ผู้ว่าเชียงรายย้ายแล้ว

“บิ๊กตู่” อบอุ่นคืนถิ่นทหารเสือฯ ร.21 รอ. เสียงเชียร์กระหึ่ม คนการเมือง “สนธยา-ณัฏฐพล-ทยา-ปิยะ ปิตุเตชะ” โผล่ต้อนรับ นายกฯเขินหนักเด็กแซวชอบผู้หญิงแบบไหน ฝากสารไปบอกพ่อ-แม่นับวันรอกาบัตร ขอ “เสี่ยแป๊ะ” ช่วยเคลียร์ใจ “สาธิต” รองหัวหน้า ปชป. ลั่นอดีต 4 ส.ส. ระยองเมินแรงดูดอยู่กันครบ ด้าน “ณัฏฐพล” ยังกั๊กซบพลังประชารัฐ “วิษณุ” พลิ้วไม่รู้จักสามมิตรรู้จักแต่รวมมิตร “ภูมิธรรม” จี้ถาม “ประยุทธ์” พูดเรื่องสามมิตรในฐานะอะไร ซัดเล่นไม่สวยกวนน้ำให้ขุ่นรอช้อนปลา ศาลฎีกาฯออกหมายจับใบที่ 4 “ทักษิณ” คดีเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้พม่า

กระบวนการเดินสายดูดอดีต ส.ส.ของกลุ่มสามมิตรยังคงเป็นไปอย่างเข้มข้น แม้ฝ่ายการเมืองจะออกมาเรียกร้องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ แต่ดูเหมือนจะไร้เสียงตอบรับ ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ลงพื้นที่ จ.ชลบุรี และระยอง โดยมีนักการเมืองและอดีต ส.ส. ร่วมให้การต้อนรับ

...

“บิ๊กตู่” คืนถิ่นทหารเสือฯ ครบ 68 ปี

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) ค่ายนวมินทราชินี อ.เมืองชลบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีวันสถาปนา ร.21 รอ. ครบ 68 ปี โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร อดีต รมช.กลาโหม พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม รวมถึงอดีตผู้บังคับหน่วยร่วมงานจำนวนมาก มี พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาคที่ 1 และ พ.อ.สุทธิชัย ศรลัมพ์ ผบ.ร.21รอ. คอยให้การต้อนรับ บรรยากาศภายในงานมีอดีตนายทหารที่เคยเป็นลูกน้องเก่ามารอต้อนรับ โดยเฉพาะบรรดาแม่บ้านมาขอถ่ายรูปจำนวนมาก นายกฯกล่าวทักทายสั้นๆว่า “ดีใจนะที่ได้มาเจอกัน ดีใจมาก ปลื้มใจด้วย” ท่ามกลางเสียงเชียร์ให้ “นายกฯสู้ๆ”

คน ปชป.โผล่ต้อนรับที่ระยอง

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปที่ จ.ระยอง และเดินทางต่อโดยรถตู้โฟล์กสวาเกนทะเบียน 3 กฒ 2961 กรุงเทพมหานครไปที่โรงเรียนวัดเกาะ ต.หนองตะพาน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต อาหารกลางวันนักเรียน และการจัดการศึกษาเพื่อเตรียมเข้าสู่โครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา โดยมีข้าราชการ 200 คน และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต ผอ.พรรคประชาธิปัตย์ กับนางทยา ทีปสุวรรณ ภริยา ร่วมต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เราทุกคนต้องช่วยกันขับเคลื่อนไม่ใช่ตนคนเดียว อย่างราคาพืชผลการเกษตร เช่น สับปะรดเวลานี้ รัฐบาลก็ต้องอุ้ม เรื่องปัญหาราคาพืชผลการเกษตรต้องไม่มีการประท้วงอีก ทุกจังหวัดทุกพื้นที่ต้องมีเกษตรและอุตสาหกรรมเป็นรายได้ 2 ทาง ต้องแก้ด้วยสหกรณ์ ที่สำคัญสุดคือโครงการไทยนิยมที่ลงไป เป็นการให้ทุกคนคิดไม่ใช่เอาเงินไปเล่นการเมือง

กินถาดหลุมมื้อกลางวันกับเด็ก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินชมโรงอาหาร พร้อมรับประทานกลางวันเป็นถาดหลุมร่วมกับเด็กนักเรียน เมนูอาหารคือ ข้าวกล้อง ผัดถั่วฝักยาวใส่หมู ต้มยำไก่ใส่เลือดและเห็ดนางฟ้า ไข่เจียว และสับปะรด เป็นการจัดตามโปรแกรม Thai school lunch อาหารกลางวันโรงเรียน ที่สถาบันโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดลพัฒนาขึ้น นายกฯกล่าวว่า เราจะชอบทานอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ทำให้เกิดกิเลส ต้องทานให้ครบทุกหมู่ ยืนยันว่าไม่ได้ออกมาเพื่อสืบทอดอำนาจ ขอให้ช่วยกลับไปบอกผู้ปกครองและครอบครัวด้วยว่า โครงการไทยนิยมไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่ทำให้บ้านเมืองและทุกคนเข้มแข็งไปด้วยกัน ระหว่างนั้นมีเด็กนักเรียนถามขึ้นว่า ทำไมจึงอยากมาที่โรงเรียนนี้ นายกฯตอบว่า ทราบว่าโรงเรียนนี้เป็นแบบอย่างที่ดีเรื่องอาหารกลางวัน งบที่รัฐบาลให้มาไม่เพียงพอจำเป็นต้องเสริมในกิจกรรมต่างๆ ทั้งการปลูกผัก เลี้ยงไก่ ถ้าอยากจะเป็นเกษตรกรก็ขอให้เป็นคนยุคใหม่เป็นเกษตรกร 4.0

โดนซักทำไมอยากเป็นทหาร

ช่วงหนึ่งนายกฯถามเด็กๆว่าอยากเป็นอะไร ส่วนใหญ่ตอบว่าอยากเป็นชาวไร่ เป็นครู นายกฯเลยถามว่า “ไม่มีใครอยากเป็นนายกฯหรือ ก็ดีลุงจะได้ไม่ต้องมีคู่แข่ง แต่ไม่ต้องการจะแข่งกับใครอยู่แล้ว ใครอยากเป็นก็เป็น ที่บรรดาคุณปู่ คุณตา (ครม.) เข้ามาทำงานทุกวันนี้ก็เพื่ออนาคตของเยาวชนทุกคน” มีเด็กคนหนึ่งถามขึ้นมาว่า ทำไมนายกฯจึงอยากเป็นทหาร พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “เพราะพ่อลุงเป็นทหาร แม่เป็นครู เกิดมาลืมตาก็เห็นทหารแล้ว รู้ว่าเป็นทหารแล้วจะแข็งแรง ลูกผู้ชายก็อยากเป็นทหาร ไม่ได้อยากจะเป็นนายกฯ แต่เมื่อเป็นแล้วเราก็ต้องพัฒนาตัวเอง ต้องทำให้ดีที่สุด”

ฝากบอกพ่อแม่รอวันกาบัตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเด็กนักเรียนอีกคนถามว่า นายกฯชอบผู้หญิงแบบไหน พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับหัวเราะชอบใจก่อนกล่าวว่า “ไอ้นี่ร้ายกาจ ก็ต้องตอบว่าชอบผู้หญิงที่เป็นภรรยาอยู่ทุกวันนี้” เด็กจึงถามต่อว่า “ลุงตู่เรียนเก่งหรือเปล่า” พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “ก็ได้กว่า 80 คะแนนทุกครั้ง เราต้องตั้งใจเรียนในห้อง ต้องหาหัวใจให้เจอ ลุงเป็นคนชอบอ่านหนังสือและชอบเขียนหนังสือมาถึงทุกวันนี้ ทุกวิชาของการเรียนมีเนื้อหาชีวิตสอดแทรกไว้หมด ดังนั้นถ้าไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งก็ต้องตั้งใจเรียนวิชาหน้าที่ศีลธรรม และยกระดับหัวใจของเด็กๆทุกคน ต้องตั้งใจ ขยันหมั่นเพียร อดทน จำไว้ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ หรือได้มาเพราะยื่นมืออย่างเดียว หากรับมาต้องไม่ผิดกฎหมาย ส่วนการเลือกตั้งรออีกนิด และอย่าลืมไปบอกพ่อแม่ว่าต้องออกไปเลือกตั้งทุกคน จะเลือกใครก็เลือกไป และบอกพ่อแม่ด้วยว่าโครงการไทยนิยมไม่ใช่การเมือง แต่ทำให้หมู่บ้านของเราแข็งแกร่ง”

ดูกูเกิล “ประยุทธ์”-รัฐประหาร

ต่อมานายกฯเดินเยี่ยมชมห้องเรียนที่อยู่ระหว่างการเรียนการสอนวิชาต่างๆ มีช่วงหนึ่งนายกฯได้แนะนำการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ โดยเรียก ด.ช.ธนวัฒน์ แสนสุข นักเรียนชั้น ป.5 ให้ออกมาสาธิตการถอดเสื้อพร้อมอธิบาย สร้างความสนุกสนานให้กับเด็กๆมาก และเดินดูการเรียนการสอนวิชาภาษาไทย ในช่วงเพลงพื้นบ้าน เมื่อมาถึงห้องสอนคอมพิวเตอร์ มีเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งพยายามเปิดกูเกิลพิมพ์หาความหมายชื่อ “ประยุทธ์” ทำให้นายกฯชอบใจพร้อมกล่าวว่า “ไอ้นี้มาแปลหาความหมายชื่อนายกฯ” ก่อนจะนั่งลงข้างเด็กพอดูความหมายของชื่อ จึงกล่าวหยอกว่า “พอกดชื่อประยุทธ์ ก็ขึ้นมาเลยบทบาททางการเมือง รัฐประหารประเทศ ไทย 2557 เอากันเข้าไปๆไม่จำเป็นลุงไม่มาหรอก แต่เข้ามาก็เพื่อพวกเรา”

มอบภาพวาดหนุน “ลุงตู่สู้ๆ”

จากนั้น ผอ.โรงเรียนวัดเกาะ นำนายกฯเยี่ยมชมแปลงผักผสม ผักไฮโดโปรนิกส์ โรงเพาะเห็ดนางฟ้าภูฏาน และเมลอน ก่อนจะร่วมถ่ายภาพกับบรรดาเด็กนักเรียนและข้าราชการที่มาต้อนรับ โดยเด็กๆได้มอบภาพวาดเป็นรูปนายกฯพร้อมข้อความ “ลุงตู่สู้ๆ เป็นกำลังใจให้ลุงตู่” ไว้เป็นที่ระลึกจำนวน 3 ภาพ ส่วนตัวแทนครูมอบรูปเหมือนหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ อ.บ้านค่าย หน้าตัก 7 นิ้ว และผลไม้แปรรูปจากโครงการ 9101 โดยนายกฯ และคณะได้เข้ากราบนมัสการพระครูวิจิตรธรรมาภิรัต หรือหลวงพ่อเชย เจ้าอาวาสวัดละหารไร่

ฝาก “เสี่ยแป๊ะ” เคลียร์ “สาธิต”

กระทั่งเวลา 15.20 น. นายกฯและคณะ เดินทางมายังศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวมแบบครบวงจร ต.น้ำคอก อ.เมืองระยอง เพื่อตรวจเยี่ยมและชมโครงการโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะ ที่ อบจ.ระยอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 67 แห่ง ร่วมกับบริษัท โกลบอล พาวเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ดำเนินการ โดยมีนายสนธยา คุณปลื้ม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และนายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ. ระยอง เข้าร่วมด้วย ทั้งนี้ นายปิยะได้เอ่ยของบประมาณเพื่อปรับปรุงบ่อฝังกลบขยะ ขณะที่นายกฯกล่าวว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนงบฯ และขอให้ช่วยกัน ตนไม่เคยเกลียดใคร เพียงอย่ามายุ่งกับตนเกินไป ขอให้เกียรติซึ่งกันและกัน อย่าโทษกันไปมา มีอะไรขอให้คุยกัน นอกจากนี้ยังฝากนายสนธยาให้ไปช่วยคุยนายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ด้วย หากมีข้อสงสัยอะไร

“เสี่ยตี๋” ยัน 4 ส.ส.ระยองอยู่ครบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการลงพื้นที่ จ.ระยองของ พล.อ.ประยุทธ์ถูกจับตามองว่าจะมีอดีต ส.ส. ในพื้นที่คนใดมาร่วมต้อนรับบ้าง ขณะที่ จ.ระยอง ถือเป็นพื้นที่ฐานเสียงสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ มีอดีต ส.ส. 4 คน ประกอบด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ นายธารา ปิตุเตชะ นายบัญญัติ เจตนจันทร์ และนายวิชัย ล้ำสุทธิ ทั้งนี้ นายสาธิตให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ ยืนยันว่าอดีต ส.ส.ในพื้นที่ทั้ง 4 คน ยังคงอยู่พรรคประชาธิปัตย์ครบทั้ง 4 คน ไม่มีใครย้ายไปพรรคพลังประชารัฐ ตามที่มีกระแสข่าว เพราะหากมีการย้ายอาจทำให้สอบตกได้

“ณัฏฐพล” กั๊กซบพลังประชารัฐ

ด้านนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต ผอ.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มาพบนายกฯเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการศึกษา โครงการโรงเรียนพัฒนา ที่โรงเรียนนานาชาติของตนร่วมกับโรงเรียนวัดเกาะ ไม่เกี่ยวกับการเมือง ส่วนก่อนหน้านี้ที่ไปพบกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ก็ไปพูดคุยเรื่องโรงเรียน และแชร์ประสบการณ์ทางการเมือง ตรงนั้นไม่น่ามีปัญหา เมื่อถามว่ามีความชัดเจนหรือยังที่จะมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ นายณัฏฐพลตอบว่า เวลานี้การเมืองยังคลุกฝุ่นอยู่เลย ยังไม่มีใครตัดสินใจอะไรได้ ถ้าจะลงคงไม่ลงแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และกับกลุ่มสามมิตรก็ไม่รู้จัก ไม่เคยพูดคุยด้วย เมื่อถามว่าถือว่าพรรคประชาธิปัตย์เลือดไหลออกหรือไม่ นายณัฏฐพลตอบว่า หัวหน้าพรรคพูดแล้วว่าใครที่ตัดสินใจย้ายไปทำงานกับพรรคอื่นไม่มีปัญหา

ไพรมารีรายภาคไม่ขัดกฎหมาย

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระหว่างนี้กำลังเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำไพรมารีโหวตจากฝ่ายต่างๆ เพราะมีหลายฝ่ายส่งข้อมูลมาให้นายกฯพิจารณา ทั้งพรรคการเมือง และนักวิชาการ การที่พรรคเพื่อไทยเห็นว่าควรยึดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ให้ทำในทุกจังหวัด เราก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะมีความเห็นทั้งให้ยึดไว้เหมือนเดิม และไม่ให้ทำเลย เมื่อถามว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมืองให้ทำไพรมารีในทุกเขต แต่ในบทเฉพาะกาลให้ทำเป็นรายจังหวัด หากปรับมาทำเป็นรายภาคจะขัดเจตนารมณ์กฎหมายหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่ขัดอะไร เจตนารมณ์คือทำตามรัฐธรรมนูญมาตรา 45 ซึ่งไม่ได้สั่งให้ทำไพรมารีโหวต แต่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นผู้เพิ่มระบบไพรมารีโหวตไว้ในกฎหมาย ดังนั้น หากจะปรับให้ทำในรายภาคก็ไม่แปลก แต่ตอนนี้ยังไม่ตัดสินใจว่าจะทำแบบใด

รู้จักแต่รวมมิตรไม่รู้จักสามมิตร

นายวิษณุกล่าวต่อว่า ส่วนตัวไม่เห็นว่าทำรายภาคแล้วมันจะได้ประโยชน์อะไร หากจะพูดกันจริงๆ วันนี้บทเฉพาะกาลให้ทำรายจังหวัดก็ใกล้ชิดกับคนมากอยู่แล้ว ส่วนจะเป็นคุณกับบางพรรคหรือไม่นั้น ไม่ว่าจะใช้แบบใดมันก็เป็นทั้งคุณและไม่เป็นคุณ จึงไม่มีประโยชน์ที่จะมีนั่งอ่านเกมว่าพรรคใดจะได้ประโยชน์แบบใด เราคิดแต่ว่าทำอย่างไรให้การเลือกตั้งเรียบร้อย ความเห็นของ กกต.จะมีน้ำหนักมากที่สุด ปัจจัยใหญ่อยู่ที่ กกต.ชุดใหม่ที่กำลังจะเข้ามา เพราะเป็นผู้ปฏิบัติ เมื่อถามว่าบางพรรคระบุถ้า คสช.เป็นเจ้าภาพจัดเวทีพูดคุยอีกครั้ง จะไม่เข้า แต่ถ้าเป็น กกต.เป็นผู้จัดจะเข้าร่วม นายวิษณุตอบว่า ไม่ฟังว่าใครจะมาหรือไม่มา เชิญแล้วจะมาหรือไม่มาไม่ว่ากัน แต่ถ้ามาแล้วตีรวนไม่ต้องมาดีกว่า ส่วนเจ้าของเวทีพูดคุยครั้งต่อไปเป็นไปตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 ระบุให้ คสช. เป็นผู้เชิญ คาดว่าจะเป็นช่วงเดือน ก.ย. แต่ยังไม่ยืนยัน ส่วนจะมีครั้งที่ 3 หรือไม่นั้น ก็เป็นไปได้หากสังคมเรียกร้อง เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยร้อง กกต.เอาผิดกลุ่มสามมิตรที่เคลื่อนไหวทางการเมือง นายวิษณุตอบว่า ไม่ทราบเรื่อง ไม่รู้เรื่องกลุ่มสามมิตร รู้จักแต่รวมมิตร เพราะมันอร่อยดี

คสช. ยังไม่ถกเรื่องปลดล็อก

ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ในฐานะสมาชิก คสช. กล่าวว่า การประชุม คสช. เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ยังไม่ได้นำผลหารือจากการรับฟังความเห็นของพรรคการเมือง เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. เข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาปลดล็อกหรือดำเนินการใดๆที่เกี่ยวกับการเตรียมตัวเลือกตั้ง กรณีที่จะนำไปสู่การแก้ไขกฎหมายหรือคำสั่งของ คสช. ต้องรอให้รัฐบาลเป็นผู้พิจารณาเบื้องต้น หากต้องการใช้อำนาจพิเศษจึงนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมของ คสช. ไม่คิดว่าเป็นปัญหากับพรรคการเมืองที่ต้องเตรียมตัวลงสู่การเลือกตั้ง ส่วนข้อเสนอต่อแนวทางแก้ปัญหาการทำไพรมารีโหวต ยังไม่มีข้อเสนอใดๆ เพราะยังไม่ทราบข้อมูลที่ชัดเจนของพรรคการเมืองว่ามีปัญหา หรืออุปสรรคต่อการปฏิบัติอย่างไร

พท.จี้ถามนายกฯพูดฐานะอะไร

ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ระบุว่าพรรคพลังประชารัฐยังเป็นเพียงแค่การจองชื่อ กกต.ยังไม่ได้รับรอง ทุกคนจึงมีสิทธิพูดคุยกันได้ ว่า พล.อ.ประยุทธ์พูดเหมือนเป็นตัวแทนพรรคพลังประชารัฐ หรือพูดในฐานะเป็นนายกฯ พรรคการเมืองไม่ได้ปฏิเสธที่พรรคพลังประชารัฐเดินสายพูดคุยกับนักการเมือง ถ้าทุกพรรคทำได้เหมือนกัน เราอยากเห็นความมีเสรีและเป็นธรรม ทุกฝ่ายสามารถแสดงเหตุผลเสนอสิ่งที่ตัวเองต้องการให้ประชาชนรับรู้รับทราบ แต่เราเห็นว่ามีเฉพาะบางส่วนบางกลุ่มที่ดำเนินการขับเคลื่อนได้ เหมือนผู้มีอำนาจขีดเส้นกฎกติกาเอื้ออำนวยให้เฉพาะบางส่วนที่เกื้อหนุนสนับสนุนตน แสดงถึงความกังวลใจของผู้มีอำนาจขณะนี้ กลัวว่าพรรคที่ตนเองสนับสนุนจะไม่สามารถทำงานให้ประสบชัยชนะ ให้ตัวเองประสบความสำเร็จในเป้าหมายทางการเมืองได้หรือไม่

เกมกวนน้ำให้ขุ่นรอช้อนปลา

เมื่อถามถึงกระแสข่าวมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่เดินสายติดต่ออดีต ส.ส.นครราชสีมา มาหารือกับแกนนำ คสช.ที่ กทม.ในวันที่ 5 ก.ค.นี้ นายภูมิธรรมตอบว่า ขณะนี้มีกระบวนการปล่อยข่าวลือให้เกิดความหวั่นไหว เป็นกระบวนการกวนปลาในน้ำให้ขุ่น เพื่อให้ปลากระโดดลอยตัวขึ้นมา แล้วช้อนปลา เป็นกลยุทธ์และวิธีที่ไม่ค่อยสง่างามและไม่สวยงามเท่าไร และเท่าที่เห็นมีแค่ จ.เลยที่ไป อย่างอื่นก็ล้วนแต่เป็นการพูดฝ่ายเดียวจากฝ่ายที่อยากจะช้อนปลา ที่เห็นชัดเจนก็คือ ครม.สัญจร มีการเชิญนักการเมืองท้องถิ่นเข้าร่วม ทุกอย่างล้วนอยู่ในสายตาประชาชนที่จะเห็นเองว่ารัฐบาลหรือผู้มีอำนาจ ใช้กลไกกระบวน การของรัฐที่มีอยู่ทั้งหมด เพื่ออำนวยต่อการตั้งพรรค การเมืองในอนาคตของฝ่ายตนหรือไม่ ซึ่งมันไม่เป็นผลดีต่อภาพพจน์และภาพลักษณ์ของคนที่เป็นรัฐบาล

โปรดเกล้าฯ โยกย้าย 11 ผู้ว่าฯ

วันเดียวกันเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ได้แก่ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ พ้นจากรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็น ผวจ.เชียงใหม่ นายปวิณ ชํานิประศาสน์ พ้นจากผวจ.เชียงใหม่ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร พ้นจาก ผวจ.เชียงราย เป็น ผวจ.พะเยา นายประจญ ปรัชญ์สกุล พ้นจาก ผวจ.พะเยา เป็น ผวจ.เชียงราย นายพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ พ้นจาก ผวจ.บึงกาฬ เป็นผู้ตรวจราชการฯ นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ พ้นจากผู้ตรวจราชการฯ เป็น ผวจ.ชุมพร นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร พ้นจากผู้ตรวจราชการฯ เป็น ผวจ.บึงกาฬ นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ พ้นจาก ผวจ.ปราจีนบุรี เป็น ผวจ.อํานาจเจริญ นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล พ้นจาก ผวจ.เพชรบูรณ์ เป็น ผวจ.ปราจีนบุรี นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ พ้นจาก ผวจ.แม่ฮ่องสอน เป็น ผวจ.เพชรบูรณ์ นายสิริรัฐ ชุมอุปการ พ้นจาก ผวจ.อํานาจเจริญ เป็น ผวจ.แม่ฮ่องสอน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.2561

ตั้ง “ทศพร” นั่งเลขาสภาพัฒน์

นอกจากนี้เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ยังเผย แพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นรองเลขาธิการ ป.ป.ท. ให้ พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร พ้นจากรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แต่งตั้งเป็นเลขาธิการ ปปง. พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รอง ผบช.น. เป็นรองเลขาธิการ ปปง. นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) สํานักงาน ก.พ.ร. เป็นเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) นายปกรณ์ นิลประพันธ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นเลขาธิการ ก.พ.ร. สำนักงาน ก.พ.ร. ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.2561

หมายจับที่สี่คดีเอ็กซิมแบงค์

ช่วงเช้าที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศาลนัดพิจารณาคดีครั้งแรก ที่ ป.ป.ช.เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิม แบงค์) ให้รัฐบาลเมียนมา 4,000 ล้านบาท ถือเป็นการเอื้อประโยชน์แก่บริษัทชินคอร์ป คดีนี้ศาลฎีกาได้จำหน่ายคดีเป็นการชั่วคราวตั้งแต่ปี 2551 เนื่องจากนายทักษิณหลบหนีคดี และสั่งออกหมายจับนายทักษิณไปแล้ว แต่ ป.ป.ช.ได้ยื่นเรื่องต่อศาลขอพิจารณาคดีลับหลังจำเลย องค์คณะพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเลยทราบนัดโดยชอบแล้วแต่ไม่เดินทางมาศาล และไม่แจ้งเหตุขัดข้องหรือขอเลื่อนนัดพิจารณาคดี จึงให้ออกหมายจับ โดยศาลนัดตรวจพยานหลักฐานครั้งต่อไปวันที่ 31 ต.ค. เวลา 09.00 น. สำหรับการออกหมายจับนายทักษิณครั้งนี้ เป็นหมายจับฉบับที่ 4 โดยก่อนหน้านี้มีคดีออกกฎหมายแปลงค่าสัมปทานโทรคมนาคมและมือถือ เป็นภาษีสรรพสามิต คดีร่วมทุจริตการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยกับกลุ่มกฤษดามหานคร และคดีฟื้นฟูทีพีไอ

“วัชระ” จี้ รบ.แจงการทำงานให้ชัด

นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ศาลฎีกาออกหมายจับนายทักษิณมาหลายใบแล้ว แต่ข้าราชการและรัฐบาลที่มีหน้าที่รับผิดชอบต้องปฏิบัติตาม กลับไม่ดำเนินการใดๆให้มีผลในทางปฏิบัติตามกฎหมาย จึงเป็นเรื่องที่สงสัยว่าหมายจับนายทักษิณมีถึง 4 ใบแล้ว ทำไมผู้มีหน้าที่รับผิดชอบถึงไม่กระตือรือร้นดำเนินการโดยเร็วที่สุด รัฐบาลต้องชี้แจงเรื่องนี้กับประชาชนและนานาชาติ ว่า กรณีศาลฎีกาออกหมายจับนายทักษิณเป็นเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันล้วนๆ ไม่ใช่เรื่องกลั่นแกล้งทางการเมือง และควรเรียกร้องให้ประเทศที่นายทักษิณ พำนัก ส่งตัวกลับไทยมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด หากไม่ยอมดำเนินการรัฐบาลควรตอบโต้มาตรการทางการฑูตต่อไป ไม่เช่นนั้นหมายจับของศาลฎีกาจะไม่ศักดิ์สิทธิ์

“ตั๊น” นิ่งไม่ยืนยันฐานะยากจน

อีกเรื่อง นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวง ยุติธรรม กล่าวถึงกรณี น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร แนวร่วมกปปส. ยื่นคำขอรับความช่วยเหลือหลักทรัพย์ในการประกันตัวจากกองทุนยุติธรรม เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ว่า กองทุนยุติธรรมได้ส่งจดหมายแจ้งให้ น.ส.จิตภัสร์ ส่งรายการเสียภาษีย้อนหลัง เพื่อพิสูจน์สิทธิความเป็นผู้ยากจนในการขอรับความช่วยเหลือเงินกองทุนยุติธรรมไปเป็นหลักทรัพย์การประกันตัว โดยส่งจดหมายแบบลงทะเบียนตอบรับไปยังที่อยู่ที่แจ้งในทะเบียนบ้านของ น.ส.จิตภัสร์จนครบ 7 วันแต่ไม่มีผู้รับ ก่อนจดหมายตีกลับคืนกระทรวงยุติธรรม จากนั้นคณะกรรมการมีมติให้ยุติการช่วยเหลือ หลังจากนี้หาก น.ส.จิตภัสร์ต้องการยืนยันสิทธิที่จะขอรับความช่วยเหลือ สามารถยื่นคำร้องได้ใหม่ โดย ไม่มีกำหนดเวลา กองทุนยุติธรรมมีบทบาทเพียงให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายและค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีแก่ประชาชนที่มีฐานะยากจน ไม่สามารถนำไปอ้างเป็นเหตุเลื่อนนัดฟังคำสั่งทางคดีได้