที่อ้างว่ามีท่อน้ำเลี้ยงจ่ายเป็นรายเดือน หรือมีค่าตัวก้อนใหญ่ รวมถึงการใช้อำนาจรัฐเข้าช่วยเหลือทางคดี ช่วยเหลือทางธุรกิจ เป็นข้อกล่าวหาใส่ร้ายรัฐบาล ยิ่งไม่น่าเชื่อเพราะรัฐบาล คสช. เคยกล่าวหานักการเมืองว่าเป็นผู้ทุจริต เป็นต้นเหตุของรากเหง้าปัญหาต่างๆที่ก่อให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน จึงจำเป็นต้องยึดอำนาจตามเหตุผลที่ให้ไว้กับสังคม เพื่อเข้ามาปฏิรูปการเมือง โดยมีประชาชนสนับสนุน แต่ดูถึงพฤติกรรมการดูดอดีตนักการเมืองที่กำลังทำอยู่ขณะนี้ ทั้งการเสนอผลประโยชน์ในลักษณะต่างๆ ทั้งการให้รายเดือน มีค่าตัว การเอื้อประโยชน์ธุรกิจและการบิดสำนวน เป่าคดีความต่างๆ ล้วนเป็นพฤติกรรมย้อนยุคของการเมืองเก่าช่วงปี พ.ศ.2500 ทั้งสิ้น จึงคิดว่า คสช.หรือผู้มีอำนาจจะไม่ทำสิ่งที่ชั่วร้ายสกปรกเหล่านี้ เพราะไม่ใช่วิธีการปฏิรูปการเมืองที่รัฐบาลป่าวประกาศ” นายนิพิฏฐ์กล่าว

นายกฯเร่งขับเคลื่อนโอกาสประเทศ
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย ครั้งที่ 1/2561 โดยนายกฯกล่าวก่อนการประชุมว่า ต้องเร่งหลายกิจกรรมให้เดินหน้าไปได้โดยเร็ว ทั้งในประเทศและความร่วมมือกับต่างประเทศ เพราะจะมีผลต่อการลงทุนที่จะเกิดขึ้น ขอให้ทุกคนตั้งหลักให้ดี ต้องทำงานให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บท หลายกิจกรรมมีทั้งงานประจำและงานบูรณาการร่วมกัน การทำงานตรงนี้ต้องทำให้ต่อเนื่อง ทั้งต้นทาง กลางทางและปลายทาง ขอขอบคุณทุกฝ่าย ในการทำงานร่วมกันที่ผ่านมา ดำเนินการได้ดีพอสมควร แต่ยังต้องเร่งให้เกิดโอกาสกับประเทศให้เร็วขึ้น
จีบบาห์เรนร่วมลงทุนอีอีซี
เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอะห์มัด อับดุลเลาะฮ์ อัลฮาญะรี เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรบาห์เรน ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. โดยนายกฯกล่าวว่า ขอบคุณบาห์เรนที่ให้ความสนับสนุนไทยในเวทีระหว่างประเทศด้วยดีเสมอมา บนความร่วมมือที่ใกล้ชิดเพื่อ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเฉพาะด้านสาธารณสุข การลงทุนในโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ขณะที่เอกอัครราชทูตบาห์เรน กล่าวว่า สมเด็จพระราชาธิบดี นายกฯและมกุฎราชกุมารบาห์เรน ทรงฝากความปรารถนาดีมายังนายกฯและประชาชนชาวไทย

รัฐจัดโปรฯบัตรคนจนเอาใจผู้สูงอายุ
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) ครั้งที่ 3/2561 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ที่ประชุมเห็นชอบกำหนดให้สังคมสูงอายุสูงวัยเป็นวาระแห่งชาติ ให้มีหลักสูตรดูแลคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ระยะเวลา 18 ชั่วโมง 70 ชั่วโมง และ 420 ชั่วโมง เพื่อยกระดับการดูแลให้มีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐาน อีกทั้งกำหนดให้จ่ายเงินช่วยเหลือเพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียนตามสวัสดิการแห่งรัฐผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระหว่างเดือน ก.ค.-ก.ย.61 แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จ่ายให้ 100 บาทต่อเดือน และผู้สูงอายุที่มีรายได้เกิน 30,000 แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จ่ายให้ 50 บาทต่อเดือน
สนช.พิจารณา พ.ร.บ.สงฆ์ 3 วาระรวด
อีกเรื่อง เมื่อเวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ 3 วาระ รวด ตามที่ ครม.เสนอมา มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯเป็นตัวแทน ครม.นำชี้แจงต่อที่ประชุมสนช. มีสาระสำคัญคือ การให้พระมหากษัตริย์ทรงไว้ ซึ่งพระราชอำนาจในการแต่งตั้ง สถาปนา และถอดถอน สมณศักดิ์ของพระภิกษุในคณะสงฆ์ และแต่งตั้งกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) โดยให้องค์ประกอบของมหาเถรสมาคมประกอบด้วย สมเด็จพระสังฆราชทรงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ มส.โดยตำแหน่ง และกรรมการ มส.อีกไม่เกิน 20 รูป ที่พระมหากษัตริย์ ทรงแต่งตั้งจากสมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ หรือพระภิกษุที่มีพรรษาอันสมควรและจริยวัตรในพระธรรมวินัยที่เหมาะสมแก่การปกครองสงฆ์ การแต่งตั้งให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย โดยจะทรงปรึกษาหารือกับสมเด็จพระสังฆราชก่อนก็ได้ ทั้งนี้กรรมการ มส.ที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง จะอยู่ในตำแหน่งคราวละ 2 ปี และอาจได้รับการแต่งตั้งอีกก็ได้

พระราชอำนาจแต่งตั้ง มส.
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ชี้แจงต่อที่ประชุม สนช.ว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้เตรียมการมาตั้งแต่เมื่อครั้งมีเสียงเรียกร้องให้ปฏิรูปการปกครองคณะสงฆ์ เพื่อจัดระเบียบการปกครอง โดยเฉพาะในส่วนของ มส. หากมุ่งหวังให้ มส.เป็นผู้นำการปฏิรูป ต้องเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติและที่มาใหม่ เพราะระยะหลังเริ่มเกิดปัญหาขึ้นกับกรรมการ มส. บางรูปที่มีปัญหาต้องคดี ถูกกล่าวหา สั่นสะเทือนความรู้สึก ความเลื่อมใสศรัทธาของประชาชน จึงคิดกันว่าควรกลับไปดูรูปแบบ พ.ร.บ.ลักษณะการปกครองคณะสงฆ์สมัยรัชกาลที่ 5 ที่ใช้มาถึงรัชกาลที่ 8 ที่กำหนดให้พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจการสถาปนาและถอดถอนฐานันดรศักดิ์พระ จึงควรย้อนกลับไปสู่การให้ทรงพระกรุณาโปรดฯ สถาปนาเหมือนที่เคยมีมาในอดีต จึงทำเป็นร่างพ.ร.บ.สงฆ์ฉบับนี้ ส่วนสาเหตุที่ต้องเร่งเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ เพื่อให้ทันกับที่ มส.ชุดปัจจุบันกำลังจะหมดวาระในอีก 2 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายวิษณุชี้แจงเสร็จเรียบร้อย ที่ประชุมสนช.ลงมติให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ 3 วาระรวด ด้วยคะแนน 217 ต่อ 0 งดออกเสียง 4
ยันคณะสงฆ์พร้อมปฏิบัติตาม ก.ม.
ด้านพระธรรมกิตติเมธี (เกษม สัญญโต) ผู้ช่วย เจ้าอาวาสวัดราชาธิวาสราชวรวิหาร ในฐานะประธานศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่ สนช.ผ่านร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ 3 วาระรวดว่า หลังจากนี้คณะสงฆ์ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่เป็นปัญหาถือเป็นข้อดี จะได้ปรับปรุงโครงสร้างบริหารงานคณะสงฆ์ใหม่ของมหาเถรสมาคม ให้เหมาะสมต่อบริบทในสังคมยุคปัจจุบัน แต่ในส่วนอื่นๆ ทั่วไปของร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฉบับนี้ ยังไม่ได้มีโอกาสเห็นร่างฉบับเต็ม จึงยังไม่ทราบรายละเอียดชัดเจนว่าเพิ่มหรือตัดทอนในส่วนใดไปบ้าง จากนี้ศูนย์พิทักษ์ฯ คงต้องศึกษาข้อดีข้อเสีย เนื้อหารายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.เพื่อประโยชน์ต่อการปฏิบัติต่อไป

รอผลสอบ ผกก.หนุ่ย 30 วัน
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.กล่าวถึงการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังปรากฏภาพ พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย หรือ ผกก.หนุ่ย ผกก.ฝ่ายวิจัยและพัฒนา ศูนย์พัฒนาด้านการข่าว บช.ส.อยู่กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องตามหมายจับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่หลบหนีออกนอกประเทศอยู่ต่างประเทศ ที่สหราชอาณาจักรว่า เบื้องต้นทราบว่าพ.ต.อ.วทัญญูกลับมาแล้ว หลัง พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผบช.ส.ได้มีคำสั่งยกเลิกการลา และขณะนี้อยู่ระหว่างคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ต้องรอผลสอบ 30 วันหลังรับทราบคำสั่ง
จี้อัยการนำ “ตั๊น” กับพวกฟ้องศาล
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความกลุ่มแนวร่วม ประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณี น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร หรือตั๊น แนวร่วมกปปส.ยื่นคำขอรับความช่วยเหลือหลักทรัพย์ในการประกันตัวจากกองทุนยุติธรรมว่า การที่ น.ส.จิตภัสร์กับพวกใช้วิธีการขอเลื่อนนัดต่อพนักงานอัยการ อ้างว่าขอรับเงินช่วยเหลือ เป็นเรื่องที่ขัดแย้งต่อความเป็นจริง คนกลุ่มนี้ไม่ได้ยากจน การขอเลื่อนคดีเพียงเพื่อประวิงเวลากระบวนการทางกฎหมาย เพื่อทำให้ไม่ต้องตกเป็นจำเลยในศาล หรือทำให้บางข้อหาขาดอายุความ ดังนั้นอัยการควรเร่งรัดนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องโดยเร็ว และเร็วๆนี้จะยื่นหนังสือทวงถามกับอธิบดีสำนักงานอัยการคดีพิเศษ
นศ.รามประณาม “เอกชัย” ถึงบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 5 ก.ค. กลุ่มคนรุ่นใหม่ ใส่ใจสังคม 18 คน นำโดยนายไรวุฒิ เพชรทอง นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง เดินทางไปบ้านเลขที่ 530 แยก 3 ซอยลาดพร้าว 109 เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ของนายเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมือง พร้อมอ่านแถลงการณ์บริเวณหน้าบ้าน ประณามพฤติกรรมนายเอกชัย หลังโพสต์เฟซบุ๊กต่อว่าทหารและหน่วยกู้ภัยช่วย 13 คนทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี ติดภายในถ้ำหลวง จ.เชียงราย ว่า พยายามสร้างความปั่นป่วนโยงเป็นประเด็น การเมือง เรียกร้องให้นายเอกชัยหยุดพฤติกรรมดังกล่าว ขณะที่นายเอกชัยได้เดินออกจากบ้านมาพบกับกลุ่มดังกล่าว และเกิดการโต้เถียงกัน ก่อนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดพร้าว เข้าห้ามปราม นำนักศึกษา ออกจากพื้นที่ ก่อนทั้งหมดทยอยเดินทางกลับ