“บังเลาะ” ญาติผู้น้อง “บังฟิต” 1 ในผู้ต้องหาที่ถูกหมายจับคดีฆ่าฝังดิน “สุชาติ ขาวล้วน” ย่องเข้ามอบตัวสารภาพเป็นผู้ร่วมแก๊งทมิฬมีทั้งหมด 4 คนเป็นญาติพี่น้องกัน บังฟิตเป็นคนยิงแล้วช่วยกันฝังอำพรางศพ จากนั้นไปหาคนขับรถแบ็กโฮจ้างขุดหลุมฝังรถเก๋งของผู้ตาย ขณะที่ “บิ๊กใหม่” สั่งลุยค้นหาหลักฐาน 3 จุด ออกหมายจับเพิ่มอีก 1 คน พร้อมนำกำลังไล่ล่าผู้ต้องหาที่เหลืออย่างกระชั้นชิด
จากคดีสังหารโหดนายสุชาติ ขาวล้วน อายุ 53 ปี ชาว อ.ลำทับ จ.กระบี่ นำร่างไปฝังดินในสวนยางราดน้ำกรดทำลายศพ ส่วนรถเก๋งของผู้ตายนำไปเผาและฝังในสวนปาล์มห่างกันประมาณ 1.5 เมตร หลังผู้ตายไปทวงเงิน 3 แสนบาทกับเพื่อนชื่อนายสุริยา หรือบังฟิต เริงสมุทร ในพื้นที่ ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ บังฟิตวางแผนฆ่าบอกว่าให้มารับเงินที่บ้าน 5 หมื่นบาทไปก่อนแล้วหิ้วไปอุ้มฆ่า ต่อมาตำรวจออกหมายจับทีมสังหารโหด 3 คน ประกอบด้วยนายสุริยา หรือบังฟิต เริงสมุทร อายุ 31 ปี นายสุรชัยหรือกิบหลี เริงสมุทร อายุ 37 ปี พี่ชายบังฟิตและนายสุวิทย์ หรือบังเลาะ เริงสมุทร อายุ 25 ปี ญาติผู้น้อง
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 พ.ค. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าว ประกอบด้วย พ.ต.อ.พิษณุ อัชนะพรกุล รอง ผบก.ภ.จ.กระบี่ พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม ผกก.ปพ.ภ.8 พ.ต.อ.อภิชาติ จินาเพ็ญ ผกก.สภ.อ่าวนาง พ.ต.ท.สมพร ทิพย์อาภากุล รอง ผกก.สส.สภ.อ่าวนาง นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษ กก.สส.ภ.8 ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จ.กระบี่ ชุดสืบสวน สภ.อ่าวนาง ร่วม 30 นาย พร้อมหมายค้นเข้าตรวจสอบเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ 3 จุด ประกอบด้วย บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 1 ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ เป็นบ้านของนายสุรชัย หรือกิบหลี เริงสมุทร อายุ 37 ปี 1 ในผู้ต้องหาตามหมายจับพบเป็นบ้านชั้นเดียวปิดประตูมิดชิด ไม่มีคนอยู่ภายในบ้าน
...
จากนั้นตำรวจเชิญตัวนายสุจิน เริงสมุทร อายุ 62 ปี พ่อของบังฟิตและกิบหลี มาเป็นพยานให้ตำรวจงัดหน้าต่างบ้านเพื่อเข้าไปภายใน ตรวจยึด หลักฐานประกอบด้วย เสื้อผ้า กล่องใส่โทรศัพท์ กล้องวงจรปิดรอบบ้าน โน้ตบุ๊ก รถกระบะฟอร์ดเรนเจอร์ 4 ประตู สีส้ม ทะเบียน กจ 9885 กระบี่ และรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีขาว ทะเบียน บพ 168 กระบี่ และรถ จยย. 1 คัน ไปตรวจสอบทั้งหมดจุดที่2 เป็นขนำของบังฟิตใกล้กับบ้านนายสุรชัย และอีกจุดห่างไปประมาณ 100 เมตร เป็นบ้านของนายจำนงค์ หรือขาว จันทร์อ่อน อายุ 51 ปี เลขที่ 122 ต.หนองทะเล เป็นญาติและเครือข่ายของบังฟิต ชุดสืบสวนเก็บหลักฐานที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงการฆาตกรรมสุดโหด
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 14 พ.ค. นายสุวิทย์ หรือบังเลาะ เริงสมุทร อายุ 25 ปี ญาติผู้น้องของบังฟิตผู้ต้องหาตามหมายจับ เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจที่ สภ.อ่าวนาง ตำรวจนำตัวเข้าไปสอบปากคำอย่างเคร่งเครียดตลอดทั้งคืน นายสุวิทย์สารภาพว่า นายสุริยาหรือบังฟิตเป็นคนลงมือยิงนายสุชาติจนเสียชีวิต และนำปืนที่ก่อเหตุไปทิ้งในป่าไม่ไกลจากจุดพบศพ หลังจากนั้นสั่งตนประสานหารถแบ็กโฮไปขุดหลุมเพื่อฝังรถของนายสุชาติ จ้างคนขับรถแบ็กโฮเป็นเงิน 2,000 บาท
ต่อมาเวลา 14.00 น. วันที่ 15 พ.ค. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมชุดสืบสวนคุมตัวนายสุวิทย์ หรือบังเลาะ เริงสมุทร อายุ 25 ปี เดินทางไปยังจุดฝังศพนายสุชาติในสวนยางพารา หมู่ 1 ต.หนองทะเล เพื่อให้ผู้ต้องหาชี้จุดเกิดเหตุ เริ่มจากจุดที่ทีมสังหารใช้รถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ แบบแค็บ สีขาว ทะเบียน บพ 8680 กระบี่ เป็นรถของบังฟิตขับพานายสุชาติไปจุดเกิดเหตุ มีนายสุวิทย์ หรือบังเลาะนั่งมาด้านหน้า ส่วนช่วงแค็บหลังมีนายสุรชัยหรือกิบหลี พี่ชายบังฟิตนั่งประกบนายสุชาติ ส่วนอีกด้านมีนายสุริยันต์ หรือบังหนี เริงสมุทร อายุ 30 ปี เป็นญาติผู้พี่บังฟิต ผู้ต้องหารายใหม่นั่งประกบ
นายสุวิทย์ให้การอีกว่า เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุช่วงเวลา 18.00 น. วันที่ 3 พ.ค. ทั้ง 3 คนคุมตัวนายสุชาติลงจากรถเดินเข้าไปในสวนยาง จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด เมื่อตนวิ่งไปดูเห็นนายสุชาติถูกยิงเสียชีวิตแล้ว เห็นบังฟิตถือปืน หลังจากลงมือสังหารเสร็จทั้ง 3 คน คือบังฟิต กิบหลี และบังหนี ช่วยกันหามศพนายสุชาติลงหลุม ตนเป็นคนช่วยกลบฝังร่าง จากนั้นบังฟิตนำปืนไปฝังไว้ในสวนยางพาราห่างจากจุดฝังศพไปประมาณ 20-30 เมตร บังฟิตสั่งให้ตนไปจ้างคนขับรถแบ็กโฮมาขุดหลุมฝังรถ เหตุที่ต้องลงมือร่วมกับทีมสังหารเพราะบังฟิตบอกให้มาช่วย ตนเกรงกลัวบังฟิต ภายหลังเข้ามอบตัวเพราะต้องการแสดงความบริสุทธิ์
ภายหลังชี้จุดสังหารเสร็จ ตำรวจคุมตัวนายสุวิทย์ไปขังไว้ที่ สภ.อ่าวนาง แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ ร่วมกันมีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมีเหตุอันควร และร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น และทำให้เสียทรัพย์ ส่วนของผู้ร่วมก่อเหตุอีกรายคือนายสุริยันต์ หรือบังหนี เริงสมุทร อายุ 30 ปี ตำรวจยืนขออนุมัติหมายจับแล้ว